“กลอนลืมหรือเปล่าว่าเรามารถเมล์นะ”“จริงด้วยกลอนลืมไปเลยแล้วจะทำยังไงดีล่ะคะของเยอะแบบนี้เขาจะให้เราขึ้นรถมั้ยคะพี่นาย” เธอหันมาถามเขาแววตาเริ่มเป็นกังวล“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันต้องลองดูถ้าไม่ให้ขึ้นก็ต้องเดินกลับไม่ไกลหรอกแค่หกป้ายเอง” สีหน้าของกชกรซีดลงทันทีที่เขาบอกว่าต้องเดินกลับ นภัทรกลั้นเสียงหัวเราะไว้แทบไม่อยู่ คนอะไรแกล้งง่ายชะมัด เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้“กลับกันเถอะค่ะพี่นายกว่าจะเดินถึงห้องดึกกันพอดี” กชกรทำเสียงเศร้า เธอต้องเดินกลับจริงๆ หรอ 6 ป้ายรถเมล์นั่งรถก็ไม่ไกลหรอกแต่เดินนี่สิไกลมากเลยนะเธออยากจะร้องไห้ไม่น่าเห็นแก่ของถูกซื้อซะเยอะขนาดนี้เลย“นี่ไม่รู้จริงๆ หรอว่าขึ้นรถเมล์ได้” เขาเฉลยเพราะสงสารสาวน้อยตาแดงๆ ยืนทำท่าจะร้องไห้“นี่พี่นายแกล้งหนูหรอ” กชกรหันมาถามเขาเสียงดุ แต่เขากลับหัวเราะสียงดัง ดุที่สุดแล้วสำหรับเธอ แต่สำหรับเขาหาได้กลัวไม่เสียงยังกับลูกแมวร้อง“เอาน่าขำๆ กลับเถอะมืดแล้วยังจัดห้องไม่เสร็จไม่ใช่หรือไง”“ใช่สิคะ ลืมไปเลยว่ายังจัดห้องไม่เสร็จ เอางี้ดีกว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วพี่นายไปช่วยหนูจัดของแล้วกันเดี๋ยวเลี้ยงข้าว” เธอเสนอเขาด้วยแววตาออดอ้อนตามความเคยชินที่ทำกับพ่อ แม่ บ่อยๆ อีกฝ่ายมองตาค้างไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนอ้อนได้น่ารักขนาดนี้มาก่อนทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะเขารีบตั้งสติ"ทีเมื่อเย็นบอกจะช่วยยังไม่ไว้ใจเค้าอยู่เลยตอนนี้จะให้เข้าช่วยแล้วหรอ" เขาบอกเสียงกวนๆ ยิ้มๆ อารมณ์ดี“ก็ตอนนั้นยังไม่รู้จักนี่คะแต่ตอนนี้รู้จักแล้วอุตสาห์พามาซื้อของ ถือของให้ขนาดนี้พี่คงไม่ทำอะไรหนูหรอกใช่มะหนูไว้ใจพี่ได้จริงปะ” “อืมไว้ใจพี่ได้คนเดียวนะคนอื่นต้องระวังไว้ล่ะ” เขาบอกแล้วเตือนเธออย่าไว้ใจใครง่ายๆ เขาเริ่มกลัวการไว้ใจคนง่ายของเธอเสียแล้วสิ ไว้ใจเขาเป็นเรื่องดีแต่ถ้าไว้ใจคนอื่นล่ะเขาไม่อยากจะคิด หลังจากที่นภัทรช่วยกชกรจัดของในห้องเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงชวนกันออกมาทานก๋วยเตี๋ยวมื้อเย็นกันจะเรียกมื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะนี่เกือบ4 ทุ่มแล้วเรียกว่ามื้อดึกจะดีกว่า"ขอบคุณนะคะพี่นาย" กชกรบอกเขาขณะนั่งทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน"ไม่เป็นไรครับแค่นี้เอง" เขาตอบแล้วยิ้มให้เธอ ยิ้มแบบที่ใครเห็นต้องแทบละลายกันเลยทีเดียวตัวเธอเองก็เช่นกันก็ไม่รู้ทำไมถึงได้แพ้รอยยิ้มของเขาติ้ง!!! เสียงไลน์ของกชกรดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พ่อซื้อให้เมื่อวันก่อนเป็นของขวัญเข้ามหาวิทยาลัยกรด... "เจ้นอนยัง"กลอน... "ยัง...แล้วกรดยังไม่นอนอีกหรือไงดึกแล้วนะ"กรด... " ยัง ไอแกรนด์มันให้มานอนด้วยมันบอกเหงา"กลอน... " แล้วแกรนด์ล่ะ"กรด... "หลับไปตั้งนานแล้วปล่อยให้ผมเหงาอยู่คนเดียวเนี่ย"กรด... "เจ้ไม่อยู่เหงามากๆ คิดถึงเจ้อะ"กลอน..."เดี๋ยวเจ้โทรหา กินก๋วยเตี๋ยวก่อนเพิ่งจัดห้องเสร็จหิวมาก"กรด..."โหน่าสงสารเจ้ รีบกินรีบโทรมานะเหงา"กชกรกดโทรศัพท์ไปยิ้มไป ทำให้นภัทรอดสงสัยไม่ได้ว่าคุยกับใคร ใจออกหงุดหงิดแต่ต้องระงับอารมณ์ไว้ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย"แฟนหรอ ยิ้มใหญ่เลย" เขาถามทันทีที่เธอวางโทรศัพท์ลง"ไม่ใช่ค่ะแต่คนนี้กลอนรักมาก หวงมากที่สุดผู้ชายคนนี้" เธอบอกอย่างอารมณ์ดีแล้วทานก๋วยเตี๋ยวต่อ แต่อีกฝ่ายที่ได้ฟังรู้สึกเจ็บที่ใจแปลบๆหลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จระหว่างเดินกลับหอพัก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้องชายทันที โดยมีนภัทรเดินเคียงข้าง"ไงเหงาหรอ.......เหงาเหมือนกันทำไงได้ล่ะ.........555555...........ยังไม่รู้เลย.........อะไรพอเค้าโทรมาก็จะนอนแล้วหรอ........อืมพรุ่งนี้โทรหานะ.....บอกป๊า ม๊าด้วยคิดถึง คิดถึงมากด้วย.....บ้าเค้าโตแล้วนะไม่ร้องไห้หรอกน่า.....จร่า......จร่า......พรุ่งนี้โทรหา บอกแกรนด์ด้วยเจ้คิดถึง...... อืมฝันดีนะน้องชายสุดที่รัก" การคุยโทรศัพท์ของกชกรทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจในตอนแรกแต่พอได้ยินประโยคหลังๆ เขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเธอคุยกับใครจากไม่พอใจกลายเป็นอารมณ์ดีผิดปกติซะงั้น"น้องชายหรอ" เขาถามทันทีที่เห็นเธอวางสายแล้ว"ใช่ค่ะ""ดูรักกันดีนะ""รักสิคะมีกันแค่สามพี่น้องนี่คะ ถ้าเราไม่รักกันแล้วใครจะรักเราล่ะคะคิดแล้วก็เหงานะคะกลอนไม่เคยห่างบ้านเลยนี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะ" "ไปนอนเถอะพรุ่งนี้พี่พาไปเที่ยวไปมั้ยอีกวันเดียวก็จะเปิดเทอมแล้ว" เขาเสนอหวังจะช่วยให้เธอหายเหงาได้บ้าง เป็นธรรมดาของเด็กที่ไม่เคยห่างครอบครัวแล้วต้องมาอยู่ไกลบ้านคนเดียวยิ่งในเมืองหลวงใจกลางกรุงเทพแบบนี้ด้วย"ได้ค่ะ แต่จะพาไปไหนคะ" เธอหันไปถามเขา"แล้วแต่สิอยากไปไหนบอกมาเลย" เขาบอกอย่างตามใจเธอ กชกรทำท่าคิดอย่างน่ารักมากในสายตาเขาแล้วบอกว่า"กลอนอยากไปห้าง........ไปเดินเฉยๆ นะไปแบบไม่ต้องซื้ออะไรเลยได้มั้ยคะ" ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่เธออยากไปมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ไปเลยสักครั้ง"จะไปทำไมไปแล้วไม่ซื้อ" เขารู้สึกแปลกใจ จากที่เขาเคยรู้จักผู้หญิงทุกคนจะชอบไปช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังมากกว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ นะ"เดินตากแอร์เล่น เอาบรรยากาศก็พอแล้วค่ะที่นั่นของแพงจะตายถ้าซื้อของมีหวังอดตายกันพอดี เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่าเสียดาย" คำตอบของเธอทำเอาเขาอึ้ง เขาไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อนหรือว่าเธอคนนี้จะเป็นคนที่เขาตามหาแต่ใครจะรู้ต้องดูกันไปก่อนวันรุ่งขึ้นนภัทรพากชกรไปยังห้างสรรพสินค้าหรูชื่อดังตามที่เธอต้องการ และเธอก็ไม่ซื้ออะไรเลยจริงๆ แม้แต่น้ำสักแก้วเธอก็ไม่ซื้อเธอเดินจนพอใจแล้วจึงชวนเขาไปเดินเล่นที่อนุสาวรีย์ชัย เธอบอกว่าไปซื้อของที่นี่ดีกว่าถูกดีเขารู้จักเธอได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น แต่เธอกับเขาสนิทกันเหมือนรู้จักกันมาหลายปี เธอไม่ได้รังเกรียจเขาเลยที่เขาบอกว่าไม่ค่อยมีเงินซื้อของ ตัวเองต้องใช้อย่างประหยัดเธอยังบอกเขาว่า ดีแล้วเพราะตัวเธอเองก็ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดเหมือนกันเหลือเก็บไว้จ่ายพวกค่าหนังสือค่าชีสดีกว่า ไม่เห็นจำเป็นเลยที่ต้องออกไปเที่ยวหรูๆ กินอาหารแพงๆ กินแล้วอิ่มเหมือนกัน เขารู้สึกได้ว่าเธอมีความคิดอะไรๆ ที่ดีหลายอย่างมองโลกในแง่ดีเชื่อว่าทุกอย่างต้องมีเหตุและผลของตัวมันเอง
สนุกกก
4d
0สนุกๆ
15d
0ดีมากครับสนุกเลยชอบแบบนี้อ่านะสนุก
15/08
0ดูทั้งหมด