logo
logo-text

Download this book within the app

บัลลังก์เสน่หา

บัลลังก์เสน่หา

กะรัต


1

พระอาทิตย์ยามเที่ยงวันสาดแสงทะลุผ่านชั้นเมฆของวันที่มีอากาศอบอุ่น ฤดูเหมันต์อันหนาวเหน็บและแสนโหดร้ายเพิ่งผ่านพ้นไป หมอกควันแห่งความเศร้าตรมครอบคลุมจิตใจของเหล่าผู้สูญเสีย ผู้คนหลากหลายที่ประสบเหตุถูกโจรร้ายปล้นชิงทรัพย์สินและเข่นฆ่าจนต้องหนีตายจากหมู่บ้านรอบนอกต่างทยอยเดินเท้าเข้ามาในตัวเมืองซร่วงซานเพราะคนของทางการนำความช่วยเหลือมาถึงแล้ว
“เข้าแถวๆ ทุกคนจะได้รับแจกอาหารอย่างทั่วถึงกันหากเข้าแถวเป็นระเบียบ หมิงอ๋องทรงรับปากว่าจะช่วยเหลือพวกเจ้าให้อิ่มท้องครบทุกคน เข้าแถวๆ อย่าผลักอย่าแย่งกัน” เสียงทหารผู้คุมการแจกจ่ายอาหารตะโกนเป็นระยะเพื่อจัดระเบียบผู้คนที่อพยพมาออกันอยู่อย่างล้นหลามบนถนนหน้าจวนของท่านเจ้าเมือง
ทหารได้แยกชาวบ้านออกเป็นกลุ่ม ที่หลงเหลือเป็นครอบครัวก็รวมตัวกันเข้าแถวอยู่อีกฝั่ง ส่วนใครที่ไร้ญาติหนีตายมาตัวคนเดียวก็ให้แยกมาเข้าแถวอีกด้าน มีการแยกระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก สายตาหลายคู่มองกลุ่มเด็กกำพร้าที่มีมากเกินกว่าห้าสิบคนซึ่งเกาะกลุ่มรวมกันอยู่
“มาๆ พวกเจ้ามารวมกันทางนี้” เมื่อนายทหารผู้หนึ่งกวักมือเรียก เหล่าเด็กกำพร้าซึ่งมองด้วยตาเปล่ากะอายุประมาณห้าถึงสิบสามปีก็รีบพุ่งตัวไปยืนออเพื่อรอรับอาหาร
ขณะนั้นมีเด็กหญิงคนหนึ่งถูกเด็กชายตัวโตกว่าผลักร่างนางออกมาจากแถวเพื่อตนเองจะแทรกตัวไปยังหัวแถวได้รับแจกอาหารก่อน ร่างเล็กและผอมบางเซถลาออกมายังถนนจนล้มกลิ้งคลุกฝุ่นดิน มีม้าตัวหนึ่งกำลังถูกควบขี่ทะยานพุ่งมาอย่างรวดเร็ว
คนบนหลังม้าชักบังเหียนบังคับม้าให้หยุดกะทันหัน ขาคู่หน้าของอาชาตัวพ่วงพีตะกุยอากาศก่อนจะเบี่ยงหลบไปอีกทางตามจังหวะบังคับ ร่างเล็กกระจ้อยรอดพ้นจากการถูกเหยียบฉิวเฉียด เสียงม้าร้องระคนเสียงตื่นตกใจของผู้อพยพรอบข้างบีบใจที่ตื่นกลัวของเด็กน้อยจนส่งผลให้นางร้องไห้จ้า หลังจากนั้นมีนายทหารผู้หนึ่งเข้ามาฉุดแขนนางให้ลุกขึ้น
“เจ้านะเจ้า ไม่รู้จักระวัง เกือบตายแล้วไหมเล่า” อุ้งมือหยาบกร้าน รุนหลังเด็กน้อยที่เพิ่งเสียขวัญเข้าไปในแถว เขาส่ายหน้ากับสภาพผู้คนแออัดหนาตา ความอดอยากทำให้ผู้คนไร้ระเบียบ
เด็กหญิงเคราะห์ร้ายปาดน้ำตา สองขาขยับเดินหน้าเมื่อถูกมือของเด็กที่ยืนต่อแถวด้านหลังผลัก ขณะนั้นม้าตัวเดิมได้เหยาะย่างเข้ามาใกล้ เสียงลมหายใจของสัตว์ตัวสูงทำให้ร่างเล็กหดเกร็ง คนบนหลังม้ายื่นส่งผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งมอบให้นาง
“รับไป”
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ นางไม่เห็นใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนหลังอาชาเพราะดวงตะวันจัดจ้าซึ่งอยู่เหนือศีรษะเขาขึ้นไปทำให้ดวงตาพร่าเลือน
“รีบรับสินังหนู” เสียงทหารอีกคนร้องสั่ง เด็กหญิงจึงรับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาถือไว้ เพราะความสะอาดขัดกับมือดำสกปรกนางจึงสอดเก็บมันไว้ในอกเสื้อ ก่อนคนบนหลังม้าจะควบสัตว์พาหนะให้วิ่งช้าๆ ไปยังประตูของจวนท่านเจ้าเมือง
หลังจากนั้น เมื่อเด็กหญิงได้รับข้าวต้มหนึ่งถ้วยแล้วก็เดินไปรับ หมั่นโถวอีกหลายลูกเพื่อเก็บไว้กินมื้อต่อไป ระหว่างกินข้าวต้มอยู่นั้นนางได้ยินเสียงพูดคุยของเด็กกลุ่มหนึ่ง
“ข้าจะไปเมืองหลวง ถ้าสามารถไปถึงเมืองหลวงได้ข้าจะต้องมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม”
เด็กหญิงหันไปมอง คนที่พูดคือเด็กผู้ชายที่ผลักนางออกมาจากแถว เขารวมกลุ่มเด็กกำพร้าได้ประมาณหกเจ็ดคน หลายคนเออออเห็นด้วยกับความคิดของเขาและแสดงความต้องการที่จะเดินทางไปด้วยกัน เพราะความไร้ญาติทำให้พวกเขาผูกมิตรกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว
ข้าวต้มในชามกระเบื้องปากบิ่นหมดไปแล้ว เด็กหญิงล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าในอกเสื้อขึ้นมามอง คนที่อยู่บนหลังม้าเมื่อครู่คงเป็นพวกทหารที่มาจากเมืองหลวง แม้นางไม่เห็นหน้าเขา แต่เสื้อผ้าบนร่างโปร่งแสดงให้เห็นถึงความมีฐานะ ความเป็นอยู่ของคนเมืองหลวง ความอุดมสมบูรณ์ของเหลิงอานนางจะต้องไปเห็นกับตาให้ได้
เด็กหญิงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ก่อนพึมพำกับคนผู้หนึ่งซึ่งเฝ้าระลึกถึงทุกลมหายใจเข้าออก...พวกเราไปเมืองหลวงกันนะเจ้าคะท่านแม่

Book Comment (8)

  • avatar
    วุ่นวายสับสน

    น่าติดตาม

    16/01

      0
  • avatar
    Ram Page

    สนุกมากๆเลยครับ

    17/12

      0
  • avatar
    สกุล'ล เงิน'น

    อ่านสนุกมาก

    01/12

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters