logo text
เพิ่มลงในห้องสมุด
logo
logo-text

ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้ภายในแอพ

บทที่ 7 คืนนี้เราต้องนอนกระโจมเดียวกัน

ชั่วโมงต่อมาอาชาคู่นั้นได้พาฟารียัลและนับดารามาถึงเมืองมิดาน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ กลางทะเลทรายอัลติลบาร์ อีกทั้งมิดานยังเป็นแหล่งโอเอซีสสำคัญ ดังนั้น นักเดินทางทะเลทรายด้วยม้าและอูฐทุกคนจะต้องแวะพักที่นี่
ตลาดยามเย็นได้เริ่มขึ้นพอดี พ่อค้าต่างตะโกนโหวกเหวกเรียกลูกค้ากันวุ่นวาย ทำให้นับดาราตื่นตาตื่นใจ เธอรีบผูกม้า ปรี่เดินไปสำรวจในทันที
“เดี๋ยวก่อน...” ฟารียัลร้องเรียก เมื่อเห็นเธอปรี่ไปตลาดเย็น
“อะไรอีกล่ะ” นับดาราหันมา ทำตาเขียว เหมือนเด็กถูกขัดใจ
“ผ้าคลุมหน้า” ฟารียัลพูดสั้นๆ ทำให้เธอนึกได้ว่าเปิดหน้าอยู่
“เธอเป็นลูกครึ่ง ฉันไม่อยากให้เป็นจุดสนใจ ปิดหน้าไว้ซะ ทีหลังอย่าลืมอีก”
“เจ้าค่ะ เจ้านาย” นับดาราจีบปากจีบคอประชด มือน้อยๆ รีบจับผ้าที่คลอเคลียอยู่ด้านข้างขึ้นป้ายคลุมหน้า อย่างว่าล่ะ ตอนนี้หญิงสาวอยู่ในความคุ้มครองของเขา เมื่อเขาสั่งอะไร เธอต้องรีบทำตาม
ฟารียัลไม่อยากทำลายความสุขเล็กๆ น้อยๆ อย่างไรเสียผู้หญิงกับการช้อปปิ้งก็เป็นของคู่กันทุกชาติทุกภาษา อีกอย่างสองสามวันที่ผ่านมา เธอได้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ อกสั่นขวัญแขวนหลายครั้ง วันนี้ปล่อยให้เดินเล่นสนุกสักวันจะเป็นไร
เขาเอนหลังพิงต้นปาล์มใหญ่ มองนับดาราแวะร้านโน้นออกร้านนี้ไม่คลาดสายตา แต่ไม่นานเธอก็เดินคอตกกลับมา
“ไม่สนุกแล้วหรือ” ฟารียัลเลิกคิ้วถาม
“ฉันเพิ่งนึกได้...ฉันไม่ได้มาเที่ยว”
ฟารียัลฟังน้ำเสียง ก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ เขารีบเบี่ยงเบนความสนใจ
“งั้น เราไปกันเถอะ ไปดูว่าที่นี่มีกระโจมแบ่งให้พักหรือเปล่า”
นับดาราไม่พูดอะไรอีก เธอเดินตามฟารียัลไปเงียบๆ ไม่นานนัก ฟารียัลพาเธอเดินผ่านชุมชน บ้านเรือนทำด้วยดินและหินทราย เธอสังเกตว่าชาวบ้านที่นี่รู้จักเขาเป็นอย่างดี ทุกคนให้การต้อนรับ และดูแลอำนวยความสะดวก
ฟารียัลพาเธอไปหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง เขาเข้าไปพูดคุย จากนั้นเจ้าของบ้านได้จัดเตรียมอาหารเย็นให้ เมื่อกินเสร็จเรียบร้อย ได้มีหญิงชาวบ้านพานับดาราและฟารียัลไปห้องอาบน้ำ เธอกลับออกมาอีกครั้งในชุดยาวกรอมเท้าพร้อมผ้าคลุมศีรษะ ส่วนฟารียัลกลับออกมาในชุดโต๊ปสีขาว
เมื่อหญิงชาวบ้านเดินจากไป ฟารียัลจึงเดินไปหาหญิงสาว เขาลอบมองเธอ ความรู้สึกหวั่นไหวไม่สามารถอธิบายได้ เกิดขึ้นอีกแล้ว
“ตามฉันมา” ฟารียัลสั้นๆ
เขาเดินนำหน้านับดาราไปยังกระโจมนอน แต่เมื่อเดินไปได้สักครู่ หญิงสาวได้หยุดชะงัก
“อะไรหรือ” ฟารียัลหันถามด้วยความสงสัย
“พระจันทร์ นายเห็นพระจันทร์ไหม” นับดาราเงยหน้ามองท้องฟ้าอาหรับราตรี
“พระจันทร์เสี้ยว แล้วไง” เขาพูด พร้อมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีพระจันทร์เสี้ยวส่องสว่าง
นับดาราพูดกับเขาอย่างอารมณ์ดี “พระจันทร์เสี้ยว สุเหร่า กับ ทะเลทรายเวิ้งว้าง”
“ฉันไม่เข้าใจ”
“นายเนี่ย ไม่รับมุกเลย ของทั้ง 3 อย่างนี้ เห็นที่ไหนก็รู้ทันทีว่าเป็นพวกอาหรับ”
เฮ้อ แม่คนช่างจินตนาการ... ฟารียัลลอบยิ้ม ในใจนึกเอ็นดูในความช่างคิด ความจริงก็ถูกของเธอ เพราะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศโอมาน ได้ใช้สัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยวเหนือยอดโดม อีกอย่างพวกอาหรับ ชนเผ่าในทะเลทรายอย่างเขาก็คุ้นเคยกับพระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า ยามเดินทางในทะเลทราย เรียกว่าเห็นจนชินชา จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
เรื่องนี้ทำให้ฟารียัลนึกไปถึงเพื่อนที่เปิดบริษัททัวร์ จัดโปรแกรมให้ดูแกรนด์มากๆ มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น นอนกระโจม ชมพระจันทร์ กลางทะเลทราย มีอาหารโรงแรม 5 ดาวเสิร์ฟพร้อม โอ้โห แค่ฟังก็โรแมนติกมากๆ อย่างว่าแหละ การหาความสุขของคนอาหรับนั้นต้องไม่ขัดกับหลักศาสนา ดังนั้น ความสุขที่สรรหาจึงเป็นการผสมผสานกับวิถีการดำรงชีวิตเรียบง่าย อย่างเช่น นั่งสูบชิชา ดื่มกาแฟ ในหมู่ญาติมิตร
ฟารียัลเดินต่อ จนมาหยุดตรงกระโจมหลังหนึ่ง
“กระโจมนี้แหละ”
นับดาราหันสำรวจรอบๆ บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบ แต่ เอ๊ะ ทำไมมีกระโจมเดียว
“คืนนี้เราต้องนอนกระโจมเดียวกัน” ฟารียัลเอ่ย น้ำเสียงราบเรียบ
คำว่า นอนกระโจมเดียวกัน ทำให้นับดาราตาโต รีบหันขวับ ปากบางเล้งลั่นในทันที
“อะไรนะ! นายอองอัล ทำไมต้องนอนด้วยกัน แยกกันนอนก็ได้”
“หยุดโวยวายได้ไหม”
“มีเหตุผลอะไร ต้องนอนกระโจมเดียวกัน ฉันเป็นผู้หญิง นายเป็นผู้ชาย และเราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะนอนกระโจมเดียวกันได้อย่างไร”
“เพื่อความปลอดภัย และตัดปัญหาเรื่องยุ่งยากต่างๆ”
“ไม่! ไม่! ไม่! ไม่นอน!” นับดาราตะโกนใส่เขา ใบหน้าสวยบึ้งตึงบอกบุญไม่รับ
“เลิกตะโกนได้แล้ว ใช้หัวคิดสิ ที่เราต้องเดินทางเส้นทางทุรกันดารอย่างนี้ เพราะอะไร น่าจะเข้าใจอยู่แล้วนะ” ฟารียัลขึ้นเสียงบ้าง
“ฉันไม่นอน!” นับดารายืนยันเสียงแข็ง ตาเบิกโพลง เพราะในหัวกำลังเริ่มจินตนาการ หากเขาเกิดหื่นขึ้นมาล่ะ ตาย ตาย นับดาราเอ๊ย ความสาวคงป่นปี้ในคืนนี้
“ตามใจ จะบอกให้ ทะเลทรายอย่างนี้ผู้หญิงที่ไม่มีเจ้าของ มักถูกฉุดพล่าพรหมจรรย์ กฎของทะเลทรายนั้นไม่ตายตัว กฎหมายบ้านเมืองก็อยู่ไกลเกินเอื้อม หรือกว่าจะมาถึงก็สายไปเสียแล้ว” ฟารียัลแกล้งขู่ ทำท่าไม่สนใจ เดินเข้าไปนอนในกระโจมทันที
ฟารียัลล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่ไม่วายจะมองไปหน้ากระโจม เห็นสาวน้อยเดินงุ่นง่าน หน้าหงิกงอ ทำท่าฮึดฮัดเพราะทำอะไรไม่ได้ อย่างว่า ฟารียัลเองรู้มาว่า ผู้หญิงไทยมีจารีตประเพณีอันดีงาม เรื่องการรักนวลสงวนตัว เป็นสิ่งสั่งสอนมาแต่โบราณกาล ดังนั้น การที่เธอฉุนเฉียวใส่ เมื่อได้ยินว่าต้องนอนกระโจมเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง นับดารายังคงนั่งกอดเข่าอยู่นอกกระโจม
เธอหน้ามุ่ย ปากขมุบขมิบ ในใจตะโกนก้อง...จะให้ไปนอนร่วมกระโจมเดียวกันหรือ พูดเอาแต่ได้ ใครจะไปหลับลงกันล่ะ... สาวน้อยลูกครึ่งไทยอาหรับกำลังแบกรับจารีตประเพณีอันดีงามของไทยไว้ทั้งโขยง
พลิ้ว พลิ้ว เสียงลมพัดแรงเหมือนเสียงขู่ ความหนาวเย็นเริ่มคุกคามร่างบอบบาง
บ้า บ้า บ้าที่สุด
หญิงสาวทำอะไรไม่ได้ นอกจากตะโกนด่าอยู่ในใจ
อากาศเย็นยะเยือกยามค่ำคืนแทรกทั่วอณูร่าง นับดาราเริ่มปากสั่น ฟันซี่งามกระทบกันเบาๆ ดังกึ๊กๆ ความอ่อนล้ากับการขี่ม้าตลอดวัน ทำให้ต้องลดทิฐิ และโยนความเป็นกุลสตรีไว้หน้ากระโจม
เธอเปิดประตูกระโจม เข้าไปยืนอยู่ด้านใน เห็นชายหนุ่มนอนเงียบบนเตียง มีผ้าห่มขนสัตว์ผืนใหญ่คลุมอยู่ เธอเดินวนรอบเตียงอยู่หลายรอบ ใจหนึ่งอยากจะหยิบหมอนลงมานอนข้างเตียง แต่ก็เกรงว่าจะหนาวตายไปเสียก่อน เพราะไม่มีผ้าห่ม
เป็นไงเป็นกัน...หญิงสาวบอกตัวเอง
นับดาราค่อยๆ เปิดผ้าห่มขนสัตว์อย่างเบามือ จากนั้นกลั้นหายใจ ทำตัวลีบสอดร่างบางลงอีกฟากของเตียง เธอผวาทุกครั้งที่เขาขยับตัว แต่ด้วยความอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ทำให้หลับใหลไปในที่สุด
อากาศหนาวเหน็บยามค่ำคืนผลักดันให้นับดาราเคลื่อนกายเข้าหาฟารียัลโดยไม่รู้ตัว
ชีคหนุ่มลืมตา ก้มมองใบหน้าเนียนอย่างพินิจพิจารณา
เธอคือผู้หญิงคนแรก ที่เขาพบแล้วเกิดอาการกระวนกระวายใจ...เกิดอะไรขึ้น...เขาเองอดแปลกใจไม่ได้ ยิ่งพิศดวงหน้า เลือดในกายหนุ่มยิ่งร้อนรุ่ม
ฟารียัลถอนหายใจ ข่มความรู้สึก
อีกครั้งที่เธอขยับตัว ก่อนเบียดร่างบางเข้าซุกอกกว้าง
รอยยิ้มพรายผุดขึ้นตรงมุมปากของชีคหนุ่ม เขาเอื้อมมือปัดปอยผมสลวยที่ลุ่ยลงมาปิดแก้มนวลด้วยความเอ็นดู ก่อนเผลอสูดกลิ่นแก้มหอมกรุ่นเข้าเต็มปอด
รุ่งอรุณของวันใหม่
นับดาราตื่นขึ้น พบว่าตัวเองนอนอยู่คนเดียวในกระโจม ความหวาดระแวงแฝงอยู่ในหัวตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้รีบสำรวจตัวเอง...เสื้อผ้าอยู่ครบ...เธอผ่อนลมหายใจออก โล่งอก และเมื่อพบทุกอย่างเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จึงค่อยคลานลงจากเตียง
หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวมานั่งรอ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางอยู่หน้ากระโจม เสียงท้องร้องจ๊อกๆ ทำให้ชะเง้อคอหา
นายอองอัลไปไหนนะ สายโด่งแล้ว
ทันใด กลิ่นหอมเครื่องเทศแบบอาหรับโชยมาแตะจมูก เธอรีบหันมอง
“หิวหรือยัง”
ฟารียัลวางถาดอาหารลงตรงหน้าหญิงสาว
นับดาราเมินสายตาไปทางอื่น เพราะไม่อยากมองหนวดเฟิ้ม
“ยัง” นับดาราตอบห้วน
“งั้น วางไว้ก่อนแล้วกัน” เขาแกล้งพูด ทำเป็นไม่สนใจกริยาปั้นปึ่ง
“จะเดินทางกี่โมง”
หญิงสาวรีบถาม ฟารียัลไม่ตอบคำถามแต่กลับหันมาสั่งว่า “กินอาหารเช้าซะ ฉันจะไปเตรียมอูฐ”
“เอ่อ...” หญิงสาวอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เมื่อนัยน์ตาสวยปะทะกับแววตานิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ของฝ่ายตรงข้าม นั่น ทำให้เธอต้องหุบปากลงทันที
เขารีรอเพราะอยากรู้ เธอจะพูดอะไรอีก แต่นับดาราก็รีบก้มหน้ากินอาหาร ทำให้เขาเดินจากไป
เสียงฝีเท้าชีคหนุ่มเดินออกห่าง ทำให้นับดาราเงยหน้ามอง เธออดเบ้ปาก ยักไหล่ ไล่หลังล้อเลียนไม่ได้
ไปไกลๆ ก็ดี จะได้กินอย่างมีความสุข
นับดาราคิดในใจ และคำหนึ่งแวบขึ้นมา
แคมปิ้งกลางทะเลทราย...คิดเสียว่าลาพักร้อนมาเที่ยวก็แล้วกัน...หญิงสาวก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหาร ในหัวพยายามสรรหาคำมาปลอบใจตัวเอง เพื่อจะได้มีกำลังใจสู้อุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า

หนังสือแสดงความคิดเห็น (107)

  • avatar
    Baxnaby Zx

    เนื้อหาดีมากๆค่า

    29/08/2023

      0
  • avatar
    เดอร์แมน สไป

    ดีเยี่ยม

    2d

      0
  • avatar
    จัสมิน น.ฯ

    สนุกมากๆ

    4d

      0
  • ดูทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด