“ทานได้ใช่มั้ยครับ” ชายหนุ่มถาม ส่งยิ้มล้อเลียนตามมาด้วยหวันยิหวายิ้มแหยๆ “หวาชิมแล้วค่ะ ทานได้จริงๆ” ตอบเสียงขึงขัง“ครับ…อร่อยครับ” พจน์ตอบหลังชิมรสแยลลี่เนื้อนุ่ม“เห้อ!! โล่งอกไปที…มีคุณหมอคอนเฟิร์มแบบนี้ คงพอทำขายได้”หญิงสาวเป็นลูกมือมารดาเสียเป็นส่วนใหญ่ งานในร้านทั้งหมดหวันยิหวาทำได้ ยกเว้นอบขนม ถ้าเป็นตำแหน่งนั้นคงต้องยกให้มารดา หรือไม่ก็ขวัญอุสานักศึกษาที่ทำพาสไทม์พจน์อมยิ้ม เขาอยากชวนคุย แต่ไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่นั่งแอบมองหญิงสาวอยู่ห่างๆหวันยิหวาเดินกลับไปประจำที่ เมื่อมีลูกค้ารายใหม่แวะเข้ามา เธอยิ้มกว้างพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง สีหน้าสดใส ไร้ความวิตกกังวลเหมือนที่พจน์แอบกลัว“อ้าว!! คุณหมอมาเมื่อไหรคะนี่” พรรณนาเอ่ยทัก นางเดินเข้าไปหาพจน์ใกล้ๆ“สวัสดีครับคุณน้า” พจน์ผุดลุกขึ้นยืน ทำความเคารพพรรณนาในฐานะคนโตกว่า“ยัยหวาทำไมไม่ยกขนมมาให้คุณหมอล่ะลูก” นางหันไปเอ็ดบุตรสาว เมื่อบนโต๊ะของพจน์มีแค่น้ำแก้วเดียว“มาถึงก็บ่นหวาเลย แม่ถามหมอซิคะ…หวายัดเหยียดให้ แต่หมอไม่รับเอง”“ไม่ได้นะคะ นานๆ มาที อย่าปฏิเสธเลย” พรรณนาไม่สนใจ นางเดินไปหยิบจาน ใช้คีมปากใหญ่คีบขนมอบน่ารับประทานมาหลายชิ้น ก่อนจะเดินย้อนกลับมาส่งให้พจน์“ลองชิมดูค่ะ น้าเพิ่งคิดสูตรได้…ไม่มีแบบนี้ที่ร้านอื่นแน่ๆ”“แม่ชอบทำค่ะหมอ แต่หวาชอบทานมากกว่า…ให้หวาออกแบบเสื้อ ยังง่ายกว่าทำขนมอีก”หญิงสาวเดินมาร่วมวงสนทนา เธอเอ่ยอ้าง…ก่อนจะชะงักไปชั่วครู่ เมื่อภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัว…เหมือนมีใครบางคนกดเปิดไฟ ในห้องมืดสนิทและปิดทันที โดยไม่รอให้ไฟฟ้าสว่างเต็มที่“อุ้ย!!” เสียงอุทานของบุตรสาวพรรณนาจึงหันมาให้ความสนใจ ท่านลุกขึ้นจากที่นั่ง ถลาเข้ามาโอบบ่าหวันยิหวาไว้ เมื่อจู่ๆ สีหน้าของบุตรสาวเผือดซีดขึ้นมาแบบฉับพลัน“ยัยหวาเป็นอะไรลูก!!!”“ปะ…เปล่าคะแม่…แค่มีภาพอะไรไม่รู้ค่ะ...แวบขึ้นมาในหัวหวา…พอเพ่งมองจริงๆ ก็หายไป”“นั่งลงก่อนลูก”พรรณนาประคองบุตรสาวให้นั่งลง“ผมนัดหมอให้มั้ยครับ ดูเหมือนความจำบางส่วนของคุณหวาจะกลับมาแล้ว”พจน์เสนอตัว เขาวิเคราะห์จากคำพูดหญิงสาว หวันยิหวาเสียความทรงจำ แต่ไม่ใช่แบบถาวร ความจำของหล่อนเลือนหายไปชั่วคราว…อาจจะกลีบมาในเร็ววัน หรือเนิ่นนานแค่ไหนไม่มีใครรู้“ค่ะ” พรรณานารับคำ ยกมือขึ้นลูบพวงผมด้านหลังท้ายทอยหวันยิหวาด้วยความเป็นห่วง“หวาเบื่อตัวเองจังค่ะแม่” หญิงสาวบ่น หลังหายเจ็บตามร่างกาย เธอกลายเป็นคนที่ไม่มีความทรงจำ ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ“แม่ไม่เคยเบื่อหวาจ้ะ แค่หวายังอยู่ แม่ก็พอใจแล้ว” พรรณนากล่าว สวมกอดบุตรสาว ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลัง ถ่ายทอดความห่วงใยของตนเองให้บุตรีรู้“หวารักแม่ค่ะ” หญิงสาวกอดตอบเอียงใบหน้าแนบอกอวบของมารดา ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว“แม่กับพ่อก็รักหวา...เรามาพยายามไปด้วยกันนะลูก ไม่ต้องรีบแม่รอได้”พรรณนานากล่าวตอบเสียงสั่น...หากเป็นไปได้นางอยากให้บุตรสาวจำอะไรไม่ได้เลยเหมือนตอนนี้ ทิ้งอดีตที่แสนเลวร้ายไปตลอดกาล เพราะในทันที ที่หวันยิหวาจำได้ หล่อนคงโศกเศร้าอย่างหนัก เสียใจเพราะความผิดหวัง และคงแทบขาดใจเมื่อสิ่งที่สูญเสียไปนั้น...เป็นสิ่งสำคัญของเพศหญิง!!พจน์มองสองแม่-ลูก ที่กอดกันกลมด้วยสายตาอ่อนโยน ชายหนุ่มเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่สนใจอดีตที่ผ่านไปแล้ว เขารู้ตัวดีหวันยิหวาพิเศษสำหรับเขา หากบุพกาลีของเธอไม่รังเกียจ นายแพทย์จนๆ คนนี้ พจน์ขออาสาคอยดูแลหวันยิหวาต่อจากนี้เองและพรรณนาก็พอจะรู้...นางอาบน้ำร้อนมาก่อน ผ่านโลกมาพอสมควร จึงพอมองออก นางพอใจนายแพทย์คนนี้มากเป็นพิเศษ ข้อเดียวที่ตขิดตะขวงใจ คือนายแพทย์ผู้นี้รู้ ปม ของบุตรีตนเอง ปมที่แม้แต่นางเองยังไม่อยากนึกถึง หากชายหนุ่มไม่รังเกียจข้อเสียข้อนั้นของบุตรสาว นางก็ยินดีต้อนรับ...วิทย์หิ้วถุงใบใหญ่เดินเข้ามาในร้าน ท่านชะงักกึก มองภรรยาและบุตรสาวที่กอดกันกลมด้วยสายตาสงสัย“เกิดอะไรขึ้น ยัยหวาเป็นอะไร?” ชายสูงวัยเดินเข้ามารวมกลุ่ม ถุงใบนั้นถูกโยนทิ้งใกล้ๆ ประตูทางเข้าหญิงสาวเงยหน้าจากซอกอกมารดา ส่งยิ้มให้บิดา ทั้งที่น้ำตายังคลอขังในหน่วยตาคู่งาม...“เปล่าค่ะพ่อ หวาแค่ตกใจ!! มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวหวาค่ะ...”“หือ...” วิทย์คราง มองสบตาภรรยา “หวาพอจะจำได้แล้วเหรอลูก?” ท่านถามเสียงแฝงความตระหนก“ยังค่ะ” หวันยิหวาตอบเสียงอ่อย “มันมาแค่แวบๆ แล้วก็มืดสนิทเหมือนเดิม”วิทย์ถอนใจด้วยความโล่งอก บุตรสาวยังไม่แข็งแรงดี เขาอยากให้ยืดเวลาไปอีกหน่อย เมื่อความทรงจำที่ถูกทิ้งไปนั้น มันสาหัสเกินกว่าที่หวันยิหวาจะรับไหว“ผมจะนัดหมอให้ครับคุณอา...” พจน์กล่าวแทรก วิทย์จึงหันไปยิ้มให้ ท่านไม่ได้สนใจคนอื่นเลย เมื่อเป้าความสนใจอยู่ที่บุตรสาว จนกระทั่งพจน์พูดออกมา ท่านจึงรู้ว่านายแพทย์ผู้นี้ นั่งอยู่ด้วย“ไม่ทันมองหมอ... ผมนี่เสียมารยาทชะมัด” วิทย์บ่นตัวเอง“ไม่เป็นไรครับ หากเป็นผมก็คงไม่เห็นใครเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบ วิทย์รู้ทันความนัยที่ชายหนุ่มส่งให้ หากถามใจตนเอง ท่านไม่รังเกียจชายผู้นี้ แต่ประวัติอันด่างพล้อยของบุตรสาว จะเป็นตัวแปรในอนาคต เมื่อชายหนุ่มเป็นคนเด่นคนดัง หากใครก็ตามแตะต้องหวันยิหวา ด้วยข่าวฉาวๆ ท่านคงทนไม่ได้“พ่อ...ของแม่ล่ะ?” พรรณนาถามแทรก นางไม่เห็นสามีถืออะไรมาด้วย“ตาย...พ่อโยนทิ้งไว้ตรงไหนล่ะนั่น กำลังตกใจน่ะแม่” วิทย์ตอบภรรยา ท่านเหลียวมองหาสิ่งที่ตนเองหลงลืม“ดีนะไม่ใช่ไข่ หรือแก้ว ไม่งั้นคงพังยับ” พรรณนาบ่นสามี มองวิทย์ที่วิ่งกลับไปฉวยถุงใบใหญ่ที่ตนเองโยนทิ้งไว้ก่อนหน้านี้หวันยิหวาหัวเราะคิก...รีบลุกไปช่วยบิดาถือของ “ไม่มีอะไรเสียหายเลยค่ะแม่...ของทั้งหมดอยู่ในสภาพดี” เธอกล่าวเสียงร่าเริง เดินเลี่ยงเอาของในถุงไปเก็บ มีสายตา3คู่มองตาม แววตาทั้งหมดของคนสามคน ล้วนแต่ห่วงใยหวันยิหวาทั้งหมด...
ดีสุดๆ
2h
0ดีมากก
5d
0แต่งดีมาก อ่านเพลินสุดๆเลยค่ะ
5d
0Tingnan Lahat