3ความรู้สึกที่ถูกจ้องมอง หนานอันรั่วรู้สึกได้ เมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้ามสายตาของนางก็ปะทะเข้ากับสายตาคมกริบที่แฝงไปด้วยความเจ้าชู้ของเขา นางรู้สึกประหม่า คนผู้นั้นไร้มารยาทนัก จ้องมองนางอยู่ได้หนานเจินหยางเห็นท่าทีประหม่าของน้องสาวจึงขยับเข้าไปใกล้นาง และสั่งให้นางไปนั่งด้านหลัง เขาเห็นสายตาเช่นนั้นของอ๋องหยวนก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน ถ้าเขาไม่ใช่อ๋องจากเป่ยฮั่นป่านนี้เขาจับควักลูกตาแล้ว ยังมีเมื่อตอนบ่ายที่ขี่ม้ามากับซีเอ๋อ น่าจับแยกร่างจริง ๆ ผู้เป็นพี่กำหมัดแน่น“รั่วเอ๋อ ดึกแล้วไปพักผ่อนดีหรือไม่” หนานเจินหยางพูดกับน้องสาว“นั่นสินะ ข้าควรกลับไปพักเสียที” นางเห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชายหนานอันรั่วรีบเร่งเดินออกจากโถงงานเลี้ยง หยวนไป๋เจียนเห็นเช่นนั้นก็แอบลุกตามออกไป หวังว่าจะได้พูดคุยกับนางอีกสักครั้ง“ท่านตามข้ามาทำไม” คนตัวเล็กรู้ตัวว่าเขาเดินตามมา“ข้ามีหลายเรื่องที่อยากให้เจ้าแนะนำ” หยวนไป๋เจียน หาเรื่องสนทนากับนาง“ถามคนอื่นก็ได้ ข้าไม่ใช่คนรอบรู้” นางปฏิเสธ“พูดคุยกับผู้อื่นไม่สนุกเท่ากับเจ้า” คนตัวสูงขยับเข้าไปใกล้นาง รูปร่างของสองพี่น้องเท่ากันไม่มีผิด พวกนางสูงแค่เพียงระดับไหล่เขาเท่านั้น เมื่อลองวัดเทียบระดับตัวของนางกับไหล่ของเขาคิ้วเรียวงามของหนานอันรั่วขมวดเข้าหากัน มองท่าทีของอ๋องจากเป่ยฮั่นคนนี้ด้วยแววตาไม่เข้าใจ“ท่านทำอะไรของท่าน”“อยากรู้ว่าเจ้าสูงเท่าไหร่”“แล้วได้คำตอบหรือยัง”“ได้แล้ว”คนตัวเล็กมองเขาอย่างงุนงงท่าทีของอ๋องผู้นี้มันอะไรกันแน่“งั้นค่อยพูดคุยกันต่อวันพรุ่งนี้” พูดเสร็จนางก็เดินหายลับเข้าไปยังส่วนในของวังหลวงแคว้นซีตันการมาซีตันครั้งนี้ของหยวนไป๋เจียนมีเป้าหมายแล้วรุ่งขึ้นของอีกวัน หนานรั่วซีตื่นแต่เช้าทั้งที่ตอนนี้นางยังมีอาการปวดหัว พระพี่เลี้ยงมองนางอย่างสงสัย เดาว่าองค์หญิงผู้นี้ต้องมีแผนการลับที่นางไม่รู้แน่ ๆ“เหตุใดวันนี้พระองค์จึงตื่นเช้า”“เอ่อ.... แค่ไม่อยากนอนแล้ว” นางไม่กล้าพูดความจริง “พี่อันอันท่านมีธุระอะไรก็ไปทำเถอะข้าดูแลตัวเองได้”“ธุระของข้าก็คือองค์หญิงยังไงละเจ้าคะ” นางจ้องเจ้านายของตนอย่างไม่วางตา วันนี้นางจะไม่เผลอโดยเด็ดขาด“อ้อ” นางพยักหน้าหงึก ๆ เอาเถอะอย่างไรเสียช่วงบ่ายนางก็จะหนีออกไปให้ได้ เผื่อว่า...คนผู้นั้นจะกลับไปที่โพรงหมาป่าของนางอีกตกบ่ายรั่วซีแสร้งนอนกลางวัน อันอันรอจนแน่ใจว่าองค์หญิงหลับนางจึงปลีกตัวไปทำภารกิจอย่างอื่นเสียงในห้องเงียบสนิท รั่วซีจึงลืมตาตื่น วันนี้นางไม่ใช้เสื้อคลุมขนหมาป่าสีเงินอีกแล้วแต่เปลี่ยนเป็นตัวที่เรียบและไม่โดดเด่นแทนคนตัวเล็กค่อย ๆ เดินลัดเลาะไปตามทางที่พวกบ่าวไม่ค่อยใช้ นางแอบเดินออกไปเงียบ ๆ เพียงลำพัง แต่ก็ไม่พ้นสายตาของใครคนหนึ่งขณะที่คนตัวเล็กกำลังจะก้าวขาขึ้นม้า เขาก็ส่งเสียงเรียกออกมา“องค์หญิง” อายงส่งเสียงเรียกนาง“อายง” นางหันไปตามเสียงเรียก “เจ้ามาได้อย่างไร”“อันอัน คิดเอาไว้แล้วว่าท่านต้องมีแผนการนางจึงให้ข้ามาดูท่าน”“อ้อ” นางกำลังครุ่นคิด แต่ในมือกุมบังเหียนแน่น รอเมื่อไหร่ที่เขาเผลอนางจะรีบควบม้าออกไปทันที “อายง ให้ข้าไปเถอะ พวกลูกหมาป่ารอข้าอยู่” นางอ้อนวอน“ไม่ได้ ท่านยังป่วยอยู่เลย ดูหน้าท่านสิซีดเซียวเป็นไก่ต้ม” เขาเป็นห่วงนาง“อันรั่ว!!” นางแสร้งเรียกชื่อพี่สาว เพราะรู้ว่าอายงชอบหนานอันรั่วและได้ผล อายงหันขวับไปทางอื่น พอเขาเผลอรั่วซีก็รีบควบม้าออกไปในทันทีเมื่อหันไปไม่เห็นใคร อายงจึงรู้ว่าถูกหลอกรีบควบม้าอีกตัวตามออกไปทันทีโชคดีที่นางควบม้าได้ช้า อายงจึงตามทัน“องค์หญิงระวังด้วย” ในเมื่อห้ามนางไม่ได้เขาจึงจำเป็นต้องไปพร้อมกับนาง“อื้อ” คนตัวเล็กยิ้มตาหยี “ขอบใจนะอายง”ที่โพรงหมาป่า รั่วซีไม่เห็นใครอื่นนอกจากเจ้าพวกตัวเล็ก เมื่อพวกมันเห็นและได้กลิ่นกายของนาง ก็รีบวิ่งกรูกันออกมานาง เมื่อไม่เห็นใครอื่นรั่วซีเห็นแล้วก็ผิดหวังนิด ๆ นางจะคาดหวังอะไรกันเขาไม่ได้รับปากสักหน่อยว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งแต่นางก็เพียงอยากเห็นหน้าเขาอีกสักครั้ง“เด็กดี” ร่างแบบบางของรั่วซีลงไปนั่งกับพื้นเพื่อเล่นกับเจ้าพวกตัวน้อยอายงเห็นแล้วก็นิ่วหน้าที่นางแอบออกมาเพราะเจ้าลูกหมาพวกนี้งั้นหรือ“องค์หญิง ท่านลอบออกมาเพราะลูกสุนัขพวกนี้หรอกหรือ”“อื้อ ใช่แล้วข้าเห็นพวกมันน่าสงสารเลยอยากดูแล แต่ก็ไม่อยากพามันกลับวังด้วย ข้ากลัวว่าแม่ของมัน มาแล้วจะไม่เจอ” พูดไปนางก็ลูบพุงเล็ก ๆ ของพวกมันไปด้วย“ข้าว่า แม่มันคงจะไม่กลับมาอีกแล้วล่ะ สู้พาพวกมันกลับไปที่วังเพื่อเลี้ยงดูให้เชื่องไม่ดีกว่าหรือ”“ทำไมเจ้าคิดเช่นนั้น” นางเงยหน้ามองสหาย“องค์หญิงทรงทอดพระเนตรดู พวกมันตัวผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เพราะว่าแม่ของมันไม่เคยกลับมาดูแล โดยปกติแล้วสุนัขป่าพวกนี้จะไม่ทิ้งรังไปโดยไม่มีเหตุผล ข้าคิดว่าแม่ของมันคงตายไปแล้ว และหากไม่พาเจ้าพวกตัวเล็กกลับไปด้วยคง โดนสุนัขป่าตัวอื่นจับกินเป็นอาหาร”อายงพูดจบรั่วซีก็ทำหน้าตาตื่นเขาพูดมามีเหตุผลทุกประการ นางกลัวว่าพวกตัวเล็กตรงนี้จะโดนสุนัขตัวอื่นทำร้าย“งั้นจะทำอย่างไรดีอายง”“องค์หญิงรอข้าอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มส่งยิ้มบาง ๆ ให้นาง “ข้าจะกลับไปเอากรงมารับพวกมัน"“ได้” คนตัวเล็กพยักหน้าพูดจบอายงก็รีบควบม้ากลับไปที่วังทันทีอย่างไม่รอช้า เห็นแววตาเศร้าสร้อยของนางแล้วเขาก็ไม่ค่อยสบายใจนัก จึงอาสาจะพาเจ้าพวกตัวเล็กกลับไปดูแล เพื่อคลายความกังวลและเพื่อไม่ให้นางต้องแอบออกมาที่นี่อีกรั่วซีเดินเล่นไปมา สำรวจรอบ ๆ โพรงนางพบรอยเท้าของสุนัขป่าตัวใหญ่หลายรอย เห็นเช่นนั้นคนตัวเล็กก็ยิ่งคิดว่าที่อายงพูดมามีเหตุผล พวกฝูงสุนัขป่าพวกนั้นคงมาดูลาดเลาเอาไว้แน่ ๆ อีกไม่นานพวกมันคงกลับมาทำร้ายเด็ก ๆ พวกนี้โบร๋ว! โบร๋ว! เสียงหมาหอนคำรามของหมาป่าเข้ามาใกล้นางมากขึ้น รั่วซีรู้สึกหวั่นใจนางรอคอยว่าเมื่อไหร่อายงจะมา แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่มาสักที ความรู้สึกของคนรอมันเป็นเช่นนี้นี่เองโฮ่ง โฮ่ง หมาป่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งกระโจนเข้าใส่คนตัวเล็กที่ไม่ทันระวัง โชคดีที่นางหลบทัน แส้หนังในมือถูกฟาดออกไป พวกมันปราดเปรียวว่องไวหลบแส้ของนางทันรั่วซีกระโดดหลบอีกตัวที่พุ่งมาจากด้านหลัง คนตัวเล็กร่างกายไม่แข็งแรง มองไปที่ม้าที่นางควบมา เพื่อหาทางหนี แต่มันก็กำลังถูกหมาป่าไล่ต้อนสุนัขป่าตัวใหญ่ว่องไวปราดเปรียว รั่วซีเริ่มหมดแรง พอนึกถึงว่าต้องตายเพราะถูกหมาป่ารุมทึ้ง นางก็หน้าเสีย เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้า“องค์หญิงหนานรั่วซี”เสียงคุ้นหูของใครบางคนกำลังเรียกชื่อนางร่างบอบบางหันไปตามเสียงเรียก ใบหน้าของหยวนไป๋เจียนก็ปรากฏขึ้นเป็นเขา! เขาจริง ๆ ด้วย คนตัวเล็กเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เมื่อเห็นเขา จึงขาดการระวังตัว หมาป่าที่ตัวใหญ่ที่สุดเลือกเหยื่อของมันแล้ว มันพุ่งเข้ากัดแขนเล็ก ๆ ของนางที่ยกขึ้นป้องกันตัวจนเลือดอาบหยวนไป๋เจียนเห็นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยนาง กระบี่ถูกดึงออกจากฝัก ตัวที่กำลังทำร้ายนางถูกเขาบั่นคอมันทันที ตัวอื่น ๆ เมื่อเห็นว่าหัวหน้าสิ้นชีพก็พากันตกใจวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางรั่วซีทรุดตัวลงกับพื้น นางมองเลือดสีแดงสดอย่างตกใจ ที่นางเห็นตอนนี้ไม่รู้ว่าอันไหนเป็นเลือดของนางหรือตัวจ่าฝูง คนตัวเล็กสั่นเทาราวกับลูกนก“องค์หญิง” หยวนไป๋เจียนวิ่งเข้าไปหานาง สองมือใหญ่จับใบหน้าเล็ก ๆ ของนางดึงมาให้สบตากับเขาใบหน้าหล่อเหลาของหยวนไป๋เจียนปรากฏในสายตานาง แววตาของเขามองนางอย่างดุดัน“ท่านอ๋อง” รั่วซีเรียกเขา สติของนางเลือนรางไหนจะอาการป่วย ไหนจะความตกใจ นางแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น“เหตุใดเจ้าถึงออกมาคนเดียว ดีนะข้ามีลางสังหรณ์จึงตามออกมาดู เมื่อวาน...” พูดไม่ทันจบคนตัวเล็กก็สลบไปทันทีหยวนไป๋เจียนเห็นเช่นนั้นก็รีบผูกนางไว้ตัวและควบม้าพานางกลับวัง ซึ่งสวนกันกับอายงที่เพิ่งย้อนกลับมา“เจ้า ทำอะไรนาง” อายงขวางทางหยวนไป๋เจียนอายงเห็นองค์หญิงของตนหมดสติเลือดเต็มแขนและเต็มร่างกาย“เจ้าเป็นองครักษ์ของนางใช่หรือไม่ ข้าอ๋องหยวนมาจากเป่ยฮั่นมีอะไรค่อยไปคุยกันที่วัง”พูดจบเขาก็เร่งรีบพานางทะยานออกไปในทันที
นิยาสนุกหน้าอ่าน มีสาระมากทำให้เด็กปัจจุบันสนใจมาก
6d
0สนุกมากก
7d
0สนุกกกมากก
7d
0ดูทั้งหมด