ร่างสูงใหญ่สาวเท้ามายังหน้าห้องทำงาน คิ้วเข้มขมวดเมื่อพบว่าโต๊ะเลขาว่างเปล่า เขาเปิดประตูเข้าห้องแล้วหย่อนกายลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ เห็นจดหมายสีขาววางอยู่ตรงหน้า จดหมายลาออก...เขาชะงัก วางมันลงแล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้ระบายลมหายใจ นี่เขาทำอะไรลงไป ตัดสินใจหยิบมือถือตัวเองออกมาแล้วกดสาย ทว่ากลับไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ ดูเหมือนปลายสายจะเปลี่ยนเบอร์หรือไม่ก็ปิดเครื่อง เตมินทร์ลุกยืนสีหน้าเคร่งเครียด อยากจะบ้าตายทำไมจิรัสยาต้องมาลาออกเอาตอนนี้ด้วยอยากไปหาที่บ้าน แล้วคุยให้รู้เรื่องเสียตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าตัวเองมีประชุมแล้วล่ะก็ ประตูห้องทำงานเปิดออก เลขาหน้าห้องอีกคนก้าวเข้ามา“คุณเตมินทร์คะ ได้เวลาประชุมแล้วค่ะ”“เข้าใจแล้ว!”เขาหยิบสูทมาสวม เพื่อเดินทางไปประชุม สองชั่วโมงกลับมายังห้องอีกครั้ง ชายหนุ่มเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลง ทำไมในใจมันโหวงชอบกล เหมือนชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป แท้จริงแล้วเขาคิดกับจิรัสยายังไงกันแน่ ไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลยจริงๆจิรัสยาตรวจอีเมล์แล้วยิ้มบางๆ ข้อความตอบกลับจากบริษัทที่สมัครออนไลน์ไว้บอกให้ไปสัมภาษณ์ เธอคิดไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่เลย ทุกอย่างได้จบเสียที ตอนนี้พี่สาวเองก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้านหลังนี้บ่อยนัก คงอยู่กับแฟน จิรัสยาระบายลมหายใจด้วยความโล่งอก ในวันที่ไม่เห็นเขาอีกแล้ว เหมือนหัวใจมันถูกบีบทุกขณะเอนกายลงนอนน้ำตายังคงไหลริน กี่วันแล้วนะที่เธอไม่อาจทำใจได้ ถอยคำดูถูกของเขามันดังก้องตลอดเวลา ถ้ารู้ว่าเขาคิดกับเธอเช่นนั้นคงหนีห่างให้ไกลเสียตั้งนานแล้ว ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงแม้ยากเย็นสักเท่าไหร่ ต้องเริ่มชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้รุ่งเช้าเธอลงจากชั้นบนพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ หน้าบ้านมีรถมาจอดเทียบ จันทร์จิราเดินเคียงคู่แฟนหนุ่มหน้าตาคมคายผิวน้ำผึ้ง ท่าทางสุภาพ เขาก้าวเข้ามา“ยัยจีจะไปไหนกันเนี่ย!” คนเป็นพี่เอ่ยถามสีหน้าตื่นตระหนก“จีส่งข้อความบอกพี่จันแล้วนี่คะ” จันทร์จิราขมวดคิ้วแล้วเปิดมือถือตัวเองดู ก่อนยิ้มเจือนๆ ให้น้อง“ขอโทษนะ พอดีพี่ไม่ได้ดู”“ไม่เป็นไรค่ะ”จันทร์จิราเหลือบมองแฟนหนุ่ม แล้วอ้าปากค้างเพราะดันลืมแนะนำกับน้องสาว“นี่เดม่อนจ้ะ”หญิงสาวยกมือไหว้ เขารับไหว้ท่าทางขัดเขิน“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีครับ”“คุณไปรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันตามไป”“ได้ครับ” เดม่อนเดินเลี่ยงออกจากวงสนามือน้องสาวถูกรั้งไว้ แล้วพาออกมานอกบ้าน แววตาคนเป็นพี่จ้องจับผิด“มันเกิดอะไรขึ้นพี่ไม่เข้าใจ ทำไมจีต้องกลับไปอยู่ที่เลยด้วย!”จิรัสยาหน้าเจือน ไม่รู้จะอธิบายพี่อย่างไรดี“จีลาออกจากงานแล้วค่ะ”พี่สาวหน้าเครียดขึ้น ต้นเหตุคงเป็นเพราะเธอสินะ“พี่ขอโทษนะจี พี่ไม่คิดว่าคุณเตมินทร์จะโกรธขนาดนี้”หญิงสาวส่ายหน้า เก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้“มันไม่เกี่ยวกับพี่จันหรอกค่ะ จีเองก็ไม่อยากอยู่ที่กรุงเทพแล้ว อยากกลับไปดูแลพ่อกับแม่ด้วย พอได้งานที่นั้นจีเลยได้โอกาสพอดีเลย”จันทร์จิรากุมมือน้อง “ถ้าจีคิดดีแล้วพี่ก็ตามใจ ฝากดูแลพ่อกับแม่แทนพี่ด้วยนะ”“ได้ค่ะพี่จัน”เธอยืนส่งน้องสาว จิรัสยาขับรถเคลื่อนออกจากรั้วบ้าน คนเป็นพี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากสีหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ น้องสาวสนิทกับเตมินทร์มาก จะออกจากงานง่ายๆ มันเป็นไปได้ นอกจากมีเรื่องหนักหนาจริงๆ เท่านั้นล่ะกระเป๋าใบใหญ่ถูกวางไว้ จิรัสยาเดินเข้าสู่บ้านไม้สองชั้น ชลชาติและวัลลีตรงเข้ามากอดบุตรสาวด้วยความคิดถึง ก่อนจูงมือมายังโต๊ะอาหารที่ตระเตรียมไว้ให้ จิรัสยายิ้มกว้างเมื่อเจอกับเมนูโปรด เลยนั่งลงแล้วตักอาหารใส่ปากไม่หยุดหย่อน จนแทบเกลี้ยงถึงอิ่ม“คิดยังไงอยากกลับมาอยู่ที่เลยล่ะลูก” วัลลีเอ่ยถาม“เบื่อกรุงเทพค่ะ”“เบื่อด้วยเหรอเรา ไหนบอกว่าเจ้านายดีมาก” คนเป็นพ่อสำทับหญิงสาวย่นจมูก ที่เคยเห็นมันคงเป็นแค่ภาพลวงตาที่เจ้านายเก่าสร้างขึ้นมาต่างหาก“จีเบื่อค่ะแม่ ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่มีเงินเก็บ สู้จีทำงานที่นี่แล้วเก็บเงินทำรีสอร์ทให้พ่อกับแม่ช่วยดีกว่าไหม”คนเป็นแม่ระบายยิ้ม “แม่แก่ป่านนี้แล้ว คงทำงานบริการไม่ไหวหรอก”“เราทำเป็นโฮมสเตย์ก็ได้ค่ะแม่ ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก เน้นกิจกรรมกับอาหาร แบบนี้นักท่องเที่ยวชอบ”ชลชาติพยักหน้าครุ่นคิดตาม“ดีเหมือนกันนะ แล้วเก็บเงินได้เท่าไหร่แล้วล่ะลูกสาวพ่อ ที่ทางเรามีเยอะแยะ พ่ออยากให้จีมาบริหาร”“เอาไว้เก็บได้มากกว่านี้จีจะบอกนะคะ ตอนนี้ขออุบไว้ก่อน”เห็นรอยยิ้มพ่อกับแม่แบบนี้ ทำเอาหัวใจชุ่มชื้น พอช่วยคลายความเศร้าในหัวใจลงได้บ้าง สักวันคงหลงลืมเขาได้
สนุกกก
1d
0ดีมาก
1d
0สนุกกก
1d
0Xem tất cả