logo text
Idagdag sa Library
logo
logo-text

I-download ang aklat na ito sa loob ng app

ปากกาสีหวาน

“น้องไปยืนทำอะไรอยู่กลางถนนแบบนั้น รู้ไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน”
“อิงค์ขอโทษ ที่ทำให้พี่ต้องเดือดร้อนไปด้วย พอดีว่าอิงค์หาตึกนิเทศไม่เจอค่ะ ที่นี่ใหญ่มากไม่รู้ว่าตึกไหนเป็นตึกไหน” ใบหน้าหมวยแสดงสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะคลี่ยิ้มออกมาด้วยความเห็นใจ
“น้องเรียนนิเทศหรือ” หญิงสาวพยักหน้า ก่อนจะหันไปสังเกตเห็นนักศึกษาที่เดินผ่าน หันมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“พี่คะ หน้าอิงค์มีอะไรติดไหม” ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วใช้มือช้อยคางเธอหันมา
“ไม่นะ” ดวงหน้าคุ้นเคยของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกหัวใจเต้นเร็วก่อนจะปล่อยมือออกช้าๆ
“ไม่มีจริงๆ นะคะ ทำไมทุกคนมองอิงค์แปลกๆ แบบนั้นด้วยนะ” คเชนทร์หลุดยิ้มออกมาหากแต่ไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะพาเธอมายังตึกนิเทศ หญิงสาวเข้าห้องเรียนด้วยท่าทางเงอะงะ ด้วยเพราะเป็นวันแรกยังไม่มีเพื่อนใหม่ ในห้องเรียนมีศึกษาร่วมสามสิบคน เธอเลือกมานั่งกลางห้องก่อนจะมีหญิงสาวหน้าสวยเข้ามานั่งด้านข้าง
“เธอ มีปากกาไหม ฉันขอยืมหน่อย พี่ชายฉันยืมไปแล้วไม่เอามาคืน” ท่าทางแปลกประหลาดของหญิงที่เข้ามาคุยด้วยทำให้อินทิรารู้สึกประหลาดใจ หากแต่หยิบปากกายื่นให้ด้วยความเต็มใจ
“เธอชื่ออะไร ฉันชื่อคะนิ้ง” หญิงสาวยิ้มกว้างมองเอาคำตอบ
“ฉันชื่ออิงค์”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ และก็ขอบคุณสำหรับปากกาด้วย” อินทิราส่งยิ้มให้ก่อนจะถอนหายใจมองไปรอบๆ ห้อง นอกจากคะนิ้งแล้วก็ไม่มีใครเหมาะจะเป็นเพื่อนเธอได้แล้วจริงๆ
“คเชนทร์ ฉันถามอะไรนายหน่อยได้ไหม ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว มันบังเอิญหรือนายจงใจ” พีทกระซิบถามสิ่งที่คาใจในขณะที่อาจารย์กำลังสอน
“บังเอิญ” คเชนทร์ตอบเพื่อนพลางตั้งใจจดตัวหนังสือลงสมุด
“นายไม่รู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”
“รู้สึกสิ รู้สึกว่าฉันคุ้นหน้าเขา เหมือนเคยเจอกันมาก่อน”
“ฮือๆๆ ขนาดเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติแล้ว คุณพี่หาลืมอีกลิ่นทิพย์ไม่ แม้มันจะเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างแล้ว หากแต่คุณพี่ก็ยังจำมันได้ขึ้นใจ ฮือๆๆ” เสียงแว่วดังเข้ามาในหูบางๆ พอจับใจความได้ถึงคำพรรณนาอันเจ็บปวดจากใครบางคน
“พีทนายได้ยินอะไรไหม” คเชนทร์เอี้ยหูฟังอย่างตั้งใจก่อนจะหันไปถามพีท
“ได้ยินดิ อาจารย์สอนปาวๆ อยู่นี่ไง”
“ไม่ใช่เสียงอาจารย์ แต่เป็นเสียงคราง เสียงร้องไห้ของผู้หญิง นายไม่ได้ยินหรือ” พีทอ้าปากค้างดวงตาเบิกโพลง พลางหันซ้ายหันขวา แล้วขยับตัวเข้ามาแนบชิดคเชนทร์ด้วยท่าทางกังวล ก่อนจะเหลือบไปเห็นปากกาในมือของเพื่อนสนิทที่เป็นลายการ์ตูนสีหวานแหวว
“เดี๋ยวนะ ปากกาของนายมันดูสาวมากไปไหม” พีทกลั้นหัวเราะเมื่อมองปากกาสีหวานด้ามนั้น พลันลืมความกลัวไปจนหมดสิ้น
“ของน้องสาวฉัน นายไม่ต้องขำ ฉันยืมคะนิ้งมา” คเชนทร์ยังคงเขียนตัวอักษรลงในสมุดอย่างตั้งมั่นในขณะที่มีเสียงหัวเราะเล็กๆ ของพีท ลอดเข้ามาเป็นระยะ
“เป็นไงบ้างลูกไปเรียนวันแรก” วารีกลับจากทำงาน เดินเข้ามาในบ้าน เห็นลูกสาวนั่งหราอยู่หน้าทีวี ด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
“ก็ไม่เป็นไงค่ะ วันนี้ไม่ได้เรียนอะไรมากมาย ส่วนใหญ่อาจารย์จะให้แนะนำตัวและทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ค่ะ”
“แล้วมีเพื่อนหรือยังเรา”
“มีอยู่คนหนึ่งค่ะ วันนี้ก็ไปกินข้าวพร้อมกันด้วย เธอชื่อคะนิ้ง”
“มีเพื่อนก็ดีแล้ว เอาเป็ดนี้ไปจัดจานไป เดี๋ยวแม่ไปอาบน้ำก่อนแล้วจะออกมากินด้วย” หญิงสาวรับถุงจากมือมารดาก่อนจะเดินไปยังห้องครัวแล้วจัดแจงอาหารที่แม่ซื้อมาใส่จานด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“แม่คะ เมื่อคืนหนู่ฝันแปลกๆ ด้วยล่ะ” อินทิราตัดสินใจพูดสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างประหลาด ออกมาขณะที่วารีตั้งหน้าทานอาหาร
“ฝันว่าไร เจอเนื้อคู่หรือไง”
“แม่อ่ะ ไม่ใช่ค่ะ หนู่ฝันเห็นคนชื่อกลิ่นจันทร์” ช้อนที่วารีถืออยู่ร่วงจากมือทันที ก่อนจะถอดสีหน้าแล้วจ้องมองลูกสาว
“อะไรนะ” วารีจับจ้องไปยังใบหน้าของลูกสาวด้วยความกังวลใจ
“ฝันว่ามีคนชื่อกลิ่นจันทร์เธอถูกพ่อแม่ขายให้กับเจ้าขุนมูลนายในสมัยก่อนค่ะ บ้านหลังนั้นใหญ่มากค่ะแม่ มีการซ้อมรำอย่างใหญ่โต คนชื่อกลิ่นจันทร์ถูกขายเพื่อไปเป็นนางรำค่ะ” อินทิราพูดถึงตรงนี้ก็นิ่งเงียบไป ปล่อยให้มารดาอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น
“แล้วยังไงอีก”
“เจ้าของบ้านหลังนั้นชื่อคุณเอื้องฟ้า มีลูกชายด้วยหนึ่งคน ดูเหมือนกลิ่นจันทร์เธอจะชอบเขา แต่แม่เขาดุมาก แล้วหนูก็ตื่น สงสัยหนูจะหมกมุ่นเรื่องการรำมากไปเลยเก็บไปฝันซะเป็นตุเป็นตะเลย” วารีวางมือจากการทานอาหารแล้วดื่มน้ำตามไปอีกมากมายหลายอึก ก่อนจะหันมองลูกสาวด้วยท่าทางเป็นห่วง

Komento sa Aklat (189)

  • avatar
    Nathaphat Fangklai

    ดีมาก

    4d

      0
  • avatar
    บัวกลิ่นณิชานันท์

    ดีงามมาก

    4d

      0
  • avatar
    สายน้อยประเสริฐ

    ดีครับ

    5d

      0
  • Tingnan Lahat

Mga Kaugnay na Kabanata

Mga Pinakabagong Kabanata