logo text
Idagdag sa Library
logo
logo-text

I-download ang aklat na ito sa loob ng app

ยาฝาหรั่ง

“อิงค์ ปลิว เป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” อาจารย์กฤษณาเห็นหญิงสาวเดินมาพร้อมกับหลานชายของตัวเอง
“พวกเราปลอดภัยดีค่ะอาจารย์” อาจารย์กฤษณาพยักหน้าก่อนจะมองสำรวจร่างกายของลูกศิษย์ทั้งสองเพื่อความแน่ใจอีกที
“กลับบ้านได้แล้ว งานล่มแบบนี้คงแก้อะไรไม่ได้ อาจารย์ขอบใจเธอมากนะที่มาเพื่องานนี้”
“งั้นหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” อินทิราและปลิว ยกมือไหว้ลาอาจารย์ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับชายหนุ่มแล้วเดินออกไป คเชนทร์ยังคงทอดสายตามองอินทิรา โดยไม่รู้ว่าถูกจับตาจากป้าของตัวเอง
“หึ มองอิงค์ตาเยิ้มขนาดนี้ อย่าคิดมาเจ้าชู้กับลูกศิษย์ป้านะ ไม่งั้นป้าจะฟ้องพ่อเราให้เล่นงาน”
“ป้าฟ้องพ่อไปก็ไม่เป็นผลอะไรหรอก ถึงผมไม่เข้าหาสาวๆ สาวๆ พวกนั้นก็เข้าหาผมอยู่ดี” คเชนทร์ละสายตาจากอินทิราแล้วมาสบตาป้ากฤษณา พูดยียวนกลับชวนให้หญิงชราอารมณ์ขุ่น จะว่าไปแล้วเขาสนิทกับป้ามากกว่าพ่อกับแม่ของตัวเองเสียอีก
“เชนทร์ถือว่าเป็นลูกเจ้าของมหาลัยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ”
“ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก แต่ทุกคนทำให้ผมเป็นคนแบบนั้นเองนี่ครับ”
“อย่าลืมนะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแป้งแฟนเก่าของหลาน ป้าเคยบอกแล้วว่าเชนทร์มีเจ้าของอยู่แล้ว ไม่สามารถรักใครได้หรอก และถ้าไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเดือดร้อนจงอย่ายุ่งกับใคร” ป้ากฤษณาพูดจบจึงเดินเลี่ยงออกไป คเชนทร์หันมองตามป้าของตัวเอง พลางนึกย้อนไปในวันที่เขาต้องจำใจเลิกรากับแป้งแฟนคนแรก
“คุณพี่คิดจะมีใครอื่นอย่างนั้นฤาเจ้าคะ” เสียงอันแหบแห้งของวิญญาณร้ายที่มากด้วยโทสะ พูดกรอกหูชายหนุ่ม มวลพลังงานสีดำปกคลุมอยู่ด้านหลังเขาค่อยๆ กลายร่างเป็นหญิงสาวที่สวมชุดนางรำเต็มยศ กอดสนิทแนบชิดไม่ห่างไปไหน
“น้องกับคุณพี่เราต่างเคยรักกัน น้องจักทำให้คุณพี่จำน้องให้จงได้”
“เฮ้ยเชนทร์” เสียงเรียกของพีททำให้วิญญาณร้ายสลายร่างกลับสู่ต้นไทรใหญ่ที่ใช้เป็นที่สิงสถิต เธออยู่ในมิติที่ทับซ้อนกับมนุษย์ ละเอียดเกินกว่าใครจะเห็นเธอได้ วิญญาณของกลิ่นจันทร์นับวันยิ่งแข็งแกร่งจากการถูกบูชา จนมีฤทธิ์สามารถบันดาลสิ่งต่างๆ ให้คนสมปรารถนาได้ตามกำลังที่เธอมี
“ลูกช้างขอให้ลูกชายสอบติดนายร้อยด้วยเถิด ถ้าเจ้าแม่ต้นไทรช่วยลูกช้าง ลูกช้างจะนำพวงมาลัยและชุดไทยมาถวาย สาธุ สาธุ สาธุ” แม่ค้าชรายกมือท่วมหัว ปากพำพึมขอพร ระหว่างนั้นก็มีชายชรานำชุดไทยมาวางถวายพร้อมกับพวงมาลัย
“คุณๆ คุณบนอะไรเจ้าแม่หรือ ถึงได้นำของมาถวาย คงได้สมดังใจล่ะสิ”
“อ่อ ผมขอให้ขายบ้านได้ ป้าเชื่อไหม ผมมาบนที่นี่ไม่เกิดสามวัน ขายออกเลย ทั้งที่ประกาศขายมาเกือบหกเดือนไม่มีวี่แววว่าจะขายได้” ว่าแล้วทั้งสองก็พากันยกมือไหว้ท่วมศีรษะ ก่อนจะมีพนักงานที่มหาวิทยาลัยจ้างมาดูแลตรงจุดนี้ เก็บชุดไทยกลับไปไว้ในห้องเฉพาะ ดวงวิญญาณของกลิ่นจันทร์ยิ้มย่องออกมา ยิ่งมีคนเข้ามาบูชาเธอเท่าไหร่ก็ยิ่งเท่ากับว่าเพิ่มอิทธิฤทธิ์ให้เธอมากขึ้นเท่านั้น
“อ้าว กลับมาแล้วหรือลูก มากินข้าวก่อนเร็ว แม่ทำยำวุ้นเส้นไว้” วารีเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอเลี้ยงดูอินทิราคนเดียวมาตั้งแต่อินทิราอายุได้เพียงห้าขวบ เนื่องจากสามีประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หญิงสาวหน้าหมวยถอดรองเท้าแล้วเดินหอบเข้ามาในบ้านก่อนจะเดินตรงดิ่งมายังโต๊ะอาหาร
“ไปรำมาเป็นไงบ้าง” วารีเข้าไปในครัวพร้อมกับจัดแจงยกอาหารมาวางที่โต๊ะกินข้าว
“งานล่มค่ะแม่”
“อะไรกัน ล่มได้อย่างไรล่ะลูก” วารีวางอาหารพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ล่มเพราะว่ามีลมอะไรก็ไม่รู้ค่ะ พัดเข้ามาในงาน ข้าวของกระจัดกระจายไปหมด ดีนะคะที่พี่เขาช่วยเอาไว้ ไม่งั้นหนูคงโดนโคมไฟตกใส่หัวตายแน่ๆ”
“พี่ที่ไหน” วารีขมวดคิ้วถามลูกสาว ครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเหมือนจะรู้บางอย่าง
“แม่ไม่ว่าหรอกนะ ถ้ากลิ่นจะมีแฟนเพราะตอนนี้กลิ่นเองก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว”
“แม่คะ หนูยังไม่สนใจเรื่องนี้หรอกค่ะ พี่เขาก็แค่พลเมืองดีเท่านั้นเอง”
“เขาหล่อไหม” วารีใช้ไหล่กระแทกเบาๆ ที่แขนของลูกสาว
“แม่” อินทิราลากเสียงยาว ก่อนจะหันไปตักวุ้นเส้นกินโดยไม่ตอบคำถามมารดา
“แม่กล่ำเอายาฝาหรั่งนี้ให้อีกลิ่นทิพย์กิน เร็วๆ เข้าประเดี๋ยวจะไม่ทันการ” นายเกลี้ยงยื่นยาฝาหรั่งที่เขาไปเสาะหามาจากทาสของเจ้าขุนมูลนายท่านหนึ่ง ในราคาแพงแสนแพง หากแต่เป็นทางเดียวที่พอรักษาชีวิตลูกสาวเอาไว้ได้ เธอป่วยนอนซมแบบนี้มาร่วมเดือน ยาสมุนไพรต่างๆ ที่ว่าดีก็ไม่สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้
“ค่อยๆ กินนะกลิ่นทิพย์ เอ็งช่วยฝืนอ้าปากให้ข้าหน่อย” หญิงสาวหน้าตาซีดเซียวไร้เลือดฝาดพยายามอ้าปากรอรับยาเม็ดที่มารดาหย่อนใส่ลงไปในปากให้ นางกล่ำหันมองหน้าสามีอย่างมีความหวัง ภายใต้เรือนไม้หลังเล็กที่ยกสูงมุงด้วยหญ้าคาแห้ง ทั้งสองมีอาชีพทำนาหาเช้ากินค่ำ
“พี่เกลี้ยงฉันคิดถึงกลิ่นจันทร์ ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็มิรู้ได้ คุณเอื้องฟ้าแลดุนัก สายตาเกรี้ยวกราดหาใครเทียบ พี่ว่าลูกเราจะอยู่ได้ฤาไม่”
“จักทำอย่างไรได้ หากอีกลิ่นจันทร์มันทำตัวดี ๆ เห็นทีอาจเป็นนางรำในเรือนคุณเอื้องฟ้า วาสนาคงดีกว่าอยู่กับเรานัก เอ็งอย่าได้กังวลไป” นายเกลี้ยงพูดปลอบใจภรรยา แม้ในใจลึกๆ เขาเองก็กังวลอยู่มาก

Komento sa Aklat (189)

  • avatar
    Nathaphat Fangklai

    ดีมาก

    4d

      0
  • avatar
    บัวกลิ่นณิชานันท์

    ดีงามมาก

    4d

      0
  • avatar
    สายน้อยประเสริฐ

    ดีครับ

    5d

      0
  • Tingnan Lahat

Mga Kaugnay na Kabanata

Mga Pinakabagong Kabanata