ภาพรวม
|แคตตาล็อก
- ฉลาก:
- โบราณ
- ครั้งแรกในความรัก
- รักมันครั้งแรกที่เราพบ
- หวาน
'นางต้องการเพียงหนึ่งบุรุษที่รักเดียว ทว่าเขากลับมีชะตาพัวพันสตรีไม่จบสิ้น' เพื่อช่วยเหลือ "เยี่ยนเยว่ฉี" น้องสาวสุดที่รักจากชะตากรรมที่ต้องตรอมใจตายอย่างเปลี่ยวดายในเรือนหลัง จิ้งจอกสีเงินแห่งแคว้นอย่าง "เยี่ยนจิ้นหลิง" จึงต้องออกโรงวางแผนทลายชะตาดอกท้อมากภรรยาของ "ฉินอ๋อง มู่เลี่ยงหรง" ก่อนงานวิวาห์ระหว่างน้องสาวกับท่านอ๋องหนุ่มจะเกิดขึ้น
อัปเดตล่าสุด
คำแนะนำของบรรณาธิการ
คำแนะนำ
หนังสือแสดงความคิดเห็น (4)
- ทั้งหมด: 221
บทที่ 1 บทนำ
แผ่นดินใหญ่ปู้จิ่นฉีอันไกลโพ้น
สงครามระหว่างแคว้นหานและแคว้นเป่ยเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ทั้งสองฝ่ายต่างบทที่ 2 พระประสงค์ของฮ่องเต้
เยี่ยนจิ้นหลิงรั้งตำแหน่งกุนซือของกองทัพตระกูลเยี่ยน อีกทั้งยังเชี่ยวชาญศาสตร์การทำนายอย่างหาตัวจับไบทที่ 3 ฉินอ๋อง
เมืองหลวงแคว้นหานทั้งเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง ทั้งอาคารบ้านเรือนหรือก็ใหญ่โตสวยงาม มีถนนศิลาดำทอดยาบทที่ 4 ถางซือเซิน
“ท่านกลัวได้ชายารองฝาแฝดอีกหรืออย่างไร” ถางซือเซินอดหัวเราะเบา ๆ มิได้ เขาจำได้ว่าฉินอ๋องมีสีหน้าเช่บทที่ 5 ท่านอ๋อง...ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง
เมื่อย้อนนึกถึงวันวานในวัยเยาว์ของตนเองกับผู้ที่เป็นอัครเสนาบดี ก็เริ่มจำได้ว่าพวกเขาเคยพูดเรื่องรับบทที่ 6 เทียบเชิญที่เลี่ยงไม่ได้
กองทัพตระกูลเยี่ยนยาตรามาถึงเมืองหลวงแล้ว
ฮ่องเต้ทรงมีราชโองการแต่งตั้งเยี่ยนหยางเจวี๋ยเป็นแบทที่ 7 ฉีเอ๋อร์...ลำบากเจ้าแล้ว
ตอนอยู่เมืองชายแดน ความงามของเยี่ยนเยว่ฉีก็เป็นที่เลืองลือแล้ว ครั้นนางอายุได้สิบสองปี บรรดาบทที่ 8 เก็บลูกตาของเจ้าไว้มองภรรยาในอนาคตจะดีกว่า
กระโปรงปักลายดอกโบตั๋นพลิ้วไหวไปตามจังหวะเยื้องย่าง ทุกกิริยางดงามอ่อนช้อยดังเทพธิดาจันทราสมกับชื่อขบทที่ 9 พานพบสตรีที่นำความยุ่งยากมาให้
ปลายเหมันตฤดูอากาศอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ดอกเหมยงดงามหลากสีในอุทยานหลวงบานสะพรั่ง แต่ยังคงเห็นน้ำบทที่ 10 ท่านคงไม่ใช่ฉินอ๋องกระมัง
ก่อนที่นางจะพูดมากไปกว่านี้แล้วหัวสวย ๆ จะอยู่ไม่ติดร่าง พระอนุชาของฮ่องเต้เช่นเขาคงต้องสั่งสอนสตรีนบทที่ 11 คุณหนูเยี่ยนเข้าใจถูกต้องแล้ว
“คุณหนูเยี่ยน เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว” มู่เลี่ยงหรงดูเหมือนขุนเขาตระหง่านขึ้นมาทันที รัศมีสูงศักดิ์ยิ่บทที่ 12 เริ่มต้นงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ
มู่เลี่ยงหรงเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงงานเลี้ยงโดยเร็วที่สุด เขาต้องการพบอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายก่อบทที่ 13 จดหมายจากชายนิรนาม
มู่เลี่ยงหรงวางใจคลายโทสะ ปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหยักมุมปากขึ้นเล็กบทที่ 14 ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ามาเอาขลุ่ยคืน
เยี่ยนเยว่ฉีมองไปรอบถ้ำใต้น้ำตกจำลองซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม มีทางเดินทอดยาวสู่พื้นหินที่บทที่ 15 เด็กดื้อ ถ้าเจ้าดิ้นอยู่แบบนี้เราจะสงบลงได้อย่างไร
ยามนี้คลื่นอารมณ์ปั่นป่วนรุนแรงถาโถมสู่กายนาง พลังจากความต้องการอันร้อนแรงนี้ฉุดรั้งนางให้จมบทที่ 16 เจ้ารู้หรือไม่ มีสตรีมากมายเพียงใดอยากปีนขึ้นเตียงของเรา
เมื่อหญิงสาวเชื่อฟังและหยุดดิ้น มู่เลี่ยงหรงยิ้มกริ่มอย่างพอใจ นัยน์ตาคมปลาบยังฉายแววปรารถนาบทที่ 17 แต่หนึ่งในนั้นย่อมไม่ใช่หม่อมฉัน
“หึ! แต่หนึ่งในนั้นย่อมไม่ใช่หม่อมฉัน” เยี่ยนเยว่ฉีตอบกลับแทบจะทันที นางถลึงตามองบุรุษสูงศักบทที่ 18 ถ้าไม่อยากตาย เช่นนั้นเจ้าจะชดใช้อย่างไร
“กรี๊ด...ท่าน ท่านปล่อยข้านะ คุณหนูช่วยข้าด้วย...อ๊าย” เสียงซูจิ้งร้องดังอย่างน่าเวทนา องครับทที่ 19 แล้วแต่ท่านอ๋องจะเมตตาเพคะ
“แล้วแต่ท่านอ๋องจะเมตตาเพคะ”
“เจ้าแน่ใจแล้วหรือ”
“เพคะ”
“โทษทัณฑ์ของการลบหลู่ผู้แทนพระองค์นับทที่ 20 แยกย้าย
“เราพบขลุ่ยหยกจึงนำมาคืนนายของเจ้า เราเองเป็นผู้ชื่นชอบดนตรีจึงขอให้นางสอนเคล็ดลับการเป่าขลุบทที่ 21 พบจิ้งจอกสีเงินแห่งแคว้น
เยี่ยนเยว่ฉีทบทวนเหตุการณ์ในวันนี้ ก็เห็นว่าตนเองน่าจะคาดเดาคำทำนายของพี่ชายผิดไปเสียแล้ว เพบทที่ 22 คราวหน้าข้าจะไม่ตัดแค่ผมเจ้า
สิ้นคำสั่งผู้เป็นนาย องครักษ์หนุ่มชักอาวุธประจำกายแล้วพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพลงดาบทที่ 23 กระหม่อมคิดว่าเราควรสมัครสมานสามัคคีกันเอาไว้จะดีกว่า
ก่อนว่าที่น้องเขยจะอกแตกตายด้วยโทสะ เยี่ยนจิ้นหลิงคิดว่าตนคงต้องยุติการปะทะอันไม่จำเป็นนี้ไดบทที่ 24 กลับเข้างานเลี้ยง
หมู่เมฆบดบังแสงอาทิตย์ในปลายเหมันต์ฤดู อากาศยังคงหนาวเย็นอยู่แม้หิมะละลายไปสิ้นแล้ว สายลมโชยบทที่ 25 รอยยิ้มอันน่าชัง
บุรุษผู้สง่างามนั่งลงประจำที่ ทว่ารังสีกดดันอันเย็นเยียบที่เคยมีกลับจางหายไปจนสิ้น
มู่เลี่ยบทที่ 26 ทำไมสตรีเหล่านั้นถึงเรียกขานเขาอย่างสนิทไปเสียหมด
“คุณหนูเยี่ยนเข้าใจผิดแล้ว สำหรับซือเซียน ตำแหน่งหวางเฟยไม่ได้สำคัญอะไรสักนิด แต่เป็นน้ำหนักบทที่ 27 ท่านหญิงกุ้ยอิน
แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งขุ่นแค้น ครั้นนึกได้ว่าวันนี้ตนเองก็เพิ่งพบท่านอ๋องหนุ่มครั้งแรก เขาก็กล้าทำบทที่ 28 คำสั่งของจิ้งจอกสีเงิน
“อะไรนะ ท่านอ๋องทำร้ายพี่รองหรือ แล้วนี่ท่านบาดเจ็บที่ใดบ้าง” ผู้เป็นน้องสาวตกใจพลางลูบคลำไปบทที่ 29 หงส์วอนหาคู่
เวลาแห่งการเฉลิมฉลองต้อนรับฤดูใบไม้ผลิยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
การแสดงฉิน[1] ของคุณหนูหลิวชิงกำลบทที่ 30 มีอะไรไม่ดีหรือ?
ขณะนี้ผู้คนต่างคิดตรงกันว่าพวกเขาเหมาะสมกันดั่งคู่สวรรค์สร้างโดยแท้ จึงพากันปรบมือดังกึกก้องบทที่ 31 เหลวไหลสิ้นดี ข้าไม่เชื่อเจ้า
“เสด็จพี่ หากให้นางระบุฤกษ์ดูจะมิบังควร ในราชสำนักมีจ้งซุนซินแสดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว กระหม่อบทที่ 32 นี่หรือคือการได้พบเนื้อคู่
การถูกทำให้อับอายเช่นนี้เขาไม่อาจยอมรับได้จริง ๆ เมื่อพระเชษฐาทรงเห็นดีเห็นงามกับผู้อื่น แล้บทที่ 33 ไหนท่านอ๋องบอกว่าไม่ต้องการหม่อมฉันยังไงเล่า
เมื่อถางซือเซียนพ้นออกมาจากงานเลี้ยง ก็รีบวิ่งตามมู่เลี่ยงหรงไปจนทัน นางดึงแขนเสื้อของฉินอ๋อบทที่ 34 เยี่ยนจิ้นหลิงออกมา!
“น้องเล็ก”
เสียงทุ้มนุ่มอันคุ้นเคยลอยเข้าสู่โสต ปลุกหญิงสาวตื่นจากภวังค์
“พี่ใหญ่” นัยน์ตาขบทที่ 35 ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดเอาเสียเลย
มู่เลี่ยงหรงกับถางซือเซียนขึ้นรถม้าออกจากวังหลวงผ่านมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เขาก็ยังคงโอบกอดสตบทที่ 36 นางฟ้าน้อยของฉินอ๋อง
“แต่เท่าที่เห็น นางกับพี่ชายนางฉลาดมากทีเดียว” ถางซือเซียนหัวเราะเสียงใสกังวาน ลักยิ้มบนแก้มบทที่ 37 นางเด็กปีศาจ!
ยามมู่เลี่ยงหรงอายุได้สิบสองชันษา ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เริ่มมองหาเด็กสาวที่เหมาะสมกับเขา หากพบผู้บทที่ 38 เจ้าวางใจ ข้าจะหาผู้ชายดี ๆ ให้เจ้าเอง
ต่อมาไม่นานมู่เลี่ยงหรงก็เริ่มช่วยสะสางราชกิจ ไม่ได้เชิญพี่น้องตระกูลถางมาเข้ามาเล่นในวังด้วบทที่ 39 เทศกาลหยวนเซียว
หลังฉลองวันปีใหม่ผ่านพ้นไปไม่นาน ก็ถึงเทศกาลที่หนุ่มสาวต่างรอคอย ในวันขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนสองบทที่ 40 เทพจันทราพระทานพร
เยี่ยนเยว่ฉีจรดปลายพู่กันเขียนชื่อของนางลงไป แต่กลับลังเลที่จะเขียนชื่อบุรุษผู้นั้น
มือขาวผบทที่ 41 โคมกระต่ายนี้ข้าให้เจ้า
มู่เลี่ยงหรงรับรู้ถึงอาการเกร็งของร่างบาง เขาค่อย ๆ โน้มศีรษะลงมาอย่างย่ามใจ จนกระทั้งแก้มแนบกับเส้นบทที่ 42 เสี่ยวเยว่ เราจะดีกับเจ้า คิดถึงเจ้า และชอบเจ้ามากกว่าสตรีทุกคน
มู่เลี่ยงหรงส่งสัญญาณให้ซิ่นเฉิง องครักษ์หนุ่มจึงรีบไปจัดการซื้อโคมลอยมาสองใบอย่างรวดเร็ว
“เปิ่นหวางบทที่ 43 พอเถิด ท่านอ๋องไม่ต้องเสแสร้ง
“เยี่ยนเยว่ฉีเอ๋ย...ไว้เจ้าพร้อมเมื่อใดก็ส่งฤกษ์มาที่จวนฉินอ๋องก็แล้วกัน” ชายหนุ่มกระซิบเสียงเย็น เหบทที่ 44 ทีนี้เจ้าคงพอรู้หัวใจของเราบ้างแล้วกระมัง
“เอาล่ะ เรายกโทษให้เจ้าก็ได้ แต่ต่อไปห้ามทำอีกนะ”
“เพคะ เยว่ฉีไม่กล้าแล้ว”
“แล้วเมื่อครู่เหตบทที่ 45 เพราะมีท่านอ๋องอยู่ด้วยนี่ล่ะเพคะ ผู้อื่นถึงจะไม่ปลอดภัย
ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างสมบูรณ์ มองไปทางไหนก็เห็นสีสันของเหล่าต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์แข่งกบทที่ 46 จวิ้นอ๋องกับท่านหญิงตระกูลจ้าว
“มิได้เพคะ เพียงแต่ผู้อื่นไม่เห็นประโยชน์ที่ท่านจะทำเรื่องให้มันยุ่งยากขึ้นไปอีก”
“คู่หมั้นคบทที่ 47 ดูเหมือนเจ้ากำลังหึงข้าอยู่
ภายในส่วนรับรองของเรือพระที่นั่ง
ฉินอ๋องพาถางซือเซียนไปส่งที่หน้าห้องของนางก่อน ทั้งคู่ไม่ไดบทที่ 48 ทำแบบนี้จะดีหรือพี่รอง
ฉินอ๋องพยายามใช้ความคิดตลอดทางที่เดินมา เท่าที่ฟังปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็นความคิดของเยบทที่ 49 ฉินอ๋อง เจ้ามองมาสิ จงมองภาพนี้ให้เต็มตา
แสงอาทิตย์ยามอัสดงสะท้อนกับพื้นน้ำระยิบระยับอาบด้วยสีส้มแดง สายลมโชยแผ่วเบาไปตามความเร็วของเบทที่ 50 บุรุษหน้าตายผู้นั้นมันเป็นใคร
ตลอดเส้นทางเฟิงหลี่จื้อคอยปรายตามองเยี่ยนเยว่ฉีอยู่บ่อยครั้ง
เนื่องจากไม่ใช่งานเลี้ยง ที่นับทที่ 51 ให้ตายเถอะ! เยี่ยนจิ้นหลิงไยไม่บอกไม่กล่าวกันบ้าง
“เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ได้โปรดอย่าถามอีกเลย” ถางซือเซินหลุบตาลง ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นแววบทที่ 52 เปิ่นหวางว่า ทางที่ดีเจ้าสงบปากสงบคำเอาไว้ดีกว่า
ระหว่างที่เฟิงหลี่จื้อกำลังคิดหาทางลงให้ตนเอง มู่เลี่ยงหรงก็ตัดสินใจเปิดปาก
“ว่าอย่างไรท่านจบทที่ 53 ดูเหมือนท่านอ๋องกำลังหึงหม่อมฉันอยู่
คนอื่นยังคงอยู่ในห้องโถง ต่างรับประทานอาหารและดื่มสุรา ระหว่างทางจึงไม่พบเงาของผู้ใด มู่เลี่บทที่ 54 เป็นผู้อื่นต่างหากที่สมควรพูดว่าปวดใจ
ภายในห้องมีแสงสลัวจากตะเกียง มู่เลี่ยงหรงก้าวเท้าฉับ ๆ ไปทางซ้ายและลัดเลี้ยวไปทางขวาตามทางเดบทที่ 55 เจ้าน่ะหรือมีใจเดียว ซ้ำยังกำลังปวดใจเพราะข้า?
มู่เลี่ยงหรงได้ฟังก็นิ่งอึ้งไป ไม่คิดว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะเอ่ยตรงไปตรงมาเช่นนี้กับตนเอง แต่ถึงไมบทที่ 56 การลงทัณฑ์ของท่านอ๋อง
เยี่ยนเยว่ฉีหน้าแดงซ่าน พยายามใช้สองมือหวังปิดบังทรวงอกจากสายสายคมกริบคู่นั้น ทว่ามู่เลี่ยงหบทที่ 57 ท่านอ๋องเอาแต่ใจยิ่งนัก แต่กลับไม่มีความยุติธรรม
ร่างนางสะท้านเมื่อเขาตวัดนิ้วแทรกลึก ปลายนิ้วร้อนขยับเข้าไปได้เพียงหนึ่งข้อก็รู้สึกถึงความอ่อนบทที่ 58 ลองว่ามา อย่างไรจึงเรียกว่ายุติธรรม
“เยว่ฉีเพียงต้องการความเป็นธรรมบ้างก็เท่านั้น”
“ลองว่ามา อย่างไรจึงเรียกว่ายุติธรรม”
“ท่านอ๋อบทที่ 59 โรคประหลาดของเยี่ยนจิ้นหลิง
แต่ที่แปลกก็คือกุนซือหนุ่มยืนนิ่งราวกับไร้วิญญาณ
ความผิดปกตินี้ทำให้บุรุษผู้สูงศักดิ์ตัดสินบทที่ 60 เปิ่นหวางกับคู่หมั้นต้องการความเป็นส่วนตัว
ดวงอาทิตย์สาดแสงสีทองระบุยามรุ่งสาง เรือพระที่นั่งจอดเทียบท่าอารามหลวงสือคู เหตุที่ใช้ชื่อนีบทที่ 61 เจ้าช่างโง่งมนัก มิน่าจึงเป็นได้เพียงอันดับหนึ่งของเหล่าคนที่ใช้เพียงกล้ามเนื้อแทนสมอง
เยี่ยนเยว่ฉีโยนติ้วเสี่ยงทาย ไม่มีใครทราบว่าโฉมสะคราญถามอันใดกับพระพุทธองค์ รู้เพียงแต่ว่านาบทที่ 62 เมื่อครู่ ชายผู้นั้นแตะต้องมือข้างนี้ของเจ้าใช่หรือไม่
ลำเรือไม่ได้เล็กมากนักจึงนั่งได้สบาย บุตรสาวแม่ทัพใหญ่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ฉินอ๋องทำให้นางแปบทที่ 63 จดหมายจากเยี่ยนจิ้นหลิง
เยี่ยนเยว่ฉีครางเบา ๆ ในลำคอ ถึงจะถูกเขาพร่ำสอนมาแล้วหลายครั้งก็ตามที แต่ลิ้นเรียวเล็กยังคงสบทที่ 64 พระจันทร์ดวงน้อยสะเดาะเคราะห์
ในขณะที่พี่น้องกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็เกิดเสียงดังมาจากทางเดิน ไม่ทันไรเงาร่างของผู้สูงศักบทที่ 65 จุ๊ ๆ ดูท่าเจ้าจะชอบความคิดนี้ของข้า
มู่เลี่ยงหรงสวมอาภรณ์ทีละชิ้นจนเสร็จสรรพ จากนั้นจึงรีบเดินลมปราณเพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายบทที่ 66 เฉิงจื่อหรู
จวนฉินอ๋อง
บุปผานานาพันธุ์ต่างแย่งกันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งจวน บรรดาข้ารับใช้ นบทที่ 67 ความเปลี่ยนแปลงของฉินอ๋อง
มู่เลี่ยงหรงพยายามแกะท่อนแขนที่โอบรัดตนออกเบา ๆ จากนั้นจึงออกแรงเล็กน้อยดันร่างบอบบางลงจากตับทที่ 68 ลู่เหมยหลิน ลู่เหมยหลัน
ล่วงเข้ายามไฮ่[1] มู่เลี่ยงหรงเพิ่งสะสางกองฎีกาที่ค้างไว้เสร็จจึงเมื่อยล้าไปหมด เขาอยากแช่น้บทที่ 69 ข้าไม่ได้ไร้น้ำยาเสียหน่อย
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม
ฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดถูกกำจัดออกจากร่างจนหมดสิ้น มู่เลี่ยงหรงกำหมัด ขบกรบทที่ 70 เปิ่นหวางแค่ต้องไอเย็น
เฉิงจื่อหรูยังคงใจเย็น ไม่ยอมรับความผิด “ก็แค่อาหารบำรุงกำลังวังชาเท่านั้นเองเพคะ”
“เอาออกไปบทที่ 71 ท่านอ๋องใจร้ายจริงๆ ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก
รสจุมพิตอันร้อนแรงแผดเผาสติจนเกือบจะมอดไหม้ ก่อนที่ลมหายใจของนางจะขาดห้วง มู่เลี่ยงหรงจึงผละบทที่ 72 ฉินอ๋องมาเยือน
เยี่ยนเยว่ฉีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นหลังจากได้ยินเสียงปลุกอันคุ้นเคย แสงสีทองในยามเช้าสาดส่องเข้ามาอบทที่ 73 ข้าไม่ได้ชอบอาหารพวกนี้สักหน่อย
ใกล้ล่วงยามซื่อ[1] เยี่ยนเยว่ฉีทำได้เพียงดื่มน้ำชากลั้วท้องรอชายทั้งสี่ หญิงสาวไม่รู้สึกหิวสบทที่ 74 อาหารที่หม่อมฉันทำมีปัญหาอันใดหรือ
มู่เลี่ยงหรงยิ้มเย็น พยายามข่มอารมณ์ “ท่านกุนซือช่างใส่ใจผู้อื่นเสียจริง เปิ่นหวางรู้สึกซาบซบทที่ 75 เรือนพำนักของคุณชายรองสกุลเยี่ยน
พอเข้าไปแล้ว มู่เลี่ยงหรงก็พิจารณางานตกแต่งเรือนของผู้ที่ได้ฉายาจิ้งจอกสีเงินแห่งแคว้นอย่างสบทที่ 76 ข้าก็หัดมาจากท่านนั่นแหละ
ในที่สุดการรอคอยอันแสนยาวนานของมู่เลี่ยงหรงก็สิ้นสุดลง
ไม่มีผู้ใดอยู่เป็นก้างขวางคอตนเองกับบทที่ 77 ข้าช่างโง่งมยิ่งนัก
ในที่สุดการรอคอยอันแสนยาวนานของมู่เลี่ยงหรงก็สิ้นสุดลง
ไม่มีผู้ใดอยู่เป็นก้างขวางคอตนเองกับบทที่ 78 เซียนเอ๋อร์เจ้ามาทำอะไรที่นี่
สามสิบเอ็ดราตรีผ่านพ้น มู่เลี่ยงหรงสามารถอดทนกับแรงยั่วยุ รักษาพรหมจรรย์ และละเว้นข้อห้ามได้บทที่ 79 เดิมพันครั้งสุดท้ายของนางฟ้าน้อย
ถางซือเซียนเอาแต่ร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ มู่เลี่ยงหรงไม่ต้องการให้เหตุการณ์นี้เป็นที่สนใบทที่ 80 เอาสิบสองปีของข้าคืนมา!
ถางซือเซียนมองหน้ามู่เลี่ยงหรงอย่างน่าสงสาร
“เอาสิบสองปีของข้าคืนมา” หญิงสาวพึมพำ
“เซียนเอ๋อบทที่ 81 นี่พวกท่านคิดว่าจิ้นหลิงเหลวไหลขนาดนั้นเชียว
แววตาจิ้งจอกเผยออกมาอีกครั้ง เขาล้วงเข้าไปหาบางสิ่งในอกเสื้อ ก่อนจะยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ “วบทที่ 82 เยี่ยนจิ้นหลิงเจ้าล้ำเส้นมากไปแล้ว
ถางซือเซียนเห็นทุกคนคุยธุระกันเสร็จแล้วจึงเดินเข้ามาใกล้ “ยินดีกับท่านทั้งสอง”
“ขอบใจนะเซียนบทที่ 83 การปรากฏตัวของฮูหยินแม่ทัพใหญ่
จวนไคกั๋วกง
เวลาผ่านไปไวเหมือนกับโกหก ในที่สุดราชโองการกำหนดพิธีวิวาห์ก็เดินทางมาถึงจวนเยี่บทที่ 84 ในเมื่อเจ้าชอบอ้างชะตาฟ้าลิขิตนัก
เยี่ยนหยางเจวี๋ยคว้าภรรยาเข้ามากอด ร้องห่มร้องไห้ราวกับเด็กน้อยสูญเสียของรักไป “แต่...ข้าไม่บทที่ 85 บทลงโทษของจิ้งจอกสีเงิน
“เยี่ยนจิ้นหลิง น้อมรับคำสั่งท่านแม่ทัพใหญ่” ชายหนุ่มจำต้องยินยอม แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นเพียงใบทที่ 86 ข้าสั่ง ก็ทำ ๆ ไปเหมือนทุกทีเถิด
เมื่อถูกคลื่นพลังโอบกอดบุรุษผมสิ้นเรี่ยวแรงโดยพลัน เขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป อำนาจขอบทที่ 87 เจ้าอยู่ด้วยก็ดี จะได้รับรู้พฤติกรรมของนาง
ตั้งแต่มู่เลี่ยงหรงได้รับราชโองการ ก็รีบจัดเตรียมงานแต่งเป็นการใหญ่ ไม่เพียงประดับประดาตกแต่บทที่ 88 ผิดที่เจ้าไม่บอกข้า แต่กลับวิ่งไปหาเยี่ยนจิ้นหลิง
มู่เลี่ยงหรงวางพู่กันลงตรงขอบแท่นฝนหมึก หาได้ละสายตาจากสหายแม้แต่น้อย “ดูแล้วเจ้าคงไม่ได้มีเอบทที่ 89 บัดซบ! หากไอ้โรคจิตนั่นบอกให้เจ้าสังหารข้าตอบแทนเล่า
ถางซือเซียนสัมผัสได้ถึงความผิดหวังที่เจือมากับน้ำเสียงอันเย็นเยียบ จึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้บทที่ 90 กระหม่อมรู้ว่าท่านอ๋องเป็นคนใจกว้าง
“กำลังห่วงว่ากรรมจะตามสนองอย่างนั้นหรือซือเซิน” มู่เลี่ยงหรงเปรยออกไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ร่างบทที่ 91 ความสัมพันธ์กับผลประโยชน์เป็นของคู่กัน
มู่เลี่ยงหรงมีหรือจะไม่รู้ทันความคิดของถางซือเซิน ความจริงเขาก็ไม่ได้ต้องการเอาเรื่องเอาราวบทที่ 92 ผิดแล้ว ฉินอ๋องก็เป็นแค่หมากเหมือนกัน
“ท่านอ๋องได้โปรดอย่าดึงเซียนเอ๋อร์มาเกี่ยวข้อง นางยังเด็กนัก”
“ผิดแล้วซือเซิน เรื่องทั้งหมดนบทที่ 93 คำสั่งสอนของมารดา
“เจ้านี่นะ แม่กำลังสอนยังทำเป็นเล่น ไม่ได้ให้ไปตบตีผู้ใดทั้งสิ้น เจ้าต้องรู้จักใช้กฎของจวนควบบทที่ 94 เปิ่นหวางอยากจะพาคู่หมั้นไปร่วมชมงิ้วด้วยกัน
เวลาติดปีกโบยบิน อีกไม่ถึงครึ่งเดือนก็จะถึงงานพระราชทานสมรสระหว่างฉินอ๋องกับบุตรสาวไคกั๋วกงบทที่ 95 ตลกร้ายของลูกทำให้ท่านพ่อกังวลแล้ว
เวลาเลื่อนไหลไปราวกับสายน้ำ ในที่สุดก็ถึงวันจัดงานชมงิ้วประจำปี ระหว่างรอบุตรสาวเตรียมตัวไปงบทที่ 96 ความริษยาของท่านหญิง
ใช้เวลาไม่นานนักรถม้าของจวนไคกั๋วกงก็ถึงที่หมาย
โรงละครเป่าชางนับว่าเป็นสถานเริงรมย์ที่ใหญ่โบทที่ 97 ท่านอ๋องทำสำเร็จแล้วเพคะ
ร่างอรชรในอาภรณ์สีแดงเพลิงเดินนำกลุ่มของฉินอ๋องไปยังที่นั่งของประธาน คนทั้งหมดนั่งลงในตำแหน่บทที่ 98 งิ้วโรงใหญ่
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของจ้าวกุ้ยอิน ความริษยาแผ่ลามไปทั่วทั้งใจ หากจะบอกว่าเยี่ยนเยบทที่ 99 เทพสงครามกับยอดพธูแห่งแคว้น
“ฉินอ๋อง ข้ากับองครักษ์ซิ่นเองจะพาพวกนางออกไป” จ้าวเฟิงเหลยอาสาแทรกเข้ามา หัวหน้าองครักษ์ประบทที่ 100 โล่กันธนูนามจ้าวกุ้ยอิน
เมื่อได้ยินคำตอบ มู่เลี่ยงหรงก็สาวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าผู้คิดสังหารเขา “ใต้เท้าชวีโกงกิน คบคิดบทที่ 101 ดอกท้อบาน ชะตาฟ้าลิขิต นิมิตข้าแจ่มชัดแล้ว
รถม้าเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ไปบนถนนศิลายามค่ำคืน สามพี่น้องตระกูลเยี่ยนนั่งประจันหน้ากันอยู่ในบทที่ 102 งานสมรสแห่งปี
ข่าวงานวิวาห์ของฉินอ๋องกับบุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่นับเป็นหัวข้อสนทนาของคนในเมืองหลวงขณะนี้ เนื่บทที่ 103 เจ้าบ่าวผู้เมามาย
“คุณหนูไม่ได้นะเจ้าคะ” ซูจิ้งร้องห้ามนายหญิงของตนทันที “ต้องให้ท่านอ๋องมาเปิดให้เท่านั้น หากบทที่ 104 ท่านอ๋อง ข้าหิว
ผิวพรรณขาวผ่องดุจหยกเปล่งประกาย บ่งบอกถึงการดูแลตนเองเป็นอย่างดี สามีของนางช่างมีเสน่ห์เสียจบทที่ 105 มานี่สิ ข้าจะคลายร้อนให้เจ้าเอง
สุราดอกเบญจมาศที่ได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้มีรสหวานล้ำเลิศเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งไม่ได้ร้อนแรงจบทที่ 106 เสี่ยวเยว่เจ้าเป็นอะไรไปหรือ
“ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน” เสียงของมู่เลี่ยงหรงแหบพร่า มือลูบไล้ไปบนนวลเนื้อสล้าง เคล้าคลึงบีบเบทที่ 107 ข้าจะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี ไม่ต้องกลัว
“เสี่ยวเยว่อย่าร้องไห้ ข้ารู้ว่าเจ้ากลัว แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้าสัญญาว่าจะทะนุถนอมเจ้า” มู่เลีบทที่ 108 ภาระกิจแรกของการเป็นฉินหวางเฟย
ราตรีอันยาวนานผ่านพ้น แสงอาทิตย์สาดส่องจนสามารถมองเห็นสรรรพสิ่งต่าง ๆ
ร่างบางที่นอนบนฟูกนุ่บทที่ 109 บัดซบ! เยอะขนาดนี้เชียว
เมื่อทั้งสองแสดงออกว่าอิ่มแล้ว นางกำนัลก็นำน้ำมาให้ป้วนปาก ทั้งสองใช้ผ้าขาวสะอาดเช็ดริมฝีปากบทที่ 110 ไปถวายพระพรไทเฮา
เมื่อปล่อยให้สตรีทั้งหลายทำความรู้จักกันพอเป็นพิธีแล้ว มู่เลี่ยงหรงจึงเอ่ยเตือนว่าใกล้เวลาเขบทที่ 111 ข้าคือฉินหวางเฟย
เยี่ยนเยว่ฉีไม่เคยพบไทเฮาอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง นางรู้สึกประหม่ามาก มือทั้งสองข้างเริ่มชบทที่ 112 ท่านคิดมาตลอดว่าข้ามิใช่กุลสตรีสินะ
มู่เลี่ยงหรงหยุดรอชายาที่หน้าตำหนัก ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนางไว้ที่ตรงนั้น แต่ด้วยกำลับทที่ 113 ถ้าเป็นเรื่องนั้น ช่างมันเถิดเจ้าค่ะ
วันนี้ชิงหรูเป็นเวรดูแลฉินอ๋องกับหวางเฟย ซูจิ้งจึงมีเวลาออกมาเดินสำรวจจวน นางพยายามจำว่าสถานทบทที่ 114 ความรักกับคำเตือน
แม้คำพูดของซิ่นเฉิงจะก่อระลอกคลื่นในใจหญิงสาว แต่ซูจิ้งก็ไม่วายคิดถึงคำขู่ของเยี่ยนจิ้นหลิงบทที่ 115 ทำไมไม่รู้จักเชื่อกันบ้าง
ซูจิ้งเหมือนถูกสูบวิญญาณออกไป สัมผัสครานี้ของชายหนุ่มช่างวาบหวามยิ่งนัก ลิ้นร้อนค่อยๆ ล่อหลอบทที่ 116 ใครบอกว่าข้าไม่ถือสาคนพวกนั้น
วันที่สามของการแต่งงาน ตามธรรมเนียมของแคว้นหาน สามีต้องพาภรรยากลับไปเยี่ยมบ้านเดิม
เนื่องจบทที่ 117 กลับจวนกั๋วกง
ขณะนั้นนางกำนัลที่เพิ่งย้ายมารับใช้จำนวนสองนางต่างยืนก้มหน้านิ่ง ตัวสั่นเทา ทั้งๆ ที่อากาศก็ไบทที่ 118 ท่านอ๋องปรีชายิ่ง จิ้นหลิงแพ้แล้ว
บรรยากาศไม่ค่อยอึมครึมแล้ว หลังจากมู่เลี่ยงหรงแกล้งเมามายพ่ายแพ้ในงานเลี้ยงแต่งงาน เยี่ยนหยาบทที่ 119 ไม่เสียทีที่ได้มาเยี่ยมบ้านภรรยา เปิ่นหวางได้เปิดหูเปิดตาแล้ว
ระหว่างบิดากำลังปลื้มอกปลี้มใจ เยี่ยนเยว่ฉีคีบอกไก่น้ำข้นมาชิ้นหนึ่งแล้วยื่นจ่อปากสามี
“ท่าบทที่ 120 นี่คือค่าตอบแทนของพวกท่านทั้งสองคน
ผ่านไปสักครู่ เยี่ยนเยว่ฉีก็เยื้องกรายเข้ามาในห้องหนังสือของเรือนพำนักของคุณชายรอง
“ฉีเอ๋อร์บทที่ 121 นางฟ้าน้อยสับสนในใจ
วันรุ่งขึ้น
มู่เลี่ยงหรงพาเยี่ยนเยว่ฉีเดินทางกลับจวนฉินอ๋องพร้อมกัน เนื่องจากฉินอ๋องตัดสินใบทที่ 122 คนเรายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
“ข้าเพียงคาดเดาทุกสิ่งที่เป็นไปได้ หากเจ้าไม่คิดเช่นนั้นข้าก็ไม่ว่าอันใด เพียงแต่จงระวังตนเอบทที่ 123 ช่างเถิด มันไม่ใช่เรื่องของเรา
“ขอบใจเจ้ามาก ว่าแต่เซียนเอ๋อร์ เจ้าทำขนมกล่องนั้นมาให้ผู้ใดหรือ”
“อันนี้คือ...คือ...” สาวน้บทที่ 124 มู่เลี่ยงหรงคนหลอกลวง
หลายทิวาราตรีผ่านพ้น เหตุการณ์ในจวนฉินอ๋องยังคงดำเนินไปตามปกติ มู่เลี่ยงหรงออกไปประชุมเช้าเปบทที่ 125 ข้าจะลิ้มชิมรสเทพธิดาให้สมกับที่รอคอย
ภายในห้องหนังสือ
ลู่เหมยหลันพยายามวางหมากสีขาวลงบนกระดาน แต่มู่เลี่ยงหรงไม่ยอมอ่อนข้อให้เลยบทที่ 126 โรคประหลาด
ทันทีที่อุปสรรคถูกขจัดออกไป มือร้อนสากจึงเลื่อนขึ้นมากอบโกยโนมเนื้อส่วนนั้นทันที ฝ่ามือใหญ่เบทที่ 127 พระประสงค์ของไทเฮา
เวลาผ่านไปร่วมเดือนโรคประหลาดของฉินหวางเฟยก็ไม่ดีขึ้น ทำให้ฉินอ๋องไม่อาจเข้าหอกับนางได้ ครั้บทที่ 128 ท่านหญิงกับแผนทุกข์กาย
“แม่มิได้ลืมเลือน แต่ลองตรองดูเถิด ในขณะที่เจ้ายังคงตั้งมั่น ชายาเอกจวนอื่นก็คลอดบุตรกันเป็นบทที่ 129 ชะตาดอกท้อของฉินอ๋อง
อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายก้าวออกมาจากที่ซ่อนหลังชั้นหนังสือ
“เจ้ากล้าดียังไงถึงแนะนำให้เสด็จพี่ส่งบทที่ 130 ข้าคงไม่ได้ไปแย่งเนื้อคู่ใครเข้าแล้วหรอกกระมัง
เยี่ยนจิ้นหลิงไม่สามารถแพร่งพรายมติสวรรค์โดยตรงกับผู้ใดได้ จึงใช้วิธียืมมือผู้อื่นแก้ไขเปลี่บทที่ 131 เดินทางไปเมืองเทียนเซียน
ลมวสันต์อบอุ่นพัดยอดไม้โยกไหว กิ่งหลิวพลิ้วตามแรงโบกโชย บรรยากาศในวังหลวงคึกคัก บ่าวไพร่นางกบทที่ 132 ข้าแบ่งให้ท่านกุนซือกินก็ได้
ตะวันดวงโตลอยอยู่เหนือศรีษะ ขบวนคณะล่าสัตว์หยุดที่จุดพักม้า เดินทางไกลมาหลายสิบลี้ เหล่าอาชาบทที่ 133 รถม้าเจ้ากรรม
หลังจากผู้เป็นนายรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ซูจิ้งกับเสี่ยวลี่ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตบทที่ 134 คำกล่าวอ้างของจ้าวจวิ้นอ๋อง
“มะ...ไม่รบกวนจวิ้นอ๋องเพคะ” ถางซือเซียนรู้ว่าจ้าวเฟิงเหลยคิดกับตนเองเช่นไร นางจำเป็นต้องรักษบทที่ 135 ช่างกล้ายิ่งนัก ข้าหล่อเหลากว่าเจ้าตั้งเยอะ
ในขณะที่สถานการณ์เริ่มตึงเครียด บุรุษผมเงินก็ตะบึงอาชาสีหมอกกลับมาได้ทันท่วงที
เยี่ยนจิ้นหลบทที่ 136 ความลับแสนอื้อฉาวของถางซือเซียน
เยี่ยนเยว่ฉีนั่งเงียบมาสักระยะหนึ่งแล้ว นางเก็บปากเงียบไม่ถามอะไรเขาแม้สักครึ่งคำ
“อ้ายเฟยเบทที่ 137 วันนี้ข้ายังไม่ได้กอดเจ้าเลย
“วันนี้ข้ายังไม่ได้กอดเจ้าเลย ย่อมต้องคิดถึง” มู่เลี่ยงหรงรั้งโฉมงามให้เข้ามาแนบชิดกับเขาอีกบทที่ 138 ข้ายืนยันว่ามันจะใหญ่ขึ้นแน่นอน
ดวงตะวันยังไม่ทันลัดขอบฟ้า ขบวนเสด็จก็มาถึงลานล่าสัตว์เมืองเทียนเซียนได้ตามกำหนด แสงอาทิตย์ยบทที่ 139 ข้ามีของจะอวดเจ้า
พอถางซือเซียนสงบใจได้แล้ว โฉมสะคราญรุ่นพี่ก็ถ่ายทอดวิธีดูแลความงามให้กับผู้น้อยอย่างไม่ปิดบับทที่ 140 ทะเลหิ่งห้อย
เวลาผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป สรรพสิ่งรอบกายยังคงสงบนิ่ง มีเพียงเสียงใบไม้ไหวยามลมโชยผ่าน และเสีบทที่ 141 ความจริงในห้องหนังสือ
แม้ตามจารีต หวางเฟยจะต้องมีน้ำใจกว้างขวาง ความหึงหวงเป็นสิ่งต้องห้าม แต่สำหรับเขานั้น อาการผบทที่ 142 แน่ใจหรือว่านี่มิใช่วิชาต้องห้าม
หญิงสาวแนบศีรษะลงบนอกหนา ได้ยินเสียงจังหวะหัวใจเต้นสม่ำเสมอ ความรู้สึกอบอุ่นไหลวนไปทั่วร่างบทที่ 143 ถ้าใช่คงดี ข้าคงสะกดท่านอ๋องให้รักหลงข้าแต่เพียงผู้เดียว
ในระหว่างที่อ๋องหนุ่มหวั่นใจ ทว่าเยี่ยนเยว่ฉีกลับยิ้มพราย
“สำหรับขลุ่ยพลิ้วพราย อย่างมากก็เพบทที่ 144 ท่านอ๋อง...ข้ากลัว
มู่เลี่ยงหรงสบนัยน์ตาสุกใสของนาง มืออุ่นลูบไล้ไปบนพวงแก้มที่บัดนี้แดงซ่านด้วยความขวยอาย
“เสีบทที่ 145 ในราตรีแสนรัญจวน
มู่เลี่ยงหรงต้องการยลความเป็นสตรีของนางให้เต็มตาจึงใช้นิ้วเรียวแย้มกลีบผกาอันอ่อนนุ่มออกจากกบทที่ 146 ท่านอ๋อง...ท่านหลอกข้า
นางพร้อมสำหรับข้าแล้ว’ มู่เลี่ยงหลงถึงกับยิ้มกริ่ม เยี่ยนเยว่ฉีอ้อนวอนตนให้ร่วมอภิรมย์กับนางบทที่ 147 ป้ายพยัคฆ์คู่
มู่เลี่ยงหรงลูบไล้ไปบนเรือนร่างโฉมสะคราญ หมายจะเก็บรสสัมผัสอันล้ำลึกให้ตราตรึงในหัวใจตราบนานบทที่ 148 สาวน้อยเจ้ากล้าเมินข้าอย่างนั้นรึ
ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ปรากฏบนขอบฟ้า หมู่มวลวิหคขับขานเป็นท่วงทำนองเสนาะโสต ลมโชยพัดพาต้นหญ้าไหวลู่บทที่ 149 หม่อมฉันไม่เคยพูดว่าขี่ม้ายิงธนูไม่เป็นสักครั้ง
คิดได้ดังนั้นบุรุษผมสีเงินจึงเดินนำทางน้องสาวแสนสวยไปอีกทาง ไม่นานนักทั้งสองก็มาถึงกระโจมพับทที่ 150 แผนล่าสัตว์ของพี่น้องตระกูลเยี่ยน
เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปล่าสัตว์ที่หมายตาเอาไว้ เยี่ยนหยางจงกับเยี่ยนเยว่ฉีบทที่ 151 สุดยอดนักล่า
ครั้นเสือร้ายเลือกโจมตีตน มู่เลี่ยงหรงไม่รอช้า หากลงมือก่อนก็มีโอกาสชนะ ยิ่งเสือร้ายกระโจนมาบทที่ 152 เจ็บมากหรือไม่ ให้ข้าทายาให้เถิด
เมื่อทุกอย่างถูกจัดวางอย่างพร้อมสรรพ มู่เลี่ยงหรงจึงผายมือทั้งสองออกแล้วยกยิ้มเชื้อเชิญภรรยาบทที่ 153 เสือซ่อนเล็บ
หัวใจบุรุษเต้นถี่ ยินดีเมื่อเป็นฝ่ายถูกแสดงความรักก่อน
ลิ้นนุ่มชุ่มชื้นค่อยๆ ไล่เลียริมฝีปาบทที่ 154 สิ่งที่กระหม่อมต้องการคือท่านหญิงตระกูลจ้าวผู้นั้น
เมื่อถูกเรียกขานชายหนุ่มจึงก้าวออกมาคุกเข่าลงตรงหน้าพระพักตร์
“กระหม่อมเยี่ยนหยางจง พ่ะย่ะคบทที่ 155 ท่านไม่ควรเอาทั้งชีวิตที่เหลือไปผูกติดกับผู้หญิงที่ไม่ได้มีใจให้
ดวงจันทร์คืนวันเพ็ญทอแสงนวลส่องกระทบผิวทะเลสาบระยิบระยับ ราตรีนี้ไม่มืดมิดมากนัก ลมวสันต์โชยพบทที่ 156 เราไปอาบน้ำกันเถิด
“ปล่อยนะ” เยี่ยนเยว่ฉีดิ้นยึกยักแต่กลับหัวเราะเบาๆ
“ไม่ปล่อย” อ๋องหนุ่มยิ้ม แล้วยังกระชับอ้บทที่ 157 พระจันทร์ของข้าช่างใจร้าย
ไม่รู้เพราะมนต์อันใดชายหนุ่มถึงไม่อาจปฏิเสธความเอาแต่ใจของคนงามได้เลย จึงยอมทำตามคำขอ มือบุรบทที่ 158 พี่รองรังแกเจ้าหรือ
อรุณเบิกฟ้า เหล่าวิหคร้องเจื้อยแจ้วดังไปรอบบริเวณ ลมพัดเย็นสบาย อากาศกำลังดี พาให้ผู้คนที่ไดบทที่ 159 เรื่องเมื่อคืนนี้
ในที่สุดบุรุษที่หนีหายไปเมื่อครู่ก็ทนเฉยไม่ไหว จึงทะยานกลับเข้ามาในรถม้าอีกครั้งหนึ่ง ยามนี้บทที่ 160 พยัคฆ์เคียงบัลลังก์
สิ้นสุดฤดูการล่าสัตว์เมื่อใด ก็หมายความว่าฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาเยือน ลมแห่งสารทฤดูเริ่มพัดโหบทที่ 161 ไม่ใช่เจ้าหลอกใช้เขามารับเคราะห์แทนข้านะ
ผู้คุมรีบจดบันทึกคำให้การอย่างรวดเร็ว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็นำตัวนักโทษที่ลงมาจากผนัง แต้มหมึกบทที่ 162 ตำหนักริมน้ำ
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม มู่เลี่ยงหรงกับเยี่ยนจิ้นหลิงปรึกษากันเรื่องคดีที่ติดค้างไปได้สองสามคดบทที่ 163 ความจริงแล้วข้าคิดถึงเจ้าทุกลมหายใจ
“ความจริงแล้วข้าคิดถึงเจ้าทุกลมหายใจ อย่าคิดมากไปเลยคนดี ต่อแต่นี้ข้าจะไม่จากไปไหน”
“จะไม่ใหบทที่ 164 ข้าจะบอกรักเจ้าตลอดทั้งราตรี
ตอนนี้จิตใจบุรุษฮึกเหิมยิ่งนัก ทั้งเสียงหวานผสานกับการปลุกเร้าด้วยฝ่ามือ ภรรยาของตนช่างเร่ารบทที่ 165 ภรรยาข้า เจ้าชอบแบบนี้หรือไม่
เยี่ยนเยว่รู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงถูกสูบออกไป ยามนี้ทำได้แต่เพียงหอบหายใจสะท้านอยู่บนตักของสามีบทที่ 166 ขออีกครั้งเดียว
แสงอาทิตย์ทำลายความมืดมิดของราตรี ร่างบุรุษและสตรีตระกองกอดกันอย่างแนบชิดบนเตียงนุ่มหนา ร่างบทที่ 167 ความลำบากใจของมู่เลี่ยงหรง
เยี่ยนเยว่ฉีกระดากอายไม่น้อย ด้วยไม่สามารถปกปิดร่องรอยที่สามีประทับตีตราเอาไว้ได้ทั้งหมด นางบทที่ 168 มีใครอยากประลองหมากกับข้าบ้างหรือเปล่า
ใบหน้างามสะคราญประดับรอยยิ้มน้อยๆ เยี่ยนเยว่ฉีวางหมากลงบนกระดานท่าทางมั่นใจ นัยน์ตาหวานล้ำเปบทที่ 169 อำนาจนั้นเป็นของหวาน ผู้ใดได้ลิ้มรสย่อมไม่อาจตัดใจ
ระหว่างเฉิงจื่อหรูครุ่นคิดอยู่นั้น รอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่บนใบหน้าของเยี่ยนเยว่ฉีตลอดเวลา นางบทที่ 170 เจ้าเสียงดังเกินไปแล้ว
“เชิญท่านอัครเสนาบดีฯ จื่อหรูจะให้คนเดินไปส่งท่าน” เฉิงจื่อหรูทำลายความเงียบด้วยการทำหน้าที่บทที่ 171 ความแคลงใจของซิ่นเฉิง
ได้เวลาเข้าใต้เข้าไฟ ฉินอ๋องกับหวางเฟยต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เหล่านางกำนัลทั้งสีบทที่ 172 เป็นเยี่ยนจิ้นหลิงอีกแล้วใช่หรือไม่
“เจ้ารังเกียจข้าหรือ” เขากระซิบถามทั้งๆ ที่ยังซุกไซ้ซอกคอหอมด้วยกลิ่นน้ำมันหอมจากดอกไม้
“พี่บทที่ 173 คำขอร้องของซูจิ้ง
ในที่สุดบุรุษผมสีเงินก็พอจะหาหนทางได้ก่อนรุ่งสางวันนี้เอง
“ก็ได้ แต่ว่าข้ามีข้อแม้หนึ่งอย่างบทที่ 174 ข้าคงต้องตบรางวัลให้พ่อบ้านใหญ่เสียหน่อยแล้ว
วันนี้ฮ่องเต้ไม่ได้รั้งมู่เลี่ยงหรงไว้ปรึกษางานราชการ เขาจึงกลับจวนเร็วกว่าปกติ และทันทีที่กบทที่ 175 ค่ำคืนของบุรุษผู้ช้ำรัก
เยี่ยนเยว่ฉีถือโอกาสเล่าเรื่องเมื่อคืนนี้ระหว่างซูจิ้งกับองครักษ์หนุ่มให้สามีฟังอย่างโกรธเคืบทที่ 176 ข้าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
แสงอาทิตย์สาดส่องตกกระทบร่างเปล่าเปลือยของชายหญิง ทั้งสองตระกองกอดกันอยู่บนเตียงเตาอันอบอุ่นบทที่ 177 เมืองแห่งน้ำพุร้อน
ตะวันขึ้นและลง ผ่านไปสามวันแล้ว ทุกอย่างในจวนฉินอ๋องยังคงดำเนินไปตามปกติ หลังจากเกิดเรื่องราบทที่ 178 ข้าเหนื่อยแล้วก็โมโหมาก เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร
เมืองเวิ่นเซียงรายล้อมไว้ด้วยภูเขาสูงซึ่งมีตาน้ำแร่ธรรมชาติไหลลงมากจากยอดเขา ได้ฉายาว่าเป็นเบทที่ 179 ข้าจะถวายการรับใช้ท่านอ๋องอย่างสุดความสามารถ
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมสรรพ์เยี่ยนเยว่ฉีก็กลับเข้ามาภายในห้อง นางถอดอาภรณ์และเดินตรงเข้าไปใบทที่ 180 อ้ายเฟย ข้าอยากมีลูก
แต่ก่อนที่ความอดทนจะพังทลายลงด้วยน้ำมือของสตรีผู้ร้ายกาจ เขาจึงรั้งศีรษะของนางไว้ ริมฝีปากอิบทที่ 181 เจ้าหิวหรือยัง
พายุแห่งอารมณ์สงบลงแล้ว
การเดินทางอันยาวนาน กอปรกับต้องร่วมทำพิธีขอบุตรท่ามกลางแสงจันทร์และลบทที่ 182 ถ้าไม่ชอบ ก็ถอดออกสิ
“เช่นนั้นท่านพี่ก็ปล่อยข้าลงเถิด”
“ไม่ปล่อย”
“ถ้าไม่ปล่อย ข้าจะกินได้อย่างไรเล่า”
“แบบนี้ไง”บทที่ 183 รออะไรอยู่ เริ่มถอดเสียทีสิ
แต่ไม่ใช่ว่านางจะไม่เคยพยายาม
ทว่าช่างแปลกประหลาดยิ่งนักที่จิตใต้สำนึกนั้นยินยอมศิโรราบต่อเบทที่ 184 ข้าจะขยันหว่านเมล็ดพันธุ์ จนกว่าเราจะมีเจ้าก้อนแป้ง
เยี่ยนเยว่ฉีจึงทั้งหวานล้ำในใจ ทั้งวามไหวเกร็งร่างรับสัมผัสที่ชายหนุ่มถาโถมเขามาจนร่างกายแทบบทที่ 185 มนต์ขลังแห่งเมืองเวิ่นเซียน
หิมะแรกตกแล้ว ท้องฟ้าวันใหม่จึงยังคงมืดมิด กิ่งเหมยโน้มไปตามน้ำหนักเกล็ดสีขาวจากท้องฟ้าที่ทับทที่ 186 หินขอบุตร
สองสามีภรรยาผู้สูงส่งสง่างามเท้าไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินสีขาวสะอาดตาสู่อาคารหลังใหญ่ตรงเบื้อบทที่ 187 ปีกตะวันออก
ร่างบางแหวกว่ายอย่างสบายอารมณ์ นางไม่ลืมหยิบน้ำมันหอมที่เยี่ยนจิ้นหลิงซื้อให้ใช้เป็นประจำมาดบทที่ 188 ไม่ช้าก็เร็วเจ้าต้องเป็นภรรยาของข้าอยู่ดี
ในขณะที่ปากสาละวนขบกัดซาลาเปานุ่มเด้ง มือหยาบร้อนก็คว้าเอวบางเอาไว้มั่น ก่อนบังคับให้นางขยับบทที่ 189 ความห่วงใยของชิงหรู
พายุหิมะสงบแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ในฤดูหนาวยังคงอ้อยอิ่งไม่ปรากฏตรงขอบฟ้า
บุรุษที่ยังคงอยู่ในห้วงบทที่ 190 ขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะ
ทันทีที่จัดการเวรยามของเหล่าองครักษ์เสร็จสรรพ ซิ่นเฉิงก็เดินอมยิ้มไปยังสถานที่นัดหมาย
ซูจิ้บทที่ 191 เรื่องวุ่นวายขององครักษ์หนุ่ม
ซิ่นเฉิงชาไปทั้งร่างเมื่อเห็นแววตาห่างเหินของนาง ครั้นกลับมาสำรวจตนเองกับสภาพของชิงหรูก็พอจะบทที่ 192 คนเจ้าชู้ สมควรตาย
ชิงหรูยังคงก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ในขณะที่อีกสองคนเพียงนั่งหน้าซีดเท่านั้น เยี่ยนเยว่ฉีปรบทที่ 193 ไสหัวไปให้พ้นๆ หน้าเปิ่นหวางกันได้แล้ว
มู่เลี่ยงหรงตะโกนคำสั่งออกไป นัยน์ตาสีนิลปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งจดจ้องชิงหรูจนนางสั่นไปทั้งตบทที่ 194 ข้ายังไม่อยากกลับเมืองหลวงนี่
เหมันต์ฤดูกำลังจะผ่านพ้น ดอกเหมยหลากสีสันยังคงเบ่งบาน บ้างถูกเคลือบไว้ด้วยเกล็ดหิมะ ยามแสงอาบทที่ 195 ท่านอ๋องผู้เย็นชา
ร่างระหงเยื้องกรายไปตามทางเดินสู่สวนดอกเหมย
เมื่อก้าวออกจากตัวตำหนักออกไปยังสวนสวย อากาศหนาบทที่ 196 ฉินหวางเฟยผู้เกรี้ยวกราด
“ซูจิ้งพาหวางเฟยกลับเข้าตำหนักไป” มู่เลี่ยงหรงออกคำสั่ง แต่ก็ยังไม่หันมาอยู่ดี
“เพคะ” ซูจิ้งบทที่ 197 ข้าจะกินเต้าหู้ขน
เยี่ยนเยว่ฉีตรงดิ่งไปยังคอกม้า สั่งให้เด็กเลี้ยงม้าจัดการเตรียมเจ้าหงส์ขาวให้นาง ถึงแม้เด็กหบทที่ 198 ออกไปให้ห่าง ข้าจะอ้วก
ยามที่เจียวมี่มี่วิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งว่าหวางเฟยควบม้าฝ่าหิมะออกไปแล้ว หัวใจมู่เลี่ยงหรงแทบบทที่ 199 โรคแพ้สามี
หมอหลวงเห็นอากัปกิริยาของฉินอ๋อง ก็พอจะเดาได้ว่าที่แท้แล้วเขากำลังตื่นเต้นจนทำอะไรแทบไม่ถูกบทที่ 200 กลับจวนฉินอ๋อง
หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่สามวัน กอปรกับการดูแลอย่างดีจากหมอหลวงรวมไปถึงฉินอ๋อง ฉินหวางเฟยจึบทที่ 201 คลื่นลมสงบ
ครั้นความตึงเครียดลดน้อยลงมาก หน้าตาของฉินอ๋องที่ปกติจะดำทะมึนดั่งเมฆฝน ก็กลับกลายเป็นดั่งท้บทที่ 202 ผลจากความดื้อดึง
“กรี๊ดดด...” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของคนร้ายกลับละม้ายเสียงร้องของซูจิ้งไม่มีผิด ซิ่บทที่ 203 หน้าตาเปิ่นหวางเฟยดูเหมือนสตรีโง่ๆ นักหรือ
หลังเกิดเหตุร้ายในจวนฉินอ๋อง การรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น ผู้คนที่มาค้าขายหรือติดต่องบทที่ 204 เรารู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด จิวจื่อ
“กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จิวจื่อคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นเสียงดังปึ้ก แต่ฉินหวางเฟยไม่แม้แตบทที่ 205 ต้องพิษร้าย
ฉับพลันเขาแทบคลุ้มคลั่งเมื่อแลเห็นรอยสีแดงเปื้อนบนกระโปรงของนางจากด้านหลัง
“เสี่ยวเยว่!” มูบทที่ 206 พวกเจ้ายังสบายใจนั่งเล่นกันอยู่ได้
“บัดซบ! ซิ่นเฉิงผู้ใดมีส่วนรับผิดชอบทำอาหารให้หวางเฟย เจ้าจับพวกมันไปขังไว้ให้หมด รอข้าไต่สวบทที่ 207 เลี้ยงไม่เชื่อง
“ท่านอ๋องเพคะ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ พวกหม่อมฉันงงไปหมดแล้ว” เฉิงจื่อหรูรวบรวมความกล้าเอ่บทที่ 208 ลูกของเราเล่า
ลี่ฮวากับเจียวมี่มี่ช่วยกันปรนนิบัติทำความสะอาดและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้หวางเฟยที่เพิ่งฟื้นเสรบทที่ 209 สตรีจากหลุมศพ
มู่เลี่ยงหรงก้าวผ่านประตูเข้าไปยังห้องที่คุ้นเคย ก็เห็นเฉิงจื่อหรูกำลังอ่านหนังสืออยู่บนตั่งบทที่ 210 หมวกเขียว
มู่เลี่ยงหรงผละร่างแบบบางในอ้อมอกออก เฉิงจื่อหรูจัดอาภรณ์ให้เข้าที่อย่างหงุดหงิด นางกำลังยั่บทที่ 211 ซือเซินเจ้าทรยศข้าหรือ
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมสรรพ อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายจึงเริ่มสอบสวนนางกำนัลของพระชายารองฉินอ๋อง
บทที่ 212 บทเพลงขลุ่ยโลกันต์
มู่เลี่ยงหรงพยายามคิดถึงความเป็นไปได้ ตั้งแต่เขารับเฉิงจื่อหรูเข้าจวนก็ยังไม่พบว่าทั้งสองไปมบทที่ 213 เรื่องที่เปิ่นหวางต้องตัดสินใจ
มู่เลี่ยงหรงชั่งใจว่าควรจะถามเฉิงจื่อหรูด้วยหรือไม่ แต่เยี่ยนเยว่ฉีไม่รอที่จะเป็นคนก็จัดการแบทที่ 214 เจ้าจะบอกว่าข้าเข้าใจผิดอย่างนั้นหรือ
“ท่านอ๋องเป็นคนซื่อสัตย์ย่อมรู้สึกผิด แต่ในท้องของหวางเฟยมีทายาทของท่านอ๋องอยู่ ดังนั้นจะประบทที่ 215 ธรรมชาติของวิชาขลุ่ยปีศาจ
“หากไร้ซึ่งขลุ่ยโลกันต์ วิชาเมื่อครู่ย่อมไม่ใช่เพลงขลุ่ยปีศาจอย่างแน่นอน เพียงแต่ท่วงทำนองบทบทที่ 216 จุดจบของสตรีร้ายกาจ
หลังสิ้นสุดคดีความวางยาฉินหวางเฟย มุ่งร้ายต่อทายาทฉินอ๋อง มู่เลี่ยงหรงเข้าไปรายงานเรื่องนี้กบทที่ 217 ความลับของสระเสียงสวรรค์
แต่แล้วซุนเหมยก็รับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามา แสงจันทร์วันเพ็ญสาดส่องทำใหบทที่ 218 เรื่องราวยังคงเป็นไป
หลังจากได้รับบาดเจ็บจากลูกธนูอาบยาพิษ ท่านหญิงกุ้ยอินไม่ได้สติอยู่นานหลายเดือน เมื่อฟื้นขึ้นบทที่ 219 บทส่งท้าย
ใบไม้ผลัดเปลี่ยนสีสัน จากเขียวชอุ่มเป็นสีส้มแดง บ่งบอกว่าฤดูสารทกำลังมาเยือน
ตามปกติ ฉินอ๋อบทที่ 220 ตอนพิเศษ นางในฝัน (1)
แสงเรืองรองสาดส่องจนทั่วบริเวณ แลเห็นความงดงามที่รายล้อม ดอกไม้นานาพันธุ์ผลิดอกหอมกรุ่นยั่วยวนหมู่ภมบทที่ 221 ตอนพิเศษ นางในฝัน (2)
“โถ่ ท่านอ๋องตอบเช่นนี้จะแกล้งกันใช่หรือไม่ ซือเซินหมายถึงชื่อแซ่ของนาง”
“ข้าก็ไม่รู้” ใบหน้าหล่อเหลา
รอ อ่านอีกนะคะ
22d
0าซอฮยอน
23/05
1ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
08/02
1ดีมากดค่ะ
06/05/2023
0