logo
logo-text

Download this book within the app

Chapter 4 หนีเที่ยว 1

ร่างเล็กในชุดสาวใช้เดินก้มหน้าก้มตาผ่านโรงครัวไปทางประตูหลังของจวน ฝีเท้าของนางเร่งรีบ แต่เสียงเดินแผ่วเบาราวกับไม่อยากให้ใครได้ยิน นางเหลียวมองด้านหลังเล็กน้อย เมื่อไม่เห็นใครหรือสิ่งใดผิดปกติ สองเท้าก็จ้ำพรวดผ่านประตูออกไปยืนท่ามกลางแสงแดดแผดกล้า ก่อนจะรีบเข้าไปในรถม้าที่ถูกเรียกมาจากข้างนอก โดยมีหญิงสาวอีกนางนั่งรออยู่ด้านในก่อนแล้ว
“คุณหนู ทำแบบนี้จะดีหรือเจ้าคะ”
“ชู่ววว”
“แต่...”
คราวนี้คนที่ถูกเรียกว่าคนหนูถลึงตาใส่สาวใช้ ก่อนจะเคาะที่หลังคารถม้ารับจ้าง เป็นสัญญาณว่าไปได้
“เราไม่ได้ทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเสียหน่อย และเจ้าก็ออกปากเตือนข้ามาตลอด ข้าเคยฟังหรืออย่างไรกัน”
“ไม่ฟังเจ้าค่ะ”
“ก็นั่นปะไร”
มู่หรงเยว่ชิงในชุดสาวใช้ยิ้มอย่างซุกซน เพียงแค่นึกถึงตอนที่จะได้เที่ยวเล่น ห่างไกลจากการงานน่าเบื่อทั้งหลาย นางก็พลันมีความสุขขึ้นมา
“ถ้าหากคุณชายรู้ เพ่ยเพ่ยคนนี้ต้องโดนเอ็ดอีกแน่ แต่นั่นยังไม่แย่เท่ากับที่ทุกคนจะหันมาห่วงคุณหนูหนักกว่าเดิม คราวนี้ท่านก็จะไปไหนมาไหนได้ยากยิ่งขึ้น”
“เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลังน่า” นางบอกปัด
มู่หรงเยว่ชิงตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ชมนกชมไม้ การเก็บเกี่ยวพืชผล หรืออาจจะเสาะหาแม่น้ำลำธารเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เพราะบางครั้งบางคราว การไปตลาดสร้างความเบื่อหน่ายให้นางเช่นกัน นางแทบจะจำร้านทุกร้านในนั้นได้หมดแล้ว เหตุเพราะไม่ว่าคุณชายท่านไหนก็เอาแต่พานางไปที่นั่น พอนางเลือกซื้อสิ่งต่าง ๆ ตามใจชอบในเกือบทุกร้าน พวกเขาก็จะพากันหนีหายไป ตลาดจึงไม่ใช่ที่ที่น่าสนใจอีกต่อไป เว้นเสียแต่ว่านางอยากจะดูการแสงตลกหรือกีฬาพื้นบ้านเท่านั้น
นางตระหนักดีว่าหากพี่น้องทั้งสามรู้เรื่องเข้า คงอยากจะสั่งกักบริเวณนางแทนบิดาเป็นแน่ หรือไม่ก็ให้บ่าวรับใช้ชายมาตามเฝ้านาง โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพียงการดูแลรับใช้ใกล้ชิดเท่านั้น แต่บ่าวคนนั้นจะคอยรายงานทุกความเคลื่อนไหวอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายกับนางได้ แม้บางครั้ง มันจะเป็นแค่การที่นางออกจากจวนไปเดินยืดเส้นยืดสายห่างออกไปไม่กี่ช่วงถนนก็ตาม
ในทางเดียวกัน มารดาก็ไม่ใคร่จะยินดีปรีดากับบุตรสาวเพียงคนเดียวที่เอาแต่แอบออกไปข้างนอก ในเมื่อสตรีไม่ควรจะปรากฏกายในที่สาธารณะหากไม่จำเป็น ที่ของพวกนางคือในเรือนอันอบอุ่นปลอดภัย และมีงานมากมายให้ทำจนล้นมือ แม้เยว่ชิงจะมีฝีมือในงานปักผ้า การดนตรี หรือกิริยามารยาทงดงามไร้ที่ติ แต่นางก็เอือมระอากับเรื่องเหล่านี้เช่นกัน การหนีออกมาข้างนอกจึงเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยบรรเทาความรู้สึกเช่นนี้ได้
“ใกล้ถึงแล้วเจ้าค่ะ” เพ่ยเพ่ยเปิดม่านหน้าต่าง ชะโงกหน้าออกไปดูถนนหนทาง ต่อให้นางจะเห็นค้านกับกับคุณหนูแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลา นางก็ดูแลรับใช้อย่างดีเสมอ
“เราเข้าไปดื่มชากันก่อนดีกว่า”
“จะดีหรือเจ้าคะ สถานที่แบบนั้นไม่เหมาะกับคุณหนู และอาจจะเกิดอันตรายได้ มีพวกชอบต่อยตีเข้าไปวุ่นวายในโรงน้ำชาออกบ่อยไป”
“แล้วพวกนั้นจะมาสนใจกูเหนียงตัวเล็ก ๆ ไปทำไมกัน” เยว่ชิงโบกมือแบบไม่ใส่ใจ หารู้ไม่ว่าตัวเองมีหน้าตาโดดเด่นดึงดูดสายตาแค่ไหน
เมื่อรถม้าจอดสนิท นางก็เดินเข้าไปตามทางในหมู่บ้านด้วยความตื่นเต้น สองตากวาดมองบ้านช่องเรียบง่าย กับเด็ก ๆ ที่เล่นกันอยู่บนถนน
“คุณหนูรอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ”
นางหันขวับไปหาเพ่ยเพ่ย ก่อนจะยกนิ้วขึ้นจ่อริมฝีปาก “ห้ามเรียกข้าเช่นนั้นนะ ข้าแต่งตัวมาเหมาะสมที่จะเป็นคุณหนูหรือ”
“เจ้าค่ะ ๆ ไม่เรียกแล้ว”
เพ่ยเพ่ยต้องคอยยั้งตัวเองเอาไว้ แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยนามบุตรีของท่านแม่ทัพออกมาโดยไม่มีคำนำหน้า มันถือเป็นการล่วงเกินอย่างสูง แต่คำสั่งเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครา ทางที่ดีคือไม่ทำให้คุณหนูของนาง
หัวเสีย และนางเองไม่ต้องลำบากใจ จึงเลี่ยงที่จะเรียกหญิงสาวสูงศักดิ์คนนี้เสีย
“วันนี้เจ้าอยากกินอะไร” เยว่ชิงหันไปถาม พลางมองหาร้านที่ต้องการไปด้วย แต่หมู่บ้านเล็กแค่นี้ เห็นทีจะมีอยู่เพียงร้านเดียว เหมือนกับอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งอยู่ไกลไปทางทิศประจิม ซึ่งใหญ่กว่านี้ไม่มากนัก ด้วยความที่ชอบแอบออกมาข้างนอก นางจึงได้ไปเยือนหลายที่จนรู้รอบว่าในแต่ละหมู่บ้านมีอะไรน่าสนใจบ้าง
“ข้าอยากกกิน...”
เพ่ยเพ่ยยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากถนนเบื้องหน้า ซึ่งเป็นทางที่ทั้งคู่ต้องการจะเดินผ่านพอดี ด้วยความกลัวว่าคุณหนูจะมีอันตราย เพ่ยเพ่ยจึงรีบรั้งร่างเล็กเอาไว้ แต่คุณหนูของนางกลับขืนตัวออก แล้วทำท่าจะพุ่งตัวไปทางต้นตอของเสียง
“ไม่เจ้าค่ะ ครั้งนี้ไม่ได้ อันตรายเกินไป” เพ่ยเพ่ยรีบร้องห้ามเพราะคาดเดาจิตใจของคุณหนูได้
“แต่ข้าเห็นชายคนนั้นกำลังเดือดร้อน คงไม่ใช่เรื่องของอันธพาลทั่วไปหรอก เพ่ยเพ่ยเราไปดูกันหน่อยไม่ได้หรือ ชายคนที่โดนผลักจนล้มก็ชรามากแล้วด้วย” เยว่ชิงพูดพลางชะเง้อคอมอง แล้วขยับเข้าใกล้อีกก้าว
“แต่คนที่ชายชรามีเรื่องด้วยยังหนุ่มแน่นอยู่เลยนะเจ้าคะ หากมีการใช้กำลังกันขึ้นมา ท่านจะทำอย่างไร”
“บุรุษจะตีผู้หญิงเชียวหรือ”
“โธ่” เพ่ยเพ่ยทอดถอนใจกับความไร้เดียงสาของคุณหนู เยว่ชิงจึงอาศัยจังหวะนั้นดึงมือนางออก แล้วพุ่งตัวเข้าไปด้วยความรวดเร็วจนอะไรก็ยั้งไว้ไม่อยู่
เพ่ยเพ่ยได้แต่ต้องรีบตามไปแล้ว
“นี่เจ้าทำอะไร พ่อเฒ่าแก่ชรามากแล้ว ใช้กำลังเยี่ยงนี้ จะฆ่าเขาให้ตายรึ”
“ตายก็ช่างปะไร คนที่ไม่ยอมจ่ายเงินทั้งที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก็สมควรจะโดนสั่งสอนเช่นนี้อยู่แล้ว” เขาเป็นชายกักขฬะตัวโตเสียงดัง แต่เยว่ชิงก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย ซ้ำยังทำสีหน้าท้าทายเสียด้วย
“จ่ายค่าอะไร” นางไล่สายตามองชายที่นางช่วยพยุงขึ้นจากพื้น เห็นการแต่งกายของเขาก็รู้ว่าคงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก
“ค่ายา ของเก่าก็ยังไม่จ่าย ยังจะมีหน้ามาขอยาใหม่ไปต้มกินก่อน แล้วข้าจะได้อะไร ข้าเปิดร้านขายยานะ ไม่ใช่โรงทาน จะได้ให้คนมาเอาของไปตามใจชอบ”
“คนเจ็บป่วยก็แย่พอแล้ว เจ้ายังไม่วายเรียกเอาเงินราวกับพวกหน้าเลือด ทำอย่างนี้ไม่มีความสงสารเห็นใจกันบ้างหรืออย่างไร”
“แล้วเจ้าเป็นใคร มาแส่อะไรด้วย เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา อย่ามาทำตัวเป็นผู้ทวงความยุติธรรมไปหน่อยเลย”
เขามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า และเป็นครั้งแรกที่เยว่ชิงเสียใจที่ไม่ได้แต่งกายให้สมฐานะ ไม่อย่างนั้น เจ้าคนใจจืดนี่คงไม่มีทางพูดกับนางเช่นนี้แน่
“ข้าจะเป็นใครก็ช่าง แต่เจ้าต้องไม่ทำกับเขาเยี่ยงนี้อีก แล้วก็รับเงินนี่ไปซะ” นางพยักพเยิดไปหาเพ่ยเพ่ยซึ่งคอยเก็บถุงเงินเอาไว้
“ข้าไม่รับ” เขาพูดอย่างยียวน “ข้าจะรับจากตาแก่นี่เท่านั้น”
“เจ้าตั้งใจจะแกล้งกันนี่”
“แล้วจะเป็นอันใดหรือ หืม” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างคุกคาม “พอมองใกล้ ๆ เจ้าก็งามใช่เล่น”
เยว่ชิงเบี่ยงตัวหลบ ขณะเดียวกันเพ่ยเพ่ยก็เอาตัวเข้ามาขวางไว้ระหว่างนางกับคนถ่อย แต่มันกลับกระชากแขนเพ่ยเพ่ยแล้วผลักไปให้พ้นทาง
“เจ้าอย่ายุ่งกับแม่นางทั้งสองเลย ข้าจะหาเงินมาจ่ายให้ได้ ปล่อยพวกนางไปเถอะ”
“เรื่องอะไรจะปล่อย ข้าชักจะสนใจนางขึ้นมาเสียแล้วสิ”
มันเอื้อมมือมาหา หมายจะจับใบหน้าของหญิงสาว แต่มีมือหนึ่งมากันเอาไว้ แล้วออกแรงบีบที่ข้อมือนั้นอย่างแรงจนคนถูกกระทำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย! ปล่อยข้านะ”
“บิดามารดาเจ้าไม่ได้สอนให้เจ้าให้เกียรติกับสตรีรึ” เสียง
เยือกเย็นเอ่ยขึ้น ขณะที่มือก็ยังไม่ยอมปล่อยออก แม้มันจะสะบัดแรงแค่ไหน ก็ดิ้นไม่หลุด
เยว่ชิงมองเขาอย่างเต็มตา ตื่นตะลึงไปกับพละกำลังมหาศาลของคนที่เข้ามาช่วยในยามคับขัน เขาแทบจะบดข้อมือของอีกฝ่ายเป็นผุยผง แต่ทำราวกับไม่ได้ออกแรงอะไรเลยแม้แต่น้อย

Book Comment (9)

  • avatar
    Chanisara

    ดีมากกก

    1d

      0
  • avatar
    สมิตานัน ทรัพย์ศรี

    วาสว

    2d

      0
  • avatar
    Tan Banthita

    ดีี

    8d

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters