เกาะแสงจันทร์เป็นเกาะขนาดเล็กกลางชายฝั่งทะเลอันดามัน ภูมิประเทศรอบๆ เกาะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการังและปลาสีสันสดใส นอกจากนั้นเกาะแสงจันทร์ยังเป็นเกาะที่มีหาดทรายกว้างสีขาวสะอาดตา และเม็ดทรายเนื้อละเอียดราวกับผงแป้ง เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของเกาะแสงจันทร์ ที่เจ้าของที่พักบนเกาะทุกแห่งล้วนเป็นคนประเภทไม่ต้องการหาผลประโยชน์จากความสวยงามของมันมากจนเกินไป บ้านพักบนเกาะแสงจันทร์จึงถูกสร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด และมีกฎประจำเกาะว่าจะรับนักท่องเที่ยวจำนวนจำกัดเกาะสงบเงียบ ไม่มีแสงสี ไม่มีนักข่าว และมีนักท่องเที่ยวหลักเป็นชาวต่างชาติ ทั้งเกาะมีรีสอร์ทอยู่เพียงสามแห่ง สนิสาคิดว่าถ้าเธอไม่ได้อยู่ในช่วงที่กำลังทุกข์ใจอย่างหนักแบบนี้ล่ะก็ ที่นี่คงเปรียบเหมือนสวรรค์สำหรับเธอ สนิสาใช้เวลาสองวันแรกในการนั่งอยู่ริมหาดบ้าง ว่ายน้ำบ้าง โดยที่เธอแทบจะไม่ได้เห็นหน้านวีร์เลย ซึ่งเหตุผลคงเป็นเพราะเขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับคนรักของเขาอย่างที่เขาบอกนั่นล่ะสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันที่สาม...ก็เกิดเรื่องเข้าจนได้ นวีร์เพิ่งรู้ว่าทำไมสนิสาถึงต้องหนีมาไกลถึงเกาะแสงจันทร์ เขาแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่อยากให้น้องสาวของเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอ และไม่อยากให้เธอมาเกี่ยวข้องกับเกาะของเขา...เธอกำลังถูกไล่ให้กลับกรุงเทพฯพรุ่งนี้เช้า นวีร์บอกกับเธอว่าเขาจะให้เรือไปส่งเธอถึงฝั่ง และนั่นหมาย ถึงอิสรภาพของเธอคงหมดลงทันทีที่เหยียบแผ่นดิน ตำรวจคงกำลังรอรวบตัวเธออยู่ และเธอคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายอมให้ตำรวจจับ รับสารภาพ และรับโทษแทนน้องชาย ซึ่งอาจจะเป็นการจำคุกตลอดชีวิตหรือ...เลวร้ายกว่านั้น...โทษประหารชีวิตเธอไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกNo way outเธอบอกตัวเอง ตอนนี้แทบจะไม่เหลือทางเลือกอื่นใดแล้ว นอกจาก...สนิสาถอนหายใจ น้ำตาค่อยๆ รินไหลออกมาเงียบๆ โดยไม่มีแม้เสียงสะอื้น มันเป็นการร้องไห้ครั้งแรกหลังจากที่เกิดเรื่องร้ายๆ ในชีวิตตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว พิพัฒน์กลับทำตัวเฉยชาไม่สนใจไยดี หลัง จากตำรวจค้นห้องของเธอและพบว่ามันมียาเสพติดซ่อนอยู่ เขาก็หายหน้าหายตาทำตัวห่างเหินไป เธอสรุปว่าเขาคงไม่อยากเดือดร้อนด้วย ส่วนน้องชายก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไรคงจะไม่เป็นไร ถ้าฉันจากโลกนี้ไปอีกคน...มันอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด…อาจจะเป็นทางเลือกสุดท้าย...สนิสาภาวนาขอโทษพ่อกับแม่ที่ตัวเองไม่สามารถเลี้ยงดูน้องชายคนเดียวให้เป็นคนดีได้ และขอโทษที่ต้องตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองด้วยวิธีนี้เธอค่อยๆ ก้าวลงทะเลทีละก้าว ทีละก้าว...เวลาตีสองแบบนี้คงไม่มีใครตื่น กว่าทุกคนจะรู้ว่าเธอหายตัวไปคงเช้า และกว่าจะพบศพของเธอก็คงวันรุ่งขึ้น หรืออาจจะไม่พบถ้าเธอถูกกระแสน้ำพัดออกจากฝั่งไปไกลน้ำทะเลอยู่ในระดับหน้าอกของสนิสา น้ำนิ่งไร้คลื่นลมดูวังเวงและเงียบเหงาเหลือเกิน ในที่สุดเมื่อน้ำเริ่มพ้นอกเธอก็หลับตา และเริ่มนับเลข…หนึ่ง สอง สาม เพื่อให้ใจจดจ่ออยู่กับตัวเลข ไม่ใช่ความตายตรงหน้า...อย่ากลัว อย่ากลัว เธอบอกตัวเองขณะที่น้ำทะเลเริ่มเข้าปาก รสของน้ำเค็มทำให้สติของเธอพะวักพะวนขึ้นมาเล็กน้อย เธอเริ่มนับเลขใหม่อีกครั้ง ยี่สิบสอง ยี่สิบสาม...ยี่สิบ…“จะบ้าเรอะ!”สนิสาได้ยินเสียงตวาดดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง แต่เธอไม่สนใจแล้ว เธอกลั้นใจ หลับตา รู้สึกแต่ว่ากำลังจมน้ำทั้งตัว เธอกำลังจะตายนวีร์วิ่งลงทะเลไปยังจุดที่เขาเห็นสนิสาค่อยๆ ถูกกลืนหายลงไป ตอนแรกเขาเดินออกมาที่ระเบียงบ้านเพื่อรับลม หลังจากที่สมองตัน คิดอะไรไม่ออก แต่งหนังสือต่อไม่ได้ ด้วยความบังเอิญ เขาใช้สายตามองเลยมาที่ริมหาดด้านหลังบ้านพัก ภาพที่เขาเห็นคือมีคนกำลังเดินลงทะเลตอนแรกเขาคิดว่าตาฝาด แต่ผมยาว รูปร่างคุ้นตานั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองตาไม่ได้ฝาดสนิสาจริงๆ นวีร์เดินตามลงมาที่หาด ตอนนั้นสนิสากำลังจมน้ำแล้ว...เธอกำลังจะฆ่าตัวตาย...ถึงแม้นวีร์จะรู้สึกไม่ชอบเพื่อนของน้องสาวคนนี้เอามากๆ แต่เขาก็ยอมให้มีคนตายต่อหน้าต่อตาเขาไม่ได้ ถึงตัวเธอได้ เขาก็ดึงร่างของสนิสาขึ้นมาจากน้ำ เธอดิ้นสุดแรงเมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกช่วยให้พ้นความตาย“ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามายุ่งกับฉัน” เธอทั้งทุบทั้งข่วน แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้าน ก้มลงรวบทั้งตัวของสนิสาเดินขึ้นฝั่งหน้าตาเฉยตัวเบายังกับนุ่น...ชายหนุ่มบ่นกับตัวเอง ก่อนจะทิ้งร่างที่หอบมาลงกับหาดทรายแรงๆสนิสาก้นกระแทกกับพื้น เธอลุกขึ้นและทำท่าว่าจะวิ่งลงทะเลอีก แต่นวีร์ไวกว่า เขาคว้าแขนของเธอไว้ได้ทัน“ปล่อยสิ...”“ทำอะไรบ้าๆ อยากตายรึไง” เขาตะคอกอย่างอารมณ์เสีย การลงน้ำตอนตีสามแบบนี้ไม่ใช่เรื่องสนุกนักหรอกนะ“ใช่ ฉันอยากตาย ปล่อยให้ฉันตายเถอะนะ ปล่อย...อย่ามายุ่งกับฉัน” สนิสาสะอื้น เมื่อรู้ว่ามือที่แข็งปานคีมเหล็กนั่นคงไม่ปล่อยให้เธอเป็นอิสระง่ายๆ“ฉัน...อยาก...ตาย...” น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย ทำไมนวีร์ต้องมาพบเธอตอนนี้ด้วยนะ ถ้าเขามาช้ากว่านี้สักสองสานาที เธอก็จะได้จากโลกนี้ไปสมใจ“ตายหนีความผิด...” นวีร์ตะคอก “คิดง่ายจริงนะ”สนิสาส่ายหน้า“ฉันไม่ได้ทำ!! ฉันถูกปรักปรำ เข้าใจไหม” เธอตะโกนตอบ ทั้งๆ ที่รู้ว่าบอกไปก็ไร้ประโยชน์ “ฉันถูกปรักปรำ”นวีร์ขมวดคิ้ว ทำไมเธอบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำ แล้วเขาก็ยักไหล่ ใครจะรับว่าตัวเองทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ “คุณจะทำหรือไม่ทำ ผมไม่สน...ผมสนใจอย่างเดียวคือผมไม่อนุญาตให้คุณตายที่เกาะแสงจันทร์นี่ ถ้าอยากตาย ไปตายที่อื่น!” นวีร์ก้มลงกระซิบเสียงดุดันที่ข้างหูสนิสา “เพราะฉะนั้นตอนนี้กลับเข้าบ้านกันเดี๋ยวนี้ ผมหนาวจะตายอยู่แล้ว ทั้งหนาวทั้งอารมณ์เสีย เข้าใจไหม!” พูดจบเขาก็ตวัดวงแขนอุ้มสนิสาขึ้นทั้งตัว และพาเธอกลับบ้านพักโดยไม่สนใจอาการดิ้นรนขัดขืนของอีกฝ่ายที่ห้องของสนิสา เธอถูกนวีร์อุ้มเข้าห้องทั้งๆ ที่ตัวเปียกปอน นวีร์ตัด สินใจถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเธอ ลากเธอไปล้างน้ำเค็มออกจากตัวในห้องน้ำ ก่อนที่จะสวมเสื้อผ้าชุดใหม่เข้าแทนที่ สนิสายังไม่หยุดดิ้นรน ทั้งเตะทั้งข่วนเขาสารพัด แต่มีรึที่นวีร์จะยอม เขาใช้แรงที่เหนือกว่ากระชากปลดกระดุมเสื้อ และดึงมันออกมาอย่างง่ายดาย“ฉัน…ถอดเองได้” สนิสาโต้กลับ เอามือปิดป้องร่างกายส่วนบนที่ตอนนี้ไร้เสื้อผ้าปกปิดนวีร์ถอนหายใจ ยังหงุดหงิดไม่หาย “จะตายอยู่แล้ว จะมาอายทำไม” เขาบ่น หันไปเปิดตู้ โยนเสื้อผ้าที่หยิบได้เป็นตัวแรกให้คนที่นั่งอยู่ “เปลี่ยนเสียก่อนที่จะเป็นหวัดตาย”สนิสาทำท่าจะลุกเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ แต่นวีร์ยืนเท้าเอวหน้าบึ้งขวางไว้ “เปลี่ยนมันตรงนี้ล่ะ ผมไม่ปล่อยให้คุณเข้าไปผูกคอตายในห้องน้ำได้หรอก”“เปลี่ยนได้ยังไง ก็คุณ...”“จะเปลี่ยนเองหรือให้ผมเปลี่ยนให้” นวีร์ถามเสียงเข้ม “ทำเป็นอายไปได้ ถ้าคุณตายแล้วน่ะ ใครจะเปิดอะไรของคุณแค่ไหนคุณก็ไม่รู้สึกหรอก...ผมให้เวลาสองนาที เปลี่ยนเสื้อให้เรียบร้อย” พูดจบนวีร์ก็หันหลังให้ แสดงให้เห็นชัดว่าเขาจะไม่ยอมออกจากห้องนี้อย่างเด็ดขาดสนิสารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เรียบร้อยแล้วเธอจึงเอาเสื้อผ้าที่เปียกของตัวเองใส่ตะกร้าผ้า เสร็จแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก ยืนคว้างอยู่กลางห้อง...แค่นวีร์คนเดียวก็ตัวโตคับห้องแล้ว เธอไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหนดีนวีร์หันกลับมา เขามองสนิสาอย่างขำๆ ความโกรธของเขาลดลงนิดหนึ่งแล้วตอนนี้ ยิ่งเห็นว่าเธออายทำอะไรไม่ถูกก็ยิ่งอยากแกล้ง“ฉันจะนอน” เธอบอกเสียงเบา “คุณออกไปได้แล้ว”“ออกไปให้คุณหนีไปฆ่าตัวตายอีกสิ ไม่ล่ะ คืนนี้ผมจะนอนห้องนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณคลาดสายตา จนกว่าคุณจะพ้นเกาะนี้ไปก่อน”“อะ…ไร...นะคะ” สนิสาอ้าปากค้าง“คืนนี้ผมจะนอนที่ห้องนี้ ไม่ต้องทำตกใจไปหรอก อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหนมาก่อน”สนิสาขยับปากจะบอกเขาว่าเธอไม่เคยนอนกับใครจริงๆ แต่แววตาเอาเรื่องของนวีร์ทำให้เธอตัดสินใจปิดปากเงียบผู้ชายคนเดียวที่เคยนอนร่วมเตียงกับเธอก็มีแต่การันต์ น้องชายซึ่งอายุห่างจากเธอถึงห้าปีเท่านั้น
ดีมาก
3d
0สนุกดี
3d
0很好玩
3d
0ดูทั้งหมด