logo text
Idagdag sa Library
logo
logo-text

I-download ang aklat na ito sa loob ng app

สหายเพียงคนเดียวของนาง

6
คนจากซีตันเดินทางเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ ระหว่างทางมีปะทะกับพวกกลุ่มโจรบ้างประปราย แต่ทุกที่ที่พวกเขาผ่านไป จะมีสหายของบิดาคอยให้การต้อนรับเสมอ พวกเขาจึงรู้สึกสนุกมากกว่าเหน็ดเหนื่อย
ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเจอ หนานเจินหยางไม่ได้ตื่นตกใจกับเรื่องพวกนี้มากนัก เขาท่องเที่ยวเป่ยฮั่นกับผู้เป็นบิดาอยู่บ่อยครั้ง ผิดกับน้องสาวทั้งสองโดยเฉพาะหนานอันรั่ว นางทำให้ทุกอย่างรอบกายเป็นเรื่องสนุกน่าตื่นเต้น ส่วนหนานรั่วซีก็ได้แต่เฝ้ามองสิ่งต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
ในใจของหนานเจินหยางได้แต่บอกว่าดีแล้วๆ ดีที่หนานรั่วซีนั่งเงียบ ๆ หากนางป่วนเขาด้วยอีกคนเกรงว่าเขาจะรับมือไม่ไหว ระหว่างทางหนานอันรั่วแวะซื้อสิ่งของนู่นนี่นั่นจนต้องหารถม้าเพิ่ม สิ่งนั้นสิ่งนี้นางล้วนอยากได้ไปหมด แม้จะบอกว่าที่ซีตันก็มี แต่นางว่าของพวกนั้นนางไม่ได้เลือกเอง นางไม่ชอบ นางชอบสิ่งของที่ตัวเองเป็นผู้เลือกต่างหาก
จากทัศนียภาพที่เป็นทุ่งหญ้ากลายเป็นป่าเขา แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเริ่มเข้าใกล้ดินแดนเป่ยฮั่นไปในทุกที
เดินทางมาเกือบครึ่งเดือนอายงที่ติดตามเดินทางมาด้วย พูดกับรั่วซีนับครั้งได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น เขาก็สงวนท่าทีกับนาง ไม่สนิทกับนางดังเช่นเคย เขาเป็นเพื่อนคุยคนเดียวของนางในเวลานี้ หากเขาไม่สนทนากับนางแล้วใครเล่า จะเป็นเพื่อนคลายเหงาให้นางได้
คนตัวเล็กบนรถม้ารู้สึกอึดอัด นางไม่ได้โกรธเขาที่ไม่อยู่ดูแลนางในตอนนั้นสักหน่อย นางพยายามหาเวลาอธิบายให้เขาฟังเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนอายงจะชอบหลบหน้านาง
เดินทางมาจนกระทั่งถึงเมืองหน้าด่านของเป่ยฮั่น เขาก็ยังไม่ยอมพูดคุยกับนาง หากมีโอกาสนางจะต้องหาเวลาพูดคุยกับเขาให้ได้
ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึงขบวนจากซีตันแวะพักให้ม้าดื่มน้ำ รั่วซีจึงรีบดึงมือเขาไปพูดคุย บุรุษหนุ่มตกใจ นางลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้เขาไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว
“อายง เจ้าจะไม่พูดกับข้าสักคำเลยหรือ” ระหว่างพัก รั่วซีตั้งใจเดินไปพูดกับเขา
“......” ชายหนุ่มเดินหนีนาง เขายังรู้สึกผิดกับนาง ไม่กล้าแม้แต่มองหน้านาง
“เจ้าโกรธข้าเรื่องอะไรอยู่งั้นหรือ” นางเดินไปขวางทางเขา และถามคนที่กำลังนำหน้ามุ่ย
“ใครจะโกรธท่านได้” เขามองใบหน้าบูดบึ้งของนาง
“อ้าว แล้วทำไมไม่พูดกับข้าสักคำ”
“ข้าโกรธตัวเองต่างหาก ทำให้ท่านลำบากขนาดนั้น แต่ท่านยังไม่โกรธหรือกล่าวโทษข้าสักนิด”
ในที่สุดรั่วซีก็เข้าใจ ที่แท้เขากำลังโทษตัวเอง
“ในเมื่อข้ายังไม่รู้สึกโกรธเจ้าเลย เจ้าจะโทษตัวเองไปทำไมกัน ทำแบบนี้มีแต่จะขุ่นเคืองใจกันไปเปล่า ๆ ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าก็จะพูดกับสตรีนางนั้นว่า ต่อไปนี้จะดูแลองค์หญิงที่แสนซุกซนให้ดีขึ้นกว่าเดิม” นางยังดูสีหน้าเขา แววตารู้สึกผิดของอายงยังปรากฏเด่นชัด “ไม่เป็นไรนะอายงข้าไม่โกรธเจ้าเลยสักนิด เรื่องวันนั้นก็เป็นความผิดข้าเอง เจ้าจะตามข้าออกมาหรือไม่นั่น อย่างไรข้าก็ต้องโดนฝูงสุนัขพวกนั้นทำร้ายอยู่ดี” นางส่งยิ้มละมุนให้เขา
“แต่แขนเจ้า” อายงถือวิสาสะดึงแขนของนางขึ้นมาดู เขาถลกแขนเสื้อนางลง รอยแผลเป็นขนาดใหญ่ปรากฏอยู่รอบแขนที่เคยนวลเนียนของนาง
“ไม่เห็นเป็นไร ทายาสักหน่อยเดี๋ยวรอยแผลพวกนี้ก็จางไปเอง” นางส่งยิ้มละมุนให้เขาอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเมื่อไหร่นางก็ยังคงยิ้มเช่นนี้ให้เขา เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่พวกเขายังเล็ก
เขาเป็นเพื่อนคนเดียวของนาง นางจะโกรธเขาได้อย่างไร เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ นิสัยใจคอเขาเป็นเช่นไรนางรู้ดี
“เจ้าไม่เป็นอะไรจริง ๆ หรือ ข้าได้ยินว่าสตรีไม่ควรมีรอยตำหนิบนร่างกาย”
“นั่นเป็นธรรมเนียมของชาวเป่ยฮั่น ข้าเป็นคนซีตันไม่เคร่งธรรมเนียมพวกนั้นหรอก ข้าเชื่อว่าในอนาคตสามีของข้าก็จะยอมรับเรื่องนี้ได้”
อายงมองนางอย่างลึกซึ้ง แน่นอนว่าหากเขาเป็นสามีของนางเขารับได้ทุกอย่างที่นางเป็น แต่ดูเหมือนว่านางจะให้เขาเป็นได้แค่สหายเท่านั้น
หนานเจินหยางยืนดูเหตุการณ์อยู่อีกด้าน อายงเป็นเพื่อนสนิทของรั่วซีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนี้พวกเขาโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วจะมาเล่นกันถูกเนื้อต้องตัวกันดังเช่นตอนเด็ก เขาคิดว่ามันไม่สมควร หนานเจินหยางเห็นเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปขัดคนทั้งคู่
อายงเห็นองค์ชายใหญ่เดินมาทางนี้ เขาจึงปล่อยมือนางลง
“ไปกันเถอะ เราต้องเดินทางเข้าเมือง” หนานเจินหยางประคองน้องสาวกลับขึ้นรถม้า
เขาหันส่งสายตาเชิงไม่พอใจให้กับอายง
องครักษ์หนุ่มรู้ตัวดีว่าเขาไม่คู่ควรกับนาง ตอนเด็กเคยเล่นกันเช่นไร ตอนนี้คงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว นางและเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ นับวันช่องว่างของพวกเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น
หนานรั่วซีตามพี่ชายกลับขึ้นรถม้าแต่โดยดี
“เมื่อไหร่จะถึงเป่ยฮั่น” นางถามพี่ชาย คนป่วยรู้สึกไม่อยากเดินทางแล้ว นางอยากพักผ่อนสักที พวกเขาสนุก นางอยากรู้สึกสนุกบ้างแต่ร่างกายนี้รู้สึกเหนื่อยเกินไป
“อีกราว ๆ ครึ่งเดือน”
“อ้อ” นางทำหน้าบูดบึ้ง
“เดี๋ยวเราจะพักผ่อนที่นี่สักสี่ห้าวันให้เจ้าหายเหนื่อยดีหรือไม่” เขาเห็นหนานรั่วซีดูท่าทางเหนื่อยล้าจึงตัดสินใจพักอยู่ที่นี่ก่อนค่อยให้ออกเดินทางอีกรอบ
พอได้ยินว่าพี่ชายจะพัก คนตัวเล็กก็ทำตาโตอย่างพอใจ ได้นอนบนเตียงนุ่ม ๆ สักทีนางนอนบนรถม้ามาแล้วหลายวันปวดหลังไปหมดแล้ว
หนานเจินหยางเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวดี และไม่แน่ว่าหมอเย่ลู่อาจอยู่เที่ยวเล่นอยู่แถวนี้ก็ได้ เสด็จแม่บอกว่า เขาอยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง นางส่งข่าวแจ้งเตือนเขาไปแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะปรากฏตัวเอง หากเห็นเขาเห็นข่าว เสด็จแม่บอกว่าหากเจอเขาจะรู้ทันทีว่าเป็นเขา
หมอเทวดาเย่ลู่ได้รับจดหมายจากหมีเฮ่อ เขาอ่านจดหมายนางทุกตัวอักษร ในจดหมายบรรยายถึงอาการป่วยขององค์หญิงรั่วซี และตอกย้ำถึงเรื่องที่เขาติดค้างนางไว้เมื่อนานมาแล้ว
หมอเทวดาหน้าตาอ่อนเยาว์ขมวดคิ้ว เขาไม่อยากออกจากหุบเขา เขาเบื่อโลกภายนอก แต่ในเมื่อรับปากหมีเฮ่อเอาไว้แล้ว เขาก็ต้องทำตาม
อาการของนางท้าทายความสามารถเขาไม่น้อยหากรักษาอาการป่วยเรื้อรังของนางได้ ก็จะสร้างชื่อเสียงให้เขาไปอีก เอาไว้คุยโม้เรียกร้องค่ารักษาจากบรรดาพวกเศรษฐีหน้าโง่พวกนั้นได้
หมอเทวดาจัดเตรียมสิ่งของ สารพัดยาชั้นดีถูกเก็บลงกระเป๋า เขาเดาว่าคนจากซีตันใกล้จะถึงเมืองหน้าด่านแล้ว เมืองหน้าด่านของเป่ยฮั่นอยู่ไม่ไกลหุบเขาที่เขาพักอาศัย จึงคิดว่าออกไปพบพวกเขาดีกว่า การให้คนป่วยเดินทางนาน ๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพของนาง
ถ้าหากนางต้องรักษาอาการต่อเนื่อง ก็จับนางเข้ามาไว้ในหุบเขาก็ได้แล้วไม่ต้องให้เขาคอยเที่ยวไปเทียวมา
ส่วนญาตินางจะยอมหรือไม่ให้ไปถามหมีเฮ่อเอาก็แล้วกัน

Komento sa Aklat (449)

  • avatar
    ตัซนีม มูเก็ม

    นิยาสนุกหน้าอ่าน มีสาระมากทำให้เด็กปัจจุบันสนใจมาก

    5d

      0
  • avatar
    BunmakKanyanat

    สนุกมากก

    7d

      0
  • avatar
    ไพบูลย์ปารมี

    สนุกกกมากก

    7d

      0
  • Tingnan Lahat

Mga Kaugnay na Kabanata

Mga Pinakabagong Kabanata