“เวลาช่างเดินไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งพันปีก่อน พวกเขาทั้งเก้าคน ยังเป็นเด็กตัวเล็กที่ซุกซน ข้าใช้เวลาอยู่นานหลายสิบปี กว่าพวกเขาจะยอมเชื่อฟัง แต่ดูเอาเถอะ ข้าจะไม่เห็นพวกเขาอีกแล้ว” มู่เฉิงหนิงมองศิษย์ทั้งเก้าคนอย่างอาลัยก่อนทั้งหมดจะวิ่งเข้ามารวมกัน พร้อมคารวะเทพแห่งชะตาด้วยกิริยานอบน้อม หากแต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว มู่เฉิงหนิงรู้สึกเจ็บปวดมากมายเพียงใด นางจำต้องเบี่ยงหน้าไปยังม่านน้ำตกเพราะไม่อาจทนเห็นศิษย์ทั้งเก้าเดินจากไป“อาจารย์” เสียงสั่นเครือของหนิงเอ๋อ ทำให้มู่เฉิงหนิงหันกลับมา พบใบหน้าของศิษย์คนเล็ก เต็มไปด้วยรอยน้ำตา สะอื้นไห้เดินเข้ามาแล้วคุกเข่าลง“ข้าต้องไปแล้ว นับจากนี้อาจารย์ต้องดูแลตัวเองให้ดี ไม่มีข้าแล้วท่านต้องยิ้มทุกวันสัญญากับข้าได้ฤาไม่” สิ้นเสียงของหนิงเอ๋อ เจ้าสำนักใจหายวาบ จำใจเดินเข้ามาหาศิษย์คนเล็กแล้วดึงนางลุกขึ้นอย่างถนอม พลันยกมือลูบศีรษะเหมือนหนิงเอ๋อยามเป็นเด็ก“หนิงเอ๋อ...ไม่มีข้าคอยอบรมแล้ว อย่าเอาแต่ใจ เจ้าจะเป็นเด็กดื้อเหมือนตอนอยู่กับอาจารย์ไม่ได้อีก” มู่เฉิงหนิงยกมือปาดน้ำตาให้ศิษย์คนเล็กด้วยความเป็นห่วง“หนิงเอ๋ออยากอยู่กับอาจารย์” เจ้าสำนักได้ยินดังนั้น จึงยิ้มทั้งน้ำตา“ไม่มีผู้ใด ขัดต่อกฎแห่งสวรรค์ได้ เด็กโง่ เจ้าจงจำคำข้าไว้ให้ดี ด้านบนมีธรรมเนียมมากมาย เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุข หากเรามีวาสนาต่อกัน ข้าเชื่อว่าสักวันเราจะได้พบกันอีก”“ข้าไม่อยากไป ข้าไม่ไปได้ฤาไม่ท่านเทพแห่งชะตา ข้าไม่อยากไป” หนิงเอ๋อโผเข้ากอดเจ้าสำนักแล้วอ้อนวอน ขอโอกาสเหมือนเด็กตัวน้อยเมื่อมู่เฉิงหนิงเห็นดังนั้น จึงทอดสายตาไปยังเทพแห่งชะตา แล้วส่งสัญญาณบาง อย่างอนุญาตให้เขาพาศิษย์ทั้งหมดไป ไม่นานนักแสงจากพลังเทพก็สว่างจ้า ดึงศิษย์ทุกคนของสำนักหมิงเซียนขึ้นไปสู่ด้านบนเพียงพริบตาทุกอย่างตรงหน้าของมู่เฉิงหนิง ว่างเปล่าทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงเสียงน้ำตกที่ดังมาจากด้านหลัง จากหุบเขาที่เคยมีเสียงเจื้อยแจ้วเหล่าศิษย์ทั้งหลาย บัดนี้เงียบสงบแตกต่างอย่างสิ้นเชิงดวงตากลมหลุบต่ำลง พร้อมหยดน้ำตาร่วงหล่นลงพื้น นั่นคือความรู้สึกเดียวที่นางแสดงออก ก่อนจะหันตัวเดินกลับเข้าสำนักไปท่ามกลางสายลมที่พัดโชยมาเทพแห่งชะตา พาเหล่าเซียนน้อยทั้งเก้าคน ขึ้นมาบนสวรรค์ตามกฎที่สืบทอดมายาวนาน เขาทยอยถูกส่งทุกคนไปยังสถานที่ต่าง ๆ จนครบ เหลือเพียงหนิงเอ๋อศิษย์น้องเล็กคนสุดท้าย ที่เทพแห่งชะตาจับจ้องมองนางอย่างมีความหมาย พร้อมเงยหน้าขึ้นมองดอกเหมยเซียนที่ยังร่วงหล่นไม่ขาดสาย“เหตุใดดอกเหมยเซียนยังไม่หยุดหล่นลงมาอีก นับจากวันแรกที่ข้าเห็น จนถึงวันนี้ก็เนิ่นนานเกินสิบวันแล้ว” ราชาแห่งสวรรค์กล่าวกับเหล่าเทพทั้งหลายที่มาเข้าเฝ้า“ทูลฝ่าบาท ข้าเองก็แปลกใจอยู่เช่นกัน จึงเก็บเรื่องนี้ไปสอบถามท่านเทพแห่งชะตา แต่ก็ยากนักที่จะเปิดปากเขาได้” ราชาสวรรค์ได้ยินดังนั้นจึงแย้มยิ้มออกมาอย่างเมตตา“แม้แต่ข้า เทพแห่งชะตายังปิดปากเงียบ พวกเจ้าทั้งหมดอย่าได้คาดคั้นเขาเลย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎโชคชะตาขององค์ชายรองเถิด”หนิงเอ๋อในชุดสีขาวสะอาด เหม่อมองดอกเหมยเซียนที่ร่วงลงมาไม่ขาดสาย พร้อมกลิ่นหอมอ่อนกระจายฟุ้งทั่วบริเวณ ไม่ต่างจากคำร่ำลือ ว่าแดนสวรรค์สวยงามกว่าสถานที่ใดในใต้หล้า เป็นศูนย์กลางของผู้มีบารมีอย่างเหล่าเทพ หญิงสาวเลื่อนสายตามองทุกอย่างด้วยความตกตะลึง“ท่านเทพแห่งชะตา บนสวรรค์มีดอกไม้ร่วงลงมาเช่นนี้ตลอดเวลาฤาไม่ ข้าเพิ่งรู้ว่าดอกไม้แห่งสวรรค์ช่างงดงามเช่นนี้ หากอาจารย์ข้ามาเห็น นางต้องชอบมากแน่ ๆ” แววตาใสเป็นประกายมองดูดอกไม้สีแดงที่ยังร่วงลงมาไม่ขาดสาย ชายชราจึงแย้มยิ้มออกมา แล้วตัดสินใจพูดบางอย่าง“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ดอกไม้ที่เจ้าเห็น ชื่อว่าดอกเหมยเซียนร่วงหล่นมาเป็นครั้งแรกนับจากแดนสวรรค์ถือกำเนิด และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน” หนิงเอ๋อได้ยินดังนั้นจึงเอื้อมไปจับดอกไม้สวรรค์ที่แสนงดงามมาถือไว้ แล้วเอียงศีรษะเล็กน้อย“เหตุใดจึงร่วงลงมาเพียงแค่ครั้งเดียว ทั้งที่งดงามออกปานนี้” แววตาสงสัยของหญิงสาวที่เพิ่งสำเร็จเป็นเซียน เอ่ยถามด้วยความอยากรู้
สนุกดี ทำออกมาเรื่อยๆนะ
25/08/2023
0ดีมากเลยค่ะ อ่านสนุกมาก
20/08/2023
0ชอบค่ะ
1d
0Xem tất cả