มหาลัย“ เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะ “ ทัพบอกเมื่อมาจอดที่หน้าคณะของอิง อิงที่กำลังเปิดประตูลงหันขวับไปทางทัพทันที“ มาทำไม “ “ ก็..มารับกลับคอนโดไง “ ทัพบอกเสียงนุ่ม“ ไม่จำเป็น “ อิงพูดด้วยความไม่พอใจ“ เลิกกี่โมง “ ทัพถามออกมาหน้าตาเฉย โดยที่ไม่ได้สนใจคำปฎิเสธของอิงเลยสักนิด“ กูบอกว่าไม่ต้องไง มึงไม่รู้เรื่องหรอ! “ อิงขึ้นเสียงใส่ด้วยความโมโห“ ก็แค่ตอบว่าเลิกกี่โมง นี่พี่ไม่รู้เรื่องหรอ “ ทัพแกล้งถามกลับไปอย่างกวนๆ อิงกัดปากตัวเองด้วยความโมโหแล้วตีไปที่ไหล่ทัพอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้“ กวนตีน!! “ “ หึหึหึ ตอบมาเร็วๆถ้าพี่ไม่ตอบ ผมไม่ให้ลงนะ “ ทัพพูดจบแล้วกดล็อกทางฝั่งอิงทันที อิงมองหน้าทัพด้วยความโมโหแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรอีกฝ่ายได้“ กูเลิกบ่าย! “ อิงสะบัดเสียงตอบด้วยความไม่พอใจพลางหันหน้าไปทางหน้าต่าง ทัพยกยิ้มมุมปากนิดๆ“ โอเคครับ พี่รอผมที่หน้าคณะละกันเดี๋ยวผมมารับ ห้ามไปไหนกับใครเด็ดขาดนะ “ ทัพมองหน้าอิงอย่างจริงจัง อิงที่เห็นสายตาของทัพเริ่มรู้สึกหวั่นใจแปลกๆ“ เออ “ อิงบอกปัดอย่างรำคาญ ทัพจึงปลดล็อกประตูทางฝั่งของอิง ทำให้อิงเปิดประตูแล้วเดินลงไปทันที สีหน้าของทัพที่ยิ้มอยู่ในตอนแรกแปลเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง“ ผมไม่ยอมให้พี่ไปกับใครแน่ “ เสียงเข้มของทัพพูดกับตัวเองเบาๆ และแน่นอนว่าทัพไม่ได้หมายถึงเพื่อนของร่างบาง แต่หมายถึงไปกับคนอื่นเขาเองก็ไม่อยากพูดขู่อะไรอีกฝ่ายเพราะไม่อยากให้อิงรู้สึกกลัว ทั้งๆที่จริงนิสัยของเขาไม่ใช่คนอ่อนโยนเท่าไหร่นัก เรื่องนี้คนใกล้ชิดที่รู้จักเขาจะรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง“ เฮ้อ!! “ ทัพถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัดที่ต้องฝืนตัวเองแบบนี้ เพราะความที่เขาชอบอิง..ชอบมาก มันเลยทำให้เขายอมที่จะทิ้งนิสัยเดิมๆของเขาไปโดยไม่นึกลังเลอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาอึดอัดมากแค่ไหนก็ตาม อย่างเช่นตอนที่เห็นอิงไปเดินกับใครหรืออยู่ใกล้ใคร มันแทบจะทำให้เขาเดินเข้าไปกระชากร่สงบางออกมาเลยด้วยซ้ำแต่เพราะเขารู้ดีว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้เพราะยังไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของอีกฝ่าย มันจึงทำให้เขาพยายามอดทนให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะเอาชนะใจของอิงTru…. Tru….เสียงสั่นของทัพ ทำให้ร่างสูงหยิบขึ้นมาดูทันทีและพบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาโทรเข้ามา“ ฮัลโหล “ “ ( กลับมาไทยไม่บอกกูเลยนะ ) “ เสียงนิ่งของแทนพูดขึ้น ทัพยกยิ้มมุมปากนิดๆ“ กูกลับมาละ “ “ ( กวนส้นตีนละสัส หึหึหึ แล้วนี่ใจคอมึงจะไม่มาหาพวกกูบ้างเลยรึไง ) “ “ รอก่อน “ ทัพพูดสั้นๆ นั่นจึงทำให้แทนรู้ได้ทันทีว่าทัพหมายถึงอะไร“ ( หึ ถ้างั้นก็ได้ เอาไว้เดี๋ยวกูบอกพวกไอคิวมันให้ละกันว่ามึงมาแล้วแต่ยังไม่โผล่หน้ามาหาพวกมัน ) “ แทนบอก ทัพยกยิ้มมุมปากพลางเอนตัวด้วยท่าทีสบายๆ“ ตามนั้น “ ทัพบอก ก่อนที่แทนจะตัดสายไปหลังจากนั้นร่างสูงก็ขับรถกลับไปยังคอนโดของตัวเอง....ทางด้านอิง“ ไงวะ หนุ่มมาส่งหรอจ๊ะหนูอิง “ ไก่แซวเพื่อนขำๆเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามาในห้อง อิงหันไปมองไก่ตาขวางด้วยความหงุดหงิด“ เดี๋ยวมึงก็เจอส้นตีนมันหรอกห่าไก่ “ อั้มที่นั่งข้างไก่พูดขึ้นยิ้มๆ อิงหยิบปากกาในกระเป๋ามาปาใส่อั้มทันที“ ฮ่าๆๆๆ “ ไก่หัวเราะออกมาด้วยความสะใจเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อน อั้มเองก็ขำด้วยเช่นกัน“ พวกมึงแม่ง! “ อิงหันไปมองขวางเพื่อนทั้งสองคน“ ตกลง..เรื่องจริงใช่ปะ “ หมีที่นั่งด้านหลังเลิกคิ้วเป็นเชิงถามยิ้มๆ อิงถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจและไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป ซึ่งนั่นก็เป็นการยืนยันได้ดีว่าสิ่งที่ไก่แซวในตอนแรกเป็นความจริง“ นี่กูถามจริงเหอะ มึงเกลียดอะไรเด็กนั่นนักหนาวะ กูเห็นมันก็ดูแลมึงดีนี่หว่า แถมยังตามใจมึงสุดๆด้วย “ ดีมถามด้วยความข้องใจ“ เรื่องของกู “ อิงตอบเสียงห้วนโดยไม่ได้บอกเหตุผลจริงๆของตัวเองไปจะให้เขาบอกได้ไงว่าเขาไม่ได้เกลียดไอบ้านั่น แต่เขาแค่ไม่ชอบที่มันชอบกวนตีนเขาเฉยๆ แถมเขายังรู้สึกไม่ชินอีกด้วยที่มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาตามจีบ เพราะทั้งชีวิตของเขา เขาเคยแต่ตามจีบผู้หญิงเพียงเท่านั้นและมีบางทีที่ผู้หญิงเข้ามาจีบเขาเช่นกัน แต่สำหรับผู้ชายนั่น และมันก็คือคนแรกที่กล้าเข้ามาจีบเขาซึ่งๆหน้าแบบนี้“ มึงเป็นเชี้ยไรวะไอหมี “ ดีมที่นั่งใกล้หมีถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนมองโทรศัพท์แล้วนิ่งไป เพื่อนคนอื่นๆต่างก็หันไปมองหมีด้วยความสงสัยเช่นกัน“ พวกมึง.. “..“ พี่หมีเขาเป็นอะไร “ ทัพถามในระหว่างที่กำลังขับรถไปที่คลับแห่งหนึ่งซึ่งหมีนั้นเป็นคนนัดให้พวกเขาไปที่นั่น“ อกหัก เมียมันบอกเลิก “ อิงพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะเขาสังเกตุผู้หญิงที่หมีคบด้วยสักพักแล้วว่าเธอไม่ได้จริงใจอย่างที่บอกกับเพื่อนของเขาในตอนแรกเพราะเธอคนนี้เคยอ่อยเขาตอนที่หมีมันไม่อยู่ แต่เขานั้นก็ไม่ได้บอกเพื่อนแต่อย่างใดเพราะกลัวว่าเพื่อนเขามันจะเสียใจเพราะมันเองก็รักผู้หญิงคนนี้มาก“ กูละไม่เข้าใจแม่งจริงๆว่ามันจะรักอะไรนักหนากับยัยนั่นวะ แรดก็แรดแม่ง! อ่อยคนอื่นไปทั่ว พอไอหมีมันถามก็ตอแหลบอกเพื่อนมั่งพี่น้องมั่ง พี่น้องเชี้ยไรท้องชนกันขนาดนั้นวะ! “ อิงระบายออกมาอย่างหัวเสีย ทัพเองก็ยกยิ้มมุมปากนิดๆเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย“ หัวร้อนหรอเราอ่ะ “ ทัพแกล้งแซว อิงหันไปมองขวางทัพนิดๆ“ ตลกละสัส “ “ หึหึหึ นี่ก็ถือว่าพี่เขาเอาสิ่งไม่ดีออกไปแล้วไง อิงเองก็ไม่ต้องคิดมากหรอกยังไงเขาก็เลิกกันแล้ว “ ทัพบอกพร้อมกับยิ้มบางๆส่งไปให้“ แต่กว่าแม่งจะเลิกกันอ่ะ มึงรู้มั้ยว่าไอหมีมันหมดเงินไปเท่าไหร่ กูแม่งเคยเตือนมันละว่าอย่าใช้เงินไปกับแม่นี่มาก ระวังจะถูกมันหลอก แต่แม่งก็ไม่ฟัง สุดท้ายเป็นไง ควายดีดีนี่เอง “ อิงพูดอย่างหัวเสียด้วยความเป็นห่วงเพื่อน แต่เพื่อนของเขามันก็ช่างดื้อดึงมากเหลือเกิน เลยเสียเงินให้กับผู้หญิงคนนั้นเป็นแสนๆ“ ไม่เอาหน่า ไม่ว่าเขานะ ยังไงนั่นก็ผู้หญิงแล้วคนที่อิงว่ามันก็เพื่อนด้วย “ ทัพพูดเสียงนุ่มพอรถติดไฟแดงเขาก็หันไปมองคนข้างๆที่กำลังกอดอกด้วยความไม่พอใจอยู่“ ไม่อารมณ์เสียสิ “ ทัพลูบหัวเล็กเบาๆ“ จะไม่ให้กูอารมณ์เสียได้ไงเพื่อนกูถูกหลอกนะ! “ อิงหันมาแว้ดใส่ทัพด้วยความโมโห โดยลืมการกระทำของทัพที่ทำลงไปเสียสนิทว่าตัวเขาเคยรู้สึกไม่ชอบแค่ไหน“ แต่มันผ่านมาแล้วนี่ครับ “ ทัพพูดเสียงนุ่มและพยายามลูบหัวให้อีกฝ่ายใจเย็น อิงเองก็ได้หันหน้าไปทางหน้าต่างด้วยความโมโห แต่ก็รู้สึกเอะใจบางอย่าง“ เดี๋ยวนะ “ อิงหันไปมองหน้าทัพพร้อมกับปัดมือที่กำลังลูบหัวตัวเองอยู่ทันทีเมื่อนึกได้“ ใครให้เรียกชื่อเล่นกู กูอายุมากกว่ามึงนะ “ อิงโวยวายทันที ทัพยิ้มกว้างอย่างขำๆเมื่อเห็นท่าทางเหมือนแมวขู่ของอีกฝ่าย“ หยวนๆให้หน่อยไม่ได้หรอ ก็ไม่ได้อยากให้เป็นพี่นี่ “ ทัพเอนพิงไปที่เบาะพร้อมกับเอียงคอมองอิงอย่างอ้อนๆ อิงชะงักไปนิดเมื่อเห็นสายตาที่เว้าวอนของอีกฝ่าย“ ไม่ “ อิงตอบพร้อมกับหันหน้าไปอีกทาง ทัพอมยิ้มนิดๆเมื่อเห็นใบหูที่แดงกล่ำของอิงเขาไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะไฟเขียวพอดี ทัพจึงตั้งหน้าตั้งตาขับรถจนกระทั่งไปถึงที่หมายอิงและทัพเดินลงมาจากรถพร้อมกับเดินเข้าไปข้างในพร้อมกัน โดยมีมือของทัพจับมือของอิงเอาไว้ ตอนแรกอิงก็ไม่ยอมและขืนตัวเองไม่ยอมเดินตามอีกฝ่ายไป แต่ทัพอ้างว่าอิงอาจจะโดนคนอื่นชนจนคลาดกับเขาและอาจจะทำให้มีคนเข้ามาจีบอิงได้ อิงจึงยอมให้ทัพจับมือตัวเองจนเดินไปถึงที่โต๊ะ ซึ่งมีคนอื่นๆมาอยู่ก่อนแล้ว“ แม่งนั่งร้องไห้ไม่พูดไม่จากับใครเลยสัส “ อั้มหันไปพูดกับอิง พร้อมกับมองสภาพเพื่อนที่มีคาบน้ำตาเปื้อนอยู่ที่ใบหน้าแล้วนั่งร้องไห้อยู่เงียบๆ“ อาการแม่งหนักมาก “ ไก่พูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมานิดๆด้วยความสงสารเพื่อน“ แค่อีนั่นคนเดียวทำให้มึงเป็นแบบนี้เลยหรอวะไอหมี “ อิงพูดด้วยความโมโห ไก่ อั้มและดีมหันไปมองอิงทันที เพราะรู้ดีว่าอิงเป็นปากร้ายมากแค่ไหน“ ไออิง “ ดีมพูดปรามเพราะเห็นว่าหมีเม้มปากด้วยความเจ็บปวด อิงเองก็ถอนหายใจเพื่อระบายความโมโห โดยมีทัพตบไหล่เล็กเบาๆเพื่อปลอบให้อีกคนใจเย็นลงกว่านี้“ กูขอโทษ “ อิงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเพราะรู้สึกผิดนิดๆ“ ไม่เป็นไรมึง..กู..กูเข้าใจ “ หมีพูดเสียงสั่นและก้มหน้าลงมองแก้วที่อยู่ในมือ“ กูรักเขามาก..รักมากจริงๆ ฮึก กูไม่เข้าใจว่ะ ว่าทำไม..เขาต้องมาบอกเลิกกูด้วยวะ ฮือออออ “ หมีปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น เพื่อนๆได้แต่มองหน้ากันด้วยความสงสาร“ รักเขาแต่ก็อย่าลืมรักตัวเองด้วย “ ไก่พูดขึ้น หมีเข้าไปโผลกอดไก่ทันที ไก่เองก็กอดตอบกลับไปเช่นกัน“ พอๆๆไอสัส แดกเหล้ากันดีกว่าแดกๆๆให้ลืมแม่งไปเลยมึง! “ อั้มรีบพูดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศทันที“ อย่ากินเยอะนะครับ “ ทัพกระซิบบอกอิงเมื่อเห็นว่าอิงยกแก้วดื่มทีเดียวจนหมด“ อย่าเสือกหน่า เรื่องของกู “ อิงหันไปมองทัพตาขวาง “ แหนะๆๆมาหวานอะไรกันพวกมึง “ ไก่หันไปแซวอิงเมื่อเห็นทั้งสองกระซิบกระซาบอะไรกัน“ เสือกกก “ อิงหันไปถลึงตาใส่ไก่ “ ใช่สิ๊ มึงคงอยากจะรู้กับน้องทัพสองคนสินะ ถึงไม่อยากให้พวกกูเข้าไปยุ่งอ่ะ ใช่ปะล้าา “ ไก่ยังคงพูดแซวออกมาอีก กรอกตาใส่โดยที่ไม่พูดอะไรต่อเพรากลัวว่ามันจะเข้าตัว“ หึหึหึ “ ทัพหัวเราะในลำคอน้อยๆ“ หัวเราะอะไรของมึง “ อิงหันไปขมวดคิ้วใส่ทัพด้วยความไม่พอใจ“ ถ้าบอกว่าเรื่องของผม อิงจะโกรธมั้ย “ ทัพแกล้งถาม“ เอ๊ะไอทัพ! นี่มึงกวนตีนกูหรอวะ “ อิงหันไปมองแล้วผลักทัพอย่างหาเรื่อง“ เฮ้ยๆๆอย่าพึ่งตีกันพวกมึง ไอหมีมันเศร้าอยู่ ฮ่าๆๆๆ “ อั้มหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นท่าทางของอิง ซึ่งดูยังไงก็รู้ว่าเพื่อนเขาไม่สามารถสู้ทัพได้แน่นอนถ้าเกิดมีเรื่องกันขึ้นมาจริงๆ เพราะแค่ขนาดตัวก็ต่างกันมากแล้ว“ มึงจะขำทำเหี้ยไรเนี้ย ฮืออออ “ หมีเงยหน้าจากอกของไก่แล้วหันไปแว้ดใส่อั้มทันที ทั้งหมดหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อน หมีปาดน้ำตานิดๆแล้วยกแก้วขึ้นดื่มทีเดียวจนหมด“ เชี้ยๆๆใจเย็นมึง เดี๋ยวก็เมาไม่รู้เรื่องหรอก “ อั้มรีบดึงแก้วออกจากมือของหมีทันทีแต่ไม่ทันแล้วเมื่อเพื่อนของเขาดื่มจนหมด“ ให้แม่งเมาเหอะ ไม่งั้นแม่งก็ร้องไห้จนเลอะเทอะอีก “ อิงได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆแล้วยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มบ้าง ส่วนทัพนั้นก็ดื่มเงียบๆพร้อมกับเอามือคอยประคองหลังเพื่อกันไม่ให้อิงหงายท้องเพราะเก้าอี้ที่พวกเขานั่งเป็นเก้าอี้ที่ไม่มีที่พิงหลัง ไก่ที่กังเกตุก็ได้แต่มองมือทัพยิ้มๆ“ อิจฉาวุ้ย! “ เขาแกล้งพูดลอยๆ อิงหันไปมองไก่ด้วยความสงสัย“ อิจฉาไรมึงวะ “ “ นั่นดิ มึงอิจฉาไรเนี้ย “ อั้มพูดขึ้นด้วยความสงสัยเช่นกัน“ เปล๊าาาาา กูแค่พูดเฉยๆ “ ไก่ลอยหน้าลอยตาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งมือของไก่นั้นก็ต้องคอยประคองไม่ให้หมีล้มลงไปที่พื้นด้วยเช่นกัน เพราะหมีเริ่มจะนั่งไม่ตรงแล้วเพราะดื่มไปเยอะพอสมควรอั้มและดีมหันมองหน้ากันนิดๆแต่พอหันไปมองหน้าอิงที่มองไปรอบๆอยู่นั้น พวกเขาก็ต้องสังเกตทางด้านหลังของเพื่อน ซึ่งมีมือหนาของทัพคอยประคองโดยที่อิงไม่รู้ตัว อั้มกับดีมก็หันไปมองหน้ากันยิ้มๆทันที“ แม่ง กูอยากมีแบบนี้บ้างจังงงง “ อั้มพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ นั่นยิ่งทำให้อิงขมวดคิ้วด้วยความงงมากกว่าเดิม“ ชาติหน้าเถอะมึงอ่ะ “ ดีมแกล้งว่า “ พวกมึงเป็นเชี้ยไรกันเนี้ย กูงงไปหมดละนะ “ อิงขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อนทั้งสามด้วยความสงสัย“ มึงไม่ต้องรู้หรอก “ อั้มแกล้งพูดยิ้มๆ เพราะถ้าขืนเขาพูดไป รับรองเลยว่าเพื่อนเขามันต้องโวยวายออกมาแน่นอน ทัพเองก็หันไปมองหน้าอั้มดีมและไก่ยิ้มๆ ซึ่งทั้งสามก็ยิ้มกรุ้มกริ่มสงมาให้ทัพ“ มองเหี้ยไรกันเนี้ย “ อิงที่สังเกตเพื่อนตัวเองกับไอเด็กที่นั่งข้างๆเขาหันมายิ้มให้กันก็ถามด้วยความข้องใจ“ ไม่มีอะไรหรอกหน่า กูอยากจะยิ้มให้น้องมันไม่ได้รึไง หรือว่ามึงหึง “ ไก่แกล้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม“ อิงหึงหรอ!? “ ทัพหันไปถามอิงยิ้มๆ“ หึงพ่อมึงสิสัส! พวกมึงแม่งกวนตีน “ อิงถอนหายใจด้วยควาหงุดหงิดและนั่งดื่มโดยไม่ถามอะไรอีก+++++++++++++++
แต่งดีมากเลยคะ
12d
0ดี ๆ ม่กกกกก ค่าาา เเนะนำ ๆ
12d
0สนุกมาก
12d
0ดูทั้งหมด