logo
logo-text

Tải xuống cuốn sách này trong ứng dụng

10

“ข้าปรึกษากับเขาแล้ว หวู่อิ้งก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม...แต่ข้าอยากให้เจ้าอยู่ช่วยหวู่อิ้งอีกแรง คนรุ่นใหม่ กลยุทธ์ใหม่ๆ อย่างที่เจ้าใช้จัดการทัพของเจ้าที่เจิ้งถง ถ้านำมาปรับใช้กับกองทัพหลวงของต้าฉาง ชื่อเสียงของแคว้นเราจะกึกก้องเกรียงไกรขึ้นสักเพียงไร เจ้าอาจไม่รู้ตัว...บรรดาแม่ทัพใหญ่ๆ และหัวหน้านายกองในกองทัพหลายคนทีเดียวที่ออกปากชมเจ้าและเห็นดีกับความคิดของข้า” ในพระกระแสรับสั่งเจือทั้งความปลาบปลื้มและความภาคภูมิพระทัยยิ่ง
“การใหญ่ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว เกล้ากระหม่อมไม่บังอาจรับความดีความชอบพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ามันก็อย่างนี้ ชอบถ่อมตัว ความสามารถของเจ้ามันธรรมดาเสียที่ไหนกัน...ข้าก็ว่าตามที่เห็นเป็นจริง”
“เกล้ากระหม่อม...”
“น่า...ฝานจิ้ง อย่าขัดรับสั่งเสด็จพ่อเลย ย้ายมาอยู่ใกล้ๆ เสียด้วยกัน” องค์รัชทายาทตรัสขึ้นบ้าง เหตุใดจะไม่ทรงทราบ ที่พระอนุชาเลือกจมอยู่ด่านเจิ้งถง ส่วนหนึ่งนั้นมาจากพระองค์ เพราะทั้งสองหมายปองสตรีคนเดียวกัน
แม้รู้พระองค์ดีว่าทรงมาทีหลัง แต่ความรักเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ในเมื่อสวี่ชิงหลิงเลือกมอบดวงใจไว้กับพระองค์ พระอนุชาก็ควรยอมรับและเข้าใจถึงความลำบากพระทัยนี้ด้วยเช่นกัน
“กระหม่อมยังผูกพันกับด่านเจิ้งถง จะทิ้งมายังไม่ได้” องค์ชายฝานจิ้งทรงชี้แจงเหตุผลต่อพระเชษฐา แม้ทรงเจ็บกับเรื่องรักสักปานใด แต่อดีตจบแล้วก็จบกันไป ชิงหลิงคิดถูกแล้วที่เลือกฝากชีวิตไว้กับพระเชษฐา ดินแดนห่างไกลจากเมืองหลวง ชีวิตในค่ายทหารในถิ่นทุรกันดารคงไม่เหมาะกับนาง
“ไปๆ มาๆ ก็ได้ อยู่นี่สามเดือน กลับด่านเจิ้งถงสามเดือน ข้าอยากให้เจ้าอยู่ใกล้ๆ ข้าบ้าง” ปลายพระสุรเสียงนั้นแผ่วเบา
ไม่อยากให้เจ้าคิดว่าที่พ่อทำกับแม่เจ้าใช่ว่าหัวใจพ่อไม่เจ็บ ใช่ว่าพ่อไม่มีความรักต่อแม่เจ้าและตัวเจ้าเลย กฎระเบียบของวังหลวงเข้มงวดนัก จะบ่าวหรือนายถ้าผิดก็ต้องว่าตามผิด หาละเว้นได้ไม่ พ่อพยายามเข้าใกล้ เจ้ารึก็ชิงผลักไสตัวเองออกไปให้พ้นให้ไกลสายตาอยู่ร่ำไป
จักรรพรรดิเสินตี้ทรงทราบว่าการบังคับตัวนั้นง่าย และทรงทราบดีว่า...ไม่ควรที่จะบังคับใจกัน
“เสด็จพ่อ... อย่าบังคับฝืนใจเสด็จพี่เลยพ่ะย่ะค่ะ ดั่งโบราณว่า ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่” องค์ชายหนานลี้ที่ทรงพยายามนิ่งตรองสถานการณ์อยู่นานตรัสแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงปรกติ ทรงรู้สึกขุ่นเคืองพระทัยไม่น้อยที่พระบิดามองข้ามพระองค์ไป
“ข้ายังไม่ได้บังคับพี่ชายเจ้าเสียหน่อย” จักรพรรดิชราทรงยกถ้วยพระสุธารสชาขึ้นเสวย ก่อนจะทรงหันไปทอดพระเนตรองค์รัชทายาทที่กำลังไอถี่ๆ ลูกคนนี้สุขภาพไม่ดีมาแต่ไหนแต่ไร ราชบัลลังก์ภายภาคหน้าต้องการแรงหนุนที่ดีเยี่ยม องค์ชายหนานลี้ประสบการณ์ยังด้อย ยังทรงวางพระทัยให้ทำการใหญ่ไม่ได้ อีกทั้งใจร้อนนัก พระเดชถูกใช้มากกว่าพระคุณเสมอ
พระโอรสองค์รองจึงเหมาะที่สุด!
ประสบการณ์กว่าสิบปีจากการใช้ชีวิตทหารชายแดนต้าฉาง ทำให้รู้วิธีปกครองและเลือกใช้คน หมิงอ๋องสอนได้ดี ที่ต้าฉางเป็นปึกแผ่นได้อย่างทุกวันนี้ พระอนุชาต่างมารดาพระองค์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง หากเมื่อสิ้นพระองค์แล้ว พระองค์ทรงหมายมาดให้โอรสองค์รองเป็นกำลังสำคัญอีกแรงที่จะช่วยผลักดันให้แผ่นดินต้าฉางภายใต้การปกครองขององค์รัชทายาทมุ่งไปสู่ความเจริญและสงบสุขร่มเย็น
การใหญ่เริ่มต้นได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี!
แม้องค์ชายฝานจิ้งเสด็จออกจากห้องทรงพระอักษรของพระบิดาแล้ว แต่พระกระแสรับสั่งของพระบิดายังลอยวนอยู่ในห้วงพระดำริ ระหว่างนั้นองค์ชายฝานจิ้งตัดสินพระทัยจะไปยังตำหนักแสงจันทร์ แต่ขณะทรงพระดำเนินอยู่นั้น ก็ทรงพบกับคนที่ไม่พึงพระทัยมากที่สุด...พระสนมไป๋ฮวา
นางเดินมากับสตรีซึ่งสวมเสื้อผ้าแปลกตา ทรงเดาว่าคงเป็นหนึ่งในราชอาคันตุกะต่างเมือง จึงทรงโค้งคำนับฝ่ายนั้นด้วยไมตรี ทว่าการคารวะนั้นไม่เลยไปถึงสตรีอีกคน!
พระสนมไป๋ฮวาหน้าตึงด้วยนึกไม่ถึงว่าอีกคนจะกล้าเมินทำทีไม่เห็นนาง
“นึกว่าพระองค์เสด็จกลับแล้ว...” ทูลบอกให้รู้ว่าไม่ยินดีในการพบพระองค์ด้วยเช่นกัน
มุมพระโอษฐ์ขององค์ชายรองจากตำหนักแสงจันทร์ยกเล็กน้อยก่อนตรัสออกไป “เห็นทีหนนี้...จะไม่กลับ”
พระสนมไป๋ฮวา สตรีซึ่งขึ้นชื่อว่าอำนาจเป็นรองแต่เพียงพระมเหสี พยายามเก็บความขุ่นเคืองไว้อย่างมิดชิด ทั้งที่ภายในใจนั้น อยากจะตบพระโอษฐ์ที่แสนยอกย้อนนั้นสักที...เจ้าเด็กคนนี้ร้ายไม่เคยเปลี่ยน!
แล้วต่างคนก็ต่างย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงสิบกว่าปีก่อน
‘เจ้ามันคนชั่ว! ใส่ร้ายเสด็จแม่ข้าทำไม’ องค์ชายฝานจิ้งเมื่อพระชนมายุสิบเอ็ดชันษาเสด็จถึงตำหนักผีเสื้อเพื่อตรัสบริภาษพระสนมไป๋ฮวาด้วยความโกรธแค้น
‘คนเลว เจ้าอิจฉาที่เสด็จพ่อรักเสด็จแม่ของข้ามากกว่าใช่หรือไม่!’
เด็กหนอเด็ก...ช่างไร้เดียงสานัก เรื่องราวผ่านมาหลายปีถึงได้รู้ความจริงพระสนมโฉมสะคราญยิ้มเหยียดสมเพชเวทนาอีกฝ่าย
‘พระมารดาขององค์ชายทำผิดนี่เพคะ จำนนด้วยหลักฐานขนาดนั้นแล้วจะมีข้อแก้ตัวอะไรได้อีกเล่า นางโดนลงพระอาญาเช่นนั้นเป็นการสมควรแล้ว หากฝ่าบาททรงรักพระมารดาของพระองค์จริงดั่งทรงเข้าพระทัย ฝ่าบาทก็คงจะไม่ทรงขับไล่นางให้ไปอยู่ตำหนักฮุ้ยเหรินหรอกนะ เพคะ’
‘เจ้ามันโป้ปด...ใจอัปลักษณ์! ทำไมข้าจะไม่รู้ เรื่องทั้งหมดมันก็ปั้นมาจากลมปากของเจ้า!’ องค์ชายน้อยยังไม่ลดละ
พระสนมซูไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ทรงทราบแน่ แต่หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง มีหรือองค์ชายน้อยจะไม่เคยได้ฟังคนตำหนักในซุบซิบกัน อีกทั้งทรงแอบได้ยินพระสนมซูกำลังปรับทุกข์กับจื้อกงกงด้วยเรื่องนี้จึงยิ่งทรงมั่นพระทัย เพราะเรื่องที่ออกจากปากพระสนมซูซือหนี่นั้น เชื่อถือได้เสมอ!
เรื่องราวเริ่มบานปลายเมื่อองค์ชายน้อยฉุดกระชากเสื้อพระสนมไป๋ฮวา จนร่างบอบบางหงายล้มไม่เป็นท่า นางกำนัลตำหนักผีเสื้อช่วยกันจับพระองค์ให้วุ่น ก่อนที่ฝ่ามือพระสนมไป๋ฮวาจะทันได้ฟาดโดนพระพักตร์เล็กๆ นั้น พระสนมจากตำหนักแสงจันทร์ก็ตามมาทันเสียก่อน องค์ชายน้อยถูกพากลับตำหนัก...ในสภาพทรงดิ้นและกรรแสงไม่หยุด จนใจที่มารดาอีกคนจะปลอบประโลมได้
ต่อเมื่อได้เห็นน้ำตามารดาที่อุ้มชู องค์ชายน้อยทรงบังคับพระองค์อย่างยากเย็น...ต่อไปจะไม่ทรงกรรแสงอีก
เรื่องนี้คงถึงพระกรรณของพระบิดาแน่ แต่พระสนมไป๋ฮวาจะเพ็ดทูลอย่างไร องค์ชายน้อยฝานจิ้งไม่อยากจะทรงรับรู้ ในเมื่อพระบิดาทรงเลือกเชื่อในคำพูดนางตั้งแต่แรกจนนำมาซึ่งจุดจบอันแสนเลวร้ายของพระมารดาแล้วไซร้ จะมีประโยชน์อันใดที่พระองค์จะทรงชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีก
นับแต่นั้นมา พระสนมไป๋ฮวาจึงเป็นสตรีที่องค์ชายฝานจิ้งทรงเกลียดชังมากที่สุด ด้วยความน้อยพระทัยกับเหตุการณ์อันน่าอดสูที่พระมารดาได้รับ จึงวางตัวห่างเหินพระบิดามากขึ้นเรื่อยๆ สุดที่พระสนมซูจะผสานรอยร้าวนี้ได้

Bình Luận Sách (8)

  • avatar
    วุ่นวายสับสน

    น่าติดตาม

    16/01

      0
  • avatar
    Ram Page

    สนุกมากๆเลยครับ

    17/12

      0
  • avatar
    สกุล'ล เงิน'น

    อ่านสนุกมาก

    01/12

      0
  • Xem tất cả

Các chương liên quan

Chương mới nhất