ฉันยักไหล่ “ขี้เกียจรอ มาเองได้ ฉันไปบอกป้าเนียมเรื่องราดหน้านะ” ฉันหันไปบอกพี่สะใภ้แล้วเดินเข้าครัวเสียเฉย ๆนายคีตากับพี่นุเอาแต่คุยเรื่องงานตลอดเวลาที่กินข้าว ฉันได้ความรู้เพิ่มมาอีกอย่างว่านายคีตานี่ไม่ได้เป็นลูกน้องของพี่นุอย่างเดียว เขามีหุ้นส่วนเล็ก ๆ ในบริษัทด้วย มิน่าเล่าคุณรินอะไรนั่นถึงมั่นใจนักว่านายนี่จะซื้อบ้านกี่ล้านก็ได้เหลือบมองนาฬิกา เห็นสามทุ่มกว่า ๆ ฉันเลยบอกพี่นุว่าคงต้องกลับแล้ว นายคีตาเก็บคอมพิวเตอร์ใส่กระเป๋าหิ้วพลางลุกขึ้น“คี วานนายไปส่งนรีให้หน่อยนะ”“ได้อยู่แล้ว” เขารับคำ“ไม่….” ฉันขยับปากจะปฏิเสธ“มันดึกแล้วนะครับคุณ” นายคีตาทำเสียงดุใส่ฉัน “อย่าให้พี่ชายคุณเป็นห่วงคุณมากกว่านี้เลย”นั่นทำให้ฉันเงียบ ยอมรับข้อเสนอของเพื่อนพี่ชายแต่โดยดี ...“ทำไมคุณรินกับเลขาฯ ของนาย เรียกนายว่าสองล่ะ” ฉันถามขณะที่เขากำลังขับรถ“ชื่อเล่นของผมจริง ๆ คือสอง ผมเป็นลูกคนที่สอง ส่วนคีนะเจ้านุมันเรียกจากชื่อจริง เพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยผมมักจะเรียกผมว่าคี” เขาตอบ “ตอนที่รับงานคุณก็เลยไม่รู้ว่าเป็นผมสินะ”“คุณตั้งใจ?”คนขับรถพยักหน้า “ผมเห็นรูปที่คุณวาดที่ชะอำสวยดี เลยคิดว่าฝีมือการแต่งบ้านของคุณน่าจะใช้ได้ บังเอิญผมกำลังหาช่างมาแต่งบ้านใหม่พอดี แต่ถ้าบอกคุณตั้งแต่แรกว่าเป็นผม ผมกลัวว่าคุณจะไม่รับงานนี้ ท่าทางคุณไม่ชอบผมนักนี่”“แล้วทำไมไม่ให้ว่าที่ภรรยาของคุณดูแบบเสียให้เรียบร้อยล่ะคะ มันน่ารำคาญแค่ไหนรู้หรือเปล่าที่ต้องมาแก้แบบที่เสร็จแล้วน่ะ ฉันส่งไปให้คุณดูตั้งหลายรอบแล้วนี่นา ไม่เห็นแก้อะไรเลย มันเสียเวลารู้ไหม”นายคีตาหัวเราะ “มีกฎข้อหนึ่งของนักการตลาดที่ว่า Customer is the king ไม่ใช่หรือครับ”ฉันไม่ตอบ คำถามของเขามีความจริงอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ลูกค้าถูกเสมอรถมาจอดที่หน้าอะพาร์ตเมนต์ เขาหันมา “ไม่ต้องแก้อะไรตามที่รินเขาบอกหรอกนะนรี ผมชอบแบบที่คุณออกแบบไว้อย่างเดิมแล้ว เรียบ ๆ ดูเป็นบ้านดี ผมไม่ได้อยากอยู่วังหรือบ้านสไตล์หลุยส์ที่มีเสาโค้ง ๆ งอ ๆ หรอก”“อ้าว…แล้ว”“ผมแกล้งคุณเล่นน่ะ แล้วรินเขากำลังงอน ๆ เรื่องผมจะทำบ้านแล้วไม่บอก เลยปล่อยให้เขาออกความเห็นบ้าง แต่ฟังแล้วท่าจะไม่ไหว ผมชอบแบบที่คุณออกแบบไว้มากกว่านะ”ฉันมองหน้าคนขับรถอย่างงง ๆ เขายิ้ม “ผมเองมักจะเจอปัญหาเรื่องลูกค้าเรื่องมากอยู่บ่อย ๆ เข้าใจดีนะ ไม่อยากทำบาปทำกรรมให้คุณแช่งเอาอีกหรอก”เป็นประโยคดีที่สุดที่ฉันเคยได้ยินจากปากผู้ชายคนนี้“จริง ๆ นะ ไม่ต้องแก้อะไรเลยเหรอ”คนขับรถพยักหน้า “ผมชอบบ้านที่อยู่แล้วสบาย ๆ มากกว่าบ้านที่แต่งสวย ๆ เพื่อเอาไว้อวดคนอื่นนะ บ้านควรเป็นโลกส่วนตัวของเราไม่ใช่หรือ”“ขอบคุณค่ะที่ไม่แก้งาน” ฉันยิ้มกว้าง เอ่ยประโยคนั้นอย่างจริงใจเป็นครั้งแรก“ขึ้นห้องเถอะ ดึกแล้ว เรื่องบ้านทำต่อได้เลยนะไม่ต้องรออะไร อยากเบิกเงินเมื่อไหร่บอกมาได้เลย ติดต่อเข้ามือถือผมโดยตรงก็ได้ ไม่ต้องผ่านเลขาฯ หรอก”ฉันมองรถสีน้ำเงินเข้มค่อย ๆ ขับจากไป อยากจะโบกมือให้เจ้าของรถอย่างที่ทำเวลาเพื่อนมาส่งแต่ไม่กล้า ได้แต่ยืนมองมันค่อย ๆ ถูกกลืนไปกับความมืดของท้องถนนแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียวเพื่อนของพี่นุคนนี้มีอะไร ‘ดี’ กว่าที่ฉันคิด ฉันมองนายผิดไปจริง ๆ นายคีตาผ่านไปไม่กี่วันก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ มีโทรศัพท์มาหาฉันหลังจากที่กลับมาจากไปกินข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมงาน เสียงคนตามสายไม่คุ้นเคยแต่กราดเกรี้ยวไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“ทำไมคุณไม่แก้แบบบ้านเลยล่ะ ทำงานกันยังไง หัวหน้าช่างก็พูดไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง อะไร ๆ ก็ต้องถามคุณนรี”ถึงแม้คนพูดจะไม่ได้แนะนำตัว ฉันก็รู้ทันทีว่าใครพูด“ไปถามคุณคีตาสิคะ” ฉันปัดความรับผิดชอบเสียเฉย ๆ นายคีตานี่ก็แปลก กับแฟนตัวเองไม่ยักตกลงกันให้เรียบร้อยว่าจะเอายังไง“แต่สองเขาไม่อยู่นี่ ไปอเมริกา”“ถ้างั้นคงต้องรอให้เขากลับมาก่อนละค่ะ”“ได้ยังไง คนงานของคุณน่ะรื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าปูกระเบื้องสีน้ำเงินไม่ใช่สีชมพูที่ฉันบอกให้คุณเปลี่ยนนี่ ตกลงคุณฟังคำสั่งฉันไม่รู้เรื่องหรือคะ”นายคีตาบ้า ฉันด่าเขาในใจแล้วพยายามนับหนึ่งถึงสิบ “ถ้างั้นฉันจะสั่งช่างยังไม่ต้องปูกระเบื้อง รอคุณคีตาก่อนดีไหมคะ”“ได้ยังไง บ้านต้องเสร็จก่อนธันวานี้นะ”อ้อ แสดงว่าจะแต่งงานเดือนธันวาคม “ไม่ทราบสิคะ ไม่เห็นคุณคีบอกให้เร่งนี่คะ บอกให้ทำไปเรื่อย ๆ” ฉันยั่วคุณรินเล่นเสียเฉย ๆ คนอะไรไอ้โน่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่เอา ไม่รู้ผู้หญิงอย่างนี้นายคีตาจะเอามาทำไมนะ เรื่องมากก็เท่านั้น ขี้โวยวายก็เท่านั้น หรือว่าจะลีลาดี…ก็ไม่รู้...“แต่ว่า...”“เอาอย่างนี้นะคะ ช่วยโทร. ไปหาคุณคีตาแล้วบอกให้เขาโทร. มายืนยันกับฉันเองว่าเอายังไงกันแน่ ฉันรับคำสั่งจากคุณคีตาคนเดียวค่ะ แค่นี้นะคะ” พูดจบฉันก็วางหู ตอนนี้งานยุ่งจะตายอยู่แล้ว มีงานใหม่เข้ามาอีกสองงาน ยังจะมีเรื่องอะไรให้วุ่นวายใจอีก วางหูจากคุณรินฉันก็โทร. ไปหาพี่ชายทันที“พี่นุ นายคีเพื่อนพี่ไปอเมริกาเหรอ”“เปล่านี่ อยู่ชะอำ ทำงานอยู่บ้านพักที่ชะอำที่ไปเจอกับนรีคราวก่อนน่ะ งานด่วนอีกแล้ว มันติดใจที่นั่นเลยขอไปทำที่นั่นอีก”“อ้าว”“ทำไม”“ว่าที่ภรรยาของเขาโทร. มาโวยวายกับนรีเรื่องบ้านของเขาที่นรีออกแบบให้ บอกไม่ตรงสเป็กที่เธอบอกไว้ นรีเลยอยากรู้ว่าเขาจะเอายังไงจะได้ทำให้มันเสร็จ ๆ ไป จะให้เอาใจใครกันแน่”“อารมณ์เสียหรือไง” เสียงพี่ชายพูดปนหัวเราะ “โทร. ไปหามันสิ” มีเบอร์มันไม่ใช่หรือ“แล้วทำไมเขาต้องโกหกว่าไปอเมริกาด้วยล่ะ”“ไม่รู้สิ อันนี้ต้องถามกันเอาเอง โทร. เข้าบ้านก็ได้ แล้ววันนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านหรือเปล่า”ฉันบอกพี่ชายว่ามีงานเยอะเกินกว่าที่จะไปกินข้าวด้วยได้ และรับปากว่าจะพยายามปลีกตัวไปให้ได้ในอาทิตย์หน้าคงเป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศค่อย ๆ กระเตื้องขึ้นทีละนิดทำให้งานตกแต่งภายในโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว บริษัทของฉันที่มีเจ้าหน้าที่ตกแต่งภายในอยู่ห้าคน ทุกคนทำงานกันล้นมือ งานบ้านนายคีตาถือเป็นงานหลักของฉันตอนนี้ แต่ก็มีงานออกแบบโรงแรมและร้านอาหารขนาดกลางในจังหวัดราชบุรีที่อยู่ระหว่างการร่างแบบอีกงานซ้อนเข้ามาฉันไม่ได้โทร. ไปหานายคีตาเพราะขี้เกียจได้ยินเสียงกวน ๆ ของเขา ตอนนี้อารมณ์ยังไม่อยู่ในภาวะที่จะให้ใครมาพูดจาไม่เข้าหูเท่าไหร่นัก ปล่อยให้เป็นเรื่องของสองคนนั้นเขาตกลงกันเองดีกว่างานออกแบบโรงแรมและร้านอาหารขนาดกลางที่ราชบุรีเป็นอีกงานที่มีความยุ่งยากพอสมควร เนื่องจากเจ้าของมีข้อกำหนดในการออกแบบค่อนข้างมาก แถมเป็นข้าราชการที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในท้องถิ่นเสียด้วย เจ้านายกำชับให้ตั้งใจทำงานชิ้นนี้เป็นพิเศษวันเสาร์เจ้านายนัดฉันไปดูโลเคชันของงานใหม่ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นระหว่างที่ฉันกำลังวัดขนาดของห้อง“ผมเองนะ” เสียงนายคีตา“ใครคะ ฉันไม่เคยมีเพื่อนชื่อผม” ฉันตอบกลับไปอย่างอารมณ์เสีย อยากจะกวนเขาบ้าง“นี่คุณ นายนุมันโทร. ไปหาผม บอกว่าคุณมีเรื่องกับรินหรือไง”“ใครจะกล้าไปมีเรื่องกับเขาล่ะ”“ดีแล้ว แล้วตกลงมีอะไรที่จะพูดกับผมไหม”“ก็...เรื่องบ้านไง ตกลงเอายังไงกันแน่ ยังไม่ได้บอกคุณรินหรือไงที่คุณบอกฉันว่าไม่ต้องแก้แบบแล้ว เธอมาโวยวายเอาว่าฉันทำงานไม่ได้เรื่อง เป็นแฟนกันยังไงไม่พูดจากันให้รู้เรื่องต้องมาเดือดร้อนคนอื่นด้วย”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ไม่เหนื่อยบ้างรึไง พูดจาไม่หยุดหายใจเลย”“จะเอายังไงก็ว่ามา” ฉันชักฉุน“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”“ราชบุรี”“ตรงไหน แล้วไปทำอะไรอยู่ที่นั่นล่ะ”ฉันบอกที่ตั้งของโรงแรม “ฉันมาทำงาน”“จะเสร็จหรือยังล่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวผมเลี้ยวรถไปรับคุณแล้วค่อยคุยกันเรื่องนี้แล้วกัน ผมกำลังขับรถกลับกรุงเทพฯ พอดี อีกสักชั่วโมงได้ไหม”
ได้ความรู้ต่างๆ
1d
0อ่านฟินสุดๆ
2d
0สนุกมากๆค่ะ อ่านเพลินสุดๆ
3d
0ดูทั้งหมด