logo
logo-text

Download this book within the app

5

ช่างเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนานนักในความรู้สึกของฟังเยว่ฉิวกับการต้องทนเดียวดายอยู่เพียงลำพังในกระท่อมน้อยกลางป่า
ที่ลานเล็กหน้ากระท่อม หญิงสาวออกมานั่งบนแคร่ไม้ไผ่ หวนรำลึกถึงคืนวันแสนสั้นซึ่งเคยอยู่พร้อมหน้า ความสุขเล็กๆ ในชีวิตของสาวชาวป่าที่มีทั้งพ่อ เคียงข้างทั้งสามี
ผู้เป็นพ่อจากไปอย่างทันด่วน ไม่ทันได้สั่งเสียฝากความอาลัยต่อนางที่เขาชุบเลี้ยงมาแต่ครั้งยังจำความไม่ได้ ฝ่ายสามีซึ่งร่วมเคียงกันไม่กี่ราตรีก็หายออกจากบ้าน เป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่ทราบข่าวคราว แม้นางได้เฝ้าติดตามหา เกรงเขาซึ่งสูญเสียความทรงจำจะพลัดหลง หรือได้รับอันตรายจากคนพาลดังเช่นคราครั้งแรกที่นางพบเจอชายหนุ่มประสบเคราะห์โดนทำร้ายปางตาย
ความทุกข์ระทมเดียวดายหนึ่งเดือนราวหนึ่งปี สองตากลั่นหยดน้ำจนแห้งเหือดครั้งแล้วครั้งเล่า ร้อยพันคำถามในใจ เหตุใดนางถึงถูกเขาทอดทิ้งหลังจากบิดาสิ้นใจเพียงไม่กี่วัน และคำตอบที่ได้ก่อนหลับไปพร้อมความร้าวรานทุกราตรีก็คือ
นั่นคงเพราะเขาไม่ได้รักนาง
ในความเงียบเหงาลำพัง มีเสียงคนเดินมุ่งตรงมายังบ้านของนาง เสียงคุยกันฟังคุ้นหู ฟังเยว่ฉิวเกรงว่าคงเป็นอันธพาลสองพ่อลูกแน่แล้ว จึงรีบหาที่หลบซ่อนตัว ไม่มีพ่อ ไม่มีสามี การใช้ชีวิตตามลำพังกลายเป็นเรื่องน่าวิตกสำหรับสตรีเช่นนาง
“ตาเฒ่าฟังมันตาย ส่วนไอ้ผู้ชายคนนั้นมันก็หายหน้า ไม่มีใครพบ ไม่มีใครรู้จักมัน ทิ้งนังคนอัปลักษณ์ให้อยู่คนเดียว”
“เบาเสียงหน่อยอาเปียว ทะเล่อทะล่าเอะอะเข้าไป ประเดี๋ยวก็ชวดเงินกันพอดี”
พอได้ยินว่ามีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ฟังเยว่ฉิวยิ่งทำตัวลีบหลบซ่อนตัวอยู่ใต้แคร่ไม้เล็กซึ่งคลุมด้วยกระสอบเก่าคร่ำคร่าข้างกองฟืนติดผนังครัว อันธพาลสองพ่อลูกคงคิดมารีดไถนางอีกเป็นแน่!
“เจ้าพาข้าย้อนกลับมา เสียเวลาเปล่าน่า นังนั่นมันจะมีอะไรให้เราอีก สองผัวเมียท้ายป่าด้านโน้นมันบอก หลังจากฟังเป่าตาย ลูกสาวมันก็ไม่ได้เข้าเมืองไปขายของอีกเลย”
“ของไม่มีให้ขาย เราก็ขายคนได้นี่ท่านพ่อ ข้ายังแค้นใจมันไม่หายนะ เรื่องถูกเจ้าต้าเผิงชกหน้าข้าเมื่อคราวก่อน”
สารเลว! ชั่วร้าย!
จ้านเปียวกับพ่อคิดจะจับนางไปขายเชียวหรือ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจะทำเช่นนั้น!
“ฮ่า...เจ้าช่างคิดได้นะลูกพ่อ แต่นังคนนั้นจะขายได้กี่อีแปะ อย่างเก่งสำนักนางโลมก็ซื้อไว้เป็นสาวใช้ หากไม่เมาได้ที่ก็คงไม่มีใครคิดอยากหลับนอนกับนางหรอก”
ก็จริงอย่างที่พ่อเขาว่า จ้านเปียวคิด หากฟังเยว่ฉิวไม่มีแผลเป็นบนแก้มด้านซ้ายเด่นชัด คงขายตัวเป็นนางคณิการาคางามได้ไม่ยาก
“จะกี่อีแปะก็ช่างปะไร ถึงหน้านางจะขี้ริ้วไปบ้าง แต่รูปร่างนางก็ให้ความสุขกับผู้ชายได้ ไว้ข้าสนุกกับนางก่อน แล้วค่อยขายทิ้งก็ยังไม่สาย” เสียงหัวเราะท้ายประโยคน่าสะอิดสะเอียนทำให้ฟังเยว่ฉิวขนลุกซู่
หลังจากนั้นหญิงสาวซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ก็ต้องทนฟังเสียงข้าวของในบ้านแตกหล่น จ้านกวงสบถก่นด่าไม่พอใจที่ภายในกระท่อมหลังน้อยไม่มีสมบัติมีค่าอะไร ส่วนจ้านเปียวก็หัวเสียไม่แพ้กันที่หาตัวนางไม่พบ ฟังเยว่ฉิวภาวนาร่ำร้องในใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังภาวนาต่อดวงวิญญาณของพ่อผู้ล่วงลับ ได้โปรดคุ้มครองนางให้แคล้วคลาด สองมือน้อยกุมป้ายหยกขาวที่นางห้อยคอไว้ ใจกระหวัดถึงบุคคลซึ่งเคยปกป้องนางให้รอดเงื้อมมือสองพ่อลูกมาแล้ว
หากต้องถูกย่ำยีศักดิ์ศรี ถูกขายดั่งสัตว์ นางขอตายเสียยังดีกว่า บ้านที่เคยปลอดภัย อบอุ่น เมื่อไร้ทั้งพ่อและสามี หนทางเดียวที่นางจะรอดคือหนีไปจากที่นี่เสีย!
คล้ายสวรรค์ยังมีเมตตาต่อหญิงอาภัพ เสียงเรียกของท่านตาเพื่อนผู้เคยออกไปหาของป่าด้วยกัน ทำให้สองพ่อลูกผู้กระทำดั่งโจรปล้นชิงรีบออกมาจากกระท่อมของนาง เมื่อพบหน้ากับผู้มาเยือน จ้านกวงก็รีบพูดออกมา
“เสี่ยวฟังไม่อยู่ นี่ข้ากับลูกมีเรื่องจะคุยกับนาง เดินหาทั่วแล้วก็ยังไม่พบ”
“สงสัยนางเข้าป่าหาของไปขายกระมัง” ชายสูงวัยที่แบกหลัวไว้บนหลังคาดเดา “น่าสงสาร จู่ๆ พ่อมาด่วนตายจาก ตัวคนเดียว ซ้ำอยู่ห่างไกลผู้คน”
“แถมยังถูกผู้ชายทิ้งอีก อะไรมันจะโชคร้ายปานนั้น” คนที่จ้องซ้ำเติมชะตาอาภัพของหญิงสาวพูดเหมือนเห็นใจนาง
“ผู้ชายที่ไหน...เจ้าพูดเรื่องใด ข้าไม่เห็นรู้เรื่องบ้านฟังเป่ามีผู้ชายอื่นมาอยู่”
จ้านเปียวหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “สงสัยลุงฟังคงแอบซุกลูกเขยไว้แต่ในกระท่อม”
เหตุที่นางกับพ่อต้องปกปิดเรื่องพี่ต้าเผิงเป็นความลับก็เพื่อความปลอดภัยของเขา ไม่นึกว่าจะมีวันโชคร้ายได้เจอสองพ่อลูกมาระรานจนทำให้ชายหนุ่มต้องเปิดเผยตัว ฟังเยว่ฉิวยังคงนิ่งฟังบทสนทนาของชายชรากับคนพวกนั้นต่อ ที่ไม่ออกไปขอความช่วยเหลือจากท่านตาหยวนก็เพราะเกรงเขาจะเดือดร้อนไปด้วยอีกคน หนึ่งแรงไม้ใกล้ฝั่งหรือจะสู้สองแรงอันธพาลได้
“ว่าแต่เจ้าสองคนเป็นญาติหรือเป็นเพื่อนตาแก่ฟัง ทำไมข้าไม่เคยเห็นหน้า”
“พ่อข้าเป็นเพื่อนเก่าลุงฟังอยู่เมืองใกล้ๆ นี่เอง นานปีข้ากับพ่อจะมาเยี่ยมสักคราว เพิ่งรู้ว่าลุงฟังตาย ข้าจะมารับเสี่ยวฟังไปอยู่ด้วยกัน”
ชายตัดฟืนพยักหน้าเห็นด้วย “พวกเจ้าจะอยู่รอนางที่บ้านหรือเปล่า”
“ก็คงต้องรอ ไหนๆ มาแล้วก็ต้องค้างคืนที่นี่”
“ฝากบอกเสี่ยวฟังหน่อยก็แล้วกัน ค่ำๆ ข้าอาจจะมาหานางอีกหน เผื่อได้ไก่ป่ามา”
เมื่อได้ยินว่าสองพ่อลูกจะค้างคืน ใจของฟังเยว่ฉิวยิ่งมีแต่ความหวาดกลัว หากยังหลบซ่อนที่เก่า ไม่นานสองคนนั่นก็ต้องหาตัวนางพบเป็นแน่ เมื่อท่านตาหยวนออกจากบริเวณบ้านของนางแล้ว หญิงสาวได้แต่เฝ้ารอโอกาสจะออกจากที่ซ่อน ไว้แน่ใจว่าคนชั่วทั้งสองถอดใจจะรอนางแล้วค่อยย้อนกลับมาเก็บข้าวของจำเป็น
ฟังเยว่ฉิวซุ่มซ่อนอยู่จนค่อนดึก ขานางเป็นเหน็บชา ปวดเนื้อ ปวดตัวไปทั่วร่างเพราะไม่ได้ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน ยิ่งตอนจ้านเปียวเดินเข้ามาค้นของกินในครัวพร้อมกับด่าทอท่านตาหยวนว่าไม่เอาไก่ป่ามาให้ นางยิ่งหายใจไม่ทั่วท้อง เครียดเกร็งแทบกลั้นใจตายไปเดี๋ยวนั้น
รออยู่ครู่ใหญ่เมื่อสรรพเสียงภายในตัวกระท่อมเงียบลงแล้ว หญิงสาวจึงค่อยๆ คลานออกมาจากใต้แคร่ กระท่อมน้อยของนางมืดสนิทเพราะคนในบ้านดับตะเกียงไปแล้ว เจ้าของเรือนร่างเล็กบอบบางหอบกระสอบป่านและคว้าท่อนฟืนรวมถึงชุดไฟในครัวติดตัวออกไปด้วย นางมุ่งหน้าเข้าไปในป่าลึก แม้จะหวาดกลัวสิงสาราสัตว์ แต่นางก็มั่นใจว่าพวกมันยังน่ากลัวน้อยกว่าสองพ่อลูกใจคอชั่วร้ายนั่น
ฟังเยว่ฉิวเดินฝ่าความมืดอาศัยแสงหรุบหรู่จากจันทร์บนฟ้าซึ่งพอลอดแสงผ่านลงมายังพื้นไปถึงถ้ำเล็กๆ ที่นางกับพ่อเคยอาศัยพักหลบฝน คืนนี้นางต้องนอนที่นี่ นางลงมือก่อไฟกองเล็กจากกิ่งไม้ที่เคยเก็บสะสมไว้ในถ้ำ ก่อนล้มตัวลงนอนห่มคลุมร่างด้วยกระสอบป่าน สองมือยังคงยึดเหนี่ยวป้ายหยกขาวซึ่งห้อยคอไว้
เมื่ออยู่บ้านไม่ได้แล้ว นางก็จะไปตามหาพี่ต้าเผิง เป็นตายร้ายดีขอนางรู้ให้แน่ชัด หากเขาตั้งใจทอดทิ้งไม่ไยดี รู้ความจริงนั่นแล้ว นางจะได้ตัดใจ หญิงไร้ญาติไร้ที่พึ่งเช่นนาง หากสิ้นหนทางแน่แล้ว คงต้องหันหน้าเข้าสู่สำนักชี

Book Comment (2)

  • avatar
    สุภาพรฯ สิงห์คำ

    ชอบมากๆค่ะ

    25/05

      0
  • avatar
    ศุภกิจ ปิ่นเกตุ

    สนุก

    11/11

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters