logo text
Thêm vào thư viện
logo
logo-text

Tải xuống cuốn sách này trong ứng dụng

07 เปิดใจ

07
เปิดใจ
ภายในห้องมืดขนาดใหญ่ หน้าจอยักษ์ตรงหน้ากำลังฉายภาพยนตร์ซึ่งทุกคนตีตั๋วเข้ามาดู เครื่องปรับอากาศดูเหมือนจะเร่งจนแรงสุด ทำให้คนข้างกายผมถึงกับสั่น เธอสวมเพียงเสื้อตัวบางคู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้น ยัยนี่ชวนมาดูหนังเองแท้ๆดันใส่ชุดแบบนี้เข้ามา ก็น่าจะรู้ว่าที่นี่เขาเปิดแอร์หนาวอย่างกับขั้วโลกเหนือ แม้แต่คนที่นั่งถัดจากเรายังถึงกับต้องหอบผ้าห่มมาช่วยบรรเทาความเหน็บหนาว
“หนาวจัง” ไมล์กระซิบข้างหูผมพร้อมกับโน้มตัวมาซบที่ไหล่ผม หวังจะพึ่งพิงไออุ่น ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกไปคลุมให้ไมล์ เธอมองผมแล้วยิ้มดีใจ
“ว่าล่ะเชียวว่าต้องหนาว ใส่เสื้อผ้ามาซะบาง” ผมกระซิบกลับไปเธอไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับนอกจากยิ้มกรุ้มกริ่มและจดจ่อกับหนังที่กำลังเล่นอยู่ต่อ   
ถึงแม้ว่าผมจะสละเสื้อคลุมให้แต่เจ้าตัวก็ยังคงซบไหล่ผมอยู่เช่นนั้น มือข้างหนึ่งของเธอเกยข้ามเบาะมาโดนแขนผม
มือเย็นเฉียบ
 ผมกุมมือเธอมาจับไว้อย่างช่วยไม่ได้ สัมผัสเย็นๆจากมือของไมล์  สัมผัสนั้นทำใจผมวูบวาบไปชั่วขณะหนึ่ง
นึกถึงตอนเราได้สัมผัสมือกันครั้งแรก ทั้งทีมือของเธอเย็นยะเยือกแต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นในใจ ราวกับว่าไม่ใช่ผมที่กำลังมอบความอบอุ่นให้แก่เธอ แต่เป็นไมล์ต่างหากที่ทำหน้าที่นั้น
กระทั่งหน้าจอยักษ์ขึ้นเครดิตเหล่าผู้สร้าง ความคิดในหัวก็ยังคงฟุ้งกระจายไปทั่วจนผมแทบไม่ได้ใส่ใจเรื่องราวในหนังที่เพิ่งจะจบไป คนข้างกายยังคงซบผมไว้อย่างนั้น ไออุ่นจากลมหายใจพ่นรดต้นคอผม 
ผมเหลือบมอง
 เธอผล็อยหลับไปตอนไหนกันนะ ผมยิ้มบางมองใบหน้าของเธอ
สีหน้าไร้อารมณ์ ทว่ากลับแฝงความรู้สึกอ่อนโยน ผมจ้องมองไมล์อย่างตั้งใจพลางลูบปอยผมที่ปรกข้างแก้มไปทัดหู เจ้าตัวจึงรู้สึกตัวตื่น ดวงตากลมโตใสค่อยๆเปิดกว้าง ยั่วยวนผมให้หลงเสน่ห์ ใบหน้าผมร้อนผ่าวจนผมต้องยกแขนขึ้นมาปกปิดมันไว้ พร้อมทั้งเฉมองไปทางอื่น
“กะ...กำลังว่าจะทิ้งให้นอนเฝ้าโรงหนังซะหน่อย” ผมเอ่ยแก้เขินพลางลุกเดินออกจากที่นั่ง ไมล์เร่งตามแล้วกระโดดมาเกาะแขนผม ส่งเสียงยียวน
“จะทิ้งเราไปจริงๆหยอออออ”
“จะทิ้งไว้ก็สงสารพนักงานอ่ะนะ ต้องมาเก็บกวาดแก” ผมเหล่หางตามอง คนข้างกายทำแก้มป่องพร้อมสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเป็นที่เรียบร้อย ผมอมยิ้มตามกับท่าทีของเธอ
 ผมรู้สึกว่าเธอน่ารักดีนะเวลาไมล์แสดงท่าทางงอแงใส่  ทุกอิริยาบถที่ไมล์แสดงออกตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมกำลังครอบครองมันไว้เพียงคนเดียว  ราวกับเธอคือพระอาทิตย์ที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งรอบข้าง 
 ผมช่างโชคดีที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ดวงน้อยดวงนี้เสียเหลือเกิน 
ครืน... ครืน...
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดูมันโชว์เบอร์ของเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไม่ต้องคิดอะไรมากผมก็ปิดมันลงและยัดเก็บลงตามเดิม ก็มันไม่มีธุระอะไรจะต้องคุยแล้วนี่น่า นอกจากเรื่องสอบที่อาจารย์เลื่อนออกไปช่วงอาทิตย์หน้าเท่านั้น ตามจริงผมควรจะสอบเสร็จแล้วแท้ๆ แต่ดันเลื่อนออกไปซะนี่ เอาเถอะจะโดดไม่ไปสอบดีไหมนะ
“ไม่รับสายอ่ะ” ไมล์ถามขึ้นเมื่อเหลือบเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของผมทัน
“ออ ขี้เกียจคุย”
“หื้มมมม เย็นชาจังนะคุณนิกม์” ไมล์พึมพำอย่างไม่ยี่หระ
ถนนคนเดิน ช่วงพลบค่ำ
ฝูงคนมหาศาลเดินสวนไปมาควักไขว่ ผมและไมล์เดินเบียดเสียดท่ามกลางผู้คนอย่างยากลำบาก ตลาดช่วงค่ำที่เหล่าวัยรุ่นมักมาเดินเล่นมากกว่าจับจ่าย สองข้างทางตั้งร้านค้าเรียงยาว ไม่ว่าจะของกินเล่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอื่นๆอีกมากมาย
 เดินไปได้สักระยะหนึ่งผมก็แวะเข้าไปหลังร้านของร้านขายน้ำ ไมล์ดูงงๆแต่ก็เดินตามเข้ามาและพบว่านี่เป็นร้านของเพื่อนผม ซึ่งมาตั้งขายเป็นประจำ ผมจัดแจงหาเก้าอี้มาให้ไมล์นั่งพัก กะว่าอีกสักหน่อยค่อยออกไปเดินต่อเพราะช่วงนี้คนเยอะจนเดินดูของลำบากเกินไป
“กินปลาหมึกย่างมั้ย” ผมชี้ไปที่ร้านหมึกย่างข้างๆ ไมล์หันตามพร้อมพยักหน้าตอบตกลง ผมจึงเดินไปสั่งลุงคนขาย
สักพักพวกเพื่อนคนอื่นของผมก็มาสมทบโดยไม่ได้นัดหมาย พร้อมๆกับหมึกย่างที่จัดใส่กล่องโฟม มาเสิร์ฟ
 “อ้าว ไอ้ไมล์มาได้ไง” ไอ้นัทเอ่ยทักไมล์ แม้ทั้งสองจะไม่ได้สนิทกันมากนักแต่ก็รู้จักกันมานานแล้ว
“มากับนิกม์ มันพากูมากินหมึกย่าง” ไมล์ตอบ
“เออไหนๆก็มาเจอกัน เบียร์สักหน่อยมั้ยมึง”
“ชวนตลอดอ่ะมึง... แต่สักหน่อยก็ดี ฮ่าๆ”
 แล้วพวกเราก็จัดปาร์ตี้เบียร์และหมึกย่างในมุมมืดหลังร้าน ต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่การดื่มสักหน่อยของไอ้นัทแล้ว แต่มันเยอะมาก เราดื่มกันไปพูดคุยสัพเพเหระไปจนท้ายที่สุดก็ตกลงกันได้ว่าจะไปดื่มต่อที่บ้านไอ้นัท ด้วยเหตุที่ว่าร้านต่างๆที่นี่เริ่มเก็บของกลับบ้านกันแล้ว อีกไม่นานคงเหลือเพียงถนนร้างอันเงียบเหงา
บ้านไอ้นัท
ผมจ้องไมล์ที่ดื่มจนหน้าแดง หูแดง เธอดื่มเข้าไปค่อนข้างมาก ผมเองก็เริ่มมึนนิดหน่อย บรรยากาศเต็มไปด้วยความมึนเมา ตอนแรกก็ครึกครื้นดี แต่จังหวะที่เพลงเปลี่ยนเป็นอีกเพลง ก่อนจะเริ่มอินโทเพลงใหม่ ก็มีเสียงผู้ชายที่เล่นเอ็มวีเพลงนี้ดังขึ้นก่อน
‘สนุกมากเเหรอที่ทำให้คนอื่นเขาเป็นบ้าแบบนี้ ชอบ? ไม่ชอบ? พูดดิ’ *
ผมหันไปสนใจ ทุกคนเงียบตั้งใจฟัง จนเพลงดังไปถึงท่อนฮุค
‘รู้มั้ยเธอว่าทุกข์นั้นเบาลงเมื่อแบ่งให้ใครสักคน ก็เหมือนที่เธอเคยช่วยให้ฉันยิ้มได้ ก็เหมือนกัน’ **
สายตาผมกับไมล์ประสานเข้าหากันโดยบังเอิญ เธอมองผมแน่นิ่งไม่หลบหนี ริมฝีปากเผยอออกเพื่อพูดบางสิ่ง เสียงที่เธอเปล่งนั้นราวกับเสียงกระซิบ ผมฟังมันไม่ถนัดนัก จึงเอียงหูเข้าไปฟังใกล้ใกล้
“ชอบ? ไม่ชอบ?”  ไมล์พูดเสียงดัง
 ผมอึ้ง ทว่ายังคิดทบทวนสิ่งที่ไมล์พูดออกไป ชอบ / ไม่ชอบ
คำตอบมันจะยากตรงไหนล่ะ ก็ต้องชอบสิ   “เราชอบไมล์นะ”

Bình Luận Sách (106)

  • avatar
    สจ. เบิร์ด

    ดีวดวมด

    9h

      0
  • avatar
    ลัลน์ญดา ฯ.

    ❤️‍🔥💞

    16h

      0
  • avatar
    RungsriKamonchanok

    ชอบมากๆ

    2d

      0
  • Xem tất cả

Các chương liên quan

Chương mới nhất