นามปากกาเขาคือเสี่ยวโต้ว พนักงานออฟฟิศอายุยี่สิบเก้า ชีวิตกลางวันวุ่นวายกับคนร้อยแปด ตกค่ำจึงเริ่มชีวิตนักเขียนในห้องเช่าสี่เหลี่ยมแคบๆ ตามลำพัง เพราะเขาแยกตัวออกมาใช้ชีวิตคนเดียวตั้งแต่เข้าเรียนมหา'ลัย พ่อแม่เขายังอยู่ร่วมบ้านด้วยความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่น พี่ชายแต่งพี่สะใภ้คนต่างชาติเข้ามาอยู่ด้วยกัน แม่เขาไม่ชอบเธอเท่าไรชีวิตมนุษย์เงินเดือนแสนน่าเบื่อของเขาเพิ่งจะมีสีสันขึ้นก็ตอนเขียนนิยายแล้วเริ่มมีคนอ่าน กระทั่งมันมาดังเปรี้ยงกับเรื่องของจ้าวต่งหมิงฯ ทุกค่ำคืนเขาสนุกกับการขีดเขียนเส้นทางเดินชีวิตของตัวละครเหล่านั้น เพราะโลกความจริงเขาเป็นพระเจ้าในชีวิตตัวเองไม่ได้ยังไงล่ะ สองเดือนมานี้งานออฟฟิศหนักหน่อยเพราะเพื่อนร่วมงานในแผนกสองคนประสบอุบัติเหตุพร้อมกัน งานถูกโยกมาอยู่ในมือเขาขณะรอบริษัทนัดสัมภาษณ์พนักงานใหม่ อีกทั้งเขาอยากเร่งต้นฉบับให้มันจบเร็วๆ จะได้ไปเขียนเรื่องอื่นต่อ แนวทะลุมิติเกิดใหม่ฝึกวิชาพลังเทพสัตว์ปีศาจกำลังดัง เขาเลยอยากจะลองเขียนแนวนี้ดูบ้างงานก็หนัก ยังมีโมเม้นต์โง่ๆ เดินตากฝนจนตัวเองป่วย แล้วมาเจอความเห็นต่อว่าจากคนอ่านก็เลยทำเขาใจห่อเหี่ยวได้ง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ฝืนความเหนื่อยล้าเร่งมือพิมพ์นิยายยิกๆ เผลอฟุบหลับไปตอนไหนไม่รู้ แล้วเขาก็ฝันร้าย...ฝันว่าถูกเฉิงจื้อชี้หน้าด่าทอและทุบตีเขาตุบตับหลายที ‘ดีแต่สร้างปัญหาและเรื่องร้ายให้ผู้อื่น สนุกนักหรือไร สนุกนักใช่ไหม อย่างข้าสมควรต้องเป็นคนถ่อยคนเลวหรือ เจ้าสิเลว ไอ้ลูกเต่าบัดซบเอาแต่ใจ!’เขางี้สะดุ้งตื่นมาเหงื่อชุ่มโชก เนื้อตัวร้อนผ่าวเพราะไข้ขึ้น เดินลากขาโซซัดโซเซไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็วูบ...ภาพตัด ล้มหัวฟาดพื้นห้องน้ำตายแล้วล่ะมั้ง รู้สึกตัวอีกทีในสภาพเปียกปอนนอนหายใจพะงาบๆ มองท้องฟ้าท่ามกลางคนมุงนับสิบ จากเสี่ยวโต้วกลายเป็นถานเจ๋อที่เพิ่งถูกนักเขียนสั่งให้ตายในช่วงท้ายของนิยายเล่มสองที่รอตีพิมพ์เสี่ยวโต้วคนดังลอบมองท้องที่ยังแบนราบของสือจวี๋ตัวละครของเขาที่อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนชื่อเป็นสือจิ่ว เขาเพิ่งให้นางตายก่อนหน้าถานเจ๋อไม่นาน อย่างนี้ไงเล่า เขาถึงถูกคนอ่านส่วนหนึ่งด่าจนใจห่อเหี่ยว แต่ยิ่งถูกด่ายิ่งเป็นกระแส เลือกเขียนให้ตัวละครมีจุดจบแบบนี้แล้วเขาก็ต้องไปให้สุดทางสือจวี๋กับถานเจ๋อก็แค่ตัวประกอบเกรดเอ คาดไม่ถึงจะทำให้คนอ่านเกิดความรู้สึกเศร้าเสียใจกับชะตากรรมของทั้งคู่ เพราะคนอ่านส่วนหนึ่งเอาใจช่วยตัวร้ายเฉิงจื้อเสี่ยวโต้วเก่งใช่ไหมล่ะที่ทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมได้มากขนาดนี้ แต่เขาไม่ได้เขียนฉากถานเจ๋อจมน้ำพร้อมสือจวี๋หรอกนะดูเหมือนว่าเรื่องราวถูกทำให้ย้อนกลับมาจุดเริ่มต้นจากมือที่มองไม่เห็น และชีวิตภูมิหลังของถานเจ๋อกับคนรอบตัวก็ผุดขึ้นเพิ่มเติมในหัวเขาเองโดยที่บางข้อมูลเขาไม่เคยใส่ลงไปเขาเป็นพระเจ้าของนิยายเรื่องจ้าวต่งหมิงยอดบุรุษแดนศุภะ แล้วใครล่ะ เป็นพระเจ้าของชีวิตเขาอีกทีถานเจ๋อหรือว่าเฉิงจื้อ...สือจวี๋เป็นมารดาของเฉิงจื้อ เขาควรหาโอกาสไม่ให้เจ้าเด็กนี่เกิดมาเสียเลยดีไหม ถือว่าตัดจบเรื่องราวตั้งแต่ตอนนี้แต่จะให้ทำบาปซ้ำสองเขาก็ไม่กล้าเสี่ยง ในฝันมือเท้าเฉิงจื้อนั้นไม่เบาเลย ไม่แน่ว่าคนส่งเขามาอยู่ในโลกนิยายอาจเป็นเจ้าปีศาจร้ายก้อนแป้งน้อย ถ้าเขาดูแลเสี่ยวจิ่วและทำดีกับเฉิงจื้อเข้าไว้ วันหนึ่งเขาอาจจะได้กลับไปเป็นเสี่ยวโต้วนั่งพิมพ์นิยายอยู่หน้าคอมอีกครั้งก็เป็นได้ตอนเดินรอบหมู่บ้าน เสี่ยวจิ่วชมเขาว่าช่างรอบรู้พูดจาฉะฉานดูมั่นใจนัก คงเพราะได้ออกจากหมู่บ้านไปพบเจอผู้คนมากมายจะไม่ให้เขารอบรู้ได้อย่างไร ก็นิยายเรื่องนี้เขาสร้างทุกฉากและสร้างเกือบทุกตัวละครขึ้นมาเอง การที่เขาโผล่มาอยู่นี่มันต้องส่งผลกับเส้นเรื่องอยู่แล้ว เพราะเขาจะไม่ยอมถูกฆ่าตายง่ายๆ จนกว่าจะได้กลับบ้านหรือถ้าเขาต้องติดอยู่ในร่างถานเจ๋อตลอดไป ทุกย่างก้าวยิ่งต้องระวังให้มาก ค่อยๆ ประคับประคองชีวิตตัวเองไปพร้อมกับชีวิตสองแม่ลูก รวมถึงดูแลท่านปู่ท่านย่าให้ดีที่สุด คิดถึงท่านปู่ถานกับท่านย่าหลินก็นึกอยากหักมือตัวเอง เหตุใดเขาใจร้ายเขียนให้คนดีรอบตัวเฉิงจื้อต้องตายอนาถ การมอบชีวิตครอบครัวสุขสันต์พร้อมหน้าให้เด็กคนหนึ่งมันยากนักหรือไรนั่นไม่แปลกเลยที่ตัวร้ายอย่างเฉิงจื้อจะรู้สึกโกรธ เกลียด ถึงขั้นอาจสาปแช่งให้เขามาเจอเรื่องเลวร้ายดูบ้างแต่มันก็เป็นนิยายที่สมจริงไหมล่ะ ปรกติทุกคนบนโลกก็ไม่มีใครมีแต่ความสุขตลอดชีวิตอยู่แล้วนี่เขารู้จุดที่ต้องระวัง รู้เหตุการ์ล่วงหน้าเพื่อจะได้ป้องกันและเข้าไปแก้ไขเปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดี หากไร้หนทางกลับไปโลกของเสี่ยวโต้ว เขาก็จะเป็นถานเจ๋อที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลสามารถปกป้องคุ้มครองทุกคนให้ได้!“คิดอะไรอยู่” จู่ๆ อาเจ๋อก็นิ่งเงียบมาอึดใจใหญ่แล้ว“คิดเรื่องทำอย่างไรพวกเราจะรวย และใช้ชีวิตสุขสบายกว่านี้น่ะสิ” จากเคยใช้ชีวิตสะดวกสบายด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน หิวก็หยิบของในตู้เย็นใส่ไมโครเวฟ หนาวก็มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ตอนนี้เขาอยู่ได้ด้วยไฟฟืน เทียนไขและน้ำมันตะเกียง ช่วงนี้ฟ้าโปร่งนอนสบายก็จริง หากเข้าฤดูฝนฤดูหนาวล่ะ นั่นแหละชีวิตหฤโหดของจริง เครื่องทำความร้อนไม่มีใช้ในวันหิมะตก อยากนอนอุ่นคงพึ่งได้แค่กะละมังไฟข้างเตียง อย่างดีก็เพิ่มเตาอังเท้าอีกสักอัน ก่อนเข้าหนาวแรกของชีวิตที่ไท่โหยวเขาคงต้องรีบปรับเตียงไม้ธรรมดาให้เป็นเตียงเตาและจะต้องทำเผื่อท่านปู่ท่านย่ากับพี่เสี่ยวจิ่วด้วย“เจ้าคิดแบบข้าเลย เริ่มต้นคงต้องลดค่าใช้จ่ายเพราะตอนนี้ข้าไม่ได้ทำการค้าเหมือนเจ้า ถึงคิดอยากปลูกผักไว้ทำกิน รอให้อาจื้อตั้งไข่เดินเตาะแตะได้ข้าค่อยหางานทำเพิ่ม”“อาจื้อ...” นางตั้งชื่อลูกรอแล้วหรือ “เอ่อ...ชื่อนี้แวบขึ้นในความฝันข้าน่ะ” แวบขึ้นมาจริงๆ เธอไม่ได้โกหก “ลูกข้าชื่อสือจื้อ”
good
31/08
0ชอบค่ะ
24/05
0DD you
18/05
0Tingnan Lahat