logo
logo-text

I-download ang aklat na ito sa loob ng app

ติดดาว

“บ่าวคนใหม่รึคุณแม่” ชายหนุ่มหันไปถามมารดาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อืม ก็ไอ้เกลี้ยงมันเอามาขายแลตะวันยังไม่ขึ้น” คุณเอื้องฟ้าลากลูกชายมานั่งด้านข้าง ก่อนจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระพายหันมองยังกลิ่นจันทร์ที่นั่งก้มหน้าอยู่ เขาไม่คิดเอาเมียบ่าวมาให้เปื้อนศักดิ์ศรีของบ้านหลวงไชยพิชิต แม้ดูสายตาของหล่อนที่ยังคงขัดคำสั่งมารดาแอบชำเลืองมองเขาด้วยสายตาพิสมัย เยี่ยงแม่หญิงที่ขาดการอบรมสั่งสอนด้านมารยาท
“ตึบ!” คุณเอื้องฟ้าสุดทนกับท่าทางชม้อยชม้ายของหญิงสาวที่ทำเกินงาม จึงพาลเขวี้ยงพัดเข้าไปที่ใบหน้าของเธอ กลิ่นจันทร์เจ็บจนต้องเอามือขึ้นมาจับรอยแผลเล็กๆ ที่มีเลือดซึมออกมา ท่ามกลางสายตาบ่าวไพร่ทำให้เธอรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก พระพายรีบห้ามมารดาที่อารมณ์โกรธพุ่งเร็วราวกับสายฟ้า
“คุณแม่ อย่าได้เคืองมันเลย มันพึ่งเข้ามาคงยังไม่รู้ว่าอะไรควรอะไรมิควร”
“สายตาแบบนี้ มึงคิดจะเอาลูกกูงั้นรึ” คุณเอื้องฟ้าชี้นิ้วใส่หน้าหญิงรับใช้ของตัวเอง เธอหวงบุตรราวกับจงอางหวงไข่ เป็นที่ทราบกันดีของบ่าวไพร่ในเรือน
“กราบขอโทษคุณเอื้องฟ้าเดี๋ยวนี้” อีนวลหันมากระซิบ กลิ่นจันทร์กำมือจนแน่น มองพื้นด้วยแววตาแข็งทื่อ ครู่นึ่งจึงยอมก้มกราบตามคำของอีนวล
“ข้าขออภัยเจ้าค่ะ” ภายใต้สายตานั้นแฝงไปด้วยความคับแค้นใจที่ถูกทำร้ายร่างกาย ราวกับหมูหมา เหมือนไม่ใช่มนุษย์ ยังคงนึกพาลโกรธไปยังน้องสาวตัวต้นเหตุ ที่ทำให้ถูกหัวเราะเยาะจากบ่าวไพร่พวกนั้น เสมือนเธอเป็นตัวตลกของใครๆ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก สายแล้วนะกลิ่น ไม่ไปเรียนหรือลูก” เสียงเรียกของมารดาพลางเสียงเคาะประตู ทำให้หญิงสาวหน้าหมวยสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมา
“ฝันอะไรวะเนี่ย” ก่อนจะชะเง้อคอดูนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบแปดโมงเช้า ดวงตาเบิกโพลงความง่วงหายไปในพริบตาพร้อมกับร่างเล็ก เด้งตัวออกจากที่นอนอย่างรวดเร็ว
“กลิ่นได้ยินแม่ไหม” เสียงมารดายังคงเคาะเรียกเป็นระยะ
“ได้ยินแล้วค่ะแม่ หนูกำลังอาบน้ำค่ะ แม่ทำไมพึ่งมาปลุกหนู”
“อ้าว แล้วกันลูกคนนี้” อินทิรารีบเร่งสุดชีวิตเท่าที่จะทำได้ เธออาบน้ำพร้อมกับแต่งตัวโดยใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีเท่านั้น เสียง ตึก ตึก วิ่งจากชั้นบนลงมาบ่งบอกถึงความรีบของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“หนูไปก่อนนะคะแม่”
“ไม่กินข้าวเช้าก่อนหรือลูก”
“ไม่ทันแล้วค่ะ” ว่าแล้วจึงหันมาหอมใบหน้าของแม่หนึ่งฟอดใหญ่อแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความเร็วแสง
หญิงสาวเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน นักศึกษาเดินกันขวักไขว่มากกว่าครั้งที่แล้ว เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางทางเดิน พลางมองหาตึกเรียนด้วยความงุนงงแล้วยกมือขึ้นมาเกาศีรษะของตัวเอง
“ตึกมากมายขนาดนี้จะหาเจอได้ยังไง” หญิงสาวพูดพลางก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือเป็นระยะ
“ปี๊ดดดด!” เสียงแตรรถคันหนึ่ง ดังสนั่นก่อนจะเบรกอย่างกะทันหัน จวนเจียนจะชนร่างเล็ก เหลืองเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
“เฮ้ย น้องมายืนอะไรตรงนี้วะ นี่มันถนนนะน้อง อยากตายหรือไง” คนขับรถลงมาแล้วตรงดิ่งเข้ามาต่อว่าอย่างหัวเสีย
“ขอโทษค่ะพี่ พอดีหนูพึ่งเข้ามาวันแรกค่ะ”
“ขอโทษหรือ มันหายไหมล่ะ นี่ถ้ารถพี่เป็นอะไรไป น้องรับผิดชอบไหวหรือ”
“หนูขอโทษจริงๆ ค่ะพี่” อินทิรายกมือไหว้อย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษๆ พูดเป็นอยู่คำเดียวไงวะ”
“น้องครับ ไม่ต้องขอโทษละ” ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่นาน เดินเข้ามาหา แล้วหันตัวไปหาชายหนุ่มจอมกร่างด้วยท่าทางสุขุม
“พี่คเชนทร์” อินทิราเอ่ยทักเมื่อได้พบเขาอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ
“คุณขับรถยังไงถึงจะชนคนได้ นี่มันในมหาวิทยาลัยนะไม่ใช่ถนนส่วนตัว ถึงจะทำความเร็วตามใจชอบได้”
“แล้วมึงเป็นใคร เสือกอะไรด้วยวะ” ชายหนุ่มจอมกร่างกระชากคอเสื้อคเชนทร์เข้ามา ก่อนจะมีกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาวิ่งมาห้ามศึกจ้าละหวั่น
“ปล่อยเขา กูบอกให้มึงปล่อยเขาไง” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของคนกร่าง กระซิบบอกพลางพยายามแยกทั้งสองออกจากกัน ด้วยท่าทางลนลาน
“ทำไมกูต้องปล่อย ไอ้นี่มันกล้าลองดีกับกู” คราวนี้คนกร่างหันไปตวาดเพื่อนของตัวเอง ก่อนจะกลับหันมามองคเชนทร์อย่างวางอำนาจ
“ถ้ามึงไม่ปล่อยเขา มึงนั่นแหละจะซวย” คำพูดของเพื่อนสามสี่คนที่ถอยไปยืนดูห่างๆ ทำให้คนกร่างเริ่มได้สติ รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของกลุ่มเพื่อน พลางขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆ ปล่อยคอเสื้อของคเชนทร์
“พีท นายช่วยให้คุณไผ่สืบที ว่านายคนนี้ ชื่ออะไร เรียนปีไหน คณะอะไร แล้วให้คุณไผ่ติดดาวให้หนึ่งดาวด้วย” คเชนทร์พูดพร้อมกับขยับคอเสื้อของตัวเองให้เข้าที่อย่างวางมาด
“มึงพูดเหี้ยอะไรของมึง” คนกร่างกระโดดเข้ามาอีกครั้ง ก่อนจะโดนเพื่อนห้ามเอาไว้ได้ทัน เขาปรายตามองนักศึกษานิสัยเสียคนนั้นหนึ่งครั้ง แล้วหันมาหาหญิงร่างเล็กที่ยืนตาแป๋วอยู่
“ไปครับน้อง” คเชนทร์หันมาดึงมือของอินทิราเดินออกจากจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาที่รายล้อมพากันส่งเสียงฮือฮา
“พวกมึงมาห้ามกูทำไม ไม่งั้นกูได้สั่งสอนไอ้หน้าอ่อนนั่นไปแล้ว”
“มึงไม่รู้จริงๆ หรือว่ามันเป็นใครถึงจะไปเล่นด้วย”
“พวกมึงหมายความว่าไง”
“มึงได้ดาวจากมันหนึ่งดาว ถ้ามึงได้จากมันครบสามดาวเมื่อไหร่ มึงได้โดนออกไปเรียนที่อื่นแน่ มันเป็นลูกชายคนโตของเจ้าของมหาลัยที่มึงเหยียบอยู่นี่ไง คราวนี้มึงมีสติกลับมาได้บ้างหรือยัง” เพื่อนหนึ่งคนในนั้นตบหน้าคนกร่างเบาๆ พลางอธิบาย คราวนี้คนก่อเหตุถึงกับหน้าซีด แววตาแน่วแน่อ่อนกำลังลงด้วยความกลัว ก่อนจะหันเลื่อนรถออกแล้วขับออกไป

Komento sa Aklat (189)

  • avatar
    Nathaphat Fangklai

    ดีมาก

    4d

      0
  • avatar
    บัวกลิ่นณิชานันท์

    ดีงามมาก

    4d

      0
  • avatar
    สายน้อยประเสริฐ

    ดีครับ

    5d

      0
  • Tingnan Lahat

Mga Kaugnay na Kabanata

Mga Pinakabagong Kabanata