logo
logo-text

I-download ang aklat na ito sa loob ng app

7

“ไม่ได้ชื่อเฉิงจื้อ...”
“เขาเป็นลูกข้านะ”
ลูกอยู่กับแม่ทำไมต้องใช้สกุลพ่อ ตัวพ่อไม่ยอมรับเหตุใดจะยังใช้สกุลเฉิง
“แสดงว่าพี่จะไม่กลับไปอยู่กับเฉิงหยางปิงอีกแล้วใช่ไหม”
“ไม่กลับๆ” สือจิ่วส่ายหน้าหวือ เกือบจะเบ้ปากร่วมด้วยซ้ำ “ข้าเป็นคนนะ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงต้องเชื่องและจงรักภักดีกับเขา เขาไล่ข้าก็เท่ากับไม่ยอมรับลูก”
สือจวี๋แต่งให้เฉิงหยางปิงสี่ปี แต่เขารังเกียจภรรยาตัวเอง ออกคำสั่งให้นางนอนบนพื้นหน้าเตียงตั้งแต่คืนแต่งงาน และให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ นอกห้องหับต่อหน้าสายตาผู้อื่น คนล้วนชื่นชมว่าเขาให้เกียรติรักใคร่ภรรยาตน ต่างซาบซึ้งน้ำใจที่ชายหนุ่มไม่รังเกียจใบหน้ามีปานแดงของสือจวี๋
เหตุใดหญิงสาวถึงยอมน่ะหรือ หลงลมปากสามีหนุ่มรูปงามอย่างไรเล่า
เขาหว่านล้อมบอกอยากมุ่งมั่นกับตำรับตำราเพื่อสอบเป็นขุนนาง ยิ่งใกล้ชิดนาง เขายิ่งรู้สึกหวั่นไหว เกรงจะหักห้ามใจตนไม่ได้ จึงขอเวลาสักสามสี่ปี ให้สอบระดับอำเภอผ่านเสียก่อนถึงจะมีสัมพันธ์กับนางเพราะอยากมีลูกในยามพร้อมด้วยชื่อเสียงและฐานะการงาน
ด้วยฤทธิ์สุราคืนฉลองที่เขาสอบผ่านตำแหน่งเซิงหยวน เฉิงหยางปิงพลาดมีสัมพันธ์กับนางแค่ครั้งเดียว และเป็นครั้งเดียวที่ทำให้สือจวี๋ตั้งท้อง
“แล้วถ้าเขาใช้กำลังบีบบังคับจะพาพี่กับอาจื้อไปอยู่ด้วย”
“ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ” ผู้ชายพรรค์นั้น แม่ผัวตัวร้ายบวกกับน้องผัวตัวสำคัญ แต่ละคนเหมือนหลุดมาจากนรก ขนาดเธอไม่ได้ประสบเรื่องเหล่านี้เอง ยังนึกแช่งเช้าเย็นให้ลูกสาวนางเฉิงถูกบ้านสามีกระทำแบบที่พวกนางทำกับสือจวี๋
“คนพวกนั้นสิจะเป็นศพ ไม่ใช่พี่ อาจื้อหรือพวกเรา”
การกลั่นแกล้งรังแกทั้งหมดในเรื่องเป็นเขาเองใส่รายละเอียดลงไปในชีวิตตัวละคร แท้จริงแล้วคนเลวไม่ใช่เฉิงหยางปิง แต่เป็นนักเขียนเสี่ยวโต้วนั่น!
จู่ๆ เสี่ยวโต้วในบทบาทถานเจ๋อก็อยากจะทะลุมิติกลับไปตบกะโหลกตัวเองสักหลายที
“ใจเย็นก่อนอาเจ๋อ คนพวกนั้นไม่มายุ่งกับเราที่ไม่มีผลประโยชน์จะให้หรอก”
สือจิ่วยื่นมือไปลูบต้นแขนเขาเบาๆ น้ำเสียงอาเจ๋อเดือดดาลเจ็บแค้นแทนสือจวี๋จนเธอรับรู้ได้ทั้งหมด
ก่อนนอนคืนนี้พวกเธอคุยกันด้วยเรื่องชวนเครียดเกินไปไหม
“ก็ไม่แน่นะ” เฉิงหยางปิงเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย ขืนปล่อยให้ไต่เต้าจนเข้าไปอยู่ในกงปู้ ได้สำเร็จ ยิ่งไม่เป็นผลดีกับพวกเขา พวกขุนนางชอบซ่องสุมกำลังคนไว้ใช้งาน สักวันเฉิงหยางปิงจะส่งคนมาพาอาจื้อกับเสี่ยวจิ่วไปอยู่ด้วย ลูกชายคนโตที่ตัวเองไม่เคยยอมรับ จะถูกลูกชายที่เกิดจากฟูเหรินสกุลอู่เหยียบย่ำใช้เป็นบันไดไต่เต้า และหลอกใช้ทำงานสกปรกแทนทั้งหมด
ชะตาเลวร้ายของอาจื้อทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะบิดาตัวเอง
เสี่ยวจิ่วแสดงอาการรังเกียจสามีชั่วคนนี้มาก ตั้งแต่ฟื้นก็ไม่ฟูมฟายจะเฝ้ารอเฉิงหยางปิงสักนิด ผิดกับต้นฉบับเดิมลิบลับ
สือจวี๋คนเดิมเฝ้ารอผัวชั่วของนางอยู่หลายปี หลังสิ้นท่านปู่ท่านย่า ถานเจ๋อก็เป็นอีกคนที่ดั้นด้นไปหาหญิงสาว ยอมทำงานให้สกุลเฉิงเพราะอยากอยู่ใกล้เพื่อดูแลนาง
เส้นเรื่องมันเปลี่ยนไปแล้วก็ดี เขาอาจรับมือทุกปัญหาได้หรือไม่ได้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของวันหน้า แต่ถ้าวันไหนคนสกุลเฉิงส่อแววจะเข้ามายุ่มย่าม เขาจะรีบตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อก้อนแป้งน้อยในท้องนางจะไม่กลายเป็นตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้
เด็ดปีกอินทรีใช้กับเฉิงหยางปิงไม่ได้ เพราะเขาจะไม่ยอมให้มันเป็นอินทรี ชายคนนั้นจะเป็นได้แค่ไก่ที่ถูกเขาเฉือนปีกสับขา เขาจะทำให้มันรู้ว่าอย่าริเล่นกับถานเจ๋อคนนี้เป็นอันขาด!
“อาเจ๋อ...อาเจ๋อ” เขาตกอยู่ในภวังค์อีกแล้ว ต้องเรียกสองหนถึงหันมามองหน้าเธอ “อย่าคิดเรื่องเฉิงหยางปิงอีกเลย สู้คุยกันเรื่องเส้นทางเศรษฐีของเราต่อดีหรือไม่”
ถานเจ๋อหัวเราะ “ข้าฟังพี่”
“อีกไม่นานจะเข้าหน้าฝน คงรองน้ำไว้กินใช้ได้สักระยะ หลังบ้านข้ามีไหหลายใบปีนี้ไม่ได้ใช้ดองผัก และหลังบ้านพวกเรามีแอ่งน้ำไหลลงมาจากเขา ถ้าผันน้ำให้ไหลมาที่บ้านพวกเราได้คงดี ตอนเจ้าออกไปค้างในป่าหรือไปค้าขายไกลๆ ท่านปู่จะได้ไม่ลำบากเรื่องหาบน้ำ บ่อกลางหมู่บ้านพวกเราก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอยู่แล้ว บ่อหินหลังบ้านข้าถึงมันเล็ก แต่ก็เก็บน้ำไว้ใช้ได้หลายวัน รอใช้จนพร่องสองในสาม เราค่อยเดินไปเปิดแผงกั้นน้ำอีกรอบ ทำรางน้ำด้วยไผ่ต้นใหญ่ๆ หรือเปลือกไม้หนาวางต่อๆ กันคงได้ล่ะมัง”
ถานเจ๋อฟังแล้วอึ้งที่สือจิ่วพูดออกมาได้เป็นฉากๆ กับระบบรางส่งน้ำของนาง ด้านหญิงสาวเห็นเขามองเธอแปลกๆ ก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ อยากบอกเหลือเกินว่าเคยเห็นในรีสอร์ตตอนไปเที่ยวกับเสี่ยวหนิง ทำรางน้ำหรือท่อประปาดินเผาโบราณเธอก็เคยอ่านเจอในเว็บไซต์มาบ้าง
“เรื่องพวกนี้ข้าเคยเห็นผ่านตาในหนังสือที่บ้านสกุลเฉิงน่ะ”
“อ้อ...” สกุลเฉิงเป็นบัณฑิตย่อมต้องมีตำราความรู้เหล่านี้บ้าง ในนิยายเขาเขียนถึงหอตำราลับในอารามเทียนหลุน ที่นั่นเก็บรวบรวมองค์ความรู้มากมายมีเพียงไม่กี่คนที่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน หนึ่งในนั้นก็คือจ้าวต่งหมิงในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า
“ที่ตลาดหน้าวัดอิ่นเหมินพอจะมีคนมาขายตำราบ้างไหม ข้าอยากได้เรื่องเกี่ยวกับสมุนไพร การใช้ประโยชน์ทางยาทำนองนี้”
ไม่รู้ว่าตำราพวกนี้จะมีคนบันทึกไว้เพื่อนำมาขายหรือไม่ เพราะความรู้เรื่องยาและสมุนไพรส่วนใหญ่มักสืบทอดกันในครอบครัวคนเป็นหมอเท่านั้น
สือจวี๋รู้หนังสือบวกกับเธอเรียนจบมหา’ลัย ถ้าหากมีตำราให้ศึกษาเพิ่มเติมระหว่างตั้งท้องเวลาที่นั่งๆ นอนๆ จะได้ไม่เสียเปล่า
“อาจมีนะ ไว้ข้าจะดูให้ หรือถ้าไม่มี ข้าจะออกไปหาจากที่อื่นมาให้พี่เอง” ถานเจ๋อคิดว่าเขาควรไปที่อารามเทียนหลุนแล้วลอบขนตำราสำคัญๆ มาไว้กับตัวตั้งแต่เนิ่นๆ
เพราะเขาเองก็ต้องการจะรอบรู้และเชี่ยวชาญให้ได้ทุกด้าน ความรู้เดิมของถานเจ๋อมีไม่มาก แต่ไม่ยากเกินเขาจะเพิ่มมันเข้าไป สายใช้กำลังร่างกายของถานเจ๋ออาจจะไม่แข็งแกร่งพอ เปลี่ยนมาใช้สมองหาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วค่อยใช้เงินซื้อคนมีฝีมือต่อยตีมาเสริมกำลังอีกทีนับเป็นหนทางเข้าท่าดีไม่น้อย

บัณฑิตระดับอำเภอ เรียกกันทั่วไปว่าซิ่วไฉ เป็นลำดับแรกของการสอบขุนนางท้องถิ่น และจะมีการเปิดสอบระดับภาคทุกสามปี ต่อด้วยสอบระดับประเทศและการเข้าไปสอบในวังหลวง ตำแหน่งสูงสุดของบัณฑิตที่สอบระดับนี้คือจ้วงหยวนหรือคุ้นกันในซีรี่ส์ฉายในไทยว่าจอหงวน
กงปู้ กระทรวงโยธาธิการ รับผิดชอบงานโยธา จ้างช่างและคนงาน ผลิตอุปกรณ์ของแคว้น ดูแลเส้นทางคมนาคม ดูแลมาตรฐานการชั่งตวงวัด ตลอดจนระดมทรัพยากรจากเมืองต่างๆ

Komento sa Aklat (6)

  • avatar
    mustafaareef

    good

    31/08

      0
  • avatar
    สุภาพรฯ สิงห์คำ

    ชอบค่ะ

    24/05

      0
  • avatar
    น้อยอิอิหลอด

    DD you

    18/05

      0
  • Tingnan Lahat

Mga Kaugnay na Kabanata

Mga Pinakabagong Kabanata