logo
logo-text

I-download ang aklat na ito sa loob ng app

บทที่ 2

บทที่ 2
เตชินรู้ตัวว่าเผลอทำเสียมารยาทจึงเลื่อนสายตาไปยังคนถาม “ผมทานข้าวกับแม่มาแล้วครับอาภพ แค่น้ำผลไม้ก็พอครับ”
“โอเคไม่เป็นไร ไม่หิวก็ไว้มื้อหน้า”
ก็คงไม่แปลกที่อริสาจะอิ่มไปดื้อ ๆ เพราะเธอไม่คาดหวังว่ามันควรมีมื้อหน้า มือเรียววางช้อนลงรวบไว้ในจาน ด้วยสีหน้าอันยากคาดเดาอารมณ์ เธอรู้ว่าพ่อกำลังคิดอะไรอยู่เหมือนกับที่พ่ออ่านความคิดเธอออก ถึงได้บอกให้เธอแต่งตัวสวย ๆ ลงมาต้อนรับแขกแต่เช้า
ปรกติเธอหรือจะเคยหยิบเดรสมาใส่ มีแต่เสื้อโปโลกับกางเกงเข้ารูปสำหรับขี่ม้าตรวจงานในฟาร์ม ไม่ก็ยีนส์สบาย ๆ หากไม่โดนพ่อขู่ว่าจะขังเจ้าที่รักที่กำลังไม่สบายไว้ให้มันตายคากรง! ก็ฝันไปเถอะว่าจะเห็นอริสาในสภาพคุณหนูสุด ๆ ยังปาดลิปสติกสีแดงในมาดนางพญาไว้ข่มคนให้เป็นของแถม
ที่รัก สุนัขตัวโตขนยาวสลวยสีบรอนซ์ทองสมชื่อโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ นอนซมไข้อยู่ตรงมุมห้อง ได้รับความเป็นห่วงจากเจ้านายผ่านทางแววตาอยู่ตลอด มันได้แต่หวังว่าเจ้านายสาวของมันจะไม่นั่งสนทนากันนานนัก
พอแม่บ้านรินน้ำผลไม้ให้แขก เขาก็ย้ำกับลูกสาว “อริส อย่าทำเสียแขกพ่อเชียว ตอนเด็ก ๆ เรากับพี่เตเป็นเพื่อนเล่นกันมา วันไหนพ่อกับแม่ไม่ว่าง ป้าขวัญช่วยเลี้ยงเราตลอด ไม่มีป้าขวัญป่านนี้เราคงลำบาก ไม่ได้มีเงินเหลือกินเหลือใช้แบบนี้หรอก”
ขวัญฤดี เพื่อนบ้านคนสนิทแต่ก่อนนั้นรับฝากเลี้ยงดูแลอริสาในบางครั้งที่พิภพและภรรยาติดธุระ จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกตั้งแต่มารดาของอริสาเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็งปอด ประกอบกับครอบครัว ‘สิงหวัฒน์’ ย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนกลับมาอยู่เขาใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
เป็นเรื่องยากสำหรับพิภพทุกคราวมองหน้าลูกสาวที่มีหน้าตาเหมือนเมียรักราวกับว่าเป็นคนคนเดียวกัน ติดแค่ความเอาแต่ใจบ้าง แต่อริสาก็ยอมฟังเหตุผลของพ่ออยู่หากเป็นเรื่องที่ควรฟัง
“ค่ะพ่อ หนูคิดถึงป้าขวัญอยู่เหมือนกัน”
“คิดถึงแต่ไม่เคยอยู่บ้านสักที ป้าขวัญมารอบนี้ทำตัวให้ว่างเลยนะ” เสียงทุ้มว่า ก่อนจะสาดตาคมวับไปทางชายหนุ่ม “เต เราอย่าลืมไปรับแม่มาเที่ยวฟาร์ม อานัดแกไว้แล้วล่ะ รีสอร์ตข้างในวิวสวยมาก ๆ อาให้แม่บ้านเคลียร์แขกเรียบร้อย จะมาอยู่สักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ได้ ถือเสียว่ามากักตัวที่ฟาร์มอาละกัน”
กักตัว! ไม่ใช่คนเดียวบนโต๊ะที่ตกใจกับคำนี้ เมื่อผู้คนเลิกทำเรื่องแบบนั้นกันไปนานโข โรคไข้หวัดสายพันธุ์โหดอย่างโควิด-19 ก็มีวัคซีนรักษาตั้งนานแล้ว
ฝ่ามือหนายังกุมแก้วน้ำผลไม้ที่มีไอเย็นเกาะอยู่โดยรอบ ชายหนุ่มยิ้มรับตามมารยาท “ครับ อาภพ ช่วงนี้ผมยังไม่ได้เริ่มงาน คงว่างเที่ยวอยู่ ผมกับแม่ต้องรบกวนอาแล้วล่ะครับ”
“ไม่มีปัญหาไอ้หลานรัก อาได้ยินจากพี่ขวัญว่าเราจบโทวิศวะที่อังกฤษเหรอ? เต”
“ครับ ผมส่งวิทยานิพนธ์เสร็จ ก็นั่งเครื่องกลับมาเลย รับปริญญาต้นปีหน้า คงต้องทำงานใช้ทุนกพ. ตอนไปไม่ได้ใช้เงินแม่ครับ” คนเอ่ยดูมีท่าทีภาคภูมิใจ เขาเรียนจบโดยไม่ได้ใช้เงินของครอบครัว นอกจากมารดาเอ่ยปากให้จุก ๆ จิก ๆ ตามประสาคนมีฐานะร่ำรวยอยู่พอประมาณ เปิดโอกาสให้คนช่างอวดได้อวดลูกสาว
“เอ้อ ดีนะ เก่ง ๆ อาว่าเราเหมือนลูกอา อริสเรียนจบสัตวศาสตร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ตอนเรียนตรีได้ทุนนักกีฬาทีมชาติ จบมาแล้วยังมาช่วยงานที่ฟาร์ม”
เตชินมีสีหน้าแปลกใจ “จริงหรือครับ? อาภพ ผมแค่เรียนอย่างเดียว ตรี โทที่อังกฤษยังรู้เลยว่ายาก ไม่น่าเชื่อว่าตัวเล็ก ๆ แบบนี้เป็นนักกีฬาด้วย?” ปลายเสียงหยุดอยู่กับใบหน้าสดสวยของคนที่รับประทานอาหารเสร็จ เอาแต่ส่งสายตาหาสุนัขตรงมุมห้อง แทนที่จะมองหน้าหล่อ ๆ ของหนุ่มวิศวะดีกรีอังกฤษ
น้ำเสียงราบเรียบเย็นชาตอบ “ค่ะ”
“กลับไทยนานหรือยังน่ะ ผมมาคราวที่แล้วไม่ยักเจอ”
“ปีกว่าค่ะ”
พิภพเห็นท่าทีไม่ใคร่สนทนาของลูกสาว กลับไม่คิดว่าเสียเวลาอะไรมากมายหากเจ้าที่รักจะรออีกสักหน่อย เขายังสังเกตเห็นอีกด้วยว่าชายหนุ่มดูสนใจเธออยู่พอประมาณ ก็คงจะเข้าทาง...
“อริสเรียนจบโทตอนอายุยี่สิบห้า กลับมาช่วยงานได้เกือบสองปีแล้วล่ะ ปีนี้ย่างเข้ายี่สิบแปดปีแล้ว เราอายุเท่าไรน่ะเต”
“ผมสามสิบสองย่างเข้าสามสิบสามครับ”
“อายุห่างกันแค่สี่ปี จบนอกเหมือนกัน วัยไล่ ๆ กันน่าจะพูดคุยเข้าใจกันใช่ไหมล่ะลูก?” เจ้าของบ้านบอกลูกสาวที่ไม่ได้พูดอะไร มือหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“แล้วตอนนี้น้องช่วยงานอะไรบ้างครับ?”
“ลูกอาเป็นผู้จัดการใหญ่ คุมคนงาน ตรวจความเรียบร้อยในฟาร์ม อริสจบสัตวศาสตร์มา เก่งด้านจัดการการผลิต งานวิจัยสัตว์ประเภทอื่น ๆ พวกตลาดส่งออกเนื้อแพะ แกะ นี่ลูกอาทำหมดเลยนะ อาทำงานส่วนบริหารกับหุ้นส่วนอีกหลายคน งานเอกสารสัญญา กฎหมาย งานลงทุน บริษัททัวร์ อาเป็นคนตัดสินใจ”
“ท่าทางจะยุ่งนะครับ”
“ไม่เท่าไร ฟาร์มอามีพนักงานเป็นร้อย มีหัวหน้างานฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝั่งรีสอร์ตก็มีผู้จัดการโรงแรมคอยช่วยอยู่ คนนี้มีฝีมือพอตัว อาแทบจะไม่ต้องไปยุ่งเลย” พิภพหลุบตามองลูกสาวครั้งหนึ่งและคนข้างกัน ในสายตาของเขาคู่หนุ่มสาวดูเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก เหมือนที่ภรรยาเคยบอก
“เอ้อ... เต เรามีแฟนหรือยังล่ะ?”
“พ่อจะคลุมถุงชนหนูหรือไง?” น้ำเสียงขุ่นเคืองโพล่งขึ้นมาเพราะคนที่พูดจ้อย ๆ ไม่หยุด แม้ว่าเธอจะส่งสายตาคมกริบตั้งหลายครั้ง
“พ่อแค่ถามเฉย ๆ...”
“พ่อไม่ได้ถามเฉย ๆ อย่าคิดว่าหนูไม่รู้” เสียงแข็งกระด้างเถียง อริสาไม่เคยพอใจในเรื่องนี้ ขนาดว่าไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปี จนแม่เสียไปแล้วพ่อก็ยังไม่ล้มเลิกความคิด
“รู้ก็ดี แม่กับพ่อเห็นว่าเตเขาเข้ากันดีกับบ้านเรา ต่างคนก็ยังไม่มีแฟน ลองคุย ๆ กันเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง ไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าเกิดว่าถูกใจกันขึ้นมาค่อยว่ากันดีไหม เตว่าไงล่ะ?” เขาถามชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มใสซื่อแต่เป็นอีกคนตอบ
“ถ้าหนูจะมีผัว หนูจะหาของหนูเอง พ่อช่วยเข้าใจด้วยนะ และแม่ไม่อยู่แล้ว” สิ้นคำ ร่างบางลุกขึ้นยืนสุดความสูง “หนูจะพาที่รักไปหาหมอ ไปก่อนนะ พ่อ”

Komento sa Aklat (10)

  • avatar
    สุภาพรฯ สิงห์คำ

    ชอบค่ะสนุกมาก

    24/05

      0
  • avatar
    น้อยอิอิหลอด

    you chicks

    21/05

      0
  • avatar
    ญาดา สัมพานีย์

    สนุกมากกกดเลยเเนะนำลองอ่าน

    29/04

      0
  • Tingnan Lahat

Mga Kaugnay na Kabanata

Mga Pinakabagong Kabanata