logo
logo-text

Download this book within the app

9

สือจิ่วนั่งอยู่บนเตียงเตาในห้องนอน เตียงนี้เธอมีส่วนช่วยพลิกก้อนอิฐดินดิบตากแดด พร้อมเสริมกำลังให้ถานเจ๋อและท่านปู่ด้วยไข่ต้มใบชา เป็นของว่างกินกับน้ำจินอิ๋นฮวา ที่เธอเห็นมันเลื้อยอยู่บนซุ้มทางเข้าบ้านถานจึงเก็บดอกมาตากแห้ง ต้มกรองใส่ขวดกระเบื้องแช่ในบ่อหินหลังบ้านไว้ให้ทุกคนดื่มคลายร้อนแทนชา
เพราะห้องนอนของเธอติดกับห้องครัว อาเจ๋อจึงเจาะช่องให้ควันไฟและเปลวไอร้อนเวลาทำกับข้าวไหลมาตามท่อดิน วันอากาศหนาวก็เสริมด้วยเตาหรือกะละมังไฟสอดในช่องวางไว้ใต้เตียง ส่วนปล่องไฟระบายควันถูกเจาะออกด้านข้างของตัวบ้าน เขายืนยันมั่นเหมาะว่าฤดูหนาวนี้เธอกับลูกจะต้องนอนอุ่นที่สุด
ท่านปู่ท่านย่าตื่นเต้นกับเตียงเตาที่ช่วยกันทำมาก ชาวบ้านที่เคยเห็นพวกเธอตากอิฐดินตรงลานบ้าน บางคนก็ขอเข้ามาดูเตียงเตาด้วยความอยากรู้อยากเห็น และต้องการจะมีเตียงแบบนี้บ้าง ต่างชื่นชมความรอบรู้ของอาเจ๋อ
แต่เฉียนเทาที่ไม่ชอบอาเจ๋อกลับว่าเขาเป็นพวกมีความคิดแปลกประหลาด นอนหลับไปสักหน่อยจะถูกไฟเผาหรือไม่ก็เตาระเบิดตายคาบ้าน เฉียนเทายกตนในฐานะลูกชายผู้ใหญ่บ้านได้พบเจอคนมากมายที่มาพักโรงเตี๊ยมเฟิ่งเผย กลับไม่เคยได้ยินหรือฟังผู้ใดเล่าถึงเตียงเตาสักครั้ง
อาเจ๋อเพียงตอบสั้นๆ “กบก้นบ่อ ”
เฉียนเทาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟตั้งท่าท้าตีท้าต่อย อาเจ๋อก็ยกกำปั้นเตรียมพร้อม แต่ท่านปู่ถานรีบเข้ามาขวางบอกจะไปร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านว่าเขาเป็นฝ่ายมาก่อกวนก่อน
เฉียนเทาจบเหตุการณ์ไว้ด้วยคำคาดโทษว่าเขาจะมาชำระความทีหลัง
เธอยืนอยู่ใกล้ ได้ยินเสียงอาเจ๋อพูดว่า...รีบมา อย่าให้รอนาน มีงานต้องทำอีกเยอะ
อาเจ๋อตอนนี้ขวัญกล้าเทียมฟ้า เขาไม่กลัวเฉียนเทาแล้วสินะ
“หนาวนี้เหมือนได้นอนอยู่บนผ้าฮีตเตอร์ปูเตียงเลยนะเนี่ย อาจื้อจะได้นอนสบายแล้ว” สือจิ่วเอนหลังลูบท้องคุยกับก้อนแป้งน้อยอายุสามเดือนครึ่งในท้อง
หนึ่งเดือนครึ่งแล้วที่เธอมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ หน้าท้องแบนเริ่มขยายตัวนูนขึ้นเล็กน้อย รูปร่างเคยผอมบางของสือจวี๋ก็ถูกคนบ้านถานขุนด้วยอาหารจนเริ่มมีเนื้อมีหนังขึ้น ส่วนเธอที่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้ทำ ยามว่างก็เข้าครัวหยิบนั่นทำนี่พอได้ขนมหรือของว่างมากินแก้เหงาปาก
ท่านย่าหลินเกริ่นเรื่องเด็กในท้องต้องมีบิดา หากวันใดเธอตัดเฉิงหยางปิงได้หมดใจก็ขอให้มองหลานชายนาง
ความใกล้ชิดระหว่างพวกเรา ท่านย่าคงเริ่มเห็นเค้าลางว่าเธอกำลังให้ความหวังหลานชายนางสินะ
แต่ผลของการทำดีไม่อาจถูกตอบแทนด้วยความรักเสมอไป
เธอยังอยากยืนหยัดด้วยตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน อาเจ๋อควรมีโอกาสแต่งงานกับผู้หญิงไร้คำครหาต่อท้ายชื่อแบบเธอ
ยุคปัจจุบันอาจไม่แปลก รัก...เลิก...หย่า เป็นหม้ายลูกติดก็สามารถแต่งสามีใหม่ได้ แต่นี่ยุคโบราณ ให้เธอโดนชาวบ้านนินทาคนเดียวน่ะพอแล้ว
วันนี้สือจิ่วถือตะกร้าหนึ่งใบออกจากบ้านตามอาเจ๋อกับท่านปู่ไป ดูที่นาเกือบยี่สิบหมู่ ของตัวเองที่อยู่ติดกับที่นาเกือบสามสิบหมู่ของพวกเขา
เกือบทุกบ้านในไท่โหยวมีที่นาเป็นของตัวเอง สองปีก่อนหน้าสือจวี๋จะแต่งงาน สุขภาพร่างกายท่านพ่อไม่ดีเท่าไร เขาจึงปล่อยที่นาให้บ้านถานเช่าแลกกับข้าวสารไว้ทำกิน
สือจิ่วมองที่นาของตัวเองรู้สึกอิ่มฟูในใจ เธอจะพลิกฟื้นที่ดินผืนนี้ไว้ทำกินเลี้ยงตัวเองกับลูก ในหัวมีพืชผักผลไม้ที่อยากจะปลูกผุดขึ้นมากมาย
เด็กกำพร้าไม่มีสิทธิ์เลือกขนมที่อยากกินได้มากนัก ทำให้เธอฝันอยากเปิดร้านขนมเป็นของตัวเอง ถึงไม่มีหน้าร้านขอให้มีออร์เดอร์ออนไลน์ก็ยังดี ช่วงเรียนมหา’ลัยด้วยเตาอบไฟฟ้าสมบัติชิ้นแรก ทำให้เธอมีเงินเก็บลงเรียนทำขนมเพิ่มเติมหลายคอร์ส
ปิ่นหยกของสือจวี๋ขายได้แปดสิบเหวิน เทียบไม่ได้เลยกับสินส่วนตัวเจ้าสาวที่ถูกแม่สามียึดไป ตลาดเปิดคราวหน้าเธอจะขอไปกับอาเจ๋อ เพื่อซื้อผ้ามาเตรียมตัดชุดและทำผ้านวมห่อตัวอาจื้อ
เงินจำนวนน้อยนี้แบ่งให้ท่านปู่ท่านย่าเรื่องที่เธอรบกวนเรื่องอาหาร พวกเขาก็ไม่ยินดีรับ หนำซ้ำยังให้ข้าวสารมาเพิ่ม เช่นนั้นเงินเหลือจากซื้อผ้าเธอจะใช้ชื้อวัตถุดิบจำเป็นอื่นๆ มาไว้ทำกับข้าว คนท้องร่างกายยังเคลื่อนไหวได้ดีจนกว่าจะท้องแก่ ช่วงนี้แหละจะได้ลดภาระการฝากท้องกับบ้านถานสักพัก
“ให้เรามีเงินสักหน่อยค่อยจ้างคนมาไถดิน รบกวนท่านน้าท่านปู่บ่อยไปแม่ก็เกรงใจ ไว้มีเงินเก็บมากๆ ค่อยซื้อวัวควายเป็นของเราเอง รอเจ้าโตเดินได้แม่จะเริ่มปลูกข้าว นาตรงนั้นมีแอ่งน้ำขัง เราแบ่งลงดอกบัวไว้คงดี เกสรชงน้ำ ส่วนอื่นๆ ทำกับข้าวทำขนมได้หมด ปลูกแล้วปล่อยเทวดาเลี้ยงไปก่อนเจ้าว่าดีไหม”
สือจิ่วลูบท้องคุยกับลูก ไม่เคยลิ้มรสการมีสามีก็มีลูกเป็นของตัวเอง ช่างเป็นทางลัดที่เยี่ยมจริงๆ
ตอนอยู่ศูนย์เยาวชนเธอเคยเลี้ยงน้องๆ ช่วยครู จึงไม่ยากเลยกับการเลี้ยงเด็กทารก ความลำบากจะเริ่มมาตอนเด็กโตขึ้นสักหน่อย ความยากระหว่างเลี้ยงเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายก็ต่างกัน
ว่าแต่อาจื้อของเธอจะเป็นเจ้าหนูหรือยัยหนูนะ...
สือจิ่วปล่อยสองปู่หลานไว้กับนาของพวกเขา เธอตะโกนบอกจะไปเดินแถวแนวป่าสักหนึ่งก้านธูปดับจะกลับมา เพราะหลงใหลโลกเวทมนตร์ของหนังเรื่องแฮร์รี่ฯ เธอเคยลงเรียนคอร์สสั้นที่สอนทำชา ปรุงเครื่องดื่ม การใช้สมุนไพรทั้งจีนและเทศ ถุงหอมไล่แมลงที่ทำขึ้นใหม่ก็อาศัยความรู้นี้แหละมารวมกับสิ่งที่สือจวี๋เคยทำ
ว่าไปแล้วเหมือนชีวิตก่อนหน้านั้นเตรียมพร้อมให้เธอมาเจอเหตุการณ์ทะลุมิติอย่างไรอย่างนั้น
ถึงพอมีพื้นฐานแต่เธอก็ยังอยากได้หนังสือตำราสมุนไพรอยู่ดีเพราะไท่โหยวไม่มีอินเทอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลให้ถูกต้องแม่นยำ อาศัยเพียงความทรงจำคงไม่ได้
เพราะสนใจเรื่องพืชผักและต้นไม้ ในตะกร้าของสือจิ่วตอนนี้มีเจินจูไช่ อยู่กำใหญ่ เธอเจอต้นอบเชยหลายต้น หมายตาไว้แล้วคราวหน้าจะเอาเสียมเล็กมาขุด เมื่อสิบกว่านาทีก่อนก็เพิ่งเจอต้นโกจิเบอร์รี่ จึงเก็บลูกสุกมากำมือใหญ่เอาไปตากที่บ้าน ใจจริงอยากจะเก็บให้มาก แต่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าคนท้องกินมากไม่ดี และตอนนี้เธอยืนอยู่ใต้ต้นหยางเหมย ที่ลูกกำลังสุกแดงเต็มต้น
สวรรค์เถอะ...เปรี้ยวปากขึ้นมาเลยเชียว
เพราะหอบของพะรุงพะรังกลับไปที่นา จึงถูกอาเจ๋อเอ็ดเอาเบาๆ เธอเคี้ยวลูกหยางเหมยจนน้ำฉ่ำสีสดหยดเลอะอกเสื้อ
“พอเถอะ กินเยอะจะเสาะท้อง” เขาชิมดูรสออกจะเปรี้ยวเข็ดฟัน
ซื้อกินมันไม่สะใจเท่าเก็บกินจากต้น ออกลูกดกขนาดนั้นต้องล่อตาล่อใจชาวบ้านหรือนกหนูบ้างละ เธออยากเก็บไปตากแล้วอบแห้งจัง
“เจ้าชิมนี่ ลูกโกจิ..” หญิงสาวหยิบผลสีแดงส้มจ่อที่ปากอาเจ๋อ แล้วต้องชะงักมือ สองคนยืนสบตาแทบไม่กะพริบ
“โกจิ...”
เธอเผลอพูดอะไรออกไป!
“โก่วฉีจึไง...สงสัยกินมากลิ้นเลยพันกัน เจ้ากินสิ” หญิงสาวรีบยัดโกจิเบอร์รี่ลูกนั้นเข้าปากอาเจ๋อ หลงลืมไปว่าตอนนี้มีท่านปู่ถานยืนมองพวกเธออยู่
“เปรี้ยวมาก” ถานเจ๋อทำหน้าเหยเก แต่ก็ทนกินแล้วคายเมล็ดออกมา
“เลือดลมจะได้สูบฉีด”
“เลือดลมข้าสูบฉีดเพราะห่วงพี่นี่แหละ กลับเถอะ ตากลมแดดนานพี่จะไม่สบาย ข้าห่วงอาจื้อ”
สือจิ่วทำหน้ามุ่ย เธอตอบแทนความห่วงใยของอาเจ๋อด้วยการบอกคราวหน้าให้เขาแบกเสียมตามเธอไปด้วย ทุกต้นที่เธอหมายตาจะถูกย้ายไปปลูกที่บ้าน สวนครัวแปลงน้อยคงเริ่มจากต้นไม้พวกนี้แหละ
*****
ไข่ต้มใบชา ไข่ไก่(9 ฟอง)ต้มกับใบชา(3 ช้อนชา) อบเชย(4 ก้าน) โป๊ยกั๊ก(4 ดอก) ด้วยไฟแรงพอสุก ตักไข่แช่น้ำให้เย็นสักหน่อยแล้วใช้ช้อนหรือด้ามมีดเคาะเปลือกไข่ต้มแตกพอเป็นรอยร้าว เอาไข่ลงไปต้มใหม่ เร่งไฟให้แรงจนเดือดแล้วค่อยหรี่ไฟอ่อนไว้ 1-3ชั่วโมง หมั่นเติมน้ำให้ท่วมไข่เพื่อเครื่องเทศจะได้ซึมเข้าไปในไข่ทั่วทั้งใบ ขั้นตอนต้มไฟอ่อนนี้สามารถเติมเกลือได้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ และจะทำให้ปอกเปลือกไข่ง่ายขึ้น
จินอิ๋นฮวาคือดอกสายน้ำผึ้ง ดอกมีรสหวานเย็น ใช้ดอกสดหรือดอกแห้งชงดื่มแทนชา มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้กระปรี้กระเปร่า ระบายความร้อนและพิษไข้ในร่างกาย มักเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเครื่องดื่มสมุนไพรจีนที่มีรสเย็น เช่นต้มรวมกับเก็กฮวย ลูกพุด สาลี่ รากบัว เฉาก๊วย หล่อฮังก๊วยฯลฯ เรียกรวมกันว่าเหลียงฉาหรือจับเลี้ยงในสำเนียงจีนแต้จิ๋ว
หน่วยวัดที่ดินจีน 1 ไร่ไทยเท่ากับ 2.4 หมู่ ที่ดินเสี่ยวจิ่วมีประมาณ 8.33 ไร่
ค่าเงินจีนสมัยโบราณ ในนิยายเรื่องนี้อิงค่าเงินที่ 100 เหวินหรือหนึ่งพวงเหรียญทองแดง = 1 ตำลึงเงิน,10 ตำลึงเงิน = 1 ตำลึงทอง
เจินจูไช่ เรียกแตกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น ในบ้านเราเรียกจิงจูฉ่ายตามคนจีนแต้จิ๋วที่นิยมกิน ถือเป็นพืชข้างทางขึ้นได้ทั่วไปแถวทุ่งนา เนินเขา ในอดีตไม่นิยมนำมาทำอาหารใช้เป็นตัวเพิ่มรสชาติแบบเดียวกับขิง กระเทียมหรือต้นหอม
โก่วฉีจึหรือเราคุ้นกันในชื่อเรียกเก๋ากี้
หยางเหมยหรือยัมเบอร์รี่ แว็กซ์เบอร์รี่ ผลสุกมีสีแดงเข้มไปถึงม่วง ผลฉ่ำน้ำ มีรสหวานอมเปรี้ยว กินสด คั้นเป็นน้ำผลไม้ อบแห้งและหมักเป็นเครื่องดื่มได้

Book Comment (6)

  • avatar
    mustafaareef

    good

    31/08

      0
  • avatar
    สุภาพรฯ สิงห์คำ

    ชอบค่ะ

    24/05

      0
  • avatar
    น้อยอิอิหลอด

    DD you

    18/05

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters