อรุณแห่งวันใหม่เข้ามาเยือน นิลลนายกมือกุมศีรษะ เพราะอาการปวดตุบบริเวณขมับ เปลือกตาค่อยๆ เปิดออกรับแสง ภาพทุกอย่างเริ่มชัดเจน ร่างบางลุกนั่งดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าตื่นตระหนก กวาดตามองโดยรอบด้วยความสับสน ที่นี่ที่ไหน มาอยู่ได้ยังไง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ห้องกว้างเตียงสีเสา พื้นถูกปูด้วยกำมะหยี่ปักลวดลายงดงาม เครื่องเรือนเป็นทองคำแทบทั้งหมด ผ้าม่านสีไข่ไก่ เธอลุกยืนสะบัดศีรษะไล่ความมึนงง ก้าวยาวมาถึงหน้าต่างรูดม่านออก มองเบื้องหน้าเป็นโอเอซิสขนาดใหญ่ เห็นสาวๆ ทั้งผิวขาว ผิวน้ำผึ้ง กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน บางคนสวมชุดราวกับนักเต้นระบำ ในดินแดนภารตะ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นน่ามอง มือบางยกทาบอก นี่ตนเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่าแอด...เสียงประตูห้องเปิดออกนิลลนาหันมอง เห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้านี่เคยเห็นมาก่อน นัยน์ตาสีอำพันยังคงมีมนต์ขลัง อย่างน่าประหลาดเช่นเคย วันนี้เขาสวมชุด คล้ายชุดประจำชาติชาวอินเดีย เรียกว่ากรุต้า ยิ่งทำให้ชวนมองมากขึ้น แต่ทว่าเธอไม่เคยคิดสนใจเลยสักนิด ว่าชายคนนี้จะหล่อเหลา หรือเป็นใครมาจากไหน เพราะเหตุการณ์ที่เผชิญคือการถูกกักขังอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้"คุณจับฉันมาใช่ไหม ที่นี่ที่ไหน ทำไมต้องจับฉันมาด้วย ปล่อยฉันออกไปนะ!” หญิงสาวพ่นถ้อยคำออกมาด้วยความเดือดดาลทรงยกพระหัตถ์เพื่อห้ามปราม เห็นนางหอบโยนเมื่อยิงคำถามชุดใหญ่ ผิวแก้มเริ่มแดงปลั่งเพราะความโกรธ กษัตริย์มาซาฮาฟทรงแย้มพระโอษฐ์“ไม่ต้องยิงคำถามกับเราขนาดนั้นก็ได้ เรายินดีตอบทุกคำถามอยู่แล้ว”นิลลนากรอกตาเล็กน้อย จ้องมองชายแปลกหน้าอย่างจับผิด เธอเคยตบหน้าเขา หรือนี่คิอการแก้แค้น ทำยังไงดีจะโดนฆ่าหมกทรายอยู่ที่ซากวัยอย่างนั้นเหรอ ไม่ได้แล้วเธอต้องอ่อนเข้าไว้“ฉันอยากรู้ว่าคุณเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”“อยากรู้ว่าเราเป็นใครนะเหรอ” พระองค์ทรงย้อนถามแล้วเลิ่กพระขนง“ก็ใช่นะสิ”กษัตริย์มาซาฮาฟทรงยกพระกรกอดพระอุระ ดูท่าสาวน้อยคนนี้จะดื้อดึงกว่าที่คิด“เราเป็นคนพาตัวเจ้ามาที่นี่เอง ที่นี่คือพระราชวังแวนเดอเลีย”“อะไรนะ!” นิลลนาร้องลั่นด้วยความตกใจ นี่เธออยู่ในวังแวนเดอเลียเหรอ สถานที่ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนสามารถมาเยือน เพราะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้า“ตกใจอะไรรึ ปกติเจ้าชอบไม่ใช่หรือสถานที่ต้องห้าม”“ฉันไม่เข้าใจเลย...” คนตัวเล็กส่ายหน้าสับสน “คุณพาตัวฉันมาที่นี่ทำไม แล้วตกลงคุณเป็นใครกันแน่”กษัตริย์มาซาฮาฟนิ่งครู่หนึ่งแล้วทอดพระเนตรหญิงสาว ยิ่งพิศยิ่งแปลกใจ คราแรกพระองค์ต้องการสั่งสอน เพราะนางบังอาจตบพระพักตร์ แต่ตอนนี้กลับคิดอีกอย่าง ริมฝีปากบางแต่ช่างพูดหากจุมพิตจะหวานหรือไม่ ผิวแก้มแดงปลั่งจนน่าสูดกลิ่นหอมปกติพระองค์ไม่เคยพาตัวสตรีนางใดมา โดยไม่ได้รับความยินยอมพร้อมใจ แต่สำหรับนางเป็นกรณิพิเศษ นางคงดีใจหากรู้ว่าพระองค์คือผู้ใด“เราต้องการตัวเจ้าเป็นนางสนม ที่นี่เจ้าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งทรัพย์สมบัติ และตัวข้า แค่เพียงเจ้าเอ่ยปากออกมาเท่านั้น เราจะให้”นะ...นางสนม บ้าบอคอแตกอะไร ตกลงผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่“คุณพูดอะไรออกมา นางสนมอะไรฉันไม่เข้าใจ!” นิลลนาถามเสียงสั่น“เจ้ายังไม่รู้อีกรึว่าเราเป็นใคร เราคือกษัตริย์แห่งประเทศซากวัย มาซาฮาฟ จาเมียร์”ไม่จริงใช่ไหม มือบางยกขึ้นปิดปากหากฝันขอให้ตื่นขึ้นเถิด เพราะตอนนี้หัวใจมันสั่น ใช่จากใบหน้าหล่อเหลาของชายแปลกหน้า แต่มาจากความกลัวต่างหาก เธอจ้องมองดวงตาเบิกกว้าง ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อคำพูดนั้น“ไม่จริงหรอกคุณโกหก!”ก่อนพระองค์ได้ตรัส เสียงฝีเท้าดังแว่วพร้อมด้วยราชองครักษ์อัสลันหยุดยืน เขาก้มศีรษะทำความเคารพสายตาชำเลืองมองสาวชาวไทยเล็กน้อย แล้วให้ความสนใจต่อองค์กษัตริย์“ฝ่าบาทวันนี้ตอนบ่ายสามโมง ท่านรัฐมนตรีอาริกมันขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”“อืม เรารู้แล้ว”“เกล้ากระหม่อมขอทูลลาพะยะค่ะ” อัสลันเดินเลี่ยงออกมา ใจอดเป็นห่วงหญิงชาวไทยไม่น้อย ทรงหันมาสนพระทัยต่อนางอีกครั้งร่างบางสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่น บุรุษผู้นี้คือกษัตริย์แห่งซากวัยจริงๆ ไม่อยากเชื่อ เหมือนฝันนี่เธอกำลังเผชิญหน้ากับพระองค์อยู่“เราคุยกันมาหลายประโยคแล้ว ข้าอยากรู้ว่าเจ้าชื่ออะไร” พระสุรเสียงทุ้มแต่ทรงอำนาจ ทำเอาคนถูกถามจำต้องมองสบตา“เอ่อ... หม่อมฉันชื่อนิลลนาเพคะ” เธอตอบตะกุกตะกักเพราะไม่เชี่ยวชาญคำราชาศัพท์มากนัก“อืม” ทรงสาวพระบาทเข้าหา ร่างบางผงะถอยหลังตามสัญชาตญาณ ทรงหยุดแล้วทอดพระเนตร “คำตอบของเจ้าล่ะคืออะไร”“พระองค์หมายถึงเรื่องอะไรเพคะ”“เรื่องที่เราต้องการให้เจ้าเป็นสนมน่ะสิ”สนมงั้นเหรอ เธอรู้สึกเหมือนตนเองถูกตบหน้า ต่อให้หล่อปานเทพบุตรมาจุติจากสวรรค์ หากต้องเป็นนางเล็กนางน้อยเพื่อสนองตัณหาผู้ชายแล้วได้ทรัพย์ ยอมกัดก้อนเกลือหรือโสดจนตาย อีกอย่างเธอไม่ใช่หมูในอวยเห็นเงินทองหรือคนหล่อแล้วกระโจนเข้าหา ต่อให้เป็นกษัตริย์ใหญ่สักแค่ไหนก็ไม่สนหรอก ไม่ได้รักใคร่ชอบพอกันมาก่อน แถมยังลักพาตัวตามอำเภอใจใครจะยอม ศักดิ์ศรีถึงมันกินไม่ได้แต่ไม่ยอมเสียเด็ดขาด“หม่อมฉันขอทูลตามตรงนะเพคะ หม่อมฉันไม่ต้องการเป็นสนมของพระองค์” เธอยืนยันหนักแน่น สบพระเนตรอย่างไม่เกรงกลัวกษัตริย์มาซาฮาฟรู้สึกราวกับพระองค์ถูกตบพระพักตร์ครั้งที่สอง ขนาดรู้ว่าพระองค์เป็นใครนางก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธ แถมยังแสดงสีหน้าหนักแน่น ไม่เคยมีสตรีนางใดทำกับพระองค์เช่นนี้มาก่อนเลย“เจ้าแน่ใจรึที่พูดออกมา”“หม่อมฉันแน่ใจเพคะ”พระวรกายสูงใหญ่ก้าวประชิดอย่างรวดเร็ว คว้าเรียวแขนกระชากจนร่างบางปะทะแผงพระอุระกว้าง นิลลนาตระหนกใช้มือผลักดันสุดแรงแล้วดิ้นรน “พระองค์จะทำอะไรหม่อมฉัน!” เธอร้องถาม“หากเราเข้าใกล้เจ้ามากกว่านี้ บางที... เจ้าอาจจะเปลี่ยนคำพูด” สุรเสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู“หม่อมฉันไม่มีวันเปลี่ยนคำพูดเด็ดขาด ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ พระองค์ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ใช่ประชาชนของประเทศนี้ พระองค์ไม่แม้แต่จะมีสิทธิ์กักขังหน่วงเหนียวหม่อมฉันด้วย!”
ดีมาก
1h
0อ่านสนุกมากค่ะ
15h
0คือดี
20h
0Xem tất cả