Overview
|Catalog
- Tag(s):
- โบราณ
- ละคร
- ครอบครัว
- ราชวงศ์
อวิ๋นซือเป็นบุตรสาวของขุนนางใหญ่กับภรรยาเอก นางเพียบพร้อมคู่ควรกับฐานะฮูหยินใหญ่ วัยสิบห้าหญิงสาวขึ้นเกี้ยวสีเเดงหลังใหญ่ ใช้แปดคนหามเข้าสู่ตระกูลสามี วัยสิบเจ็ดนางถือหนังสือหย่าออกจากจวนอย่างทะนง เป็นฮูหยินใหญ่เเล้วอย่างไร เมื่อในใจสามีนางยังสู้อนุคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ
Last Update
Editor´s Choice
Recommendation
Book Comment (236)
- Total: 117
บทนำ
ย่างเข้าเดือนสิบ สายลมเหมันต์เริ่มพัดพา ปุยหิมะสีขาวร่วงหล่นจากผืนฟ้าสีคราม เกี้ยวสีแดงหลังใหญ่ตัดบทที่1
เดือนสามในเมืองหลวง ลมวสันต์พัดผ่าน อากาศอบอุ่นจนเรียกได้ว่าร้อนยิ่ง กาลเวลาไม่เคยรั้งรอผู้ใด เพียงชบทที่2
เช้าวันใหม่ อวิ๋นซือตื่นขึ้นด้วยความเมื่อยล้า นางนอนลืมตาฟังเสียงลมหายใจคนข้างกายเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่บทที่3
อากาศในเดือนสี่ยังคงอบอุ่น
ในที่สุดงานเลี้ยงวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าก็เวียนมาถึง อวิ๋นซือเลือกชุดเครื่อบทที่4
ดวงตาสีนิลเหลือบมองไปทางร่างสูงของผู้เป็นสามีเล็กน้อย นางไม่ได้วาดหวังว่าเขาต้องออกหน้าช่วยเหลือ เพีบทที่5
อากาศต้นเดือนห้านั้นร้อนอบอ้าวยิ่งนัก อวิ๋นซือนั่งมองจดหมายในมือด้วยแววตาราบเรียบไร้ความรู้สึก ตัวอับทที่ 6
เสี่ยวเซียงมิได้โง่ นางรู้ดีที่อวิ๋นซือถูกเหล่าสตรีเรือนหลังวางแผนกลั่นแกล้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่มีบุบทที่7
ร่างสูงยืนมองสตรีที่นั่งบนพื้นด้วยแววตาเฉยชา จดจำได้ว่าตนเจอหญิงผู้นี้เมื่อคืนก่อน นางมารายงานเรื่องบทที่8
เพราะราตรีที่ผ่านมานางทุ่มเทลงแรงไปไม่น้อย ผลที่ได้กลับมาจึงคุ้มค่ายิ่ง อวิ๋นซือคลี่ยิ้มหวานดีใจจนดวบทที่9
“ข้าคงประมาทเจ้าเกินไป” ฮูหยินสามแค่นเสียง ดวงตาฉายแววเกลียดชัง “ส่งเสริมให้เจ้าแต่งนายท่านหลันยังไมบทที่10
ย่างเข้าเดือนหก สายลมร้อนพัดผ่าน คฤหาสน์สกุลหลันวันนี้ยังคงคึกคักเช่นวันวาน ทว่าในค่ำคืนนี้ยังมีบางคบทที่11
อวิ๋นซือเอนกายพิงพนักเก้าอี้ นางเหยียดขาเรียวสวยของตัวเองในท่วงท่าสบายๆ พลางส่ายหน้า “นางกำลังเป็นทีบทที่12
หลังจากคืนนั้น หลันชิงก็ค้างคืนที่เรือนเสวี่ยติดต่อกันถึงสามคืน ทำเอาฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มหน้าบานไม่หยุดบทที่13
‘หลันชิงเนี่ยนะ... ค้างคืนที่เรือนของตนเองคนเดียว’
เกิดอะไรขึ้นกับหลันชิงผู้ใช้ส่วนล่างเป็นแรงขับเคลืบทที่14
เดือนเจ็ดยังคงมีมรสุมพัดผ่าน อากาศร้อนชื้นทั้งยังมีฝนเฉอะเเฉะ ชวนให้อารมณ์ของผู้คนขุ่นมัว
หลันชิงกับอบทที่15
อวิ๋นซือคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้ง เป็นลูกพี่ลูกน้องของหลันชิง หากนางติดตามอีกฝ่ายจะได้ทุกอย่างอย่างนั้นหบทที่16
“นายท่าน...” อาอิ้นก้าวออกมาพลางร้องเรียก
หลันชิงมองหน้าคนสนิท เมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่ายจึงเอ่บทที่17
หลังจัดการธุระส่วนตัวเสร็จสรรพ อวิ๋นซือก็ไล่ให้สาวใช้ของตนออกไปพักผ่อน ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มด้วบทที่18
ฮูหยินใหญ่ของพวกนางเปลี่ยนไป!
เสี่ยวอิงกับเสี่ยวหยวนบอกตัวเองซ้ำๆ พวกนางพากันมองภาพคนงามออดอ้อนพลางเยบทที่19
เมื่อเสียงเพลงจบลง เป็นหลันชิงที่มอบของขวัญให้ซูลี่หลินก่อน จากนั้นนายท่านซูและคนอื่นจึงทยอยกันมอบขอบทที่20
หลังกลับจากงานเลี้ยง อวิ๋นซือที่รู้สึกล้าจนไม่อยากทำอะไรก็ปล่อยให้สาวใช้ทั้งสองปรนนิบัติตัวเองเพื่อเบทที่21
เสียงร้องของคุณชายซูดังลั่นเรือนรับรอง เลือดแดงฉานทะลักไหลราวกับเป็นน้ำตาสีโลหิต แม้อวิ๋นซือเป็นคนลงบทที่22
ยามเหม่ามาเยือน รอบด้านเริ่มสว่างรำไร แว่วเสียงสกุณาขับขาน แสงสีส้มสาดส่องตรงขอบฟ้า ไล่สีสว่างขึ้นเรบทที่23
ร่างบางนั่งนิ่งบนโต๊ะหินในศาลารับลม ข้างกายนางมีทั้งเสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนคอยปรนนิบัติ สาวใช้ทั้งสองบทที่24
เพราะเกิดเรื่องขึ้นกับฮูหยินใหญ่ หลันชิงจึงรั้งไม่ออกขบวนเดินทางเพื่อให้ภรรยาได้พักรักษาตัวให้หายดีเบทที่25
ยังไม่ทันจะถึงวันงาน คฤหาสน์สกุลหลันก็มีแขกที่ไม่คาดคิดมาเยือนเสียก่อน อวิ๋นซือรับรู้เรื่องนี้ผ่านเสบทที่26
ระยะนี้ความสัมพันธ์ของนายท่านหลันกับมารดาค่อนข้างย่ำแย่ ทำให้หลายคนในคฤหาสน์ล้วนอกสั่นขวัญหาย ด้วยเกบทที่27
ค่ำคืนของเดือนสิบเอ็ดมีสายลมเย็นฉ่ำพัดโบก ในอากาศปะปนด้วยปุยหิมะสีขาว หญิงสาวพลันหวนนึกถึงวันที่ตัวเบทที่28
หญิงสาวยังคงยืนนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ที่แสดงออกให้เห็น รอยยิ้มบางฉาบบนใบหน้าเช่นเคย นางหันกลับมาเอ่ยขอโทบทที่29
“ยายหนูอวิ๋น ตาแก่เช่นข้ากับยายเจ้าเป็นสหายในวัยเด็ก เห็นหลันชิงทำกับเจ้าเยี่ยงนี้น่าโมโหนัก หากคิดจบทที่30
สิ้นเสียงใสสำเนียงแผ่วหวาน หลายคนพลันหยุดกิริยาแตกตื่นแล้วกลับมายืนนิ่งแทน ไม่เว้นแม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่บทที่31
เรื่องของซูเจี่ยนใช่ว่าหลันชิงจะอยากปล่อยอีกฝ่ายไป ทว่าตอนที่คิดลงดาบสังหารญาติผู้น้อง ซูลี่หลินกลับบทที่32
นางมองสามีด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยคำพูดตอกย้ำเพื่อกรีดลึกลงในใจผู้ฟัง “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทบทที่33
ร่างบางของอวิ๋นซือก้าวจากห้องหนังสือมาไกลลิบ นางเร่งฝีเท้ากลับไปยังเรือนเสวี่ยของตนโดยไว ไม่คิดแม้แตบทที่34
“นายท่านขอรับ” บ่าวคนสนิทก้าวเข้ามาในห้องพลางเรียกขานด้วยน้ำเสียงร้อนรน
ดวงตาคมหันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะเบทที่35
ท้องฟ้ายามรุ่งสางนั้นเป็นอะไรที่ก้ำกึ่ง เพราะความมืดที่ไม่สนิทแต่ก็ใช่ว่าจะสว่างสดใส
อวิ๋นซือยังมิอาบทที่36
ดังนั้นขุนนางใหญ่ของท้องถิ่นผู้มีชื่อเสียงไม่ดีนัก ที่ฉิงเหวินฟู่เป็นผู้จัดหาจึงก้าวมาเข้ามามีบทบาทบทที่37
เป็นเพราะค่ำคืนที่ผ่านมาแทบมิอาจข่มตาหลับได้ จึงทำให้อวิ๋นซือหลับไหลจนถึงยามอู่ ซึ่งผู้คนในบ้านล้วนเบทที่38
วาจาที่เอ่ยออกมานั้นเหมือนจะดี และกึ่งเป็นคำสั่งที่ให้ปฏิบัติตามโดยไม่คิดถามความสมัครใจสักนิด อวิ๋นซบทที่39
สกุลหลันเป็นวาณิชหลวงแห่งราชสำนัก แน่นอนว่าย่อมผูกขาดด้านการค้า โดยเฉพาะการค้าขายเกลือที่หลันชิงเป็นบทที่40
หลังกลับจากจวนบิดาคราวก่อน อวิ๋นซือก็เฝ้ารอคอยมารดาอยู่ที่ร้านไห่ถังอย่างสงบ นางรู้ดีมาตลอด ทว่าเลือบทที่41
ความจริงอวิ๋นซือคิดว่าตนนั้นเลือกเอ่ยถามคำที่รู้ดีอยู่แก่ใจ นางหาได้โง่งม เพียงแต่เลือกจะไม่รับรู้ ปบทที่42
“เจ้ารู้ตัวตั้งแต่เมื่อไร” ผู้เป็นมารดากล่าวอย่างเย็นชา แววตาที่เคยแสดงว่าขลาดเขลาเวลานี้แปรเปลี่ยนไบทที่43
สายลมเหมันต์ปีนี้หนาวเย็นจับใจนัก
ร้านเครื่องประดับไห่ถังนั้นรายล้อมด้วยดงเหมยฮวาสีขาว ยามลมพัดโบก กบทที่44
แน่นอนว่าฉิงเหวินฟู่ย่อมมิค้านสิ่งใด ได้แต่เก็บภาพร่างแบบพวกนั้นส่งให้อี้จิงอย่างสงบ ทั้งสีหน้าและแวบทที่45
ขณะที่อวิ๋นซือกำลังมุ่งมั่นวางแผนสร้างชื่อให้ร้านไห่ถัง เพื่อก้าวสู่หนทางชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าของตบทที่46
ยามเห็นบุตรชายเดินเข้ามาในเรือนตัวเอง ใบหน้าชราก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้จะยังโกรธเรื่องที่อีกฝ่ายกระทำบทที่47
“นายท่าน ดูเหมือนว่าสาวใช้ของอนุซูจะกำลังตามหาท่านหมอหลี่จู้ขอรับ ท่าทางของนางรีบร้อนมาก” อาอิ้นก้าวบทที่48
อีกฝ่ายส่งจดหมายมาบอกว่านางอาจจะตั้งครรภ์ เขาจึงสั่งให้อาอิ้นพาหมอหลี่ที่มาทำหน้าที่แทนหมอฉางไปตรวจบทที่49
ข่าวบ้านสกุลหลันนั้นแพร่ออกไปประหนึ่งไฟลามทุ่ง
แม้จะพยายามปกปิดสักแค่ไหนก็ยังเล็ดลอดออกไปนอกเรือนได้บทที่50
ภายในรถม้าคันใหญ่หรูหราด้านในถูกตกแต่งอย่างงดงาม บนโต๊ะตัวเล็กๆ ตรงกลางเรียงรายไปด้วยขนมและผลไม้ อวิบทที่51
เช้านี้อากาศยังเย็นสมกับเป็นฤดูเหมันต์ สายลมหนาวพัดโชยเย็นเยือก ทว่าบรรยากาศความคึกคักของผู้คนในตลาดบทที่52
ดวงตาคู่งามของหลีเจียวเชินเบิกกว้าง ที่แท้สตรีตรงหน้าก็คืออดีตฮูหยินใหญ่สกุลหลันนั่นเอง ก็แค่ของเก่าบทที่53
ยามราตรีในฤดูเหมันต์นั้นเหน็บหนาวเป็นพิเศษ ชวนให้นึกอยากหลับใหลอยู่บนเตียงอุ่นๆ ไม่อยากตื่น แต่ราตรบทที่54
ในขณะที่วันเวลาผ่านไปไม่รั้งรอ สกุลหลันและสกุลหลีก็ป่าวประกาศออกมาว่า เครื่องประดับในงานประชันของพวกบทที่55
เพราะหักโหมจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาถึงสองวันเต็มๆ อวิ๋นซือจึงหลับใหลประหนึ่งคนตาย กว่าจะตื่นอีกครั้งบทที่56
ภายใต้แสงสว่างของไข่มุกราตรีบนเสาหยกที่ส่องแสงเรืองรองกระจ่างตา พระวรกายสูงสง่าในฉลองพระองค์สีเหลืองบทที่57
เสียงประกาศเริ่มต้นการประชันดังขึ้น
ดวงตาทั้งสี่คู่ประสานกันโดยไม่ตั้งใจ ก่อนที่อวิ๋นซือจะถามขึ้นมาปบทที่58
โจวฮ่องเต้ทรงชะงักไปเล็กน้อย พระองค์ทรงหยุดรับสั่งไว้ พลางพยักพระพักตร์เป็นเชิงอนุญาตอีกฝ่าย ในพระทับทที่59
หากถามถึงชื่ออวิ๋นซือหรือนามใหม่จางอวิ๋นซือ ย่อมไม่มีผู้ใดคุ้นหูนัก แต่ถ้าเป็นคุณชายไห่ถัง ทุกคนล้วนบทที่60
“ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้หาใช่ความผิดนางเพียงคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ หากจะพูดไป กระหม่อมเองก็ทำผิดต่ออดีตภรรยาไมบทที่61
“เอ่อ... แม่นางจาง นี่เป็นเงินรางวัลของท่านที่ฝ่าบาทพระราชทานมา” ขันทีผู้น้อยสองคนนำหีบใส่ตำลึงทองมาบทที่62
ร่างบางของมารดาแผ่นดินออกก้าวเดินอีกครั้ง มุมปากสีชาดสดขยับอมยิ้มเล็กน้อย น่าเศร้าจริงๆ นั่นละ เเต่ทบทที่63
จุมพิตเอาแต่ใจถูกประทับเนิ่นนาน ดวงตากลมเบิกกว้างยามมองคนที่กระทำการอาจหาญ มือเล็กขยับดันอีกฝ่ายออกสบทที่64
หลันชิงมองแสงเรื่อของตะเกียงไฟดวงน้อย ที่ส่องจากในห้องอดีตภรรยาพลางหลุบตาลง ความรู้สึกอึดอัดอันไร้ทีบทที่65
ในค่ำคืนที่ผ่านมาเงียบงันคล้ายสุขสงบ ยามเช้าฉิงเหวินฟู่มาตรวจงานช่างในเรือนเชิงชุน สายตาก็เห็นท่านปูบทที่66
นางไม่ผิด เหตุใดจึงต้องทนด้วยเล่า ในปีนั้นเป็นเขาที่เอ่ยปากว่าจะตบแต่งนางเข้าสกุล ทว่าเมื่อถูกมารดาขบทที่67
ยามราตรีค่ำคืนที่ผ่านมา หลันชิงมิได้ไปค้างคืนยังเรือนของภรรยาคนใด ทว่ากลับพักอยู่เพียงคนเดียวที่เรือบทที่68
แน่นอนว่าการทำแบบนี้ย่อมมีความเสี่ยง และหลี่ฮั้วก็ต้องการหลักประกัน ฮูหยินผู้เฒ่าจึงเป็นอีกคนที่ได้รบทที่69
“อาซือ เจ้ากับฮูหยินผู้เฒ่ามีเรื่องอะไรต่อกันหรือไม่” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เมื่อทั้งสองเดินเข้าสู่ลาบทที่70
หน้าวัดหลงอิ่นมีผู้คนมาจุดธูปไหว้พระกันล้นหลาม อี้จิงบังคับรถม้าให้จอดริมทาง จากนั้นจึงลงมายืนรอที่ดบทที่71
จางเหอนั้นไม่เข้าใจคำพูดของหลานสาวสักนิด แต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงออกไป เพราะในสายตาผู้เฒ่าที่เห็นเรื่องบทที่72
“เจ้าจะไปเกลี้ยกล่อมนางอีกครั้งอย่างนั้นหรือ” อวิ๋นจั้นถามคนตรงหน้าพลางหรี่ตาลง สตรีตรงหน้านับวันยิ่บทที่73
“ท่านปู่ ข้าต้องแต่งงานจริงๆ อย่างนั้นหรือ” เสียงโอดครวญของคุณชายรองสกุลฉิงดังขึ้น ทว่าคนงานในร้านล้บทที่74
ทว่าความลับของนางหากจะมีใครสักคนล่วงรู้ ผู้ที่น่าสงสัยที่สุดในยามนั้นก็คงมีเพียงอดีตสะใภ้ใหญ่อวิ๋นซืบทที่75
“ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากเจ้า คนที่ส่งไปแจ้งมาว่าท่านหมอจะมาถึงวันนี้ รอพร้อมแล้วข้าจะพาเขามาพบเจ้าบทที่76
แม้บุตรสาวจะฉลาดอย่างไรก็ยังใจร้อน หากมอบรายชื่อในมือให้ อีกฝ่ายไม่พึ่งฮองเฮาก็คงยื่นฟ้องร้องต่อศาลตบทที่77
ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่อวิ๋นซือที่อยู่ในร้านไห่ถังกลับมีเพียงความเคร่งบทที่78
“รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เจ้ากระทำนั้นมีความผิด” ฮ่องเต้ตรัสถามอีกฝ่าย แม่ลูกสกุลจางคู่นี้ช่างเหมือนกันนบทที่79
ในค่ำคืนนั้นนอกจากเสียงกลองที่ดังขึ้นเป็นระยะแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงใดอีกเลย แม้แต่เสียงการจุดประทัดก็เบทที่80
เรื่องที่อาจิ้นสืบมาได้ไม่ต่างจากที่หลันชิงเล่าให้ฟังมากนัก ฮ่องเต้ทรงพิโรธหนัก รับสั่งคุมขังบิดาและบทที่81
หลายราตรีผ่านไปนับจากงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ ฮ่องเต้ทรงรับร้องทุกข์คดีของจางซื่อฮูหยินใหญบทที่82
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามแต่ใจเจ้าเถิด เปิ่นกงเหนื่อยแล้ว คงต้องพักเสียหน่อย ให้ปี้หยวนไปส่งเจ้าก็แล้วกัน”
อบทที่83
วันที่สิบห้าเดือนสิบสอง
ท้องฟ้าในฤดูหนาวทั้งอึมครึมและหม่นหมอง ในเมืองมีสายลมพัดโหมกระหน่ำพร้อมหิมะตกบทที่84
ฉิงเหวินฟู่รู้ดีถึงพระอารมณ์เอาแน่นอนไม่ได้ของฮ่องเต้ เขาไม่อาจยอมให้อีกฝ่ายเอาโทสะมาลงกับอวิ๋นซือไดบทที่85
ฉิงเหวินฟู่เดินเข้าสู่ด้านในเรือนหลังร้านอย่างรวดเร็ว เขาก้าวผ่านหน้าเสี่ยวอิงที่ยืนตกตะลึงไปยังห้องบทที่86
หญิงสาวมองเสื้อคลุมสีขาวสะอาดด้วยใบหน้าขึ้นสี ด้วยสติอันพร่าเลือนในยามนั้นจึงไม่อาจเห็นหน้าผู้มีพระคบทที่87
เช้าวันใหม่อากาศสดใสกว่าช่วงที่ผ่านมาไม่น้อย แสงเเดดอ่อนๆ ส่องทะลุเมฆหมอกลงมาทอทาบกับพื้นดิน เสียงนกบทที่88
ในยามนี้สถานะนางคือสตรีถูกหย่าร้างที่ผู้คนไม่ให้การยอมรับ ส่วนเขาคือคุณชายผู้เพียบพร้อมของสกุลใหญ่ ทบทที่89
“คุณหนู ตอนนี้พวกเราเป็นเศรษฐีกันแล้วใช่หรือไม่” เสี่ยวอิงเอ่ยปากถามผู้เป็นนายน้ำเสียงสั่นน้อยๆ ขณะทบทที่90
ราตรีของปีใหม่อากาศหนาวจับใจ อวิ๋นซือมองตามด้านหลังที่หายลับไปของอดีตสามีด้วยสายตาว่างเปล่า ชีวิตนางบทที่91
ฉิงเหวินฟู่ไม่ได้ถามกลับในทันที แต่ร่างสูงนั้นกลับก้าวเดินมานั่งเบื้องหน้ามารดาแทน มือหนารับถ้วยชาทีบทที่92
“นั่นกล่องอะไรหรือ” เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้น
อวิ๋นซือชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นทีบทที่93
“ไหนท่านบอกว่าไม่หึง”
หญิงสาวถามอีกฝ่ายเมื่อริมฝีปากได้รับอิสระ นางพยายามขืนร่างออกจากอ้อมแขนที่กอดรับทที่94
นางที่เกิดมาก็ต้องฟันฝ่าทุกอย่างด้วยตนเอง ผ่านอุปสรรคชีวิตล้มลุกคลุกคลานมาเท่าใดจนถึงยามนี้ แต่นางก็บทที่95
เมื่อร่างของชายหนุ่มผู้โชคร้ายทรุดลงไปกองกับพื้น กลุ่มคนไม่หวังดีจึงละสายตาหันมาสนใจบุคคลที่อยู่ในรถบทที่96
แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณชายรองสกุลซูผู้นี้ เดิมทีหลงคิดว่าเขาสิ้นชีพด้วยน้ำมือของหลันชิงไปแล้ว ไม่คาบทที่97
คำพูดของมือปราบที่กล่าวอย่างชัดเจน ทำให้คนในสกุลหลันหลายคนมีสีหน้าแตกตื่น คนร้ายที่บงการให้คนไปทำร้าบทที่98
ภายในคุกใต้ดินของศาลต้าหลี่นั้นทั้งอับชื้นและสกปรก แสงสว่างที่ส่องสลัวจากคบไฟไม่ช่วยในการมองเห็นมากนบทที่99
หลันชิงเหลือบมองท่าทางหมดอาลัยนั้นโดยไม่แสดงออก แต่คำพูดที่เอ่ยออกมากลับเย็นชาไร้ความเห็นอกเห็นใจให้บทที่100
เนิ่นนานทีเดียวกว่าอวิ๋นซือจะสามารถข่มอารมณ์อ่อนไหวของตนเองลงได้ ดวงตาคู่งามร้อนผ่าว เอ่อคลอไปด้วยน้บทที่101
“แม่นางจางว่างพอจะคุยกับข้าสักหน่อยหรือไม่”
อวิ๋นซือมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย ดวงตาหานจิวหรงไรบทที่102
ทั้งที่เป็นปลายเดือนสามแท้ๆ ทว่าท้องฟ้ากลับอึมครึมมองไม่เห็นความสดใส อวิ๋นซือเงยหน้าขึ้นมองผืนฟ้าพลาบทที่103
หลังจากที่ฟังข่าวจากอาจิ้นจนจบ อวิ๋นซือให้นึกเป็นห่วงคนรักอย่างถึงที่สุด ในใจนางตระหนักได้ถึงความผิดบทที่104
แต่เมื่อผู้คนออกไป คนที่บอกอยากพักผ่อนกลับมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ยามนึกถึงคำพูดที่ใต้เท้าหานผูบทที่105
วันนั้นหลังจากฮองเฮาไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้วเสด็จกลับออกมาด้วยท่าทางเย็นชา ตำหนักคุนหนิงก็ปิดตัวเงียบไมบทที่106
“และที่แต่งให้ท่านในยามนั้นก็เป็นตัวข้าเองที่ปรารถนา” เพราะความรัก... นางในเวลานั้นจึงแต่งให้เขา โดยบทที่107
กว่าหลันชิงจะกลับถึงเรือนตนเอง ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เมื่อกลับมาถึงเจ้าตัวก็ตรงไปยังเรือนอนุเจียวทันบทที่108
เช้านี้คุณชายฉิงก็ยังใช้ชีวิตตามปกติเช่นทุกวัน คนสนิทพามานั่งเปลี่ยนบรรยากาศในสวน เขานั่งนิ่งไม่เคลืบทที่109
ปลายเดือนเก้าแล้ว ทว่ากลับมีพายุฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก โจวฮ่องเต้ทอดพระเนตรสายฝนที่โปรยปรายจากฟ้าโดยไบทที่110
ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ทิวทัศน์ใต้แสงจันทร์ให้ความรู้สึกถึงฤดูใบไม้ร่วงอย่างแท้จริง อวิ๋นซือปล่อตอนพิเศษ ผูกเงื่อนรักถักทอวาสนา 1
เดือนสี่ในเจียงหนานอากาศสดใส ความงามของทะเลสาบซีหูยังคงไม่เปลี่ยนเเปลง เหลียนฮวาน้อยใหญ่หลากสีเเข่งกตอนพิเศษ ผูกเงื่อนรักถักทอวาสนา 2
อวิ๋นซือรับรู้ถึงความทะนุถนอมผ่านทางการกระทำนั้น ริมฝีปากอิ่มแดงสดแย้มยิ้มอ่อนหวานถึงดวงตา ทำเอาหัวใตอนพิเศษ รักที่แตกต่าง1
“เจ้าคิดดีเเล้วหรืออินเอ๋อร์ หากเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะลูก…”
ใต้เท้าอี้แห่งกรมอาลักษณ์เอ่ยถามบุตรสาวอตอนพิเศษ รักที่แตกต่าง2
“ฝ่าบาทโปรดวินิจฉัยเรื่องนี้ให้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาทรงไร้อำนาจจากสกุลเดิมเมื่อเทียบกับหมิงกุ้ยเฟยเเลตอนพิเศษ รักที่แตกต่าง 3
สายลมในฤดูใบไม้ผลินั้นอบอุ่นและงดงาม กลิ่นอายความสดใสเป็นประหนึ่งมนตร์ขลัง ร่างบอบบางของสตรีนางหนึ่งตอนพิเศษ ทุกคนมีหนทางของตัวเอง จบ
“ท่านพ่อท่านแม่ ลูกอยากได้ขนมนั่นเจ้าค่ะ” ก้อนแป้งน้อยที่ยามนี้เป็นกลายเป็นเด็กหญิงหน้าตางดงามพยายา
ดีมากๆ
15h
0ชอบบบม๊ากกก
2d
0สุดยอดมากกก
4d
0ดีมากกกกกก
4d
0ดีมาก
4d
0สนุกมากกก
4d
0เยี่ยม
4d
0อ่านเพลินมากค่ะ
4d
0อ่านสนุกเพลินมากๆค่ะ
4d
0สนุกมากกก
4d
0