logo text
Thêm vào thư viện
logo
logo-text

Tải xuống cuốn sách này trong ứng dụng

Chương 2 เหมือนเคยพบกัน

17 ปีต่อมา...
ปรทิพย์เติบใหญ่ เจริญวัยเป็นสาวสวยผู้เพียบพร้อม อีกทั้งเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล “อัศวอมรภักดี” ซึ่งเป็นตระกูลผู้ดีเก่าสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุ ดังนั้น ความมั่งคั่งของบรรพบุรุษ ส่งให้ปรทิพย์เป็นดาวดวงใหม่ของวงสังคมไฮโซทันที
เธอตกเป็นข่าวดังบนสื่อต่างๆ เมื่อประกาศหมั้น พงศ์ทัศ นายตำรวจหนุ่มเนื้อหอมลูกชายคนเดียวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในคณะรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ส่วนแม่ศจีของเธอหลังจากพ่อเสียชีวิตไปเพียงหนึ่งปี ได้พบรักใหม่กับ มณฑล พนักงานในบริษัทในเครือ อัศวอมร กรุ๊บ และตัดสินใจแต่งงานใหม่ ท่ามกลางความขุ่นเคืองของนายพลปรเมศวร์และคุณหญิงมณี ดังนั้น ทั้งสองจึงขอปรทิพย์หลานคนเดียวมาดูแลนับแต่นั้นมา
ศจีซึ่งกลายเป็นอดีตลูกสะใภ้ หลังแต่งงานได้แยกตัวไปสร้างครอบครัวใหม่กับมณฑล ในปีต่อมา ศจีพรรณ น้องสาวต่างมารดาได้ถือกำเนิด
ณ บ้านของศจี
ศจียิ้มต้อนรับลูกสาวคนโตทันที ทีก้าวเข้าห้องอาหาร
“มอร์นิ่งคะ”
เสียงทักทายของปรทิพย์ ทำศจีใบหน้าเปี่ยมสุข เธอเดินไปหอมแก้มมารดา แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนนัยน์ตาสวยสะดุดกับบุรุษวัยกลางคนผมสีดอกเลา เขานั่งนิ่งเป็นประธานอยู่หัวโต๊ะ ปรทิพย์จึงยกมือไหว้ตามธรรมเนียม
“สวัสดีค่ะ คุณอา”
มณฑลเงยมอง ผงกหัว ก่อนยกมือรับไหว้ จากนั้นเขาก็ก้มหน้าให้ความสนใจอาหาร บรรยากาศจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่ปรทิพย์มานอนค้างที่บ้าน เขารู้ได้โดยอัตโนมัติว่าศจีจะไม่สนใจใครอีก นอกจากลูกสาวคนนี้เพียงคนเดียว
ปรทิพย์นั่งกินข้าวเงียบๆ เธออดคิดถึงความหลังครั้งเยาว์วัยไม่ได้
เธอต้องอยู่กับคุณปู่คุณย่าจนเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น จากนั้นท่านทั้งสองได้ส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศทันที
เธอจำได้ตอนแม่ศจีแต่งงานใหม่ ขณะนั้นเธอเพิ่งอายุ 7 ขวบ ยังไม่เข้าใจเรื่องของแม่ จึงมีคำถามมากมายเกิดขึ้นประสาเด็ก ทำไม อะไร เหตุใดแม่จึงย้ายออกจากบ้าน ทิ้งเธอไว้กับคุณปู่คุณย่า
หญิงสาวช้อนตาลอบมองพ่อเลี้ยง แล้วกลับมามองแม่ศจีอีกครั้ง แม้เวลาล่วงเลยนับสิบปี แต่ทว่าแม่ดูสาวสดใสกว่าอายุจริง นั่น ทำรอยยิ้มบางปรากฏบนแก้มปลั่ง กาลเวลาทำให้เธอพบคำตอบในวัยเด็กได้โดยไม่ต้องถามใคร นั่นคือ...ชีวิตต้องดำเนินไปตามครรลอง...
“วันนี้แม่สั่งนิ่มทำของโปรดลูก...” เสียงมารดาทำปรทิพย์ตื่นจากภวังค์
เธอยิ้ม ก่อนตอบว่า “ขอบคุณค่ะ”
ศจีตักอาหารจานโปรดให้ลูกสาว แล้วมองไปทางมณฑล “ยัยพรรณยังไม่ตื่นอีกหรือคุณ”
“อืม...” มณฑลตอบ กริยาไม่ใส่ใจ จนศจีอดสาธยายวีรกรรมของศจีพรรณเมื่อคืนไม่ได้
“ดูสิ ออกเที่ยวทุกวัน....” ยังไม่ทันที่ศจีจะพูดจบ มณฑลรีบออกรับแทนศจีพรรณทันที
“ลูกมาขออนุญาตผมแล้ว”
“แก้ตัวแทนตลอด ยัยพรรณเลยได้ใจ”
“เรื่องเล็กน้อยน่า คุณบ่นไปได้ เมื่อคืนลูกไปสังสรรค์กับเพื่อน กลับดึกหน่อย” มณฑลพูดให้ศจีมองเป็นเรื่องธรรมดา
“คุณเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือ”
“ผมไม่เห็นลูกทำอะไรผิด”
“ยัยพรรณไม่ได้ทำครั้งแรกนะ ดูสิ จบเกรด 12 มาเป็นปีแล้ว ได้แต่ลอยไปลอยมา จะเรียนต่อก็ไม่เรียน จะทำงานก็ไม่ทำ ทำไมเป็นอย่างนี้นะลูกคนนี้...เฮ้อ”
ศจีถอนหายใจ ตามด้วยท่าอิดหนาระอาใจ เมื่อนึกถึงพฤติกรรมไม่เอาถ่านลูกสาวคนเล็ก ซึ่งแตกต่างกับปรทิพย์เหมือนฟ้ากับเหว
ปรทิพย์นั่งกินข้าวเงียบๆ ฟังศจีบ่น สำหรับเธอเป็นเรื่องปกติ น้องไม่ได้ทำเป็นครั้งแรกแต่ทำเป็นนิสัย
“คุณทานข้าวได้แล้ว บ่นไปทำไม ลูกยังเด็ก รออีกหน่อยก็คงเข้าใจชีวิต” มณฑลไม่วายวกกลับมาแก้ต่างให้ลูกสาวอีกครั้ง คราวนี้ศจีเริ่มเสียงเขียว
“แตะกันไม่ได้เลยนะ ลูกสาวคนโปรด”
“คุณนี่กระไร หนูปอมาค้างทั้งที ทำไมต้องมีเสียงบ่นให้ฟังแต่เช้า” มณฑลทำเสียงดุ
“คุณ!” ศจีเสียงดังกว่าเดิม
ปรทิพย์อดเหลือบมองแม่ไม่ได้ เช้านี้เรื่องของศจีพรรณกำลังเป็นเรื่องถกเถียงแตกประเด็นบนโต๊ะอาหารซะแล้ว
“ปออิ่มแล้ว ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ปรทิพย์ขัดจังหวะ มือเรียวรวบช้อนทันที
“อ้าว ยัยปอ ทำไมอิ่มเร็วจัง หรือเบื่อแม่บ่น” ศจีสงบศึกกับสามี รีบหันมาพูดกับลูกสาวคนโต
“เปล่าค่ะ เช้านี้ปอมีประชุมแผนก”
ปรทิพย์ยิ้มหวาน เดินมาหอมแก้มศจี แล้วคว้ากระเป๋าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แน่ล่ะ สถานการณ์อย่างนี้ เธอต้องรีบหนีเตลิดไปให้ไกลเสียก่อน
ปรทิพย์เรียนจบปริญญาตรี-โท จากต่างประเทศ ทำงานในบริษัทเครือ อัศวอมร กรุ๊บ ตามคำสั่งของคุณปู่ เธอขอรับเพียงตำแหน่งเล็กๆ คือ ผู้จัดการแผนกการตลาด ของโรงแรม ริมชล รีสอร์ท เพื่อหาประสบการณ์ก่อน
โรงแรม ริมชล รีสอร์ท แห่งนี้ มีศจีนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และมณฑลเป็นผู้ช่วย ซึ่งในความคิดปรทิพย์ แม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ตรงข้ามกับความคิดของคุณปู่ที่ต้องการให้เธอรับตำแหน่งแทนทันทีเมื่อเรียนจบ นั่นเป็นเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจของคุณปู่ไม่เต็มร้อยเมื่อแม่แต่งงานใหม่
ณ ร้านอาหาร
บ่ายวันเดียวกัน พงศ์ทัศแวะรับปรทิพย์ออกไปกินมื้อกลางวันด้วยกัน พงศ์ทัศสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะจนปรทิพย์แปลกใจ
“พี่พงศ์ สั่งมาทำไมเยอะแยะ” ปรทิพย์ทำตาวาว
“นั่น ของโปรดปอทั้งนั้นนะ”
“เรามากันแค่ 2 คนนะคะ”
“งั้นถือว่าพี่ฉลองให้เราสองคน”
“ฉลองเหรอ เราก็เจอกันประจำ วันนี้วันเกิดพี่พงศ์ก็ไม่ใช่” ปรทิพย์ทำหน้างง
คราวนี้พงศ์ทัศอมยิ้ม พร้อมเอื้อมไปกุมมือเธอไว้ “พี่จะให้คุณพ่อคุณแม่ไปคุยเรื่องแต่งงานของเรา”
“แต่งงาน!!”
“แต่งงาน...” พงศ์ทัศพูดย้ำ
“ไม่เร็วไปหรือคะ”
“ปอจบมา 2 ปีแล้ว จะให้พี่รอถึงไหน ปอจำได้ไหม ปอบอกว่าถ้าพี่ติด 3 ดาวแล้ว เราจะแต่งงานกัน” พงศ์ทัศทำเสียงอ้อน ทวงสัญญา
“ปอ...” ปรทิพย์เขิน จนพูดไม่ออก
พงศ์ทัศได้โอกาสจึงรวบรัด “ขอบคุณครับ ขอบคุณน้องปอที่ไว้ใจพี่”
เส้นทางความรักของปรทิพย์และพงศ์ทัศนั้น เปรียบเสมือนบะหมี่สำเร็จรูป เริ่มจากคุณปู่และคุณย่าเป็นสื่อ โน้มน้าว ชักจูง และการันตี จนเธอเห็นดีเห็นงามยอมรับหมั้น อีกทั้งพงศ์ทัศขึ้นแท่นว่าที่หลานเขยคนโปรด สืบเนื่องจากการนับญาติทางทหารรุ่นนั้นรุ่นนี้ไขว้ไปมาจึงพบว่า พงศ์ทัศเป็นหลานรักเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารของคุณปู่ปรเมศวร์ ทุกอย่างดูลงตัว เด๊ะ เป๊ะ บวกกับรูปสมบัติคุณสมบัติ และทรัพย์ศฤงคารมหาศาล ทุกคนจึงลงความเห็นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า พงศ์ทัศ เหมาะสมกับตำแหน่งหลานเขยนายพลปรเมศวร์เป็นอย่างยิ่ง
ซ่า ซ่า ซ่า...เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่ง ทำปรทิพย์เคลิบเคลิ้ม เปลผ้าใบกับแสงแดดยามเช้าตรึงหญิงสาวให้นอนอยู่บนชายหาดแห่งนี้นานกว่าชั่วโมงแล้ว บางครั้งปรทิพย์รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเคยอยู่ใต้ทะเลลึก เคยแหวกว่ายอยู่ใต้มหาสมุทรหรืออะไรทำนองนี้มาก่อน แต่นั่นแหละในความเป็นจริงจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอคิดว่าตัวเองคงเพ้อไปมากกว่าเพราะในชีวิตจริงนั้นเธอว่ายน้ำไม่เป็น
“ยัยปอ!”
“อุ๊ย...” เสียงฝ้ายเพื่อนรัก ทำปรทิพย์สะดุ้ง
“ขวัญอ่อนจริง นี่น้ำมะพร้าว ใจคอจะนอนฟังเสียงคลื่นอย่างเดียวเหรอแม่คุณ...” ฝ้ายพูดเหน็บแนม
ปรทิพย์ก้มดูดน้ำมะพร้าว ก่อนตอบว่า “แค่นอนฟังเสียงคลื่นก็รู้สึกมีความสุขแล้ว”
“เสียดาย เธอน่าจะใส่บิกินี่ตัวจิ๋วๆ เล่นน้ำ”
“อะไรของเธอ บิกินี่ตัวจิ๋ว...” พูดจบปรทิพย์หัวเราะออกมาเบาๆ
“หาดโรงแรมเธอสวยจะตาย ดูสิ ทรายขาววิ้งๆ เลยนะ”
“ฉันว่ายน้ำไม่เป็น หากลงเล่นถ้าฉันจมน้ำหายไป จะทำไง”
“นี่แค่เดินโชว์หุ่น กับเล่นน้ำอยู่ที่ตื้นๆ ก็ได้” ฝ้ายยังคงรบเร้า
“ไม่ล่ะ นอนตรงนี้ดีแล้ว” ปรทิพย์หลับตาพริ้ม สีหน้าดื่มด่ำธรรมชาติ จนฝ้ายหมั่นไส้
“กลัวจมน้ำ แต่ชอบนอนฟังเสียงคลื่น มันไม่แปลกเหรอ” ฝ้ายแขวะ
“เธอก็รู้ ฉันเป็นอย่างนี้ ตั้งนานแล้วนี่”
ฝ้ายนึกได้ เธอไม่เห็นพงศ์ทัศมาหลายวันแล้ว นับตั้งแต่เธอมาพักที่โรงแรมริมชลกับปรทิพย์ จึงเอ่ยถาม “พี่พงศ์จะมาไหมวันนี้”
“พี่พงศ์ติดราชการ”
“เอ...” ยังไม่ทันที่ฝ้ายจะพูดอะไร ปรทิพย์แก้ตัวแทนว่า
“พี่พงศ์บอกฉันว่า จะพยายามปลีกตัวมานะ”
“ฉันมาอยู่กับเธอ อาทิตย์หนึ่งแล้วนะ พี่พงศ์ยังติดราชการอยู่เหรอ”
“อืม...” ปรทิพย์ตอบแบบไม่ใส่ใจ
“รักกันแบบไหนคู่นี้ ฉันเห็นคู่อื่น ติดกันเป็นปาท่องโก๋”
“ก็รักกันแบบผู้ใหญ่ไง”
“จะบอกให้นะยัยปอ ยายฉันสอนไว้ มีแฟนตำรวจต้องทำใจ ไม่ต้องอธิบายนะตำรวจเป็นอย่างไร” ฝ้ายอดห่วงเพื่อนซี้ไม่ได้
“สำหรับพี่พงศ์ เป็นข้อยกเว้น” ปรทิพย์ตอบอย่างมั่นใจ จนฝ้าอดหมั่นไส้ไม่ได้
“ย่ะ ฉันว่าเธอหาสำรองไว้หน่อยก็ดีนะ ว่าแต่...จะไม่ลองมองหนุ่มๆ แถวนี้บ้างเหรอ” ฝ้ายยังล้อเล่นต่อ
“แฟนนะยะ...ไม่ใช่ผักปลาตามตลาดสด ของอย่างนี้ต้องใช้เวลาดูกันไป”
“อย่ามาทำเป็นวิชาการ หัดมองอะไรง่ายๆ บ้าง”
ปรทิพย์หัวเราะ แล้วนึกสนุกขึ้นมา “งั้นตอนนี้เธอหาหน่อยสิ เอาหล่อๆ กล้ามแน่นๆ ซิกแพคเป็นแผงนะ เผื่อฉันจะสน”
ฝ้ายทำหน้าไม่เชื่อ แต่แววตาซุกซนของปรทิพย์จึงชี้ส่งๆ ไปแถวชายหาด
“โน่นไง”
ปรทิพย์เขิน ทุบแขนเพื่อนรัก “บ้าน่าฝ้าย ฉันแค่พูดเล่น”
เธอไม่ปรายตา หันมองตามนิ้วชี้ของเพื่อนรักอย่างไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นนัยน์ตาสวยปะทะกับบุรุษรูปงามถอดแบบจากรูปสลักของชาวโรมัน เป็นจังหวะเดียวกันที่นัยน์ตาสีดำอำพันคู่นั้นได้ประสานมายังเธอ วินาทีนั้นประจุไฟฟ้าขั้วบวกขั้วลบวิ่งชน เปรี้ยง!! หัวใจเธอเต้นตูมตามราวกับยกวงโยธวาทิตทั้งวงมาบรรเลง
ฉันเป็นอะไร บ้าจริง
หญิงสาวพยายามควบคุมตัวเอง แต่ทว่าในเบื้องลึกดวงตาสีอำพันคู่นั้นกลับทำเธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
“ปอ ยัยปอ!!!” ฝ้ายตะโกนข้างหู ทำปรทิพย์สะดุ้ง
“อุ๊ย...เรียกซะดัง” ปรทิพย์รีบกลบเหลื่อน ทั้งๆ ที่เวลานี้เธอเหมือนคนหายใจไม่ออก
“ฝันกลางวันอยู่เหรอ เรียกตั้งหลายรอบ ดูสิ หน้าแดง หูแดงเชียว”
“อะไรก็ไม่รู้ ว่างมากเหรอ มานั่งจับผิดอยู่ได้” ปรทิพย์ทำเสียงเข้ม รีบปรับอารมณ์
“ล้อเล่นนิดเดียว เสียงเขียวเชียว”
ปรทิพย์ตีหน้าขรึม
“โอเค งั้นไปเล่นน้ำกันนะ” ฝ้ายเปลี่ยนเรื่อง เธอยื่นมือไปคว้าแขนเพื่อนรัก คะยั้นคะยอให้ไปเล่นน้ำทะเล
“เอ๊ะ...ยัยบ๊อง พูดไม่รู้เรื่อง” ปรทิพย์พึมพำ
“น่า...นะ ฉันอยากให้เธอเปลี่ยนบรรยากาศ” ฝ้ายยังเซ้าซี้ไม่เลิก “ไปหน่อยน่า...ไม่จมหรอก เดี๋ยวฉันยื่นมือให้เกาะ เร็ว เร็วสิ”
“ไม่เอา ฝ้ายไม่เล่นนะ...” ปรทิพย์ยื่นมือเรียวไปตีแขนฝ้ายเบาๆ บอกใบ้ ให้รู้ว่าปฏิเสธ
“ไปก็ได้” ฝ้ายผละออกห่าง เมื่อเห็นเพื่อนรักไม่สนใจ จึงวิ่งลงทะเลไปเล่นน้ำกับเพื่อนคนอื่นอย่างสนุกสนาน ปรทิพย์เองเมื่อเพื่อนพ้นสายตา จึงเอนตัวนอนเหมือนเดิม
ยื่นมือให้เกาะ...ปรทิพย์รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมีคนยื่นมือให้เกาะท่ามกลางน้ำเชี่ยว แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ความจำตอนเด็กได้ถูกลบหายไปจากความรู้สึกจนหมดสิ้น เธอจำได้แค่เพียง ตอนเด็กเคยตกน้ำทะเลแค่นั้น แต่มาวันนี้เมื่อเธอเห็นหน้าบุรุษรูปงามคนนั้น ทำให้ความทรงจำที่เคยขาดหายไปก่อร่าง เธอนิ่วหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“พี่ปออยู่นี่เอง!” เสียงศจีพรรณแปร้น ทำลายภวังค์ความคิด “ไปค่ะ...ไปเล่นน้ำเป็นเพื่อนพรรณซะดีๆ” น้ำเสียงศจีพรรณบังคับขู่เข็ญ เด็กสาวไม่พูดเปล่า เข้าประชิดตัวกึ่งลากกึ่งจูงปรทิพย์ไปริมทะเลทันที
ปรทิพย์ตกใจ พยายามขัดขืน
“ไม่ ไม่นะพรรณ พี่ไม่ลงทะเล ไม่ ไม่...”
ศจีพรรณยิ่งสนุก ได้แกล้งพี่สาว
“แค่ริมหาด ไม่เป็นไรหรอกพี่ปอ”
“พรรณ พี่ไม่เล่น”
“พี่ปอ มานี่...มานี่...” เมื่อพูดจบ ศจีพรรณได้ผลักพี่สาวออกไปริมหาด เธอฉุดลากพี่สาวไปเล่นน้ำทะเล จังหวะนั้นคลื่นลูกใหญ่ม้วนตัวสูงเข้าสู่ฝั่ง พลันได้ม้วนร่างปรทิพย์สู่ท้องทะเลในทันที
“ว้ายยยย...”
เสียงกรีดร้องของปรทิพย์เงียบไปและไม่มีเสียงร้องใดหลุดออกมาอีก ร่างของปรทิพย์ถูกดูดสู่อ้อมกอดของเกลียวคลื่น
“พะ...พะ...พี่ปอ” เสียงศจีพรรณตะกุกตะกักเรียกชื่อพี่สาวแผ่ว นัยน์ตาใสเบิกโพลง เมื่อคลื่นใหญ่ม้วนพี่สาวไปต่อหน้า เธอยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก อะไรกัน!! แค่แกล้งเล่นเท่านั้น เธอไม่คิดว่าธรรมชาติจะเป็นใจม้วนปรทิพย์ไปไกลจากฝั่งขนาดนั้น
ด้านฝ้ายหันเห็นเหตุการณ์ เธออึ้ง ตะลึง
“เหวออออ...ตายแล้ว!!” ฝ้ายร้องไม่เป็นภาษา เมื่อตั้งสติได้ เธอวิ่ง ตะโกนลั่นชายหาด
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยค้า...ช่วยยัยปอด้วย”
แม้มองดูไม่ห่างจากฝั่งแต่ตัวแปรสำคัญ คือปรทิพย์ว่ายน้ำไม่เป็น ฝ้ายวิ่งพล่านขอความช่วยเหลือทั่วหาด จนเธอหยุดตรงหน้าชายคนหนึ่ง
“คุณ คุณช่วยดะ...” ฝ้ายพูดไม่ทันจบประโยค
ชายหนุ่มคนนั้นพุ่งลงทะเลทันที
ตูมมมม...
ปรทิพย์กำลังตะเกียกตะกายช่วยตัวเอง เธอรู้สึกได้ว่าร่างของเธอกำลังลอยห่างจากฝั่ง กระแสน้ำเหวี่ยงเป็นเกลียวหมุนแบะกำลังดูดเธอดิ่งสู่ใต้มหาสมุทร วินาทีนั้นภาพอดีตเมื่อครั้งจมน้ำ 17 ปีก่อน พลันถาโถมสู่ความทรงจำของเธออีกครั้ง
พ่อจ๋า ช่วยปอด้วย...
ความหวาดกลัวเข้าครอบงำปรทิพย์ เธอพยายามครองสติต่อสู้กับคลื่นจนแขนขาอ่อนแรง พลันมีมือของใครคนหนึ่งคว้าร่างเธอเข้าไปกอด จากนั้นได้พาว่ายน้ำดำดิ่งลึกไปเรื่อยๆ
เธอพยายามหันมองเขา ทว่าใบหน้านั้นกลับเบลอพร่ามัว พลันความมึดโรยตัวเข้าปกคลุมและแล้วสติสัมปชัญญะเธอก็ดับวูบไป

Bình Luận Sách (71)

  • avatar
    ได'โน เสาร์'ร

    ดีเยี่ยม

    4h

      0
  • avatar
    อา'า บัง'ง

    ดีมากๆ

    5d

      0
  • avatar
    La Yi Chan

    100

    5d

      0
  • Xem tất cả

Các chương liên quan

Chương mới nhất