logo text
Add to Library
logo
logo-text

Download this book within the app

Chapter 3 เมื่อตัวร้ายหวนคืน 2/2

“กานต์ กานต์ กานต์! ไอ้คุณทิชากานต์!!” เสียงตะโกนเรียกแสบแก้วหูทำให้ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวบริสุทธิ์สะดุ้งตื่นจากการงีบหลับด้วยใบหน้าเหลอหลาพร้อมความสับสนงุนงงที่โถมเข้าใส่
“กว่าจะตื่นได้นะยะ ฉันแหกปากจนจะฉีกถึงหูได้อยู่แล้วเนี่ย ไหนตอนแรกเห็นตื่นเต้นนักหนาทำไมตอนนี้มางีบหลับก่อนเริ่มพิธีได้ละจ๊ะพ่อคุณ” เสียงเจื้อยแจ้วของเพื่อนสาวอย่างเจนนี่ไม่สามารถผ่านเข้าสมองของว่าที่เจ้าบ่าวที่พึ่งตื่นจากการงีบหลับได้สักประโยคเดียว
ทิชากานต์ตั้งสติปรับโฟกัสก่อนจะกวาดสายตามองรอบห้องพักในโรงแรมสุดหรูด้วยหัวใจที่ค่อยๆ เต้นถี่ระรัวคล้ายจะกระเด็นออกมาจากอก ดวงตาสีน้ำตาลไหม้แสนน่าหลงใหลเผยประกายความสับสนงุนงง ไม่นานก็เอ่อคลอไปด้วยธารน้ำใสอย่างคนตกใจคละความกังวลอย่างอดไม่อยู่
เกิดอะไรขึ้นกัน?
ทำไมเขาถึงกลับมาอยู่ที่นี่ได้?
เจนนี่มองเพื่อนสนิทสมัยเรียนต่อนอกด้วยความงุนงงปนตกใจไม่ต่างกัน เมื่อไม่กี่นาทีก่อนทิชากานต์ยังตื่นเต้นดีใจกับงานแต่งของตัวเองอยู่เลย ไหงตอนนี้ถึงทำหน้าเหมือนกำลังเห็นผีรอบห้องแบบนั้นได้ล่ะ
“กานต์ แกโอเคปะวะ ดูหน้าซีดๆ นะ ให้ฉันตามพี่เกศให้เอามั้ย” ชื่อของคนที่ไม่ได้พบมานานทำให้ทิชากานต์ผู้มัวแต่กวาดสายตารีบหันกลับมามองหน้าเพื่อนสาวอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมืออันสั่นเทาคว้าไหล่อีกฝ่ายไว้ด้วยความตื่นเต้นอย่างอดไม่อยู่
“พี่เกศเหรอ!? พี่เกศที่ว่าหมายถึงพี่เกศรา พี่สาวฉันใช่มั้ย! พี่เกศใช่มั้ย!” เจนนี่หัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงเขย่าของเพื่อนชายตรงหน้าพร้อมความงุนงงที่เพิ่มหนักขึ้นกว่าเดิม
อีกฝ่ายจะตื่นเต้นอะไรนักหนา พึ่งเจอพี่สาวไปหมาดๆ เองไม่ใช่เหรอ นี่ตื่นเต้นยิ่งกว่าเรื่องพิธีแต่งงานของตัวเองอีกมั้งเนี่ย
“ชะ ใช่ พะ พี่เกศ นะ นั่นแหละ โอ๊ย! เลิกเขย่าก่อนได้มั้ย ฉันเวียนหัวไปหมดแล้วเนี่ย” เจนนี่ตอบกลับเสียงสั่นตามแรงเขย่าอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเม้งแตกดันคนตรงหน้าให้ถอยออกจากตนเพราะกลัวเครื่องในจะขย้อนออกมาหมดซะก่อน
พอโดนเพื่อนสาวโมโหใส่ทิชากานต์จึงยอมปล่อยอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่าย ยามนี้ใบหน้าสับสนของชายหนุ่มแทนที่ด้วยความปีติยินดีและตื้นตันจนคนมองสังเกตได้ ริมฝีปากหยักสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปกลอสมันวาวจากฝีมือช่างแต่งหน้าชื่อดังยกยิ้มกว้างจนตาแทบปิด
พี่เกศยังอยู่ พี่เกศยังอยู่ตรงนี้ พี่เกศยังอยู่ที่นี่ไม่หายไปไหน
ความยินดีที่ไม่สามารถระบายได้แค่รอยยิ้มหรือคำพูดจึงแสดงออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียนใสอย่างไม่รู้ตัว ขอแค่นี้ แค่ทุกคนยังอยู่ที่นี่ก็เพียงพอแล้ว
เจนนี่อ้าปากค้างมองเพื่อนชายด้วยความงุนงงเข้าไปใหญ่ อีกฝ่ายลงทุนตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเพื่อแต่งหน้าทำผมเตรียมเข้าพิธีในครั้งนี้เชียวนะ แต่ตอนนี้กลับมานั่งร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมาซะงั้น นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย
“เฮ้ยๆ แกอย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะ เดี๋ยวฉันไปตามพี่เกศกับคุณมัมแป๊บ จะชักหรือเป็นลมก็อดไว้ก่อน ฮึบไว้ฮึบไว้” เมื่อเห็นท่าไม่ดีเจนนี่เลยตัดสินใจจะไปตามคนของบ้านเพื่อนชายให้อย่างรวดเร็ว ร่างสูงเพรียวดั่งนางแบบวิคตอเรียพูดพลางเดินถอยหลังพลางก่อนจะหายออกไปจากห้องทันที
ค่อยยังชั่ว คุณแม่และพี่เกศยังสบายดีอยู่ ดีจริงๆ ดีเหลือเกิน
ไม่สิ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักหรอก
พอเริ่มตั้งสติได้ทิชากานต์จึงลุกขึ้นหันร่างตัวเองที่กำลังสวมชุดสูทสีขาวราวหิมะให้สะท้อนบนกระจกที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังด้วยแววตาราบเรียบเย็นชา
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงย้อนเวลากลับมาอีกครั้งได้ แต่ดูเหมือนจะย้อนมาผิดจังหวะไปสักหน่อยเพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าชีวิตเขาก็คงต้องวนลูปกลับไปอยู่ข้างกายคนไร้หัวใจอีกครั้งจนได้
ทิชากานต์เอื้อมมือเรียวงามลูบไล้โครงหน้าหล่อติดสวยละมุนที่สะท้อนในกระจกพลางปล่อยความคิดให้ล่องลอยกลับไปในช่วงเวลานั้นอีกครั้ง
ตอนนั้นนายคงมีความสุขมากสินะ ได้แต่งงานกับคนที่รัก ครอบครัวต่างยินดีและพร้อมเข้าใจ วาดฝันถึงอนาคตอันแสนสดใส ช่างไร้เดียงสาเสียจริง
ทิชากานต์เหยียดยิ้มสมเพชให้กับคนตรงหน้าทั้งที่ดวงตายังแดงระเรื่อจากการร้องไห้ไปเมื่อสักครู่ หัวใจที่เต้นถี่ระรัวเริ่มช้าลงจนไม่นานก็กลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติ
เอาไงต่อดีนะ
“กานต์ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าลูก หนูเจนบอกแม่ว่าเราร้องไห้หนักมาก บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ” เสียงถามไถ่แสนอ่อนโยนและชวนคิดถึงทำให้เจ้าของชื่อละสายตาจากกระจกแล้วหันไปส่งยิ้มกว้างให้มารดาและพี่สาวที่เดินจ้ำอ้าวเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ไม่ครับ กานต์ไม่เป็นไร แค่ดีใจเลยเผลอร้องไห้เอาน่ะครับ” ทิชากานต์ตอบกลับผู้เป็นแม่พร้อมย่อตัวโอบกอดหญิงผู้ให้กำเนิดด้วยดวงตาที่แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ ตอนเจนไปตามพี่กับแม่เมื่อกี้ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ” เกศที่เห็นน้องชายกอดมารดาพร้อมซุกใบหน้าไปกับไหล่นิ่งจึงถามย้ำด้วยความเป็นห่วงไม่ต่างกัน
“อืม กานต์ไม่เป็นไร กานต์ไม่เป็นไรจริงๆ” ทิชากานต์ตอบกลับทั้งที่ยังคงซุกอยู่กับไหล่ของผู้เป็นแม่ไม่ยอมผละไปไหน ชายหนุ่มต้องพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นตอนเอ่ยออกไป
ไม่เป็นไร ยังไม่เป็นไร เขาได้รับบทเรียนมามากพอแล้ว ครั้งนี้มันต้องไม่เป็นไรแน่
ในเมื่อรักแล้วต้องสูญเสียทุกอย่างไป ตัวร้ายคนนี้ก็ขอยอมแพ้และถอยออกจากหน้านิยายพร้อมคำสาปส่งแทนก็แล้วกัน

Book Comment (886)

  • avatar
    ไซ 'อิ๋ว

    ดีเว่อร์

    3d

      0
  • avatar
    KarnprakobPhakkhanan

    ช่บอ่พ😍

    3d

      0
  • avatar
    จิรนันท์ ท์

    ดีๆ

    13d

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters