logo text
Add to Library
logo
logo-text

Download this book within the app

บทที่1

เดือนสามในเมืองหลวง ลมวสันต์พัดผ่าน อากาศอบอุ่นจนเรียกได้ว่าร้อนยิ่ง กาลเวลาไม่เคยรั้งรอผู้ใด เพียงช่วงเวลาราวกะพริบตา อวิ๋นซือก็แต่งเข้าตระกูลหลันมาจะครบรอบเป็นปีที่สองแล้ว
นางมีความสุขตามอัตภาพ เป็นฮูหยินใหญ่ที่ดูแลทุกข์สุขของบรรดาภรรยาน้อยให้สามีตนเอง หลันชิงแสดงความรักใคร่ ห่วงใย และให้เกียรตินางเสมอต้นเสมอปลาย อีกทั้งฮูหยินผู้เฒ่าซึ่งเป็นแม่สามีก็มอบความเอ็นดูให้ เรียกได้ว่าอวิ๋นซือนั้นมีครบทุกสิ่งที่ภรรยาเอกคนหนึ่งควรจะได้รับ
ทั้งความรักและอำนาจในการดูแลคฤหาสน์จากสามี ทั้งความเอ็นดูและความพึงพอใจของแม่สามี เนื่องจากอวิ๋นซือมักออกงานเลี้ยงต้อนรับกับหลันชิงบ่อยครั้ง ยิ่งทำให้บรรดาฮูหยินตระกูลอื่นล้วนชื่นชมและริษยาในวาสนาของนาง แต่นางมักบอกคนเหล่านั้นในใจอย่างสงสารเสมอ
‘เชื่อเถอะว่าพวกเจ้าทุกคนคงไม่อยากเป็นเยี่ยงข้าหรอก เพราะการมีครบทุกอย่างนั้นหมายถึงฮูหยินรองและเหล่าอนุในเรือนหลังด้วยน่ะสิ’
หลันชิงสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านจากบิดา ที่บุกเบิกเส้นทางการค้าจนตระกูลหลันก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในด้านนี้ อำนาจเงินตราบวกกับเส้นสายทางการค้าในมือ แม้แต่ขุนนางใหญ่ในราชสำนักยังต้องดูสีหน้า และนั่นทำให้เขามิเคยขาดสตรีอุ่นเตียง
ในคฤหาสน์นอกจากอวิ๋นซือที่เป็นฮูหยินใหญ่ ยังมีฮูหยินรอง และฮูหยินสามสี่ห้า อีกทั้งอนุที่มีมากกว่าบิดาของนางเป็นเท่าตัว ไม่รวมบรรดาสาวงามที่หลายคนส่งมาเอาใจ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยปฏิเสธอันใด ผู้คนจึงเล่าลือกันปากต่อปากว่า เรือนหลังของนายท่านหลันเป็นแหล่งรวมสาวงามชั้นยอด ที่แม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังทาบไม่ติด
อวิ๋นซือยิ้มขณะที่เอนหลังพิงเก้าอี้เพื่อพักสายตาจากสมุดบัญชีที่กำลังตรวจด้วยอิริยาบถผ่อนคลาย ริมฝีปากบางหยักยิ้มในมุมที่พอดิบพอดีอย่างที่เคยฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน ก็เพื่อเอาใจบุรุษคนสำคัญ แน่นอนว่านางต้องเอาอกเอาใจสวมบทบาทฮูหยินใหญ่ผู้รักใคร่เทิดทูนสามีซึ่งเป็นดั่งท้องฟ้าให้แนบเนียนที่สุด และหลันชิงเองก็พอใจมากจริงๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนหวานปานสายน้ำเย็น เขาเองก็อารมณ์ดีขึ้นมา
“เหนื่อยอย่างนั้นหรือ”
นิ้วเรียวที่เห็นข้อนิ้วชัดเจนลูบไล้หน้าผากมนแผ่วเบา ปัดผมปอยหนึ่งขึ้นให้ น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลที่แฝงแววอ่อนโยนระคนห่วงใยเอ่ยถาม
“หากเหนื่อยนักก็ให้อาเต๋อไปจัดการเถิด เจ้าจะได้ไม่ลำบาก”
อาเต๋อที่เขาพูดถึง ก็คือพ่อบ้านที่คอยดูแลทุกอย่าง     อวิ๋นซือยิ้มรับแต่ไม่ได้เอ่ยปากอันใด ให้คนอื่นทำแล้วนางก็ต้องมานั่งตรวจอีกรอบอยู่ดีน่ะหรือ นอกจากงานไม่ลดแล้วยังเพิ่มเติมคือต้องเสียเวลาสั่งกันไปมา
บางทีก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า เหตุไฉนบางคราสามีผู้ชาญฉลาดของนางจึงใช้การกระทำที่โง่งมเช่นนี้แสดงออกถึงความห่วงหา หรือว่าบรรดาเมียคนอื่นของเขาจะชื่นชอบความห่วงใยจอมปลอมเหล่านี้ จนมองข้ามเหตุผลและความเป็นจริงไปได้
“ท่านพี่น่าจะสะสางงานอยู่ที่ลั่วหยางมิใช่หรือ” นางเงยหน้าขึ้นสบตากับฝ่ายตรงข้าม เสียงใสเอ่ยคำพูดเย้าหยอก
“ข้าเร่งทำทุกอย่างเพื่อกลับมาหาฮูหยินอย่างไรเล่า”
คนถูกเย้าหยอดคำหวานตอบกลับ ทว่าผู้เริ่มกลับนึกถึงคำพูดของบ่าวในคฤหาสน์ที่ซุบซิบกันเมื่อหลายวันก่อน อนุคนใหม่ที่ขุนนางผู้หนึ่งส่งมานั้นงดงามมาก
เร่งทำทุกอย่างเพื่อกลับมาหาฮูหยิน... คนไหนเล่า
เงาบุรุษในเรือนอนุคนใหม่ที่บังเอิญผ่านไปเห็นเมื่อสองสามวันก่อนนี้ เป็นนางเองที่ตาฝาดใช่หรือไม่
หรือเขามีพี่ชายฝาแฝด
แม้ในใจรู้เท่าทัน ทว่าอวิ๋นซือเพียงยกยิ้มอย่างยินดี ไม่คิดทำตัวฉลาด แสดงว่ารู้เรื่องที่อีกฝ่ายปกปิด เขาให้เกียรตินางสมฐานะ เช่นนั้นนางก็จะทำตัวให้สมตำแหน่งตามที่เขาว่าจ้าง
หลันชิงก้าวเข้ามารั้งร่างบางไว้หลวมๆ ประคองภรรยาให้ขยับตาม ก่อนจะก้มหน้าลงบอกนางให้กินอาหารพร้อมกัน พลางสั่งให้บ่าวจัดสำรับขึ้นโต๊ะได้เลย ยามที่มาถึงโต๊ะกินข้าว ทุกอย่างก็ถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสรรพ ของบนนั้นล้วนเป็นของชอบของนางเสียสิ้น
“ข้าสั่งแม่ครัวให้ทำของโปรดเจ้าทั้งนั้น ซือเอ๋อร์ เจ้าผอมลงไปมากนัก ข้าเห็นแล้วให้ปวดใจ”
อา... สามีของนางช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ทั้งที่เขาต้องเป็นฝ่ายบริการเมียมากมายขนาดนี้ ยังสามารถเอาใจใส่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เรียกว่าหาที่ติมิได้เลย
อีกทั้งยังดีกับเมียทุกคนอย่างเท่าเทียม!
 
หลังอาหารมื้อเย็นจบลง อวิ๋นซือที่ตาปรือก็เอนกายพิงอกกว้าง ช่วงนี้ใกล้ถึงงานเลี้ยงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่า นางที่เป็นฮูหยินใหญ่ต้องดูแลเรือน จึงงานยุ่งจนสายตัวแทบขาดเพราะความเหน็ดเหนื่อย
หลันชิงนั่งเป็นเพื่อนภรรยาเงียบๆ อดทนต่อความชาที่แขนเพราะถูกนางทับ เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้สายตา หญิงสาวก็เอื้อมมือขึ้นไปไล้ข้างแก้มสากอย่างแผ่วเบา
“หากเหนื่อยนักก็ให้อาเต๋อไปจัดการ เห็นเจ้าอ้อนล้าเช่นนี้ข้ารู้สึกเป็นห่วงยิ่ง”
อวิ๋นซือไม่สนใจคำถาม “เกือบเดือนแล้วนะท่านพี่”
ไม่ว่าจะเป็นเพราะงานรุมเร้า เพิ่งเดินทางกลับจริงหรือเท็จ แต่การที่นางไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาเกือบเดือนนั่นคือเรื่องจริง และเมื่ออีกฝ่ายมาเพื่อมอบความสุขให้ นางก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธอันใด เพราะอย่างน้อยก็ยังดีกว่าใช้บริการนายโลมมิใช่หรือ
ดวงตาคมฉายแววอ่อนโยนทอประกายแสงเข้มวูบหนึ่ง เขากับนางต่างรู้ดีถึงความหมายของประโยคเมื่อครู่ ใบหน้าหล่อเหลาลดต่ำลงมาจนริมฝีปากหยักจดไหล่บาง อาภรณ์ที่ปกคลุมลื่นหลุด แทบจะพร้อมกับฟันขาวที่กดลงบนเนื้อนวล จากนั้นจึงค่อยผ่อนแรงลง หันมาใช้ปลายลิ้นร้อนตวัดตามร่องรอยที่สร้างไว้อย่างชำนาญ
...ชักจูงและเล้าโลม
อวิ๋นซือรู้สึกวูบวาบไปทั่วกาย ความเจ็บแปลบที่ไหล่กลายเป็นความรัญจวน นางเงยหน้ารับจุมพิตดุดันและโต้ตอบกลับอย่างเร่าร้อน สองร่างกอดก่ายกันตามสัญชาตญาณ ร่างบางถูกกดลงบนเตียงหนานุ่ม บทรักดุเดือดเสียจนนางเก็บเสียงครางไม่อยู่ ลมหายใจติดขัดขาดหายเป็นห้วง ภาพคนที่อยู่ข้างบนพร่าเลือน ท่ามกลางสติที่รางเลือน นางก็ปล่อยให้ตนเองจมดิ่งลงสู่ความปรารถนาอย่างเต็มใจ

Book Comment (209)

  • avatar
    คุณ ธนวัฒน์.

    ชอบ

    19d

      0
  • avatar
    fonluang lertsilp

    อ่านสนุกมากๆเลยค่า

    19/08

      0
  • avatar
    BO MI

    ดีเวอร์

    16/08

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters