“ฟางเหนียง ฟางเหนียง หลิวฟางเหนียง เจ้าอยู่หรือไม่” เสียงของเหมยเหม่ยเพื่อนสนิทของหลิวฟางเหนียง ยืนเรียกนางที่หน้าบ้านตามปกติเหมือนทุกๆ วัน “เอ๋!!วันนี้ทำไมถึงไม่ขานรับล่ะ” เหมยเหม่ยรู้สึกสงสัยที่หลิวฟางเหนียงไม่ตอบกลับมาสักที นางเรียกไปก็ตั้งหลายครั้ง ปกติแล้วหลิวฟางเหนียงจะรีบออกมาทันทีที่นางเรียก “ฟางเหนียง จะสายแล้วนะ ถ้าเจ้ายังไม่รีบอีก พวกเราจะขึ้นรถม้าไม่ทันเอานะ” เหมยเหม่ยรีบพูดเตือนเพื่อน เพราะหากว่าเข้างานสายเถ้าแก่ก็จะดุพวกนางเอาได้ นางกับหลิวฟางเหนียงทำงานอยู่ร้านผักดองในตัวอำเภอซีอาน พวกนางทำงานที่นี่ได้ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่พ่อหลิวฟางเหนียงเสียไป นางก็พาหลิวฟางเหนียงไปหางานทำเพื่อคลายเหงา “ฟางเหนียง หากว่าเจ้ายังไม่ตอบข้าอีก ข้าจะไม่รอเจ้าแล้วนะ” เหมยเหม่ยพูดขู่หลิวฟางเหนียงเพื่อจะทำให้ฟางเหนียงนั้นรีบออกมา แต่ก็ยังไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับนางมาเลย นางเริ่มรู้สึกแปลกใจจึงเดินเข้าไปหาฟางเหนียงข้างในบ้าน“ฟางเหนียง ข้าจะเข้าไปแล้วนะ” นางบอกแล้วก็เดินเข้าไปข้างในบ้าน นางมองดูทั่วบ้านก็ไม่เห็นฟางเหนียงเลน นางจึงเดินเข้าไปดูที่ห้องนอนของฟางเหนียง และสิ่งที่นางเห็นก็ต้องทำให้นางตกใจมาก เพราะฟางเหนียงที่นอนอยู่บนเตียงนั้นมีใบหน้าที่ซีดเซียวและปากก็ขาวซีดมาก “ฟางเหนียง เจ้าเป็นอะไรไป ฟางเหนียง ได้ยินข้าเรียกเจ้าหรือไม่ ฟางเหนียง ฟางเหนียง” เหมยเหม่ยรีบเข้ามาเขย่าตัวของฟางเหนียงทันที แต่เขย่ายังไงฟางเหนียงก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด “นี่ ฟางเหนียง เจ้าอย่ามาแกล้งข้าแบบนี้นะ ข้าไม่ชอบหรอกนะ เจ้ารีบตื่นขึ้นมาสักที” เหมยเหม่ยจะเรียกยังไง จะเขย่าตัวแค่ไหน ก็ไม่อาจทำให้ฟางเหนียงรู้สึกตัวขึ้นมาได้เลยสักนิด นางเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว เพราะฟางเหนียงไม่เคยแกล้งนางรุนแรงเช่นนี้มาก่อน นางกลัวจนทำให้น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“ฮือๆๆ ฟางเหนียงเจ้าเป็นอะไรไป ทำไมไม่ตื่นมาตอบข้าสักที ข้าปลุกเจ้านานแล้วนะ เจ้ารีบลืมตาขึ้นมามองข้า พูดคุยกับข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ ฮือๆๆ” นางร้องไห้ฟูมฟายจนน้ำตานองหน้าไปหมด นางไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไร ฟางเหนียงถึงจะได้ตื่นขึ้นมา ทั้งเรียกทั้งเขย่าฟางเหนียงก็ไม่ตอบสนองอะไรเลย นางจึงคิดจะไปเรียกคนข้างบ้านมาช่วยอีกแรง แต่ฟางเหนียงก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน นางจึงรีบเข้าไปเรียกแล้วเขย่าตัวฟางเหนียงอีกครั้งด้วยความดีใจ “ฟางเหนียง ฟางเหนียง เจ้าได้ยินข้าเรียกเจ้าหรือไม่” ฟางเหนียงที่ถูกเสียงเรียกรบกวนแถมร้องไห้ฟูมฟายอีกด้วย นางจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ แล้วปรับสายตามองคนที่กำลังเรียกนางอยู่"ผู้หญิงคนนี้หล่อนเป็นใครกันทำไมข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน" ฟางเหนียงคิดในใจหลังจากที่ได้นางสติกลับมาแล้ว นางมองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง นางจำได้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ได้อยู่ในภาพเคลื่อนไหวที่นางดูเรื่องราวของหญิงสาวคนนั้นเมื่อครั้งก่อน แล้วผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน แล้วนางตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมถึงได้มาอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนี้ล่ะ นางหันไม่มองรอบๆ ก็ต้องทำให้นางตกใจมากกว่าเดิม เพราะที่นี่นางไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อนแน่ๆ ทำไมห้องที่นางอยู่เป็นแค่บ้านไม้ธรรมดาล่ะ ทำไมไม่ใช่ในโรงพยาบาลที่ควรจะเป็น นางหันไปมองผู้หญิงคนนี้อีกครั้งถึงได้สังเกตว่าเสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนี้ใส่ไม่เหมือนกับยุคปัจจุบันทั่วไปที่นางเคยเหมือนที่นางใส่แน่ๆ นางคิดอยากถามผู้หญิงคนนี้ว่าที่นี่คือที่ไหน ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แต่เสียงของนางกลับไม่เปล่งออกมาอย่างที่คิดแถมนางยังคอแห้งมากอีกด้วย ตอนนี้นางรู้สึกว่าตัวเองกระหายน้ำมากคงต้องขอน้ำจากผู้หญิงคนนี้ดื่มก่อนแล้วค่อยถามเรื่องราวต่างๆ ทีหลัง“นะ น่ะ น้ำ” เหมยเหม่ยได้ยินดังนั้นก็รีบเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาออก แล้วรีบรินน้ำให้กับฟางเหนียง เหมยเหม่ยพยุงนางลุกขึ้นนั่งแล้วป้อนน้ำให้นางดื่ม นางดื่มน้ำไปเกือบหมดกา จึงค่อยๆ ตั้งสติให้กลับมาอีกครั้ง ตอนนี้นางสับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ อย่าบอกนะว่านางเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ถึงไม่ได้ไปอยู่โรงพยาบาลแต่กลับมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เอ!!! หรือว่านางจะถูกลักพาตัวก่อนจะไปถึงโรงพยาบาลกัน ใครจะกล้าลักพาตัวนางไป เอาไปเป็นภาระสิไม่ว่า “เอ่อออ เจ้า มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน” เอ๊ะ!!! ทำไมข้าพูดภาษาแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่พูดเหมือนเดิม ที่นี่มันยังไงกันแน่เนี้ย “ฟางเหนียงเจ้าไม่เป็นไรแล้วใช่หรือไม่ เจ้าทำให้ข้าตกใจแทบแย่” เหมยเหม่ยไม่ตอบ แต่กลับถามนางด้วยความเป็นห่วง “ข้าไม่เป็นไร” ฟางเหนียงตอบเหมยเหม่ยตามน้ำไปก่อน ดูท่าทางแล้วเหมยเหม่ยคนนี้คงไม่ได้คิดร้ายกับนาง“เจ้าแน่ใจรึ ว่าเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว” เหมยเหม่ยยังคงกังวลกับอาการของฟางเหนียงอยู่ไม่หาย “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าแล้ว ตอนนี้ข้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ แล้วเจ้าล่ะร้องไห้ทำไมรึ” ฟางเหนียงถามเหมยเหม่ยด้วยความสงสัยนางตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงเหมยเหม่ยร้องไห้ก่อนแล้ว “ก็เจ้านะสิ ข้าเรียกยังไงก็ไม่ตื่นสักที ข้ากลัวว่าเจ้าจะเป็นอะไรไปซะอีก” ทำไมเหมยเหม่ยถึงมาบอกนางว่าเรียกตั้งนาน ทั้งๆ ที่นางก็รู้สึกตัวมาตลอดตั้งแต่นางถูกดูดเข้าไปในหลุมดำแล้วก็รู้สึกตัวขึ้นมาที่นี้ “เช่นนั้นรึ ข้าคงจะไม่สบาย ถึงไม่รู้สึกตัวตอนเจ้ามาเรียก” เหมยเหม่ยที่ได้ยินว่านางไม่สบายก็รีบเอามือมาแตะหน้าผากนางทันที “เจ้าน่าจะไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืน เช่นนั้นเจ้าพักผ่อนก่อนแล้วกัน อ่าาา ข้าลืมเรื่องที่จะไปทำงานเลย” เหมยเหม่ยนึกได้ก็รีบลุกขึ้นเตรียมตัวจะไปทำงานต่อ เพราะตอนนี้ฟางเหนียงก็ไม่เป็นไรมากแล้ว “เรื่องที่เจ้าไม่ไปทำงานวันนี้ เดี๋ยวข้าจะบอกเถ้าแก่ให้เองว่าเจ้าไม่สบาย เช่นนั้นข้าไปทำงานก่อนนะ เจ้าก็พักผ่อนเยอะๆ ด้วยล่ะ” พูดจบเหมยเหม่ยก็เดินจากไป แต่ก่อนจากไปเหมยเหม่ยก็ไม่ลืมที่กำชับนั้น โน่น นี้ ให้กับฟางเหนียงอยู่หลายประโยค เพราะนางยังเป็นห่วงฟางเหนียงเป็นอย่างมาก
อ่านสนุกดีค่ะ
5d
0อ่านสนุกมากก
8d
0น่ารัก
06/08
0View All