หญิงสาววิ่งผ่านประตูที่กำลังจะปิดเข้าไปในบ้านได้อย่างฉิวเฉียดและจัดการแย่งไม้ดาลประตูจากมือชายที่กำลังจะปิดประตูมาอย่างรวดเร็ว นางจัดการหับปิดมันเสียแน่นหนา ก่อนจะทรุดลงกองหน้าประตูด้วยความเหนื่อยอ่อน“เจ้าเข้ามาไม่ได้นะ เขาปิดรับสมัครแล้ว พวกทหารที่มารับสมัครก็กลับกันไปหมดแล้ว” ชายวัยกลางคนผู้นั้นพยายามฉุดแขนนางให้ยืนขึ้นหญิงสาวที่ยังหอบก้มตัวลงแทบเท้าอีกคน “รับข้าอีกคนนะขอรับ ข้าขอร้องนะท่านอา” “อย่าทำให้ข้าลำบากใจสิ ข้าไม่ใช่คนตัดสินใจ เจ้ามาอะไรเอาป่านนี้ เขาติดประกาศร่วมอาทิตย์แล้ว” หยางเสียนึกหาเหตุผลอย่างรวดเร็ว “เอ่อ...ข้า ข้าเพิ่งรู้ข่าว ข้าเดินทางมาจากนอกเมืองอย่างเร็วที่สุดแล้วด้วย บ้านข้า...บ้านข้ายากจนมาก” การประกาศรับสมัครทหารดังไปทั่วเมืองหลวง นางพอรู้เรื่องอัตราค่าจ้างอยู่บ้าง รายได้ตอบแทนที่ไม่น้อยนั้นเป็นสิ่งจูงใจชายหนุ่มในเมืองให้ตื่นตัวพากันมาสมัครเป็นทหารมากมาย ตอนนี้ขอแค่หนีการตามล่าของจ้าวฮั่นหลางและรอดพ้นจากการถูกรุมทำร้ายได้ จะให้ไปเป็นอะไรหรืออยู่ที่ไหนนางก็ขอคว้าไว้ก่อนแล้วค่อยหาทางแก้ปัญหาเอาตัวรอดภายหลัง“ข้าต้องการเงินไปช่วยทางบ้านข้า ที่นาข้ากำลังจะถูกยึดนะท่านอา น้องข้าก็ยังเล็กนัก แม่กับพ่อข้าก็แก่มากแล้ว...” หยางเสียร่ายยาวทำทีโศกสลดกับชะตาชีวิตเหลือกำลัง เห็นได้ชัดว่าการคร่ำครวญของนางนั้นได้ผลเพราะคนที่ยืนฟังมีสีหน้ารันทดไปกับนางด้วย“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็นั่งรอที่ประตูนี่ก็แล้วกัน ข้าตัดสินใจเองไม่ได้หรอกคงต้องรอถามนายข้าก่อน” หญิงสาวปาดเหงื่ออย่างโล่งอก ปล่อยให้ชายวัยกลางคนใจบุญผู้นี้เดินเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนตัวเองก็นั่งพักเหนื่อยพิงหินก้อนใหญ่ที่ใช้ตกแต่งสวนข้างประตู ในใจก็ภาวนาว่าขอให้ทุกอย่างราบรื่น ก่อนชายผู้นั้นจะหวนกลับมา เสียงทุบประตูปึงปังก็ดังขึ้น หยางเสียดีดตัวลุกขึ้นฟัง“อาไฉ...อาไฉเปิดประตูด้วย” คนที่อยู่หลังประตูร้องบอก“เอ่อ...ท่านเป็นใคร” หยางเสียตัดสินใจตะโกนถามกลับไป“ข้าก็เป็นเจ้าของบ้านน่ะสิ... เปิดเดี๋ยวนี้เลย” อู๋อี้หวินตะโกนก้องผ่านประตูใหญ่เข้าไป นึกแปลกใจที่ประตูปิด ยังไม่ถึงเวลาลงกลอนเสียหน่อย หยางเสียค่อยๆ ยกดาลประตูขึ้น นางผลักบานประตูให้แง้มเปิด ก่อนจะรีบถอยออกมาให้ชายสองคนเดินเคียงกันเข้ามาด้านใน คนแรกผอมสูง ผิวขาว ยิ่งแต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าสีอ่อนแล้วยิ่งมองดูซีดเข้าไปใหญ่ เมื่อประกอบกับดวงหน้าที่เรียบเฉยยากแก่การหยั่งถึงอารมณ์แล้วยิ่งทำให้นางหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลย ส่วนอีกคนรูปร่างสูงใหญ่กว่า ผิวคล้ำแดดมากกว่า คิ้วหนาที่พาดเฉียงขึ้นนั้นทำให้นางรู้สึกเหมือนเขาโกรธอยู่ตลอดเวลา มองแล้วน่ากลัวกว่าคนแรกเสียอีก“เจ้าเป็นใคร...” ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบเฉยถามขึ้น“ข้ามาสมัครเป็นทหารขอรับนายท่าน” หยางเสียก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าด้วยรู้สึกว่ารัศมีน่าเกรงขามของผู้ชายสองคนนี้แผ่กระจายมาบีบให้ตัวนางลีบเล็กลงทีละน้อยๆเหอเซียวไห่หรี่ตามองคนที่จะมาเป็นทหารตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วย้อนมองจากเท้าขึ้นไปจรดหัวอีกที “อย่างเจ้านี่นะจะมาเป็นทหาร”หยางเสียรู้สึกฉุนทันทีเมื่อโดนสบประมาท จึงรีบเงยหน้าขึ้น “ทำไม...ข้าเป็นอย่างไร แค่มองก็ตัดสินได้แล้วหรือว่าข้าไม่เหมาะจะเป็นทหารน่ะ” “อุ๊บ๊ะ! เจ้านี่” เหอเซียวไห่ร้องเสียงดังหญิงสาวใจหล่นกับความปากไวของตัวเอง นึกอยากตบปากตัวเองให้ ห้อเลือด อุตส่าห์มาขอร้องเขาต้องนอบน้อมกว่านี้ถึงจะถูก“ข้าขอโทษขอรับนายท่าน...ข้าหมายความว่า ท่านน่าจะให้โอกาสข้าพิสูจน์ตัวเองบ้าง เห็นข้าผอมอย่างนี้ แรงข้าเยอะนะนายท่าน” หยางเสียรีบปรับเสียงให้อ่อนลงและมีท่าทีนอบน้อมเหมือนเดิม“มันผู้นี้มีความกล้าดี...ว่าไหม อี้หวิน” คนตัวโตหันไปถามความเห็นอีกคนที่ตลอดการโต้ตอบเขาจ้องคนมาสมัครเป็นทหารใหม่ตาไม่กะพริบ หยางเสียกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะโดนไล่ตะเพิดออกไปนอกประตู แต่สีหน้าคนถูกถามยังคงเรียบเฉยดังเดิม จนนางอดคิดไม่ได้...คนคนนี้มีหน้าเดียวหรืออย่างไรนะ จังหวะนั้นชายที่ยอมให้นางเข้ามานั่งรอ เดาว่าน่าจะเป็นคนที่ถูกขานชื่อว่าอาไฉก็เดินออกมาพอดี “กลับมาแล้วหรือขอรับนายน้อย” อาไฉกล่าวอย่างนอบน้อมกับชายผิวขาวหน้าเฉย“ถ้าอยากเป็นทหารจริง พรุ่งนี้ให้ไปที่ค่ายนอกเมือง อาไฉ...ให้เขาออกไปแล้วปิดประตูด้วย” อู๋อี้หวินสั่งจบก็เดินผ่านคนแปลกหน้าของบ้านไปราวกับตรงนั้นเป็นอากาศธาตุ อะไรกัน...ไม่นะ!“นายท่านได้โปรด ข้าไม่มีที่ไปจริงๆ จะให้ข้านอนที่หน้าประตูก็ได้ ข้าช่วยเฝ้าบ้านให้ท่านได้นะ” หยางเสียวิ่งไปดักหน้าชายหนุ่มเจ้าของบ้าน พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมายังชายร่างสูงใหญ่อีกคนเหอเซียวไห่มองคนที่จะมาเป็นยามเฝ้าบ้านให้ คิ้วหนาเลิกขึ้น “ท่าทางเจ้าลุกลี้ลุกลนอย่างกับโจร...”หญิงสาวสั่นหน้าสั่นหัวปฏิเสธต่อความเข้าใจผิดนั่น “ไม่ใช่นะ! ข้าไม่ใช่ขโมยขโจร โจรที่ไหนมันจะกล้าล้วงคองูเห่า อาวุธข้าก็ไม่มี...เห็นไหมๆ” หยางเสียหมุนตัวไปมาให้ดูว่านางบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในทางที่ไม่ดีแน่คนถูกเอาไปเปรียบกับงูเห่าทำท่าตรึกตรอง ก่อนพูดออกมา “เห็นจะจริงดังเขาบอกนะอี้หวิน” “จริงสิขอรับ ข้าอยากเป็นทหารนะขอรับ ไม่มีทางเป็นโจรได้แน่” หยางเสียพยักหน้าปลกๆ ยืนยันเจตนา“อาไฉ...หาข้าวหาปลาให้เขา แล้วพาไปนอนที่โรงเก็บฟืน อย่ามานอนขวางประตู ถ้าเจ้าเล่นตุกติกคิดไม่ซื่อ คงรู้นะจุดจบเจ้าจะเป็นยังไง” อู๋อี้หวินพูดเป็นเชิงขู่พร้อมกับใช้นิ้วดีดดาบออกจากฝัก พอให้อีกคนได้เห็นถึงความคมปลาบของมัน“ขอบคุณขอรับนายท่าน... ขอบคุณ” หญิงสาวโค้งแล้วโค้งอีกขอบคุณทั้งสองคน ไม่ลืมที่จะหันไปโค้งให้อาไฉด้วย...มีที่ซุกหัวแล้วหยางเสียเอ๋ย รุ่งขึ้นหยางเสียลุกจากกองฟางก่อนไก่ขันเพื่อเตรียมตัวจะติดสอยห้อยตามคุณชายทั้งสองคนที่นางเจอเมื่อวานไปยังค่ายทหารนอกเมืองด้วย ครั้นเมื่อนางเจอทั้งสองที่หน้าประตู หญิงสาวก็อ้าปากค้างออกอาการเหวอ...ก็เขาทั้งสองนั่งอยู่บนหลังม้า แล้วนางจะห้อยตามไปอย่างไรล่ะนั่นเหอเซียวไห่ชักม้าเข้ามาใกล้ชายหนุ่มร่างเล็กที่ยืนทำหน้าตลกๆ ข้างประตูใหญ่ “ไปไหม”หยางเสียยิ้มกว้าง “ขอรับ...ไปขอรับ ขอบคุณนายท่าน” ชายหนุ่มยื่นมือส่งให้ การไปเป็นทหารคือหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ หญิงสาวตัดสินใจรวดเร็วยื่นมือให้เขาดึงขึ้นไปบนหลังม้า ความหวาดกลัวของนางเป็นจริงดังคาด หยางเสียเห็นจ้าวฮั่นหลางกับพวกเดินเตร่ไปมาแถวหน้าบ้านสกุลอู๋ พวกมันเห็นนางและได้ส่งสายตาที่มีแต่ความเคืองแค้นชิงชังมาให้ หญิงสาวเหงื่อตก ร่างบอบบางสะท้านไหว รู้สึกลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลาย นางอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวก็จริงอยู่ แต่ลึกๆ แล้วนางกลัวจะพาตัวเองไปไม่รอดจากเงื้อมมืออันธพาลพวกนี้ เพราะความหวั่นวิตกกับเรื่องร้ายๆ หญิงสาวจึงเผลอตัวก้มหน้าซุกแผ่นหลังคนบังคับม้า“เฮ้ย! ทำอะไร” เหอเซียวไห่สะดุ้งโหยงกับความชิดใกล้จากเพศเดียวกันที่เกิดขึ้นแบบปุบปับหยางเสียรีบกลับมานั่งตัวตรงตามเดิม “ขอโทษขอรับ...แมลงมันเข้าตาข้าพอดี”คู่แค้นที่จ้าวฮั่นหลางเสียเวลาดักรอทั้งคืนนั้น เวลานี้นั่งอยู่บนหลังม้ากับชายที่ดูคล้ายทหารและกำลังจะควบม้าผ่านไปโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากมองตามด้วยความอาฆาต “หนอย...มีคนคุ้มกะลาหัวแล้วเรอะ!” เขาคำรามอย่างเคียดแค้นก่อนจะหันไประบายความโกรธลงกับลูกน้องเพราะเรื่องราวไม่เป็นดั่งใจ
น่าติดตาม
16/01
0สนุกมากๆเลยครับ
17/12
0อ่านสนุกมาก
01/12
0Xem tất cả