logo
logo-text

Tải xuống cuốn sách này trong ứng dụng

Chương 7 คีตา (2)

ฉันยักไหล่ “ขี้เกียจรอ มาเองได้ ฉันไปบอกป้าเนียมเรื่องราดหน้านะ” ฉันหันไปบอกพี่สะใภ้แล้วเดินเข้าครัวเสียเฉย ๆ
นายคีตากับพี่นุเอาแต่คุยเรื่องงานตลอดเวลาที่กินข้าว ฉันได้ความรู้เพิ่มมาอีกอย่างว่านายคีตานี่ไม่ได้เป็นลูกน้องของพี่นุอย่างเดียว เขามีหุ้นส่วนเล็ก ๆ ในบริษัทด้วย มิน่าเล่าคุณรินอะไรนั่นถึงมั่นใจนักว่านายนี่จะซื้อบ้านกี่ล้านก็ได้
เหลือบมองนาฬิกา เห็นสามทุ่มกว่า ๆ ฉันเลยบอกพี่นุว่าคงต้องกลับแล้ว นายคีตาเก็บคอมพิวเตอร์ใส่กระเป๋าหิ้วพลางลุกขึ้น
“คี วานนายไปส่งนรีให้หน่อยนะ”
“ได้อยู่แล้ว” เขารับคำ
“ไม่….” ฉันขยับปากจะปฏิเสธ
“มันดึกแล้วนะครับคุณ” นายคีตาทำเสียงดุใส่ฉัน “อย่าให้พี่ชายคุณเป็นห่วงคุณมากกว่านี้เลย”
นั่นทำให้ฉันเงียบ ยอมรับข้อเสนอของเพื่อนพี่ชายแต่โดยดี
 .
.
.
“ทำไมคุณรินกับเลขาฯ ของนาย เรียกนายว่าสองล่ะ” ฉันถามขณะที่เขากำลังขับรถ
“ชื่อเล่นของผมจริง ๆ คือสอง ผมเป็นลูกคนที่สอง ส่วนคีนะเจ้านุมันเรียกจากชื่อจริง เพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยผมมักจะเรียกผมว่าคี”
เขาตอบ “ตอนที่รับงานคุณก็เลยไม่รู้ว่าเป็นผมสินะ”
“คุณตั้งใจ?”
คนขับรถพยักหน้า “ผมเห็นรูปที่คุณวาดที่ชะอำสวยดี เลยคิดว่าฝีมือการแต่งบ้านของคุณน่าจะใช้ได้ บังเอิญผมกำลังหาช่างมาแต่งบ้านใหม่พอดี แต่ถ้าบอกคุณตั้งแต่แรกว่าเป็นผม ผมกลัวว่าคุณจะไม่รับงานนี้ ท่าทางคุณไม่ชอบผมนักนี่”
“แล้วทำไมไม่ให้ว่าที่ภรรยาของคุณดูแบบเสียให้เรียบร้อยล่ะคะ มันน่ารำคาญแค่ไหนรู้หรือเปล่าที่ต้องมาแก้แบบที่เสร็จแล้วน่ะ ฉันส่งไปให้คุณดูตั้งหลายรอบแล้วนี่นา ไม่เห็นแก้อะไรเลย มันเสียเวลารู้ไหม”
นายคีตาหัวเราะ “มีกฎข้อหนึ่งของนักการตลาดที่ว่า Customer is the king ไม่ใช่หรือครับ”
ฉันไม่ตอบ คำถามของเขามีความจริงอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ลูกค้าถูกเสมอ
รถมาจอดที่หน้าอะพาร์ตเมนต์ เขาหันมา “ไม่ต้องแก้อะไรตามที่รินเขาบอกหรอกนะนรี ผมชอบแบบที่คุณออกแบบไว้อย่างเดิมแล้ว เรียบ ๆ ดูเป็นบ้านดี ผมไม่ได้อยากอยู่วังหรือบ้านสไตล์หลุยส์ที่มีเสาโค้ง ๆ งอ ๆ หรอก”
“อ้าว…แล้ว”
“ผมแกล้งคุณเล่นน่ะ แล้วรินเขากำลังงอน ๆ เรื่องผมจะทำบ้านแล้วไม่บอก เลยปล่อยให้เขาออกความเห็นบ้าง แต่ฟังแล้วท่าจะไม่ไหว ผมชอบแบบที่คุณออกแบบไว้มากกว่านะ”
ฉันมองหน้าคนขับรถอย่างงง ๆ เขายิ้ม “ผมเองมักจะเจอปัญหาเรื่องลูกค้าเรื่องมากอยู่บ่อย ๆ เข้าใจดีนะ ไม่อยากทำบาปทำกรรมให้คุณแช่งเอาอีกหรอก”
เป็นประโยคดีที่สุดที่ฉันเคยได้ยินจากปากผู้ชายคนนี้
“จริง ๆ นะ ไม่ต้องแก้อะไรเลยเหรอ”
คนขับรถพยักหน้า “ผมชอบบ้านที่อยู่แล้วสบาย ๆ มากกว่าบ้านที่แต่งสวย ๆ เพื่อเอาไว้อวดคนอื่นนะ บ้านควรเป็นโลกส่วนตัวของเราไม่ใช่หรือ”
“ขอบคุณค่ะที่ไม่แก้งาน” ฉันยิ้มกว้าง เอ่ยประโยคนั้นอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก
“ขึ้นห้องเถอะ ดึกแล้ว เรื่องบ้านทำต่อได้เลยนะไม่ต้องรออะไร อยากเบิกเงินเมื่อไหร่บอกมาได้เลย ติดต่อเข้ามือถือผมโดยตรงก็ได้ ไม่ต้องผ่านเลขาฯ หรอก”
ฉันมองรถสีน้ำเงินเข้มค่อย ๆ ขับจากไป อยากจะโบกมือให้เจ้าของรถอย่างที่ทำเวลาเพื่อนมาส่งแต่ไม่กล้า ได้แต่ยืนมองมันค่อย ๆ ถูกกลืนไปกับความมืดของท้องถนนแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว
เพื่อนของพี่นุคนนี้มีอะไร ‘ดี’ กว่าที่ฉันคิด ฉันมองนายผิดไปจริง ๆ นายคีตา
ผ่านไปไม่กี่วันก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ มีโทรศัพท์มาหาฉันหลังจากที่กลับมาจากไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมงาน เสียงคนตามสายไม่คุ้นเคยแต่กราดเกรี้ยวไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมคุณไม่แก้แบบบ้านเลยล่ะ ทำงานกันยังไง หัวหน้าช่างก็พูดไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง อะไร ๆ ก็ต้องถามคุณนรี”
ถึงแม้คนพูดจะไม่ได้แนะนำตัว ฉันก็รู้ทันทีว่าใครพูด
“ไปถามคุณคีตาสิคะ” ฉันปัดความรับผิดชอบเสียเฉย ๆ นาย
คีตานี่ก็แปลก กับแฟนตัวเองไม่ยักตกลงกันให้เรียบร้อยว่าจะเอายังไง
“แต่สองเขาไม่อยู่นี่ ไปอเมริกา”
“ถ้างั้นคงต้องรอให้เขากลับมาก่อนละค่ะ”
“ได้ยังไง คนงานของคุณน่ะรื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าปูกระเบื้องสีน้ำเงินไม่ใช่สีชมพูที่ฉันบอกให้คุณเปลี่ยนนี่ ตกลงคุณฟังคำสั่งฉันไม่รู้เรื่องหรือคะ”
นายคีตาบ้า ฉันด่าเขาในใจแล้วพยายามนับหนึ่งถึงสิบ “ถ้างั้นฉันจะสั่งช่างยังไม่ต้องปูกระเบื้อง รอคุณคีตาก่อนดีไหมคะ”
“ได้ยังไง บ้านต้องเสร็จก่อนธันวานี้นะ”
อ้อ แสดงว่าจะแต่งงานเดือนธันวาคม “ไม่ทราบสิคะ ไม่เห็นคุณคีบอกให้เร่งนี่คะ บอกให้ทำไปเรื่อย ๆ” ฉันยั่วคุณรินเล่นเสียเฉย ๆ คนอะไรไอ้โน่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่เอา ไม่รู้ผู้หญิงอย่างนี้นายคีตาจะเอามาทำไมนะ เรื่องมากก็เท่านั้น ขี้โวยวายก็เท่านั้น หรือว่าจะลีลาดี…ก็ไม่รู้...
“แต่ว่า...”
“เอาอย่างนี้นะคะ ช่วยโทร. ไปหาคุณคีตาแล้วบอกให้เขาโทร. มายืนยันกับฉันเองว่าเอายังไงกันแน่ ฉันรับคำสั่งจากคุณคีตาคนเดียวค่ะ แค่นี้นะคะ” พูดจบฉันก็วางหู ตอนนี้งานยุ่งจะตายอยู่แล้ว มีงานใหม่เข้ามาอีกสองงาน ยังจะมีเรื่องอะไรให้วุ่นวายใจอีก วางหูจากคุณรินฉันก็โทร. ไปหาพี่ชายทันที
“พี่นุ นายคีเพื่อนพี่ไปอเมริกาเหรอ”
“เปล่านี่ อยู่ชะอำ ทำงานอยู่บ้านพักที่ชะอำที่ไปเจอกับนรีคราวก่อนน่ะ งานด่วนอีกแล้ว มันติดใจที่นั่นเลยขอไปทำที่นั่นอีก”
“อ้าว”
“ทำไม”
“ว่าที่ภรรยาของเขาโทร. มาโวยวายกับนรีเรื่องบ้านของเขาที่นรีออกแบบให้ บอกไม่ตรงสเป็กที่เธอบอกไว้ นรีเลยอยากรู้ว่าเขาจะเอายังไงจะได้ทำให้มันเสร็จ ๆ ไป จะให้เอาใจใครกันแน่”
“อารมณ์เสียหรือไง” เสียงพี่ชายพูดปนหัวเราะ “โทร. ไปหามันสิ” มีเบอร์มันไม่ใช่หรือ
“แล้วทำไมเขาต้องโกหกว่าไปอเมริกาด้วยล่ะ”
“ไม่รู้สิ อันนี้ต้องถามกันเอาเอง โทร. เข้าบ้านก็ได้ แล้ววันนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านหรือเปล่า”
ฉันบอกพี่ชายว่ามีงานเยอะเกินกว่าที่จะไปกินข้าวด้วยได้ และรับปากว่าจะพยายามปลีกตัวไปให้ได้ในอาทิตย์หน้า
คงเป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศค่อย ๆ กระเตื้องขึ้นทีละนิดทำให้งานตกแต่งภายในโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว บริษัทของฉันที่มีเจ้าหน้าที่ตกแต่งภายในอยู่ห้าคน ทุกคนทำงานกันล้นมือ
งานบ้านนายคีตาถือเป็นงานหลักของฉันตอนนี้ แต่ก็มีงานออกแบบโรงแรมและร้านอาหารขนาดกลางในจังหวัดราชบุรีที่อยู่ระหว่างการร่างแบบอีกงานซ้อนเข้ามา
ฉันไม่ได้โทร. ไปหานายคีตาเพราะขี้เกียจได้ยินเสียงกวน ๆ ของเขา ตอนนี้อารมณ์ยังไม่อยู่ในภาวะที่จะให้ใครมาพูดจาไม่เข้าหูเท่าไหร่นัก ปล่อยให้เป็นเรื่องของสองคนนั้นเขาตกลงกันเองดีกว่า
งานออกแบบโรงแรมและร้านอาหารขนาดกลางที่ราชบุรีเป็นอีกงานที่มีความยุ่งยากพอสมควร เนื่องจากเจ้าของมีข้อกำหนดในการออกแบบค่อนข้างมาก แถมเป็นข้าราชการที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในท้องถิ่นเสียด้วย เจ้านายกำชับให้ตั้งใจทำงานชิ้นนี้เป็นพิเศษ
วันเสาร์เจ้านายนัดฉันไปดูโลเคชันของงานใหม่ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นระหว่างที่ฉันกำลังวัดขนาดของห้อง
“ผมเองนะ” เสียงนายคีตา
“ใครคะ ฉันไม่เคยมีเพื่อนชื่อผม” ฉันตอบกลับไปอย่างอารมณ์เสีย อยากจะกวนเขาบ้าง
“นี่คุณ นายนุมันโทร. ไปหาผม บอกว่าคุณมีเรื่องกับรินหรือไง”
“ใครจะกล้าไปมีเรื่องกับเขาล่ะ”
“ดีแล้ว แล้วตกลงมีอะไรที่จะพูดกับผมไหม”
“ก็...เรื่องบ้านไง ตกลงเอายังไงกันแน่ ยังไม่ได้บอกคุณรินหรือไงที่คุณบอกฉันว่าไม่ต้องแก้แบบแล้ว เธอมาโวยวายเอาว่าฉันทำงานไม่ได้เรื่อง เป็นแฟนกันยังไงไม่พูดจากันให้รู้เรื่องต้องมาเดือดร้อนคนอื่นด้วย”
เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ไม่เหนื่อยบ้างรึไง พูดจาไม่หยุดหายใจเลย”
“จะเอายังไงก็ว่ามา” ฉันชักฉุน
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“ราชบุรี”
“ตรงไหน แล้วไปทำอะไรอยู่ที่นั่นล่ะ”
ฉันบอกที่ตั้งของโรงแรม “ฉันมาทำงาน”
“จะเสร็จหรือยังล่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวผมเลี้ยวรถไปรับคุณแล้วค่อยคุยกันเรื่องนี้แล้วกัน ผมกำลังขับรถกลับกรุงเทพฯ พอดี อีกสักชั่วโมงได้ไหม”

Bình Luận Sách (212)

  • avatar
    ทวีพงษ์ ธีระภู่สงวน

    ได้ความรู้ต่างๆ

    1d

      0
  • avatar
    Phinyaphat Px

    อ่านฟินสุดๆ

    1d

      0
  • avatar
    พิชานันท์ ฯ.

    สนุกมากๆค่ะ อ่านเพลินสุดๆ

    3d

      0
  • Xem tất cả

Các chương liên quan

Chương mới nhất