เช้าวันรุ่งเด็กสาวรีบตื่นแต่เช้าเพราะเป็นวันที่ต้องเริ่มเข้าเรียนวันแรก มิลันดากระหืดกระหอบรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านเพื่อไปโรงเรียน หล่อนชะงักเมื่อเห็นรถยนต์สีขาวจอดหน้ารั้วบ้าน เด็กสาวมองด้วยความแปลกใจจนกระทั่งกระจกรถเลื่อนลงมาใบหน้าคุ้นเคยก็มาปรากฎให้เห็น“น้องมิขึ้นมาเร็วครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง!”มิลันดาไม่ลังเลอะไรอีกแล้วหากไม่ไปคงไปเรียนสายเป็นแน่ มืออวบเอื้อมเปิดประตูแล้วนั่งลงข้างคนขับ คมฉณัฐเหลือบมองแล้วถอนหายใจออกมาก่อนโน้มกายเข้าหาฝั่งคนนั่งแล้วจัดการกับเข็มขัดนิรภัยให้ เสี้ยวหน้าเขาใกล้เสียจนมิลันดาใจสั่นผิวแก้มเลยแดงปลั่ง“ต้องคาดเข็มขัดด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัย” คมฉณัฐเตือนแล้วทะยานรถรถหยุดตรงหน้ารั้วโรงเรียน มิลันดาหันมากล่าวขอบคุณแล้วหยิบกระเป๋าเปิดประตูลง ระหว่างชั้นเรียนแทบไม่มีสมาธิเพราะนึกถึงใบหน้าพี่คมเป็นระยะๆเสียงกริ่งของโรงเรียนดังบอกเวลาเลิกชั้นเพื่อเดินทางกลับ เจ้าของร่างอวบถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันนี้หล่อนเรียนไม่รู้เรื่องเลยเพราะมัวแต่คิดถึงเขาทั้งวัน เดินทอดน่องมาจนถึงหน้ารั้ว เห็นรถยนต์คุ้นตาพร้อมเจ้าของยืนกอดอกพิงอยู่ หล่อนรีบก้าวยาวเข้าหา “พี่คมมาทำอะไรคะ?” หล่อนถามสีหน้าสงสัย“พี่มารับน้องมิครับ”“ทำไมพี่คมมารับมิล่ะคะ ลำบากแย่”“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รับปากพ่อน้องมิไว้ว่าจะมารับมาส่งน้องมิทุกวัน”“ขอบคุณมากนะคะ”เด็กสาวบอกเขาคมฉณัฐลูบศีรษะเด็กสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู แต่หล่อนกลับใจเต้นแรงเพราะการกระทำของเขา ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเขากำลังทำให้เด็กสาวเข้าใจผิด รถเคลื่อนออกจากโรงเรียนจนมาจอดเทียบหน้าประตูรั้วมิลันดาลงจากรถแล้วเข้าสู่ตัวบ้าน หล่อนยิ้มด้วยความสุขกับเรื่องดีๆ ในวันนี้เสียงลงบันไดอย่างรวดเร็วตั้งแต่เช้าทำให้ดาวเรืองหันมอง เห็นบุตรสาวยิ้มกว้างสีหน้ายินดีราวกับพบเจออะไรมา น่าแปลกไม่กี่วันเหตุใดบุตรสาวถึงอารมณ์ดีหรือโรงเรียนใหม่มีเรื่องน่าสนุกกัน“แม่คะมิไปเรียนก่อนนะคะ” หล่อนบอกมารดาแล้วรีบวิ่งไปหน้าประตูบ้านดาวเรืองยิ่งมองยิ่งสงสัยกับอาการของบุตรสาวรถยนต์คันเดิมจอดอยู่หน้ารั้วบ้าน มิลันดาเดินมาถึงมันแล้วเปิดแต่กลับต้องชะงักเมื่อพบว่ามีหญิงสาวแปลกหน้านั่งจองอยู่ “น้องมิวันนี้นั่งเบาะหลังนะครับ พอดีพี่ไปรับแฟนมาด้วย” เจ้าของรถบอกมิลันดารู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า เม้มริมฝีปากปิดประตูลงเช่นเดิมแล้วนั่งลงบนเบาะด้านหลังแทน หล่อนดีใจทุกวันที่ได้พบหน้าพูดคุยกับพี่คม ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีแฟนแล้ว รู้สึกเหมือนตนเองโง่งมสิ้นดี หลงระเริงดีใจไปได้แทนที่จะคิดตรึกตรองให้ดีเสียก่อน“ใครหรือคะคม?” กานต์สินีหันมาถามแฟนหนุ่ม“ลูกสาวเพื่อนพ่อครับกานต์”“เหรอคะ แล้วคุณจำเป็นต้องไปรับไปส่งด้วยเหรอ!” “ใช่ครับ ทำไมเหรอ ผมต้องไปทางเดียวกับน้องมิอยู่แล้ว” คมฉณัฐตอบตามตรง“กานต์ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกค่ะ อย่าใจดีกับคนอื่นมากไปนะคะคม คุณน่ะเป็นคนแบบนี้เสมอผู้หญิงถึงได้เข้าใจผิดไปหมดนึกว่าคุณมีใจให้!” หล่อนจงใจพูดกระทบให้เด็กสาวด้านหลังรู้ว่าใครกันแน่เป็นตัวจริงคนนั่งเบาะหลังกำมือแน่นทนฟังน้ำคำถากถามตลอดเส้นทาง พี่คมไม่ปริปากพูดอะไรออกมา และหล่อนก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง แค่นี้ก็แทบกล้ำกลืนฝืนทนไม่ไหวแล้ว ถึงหน้าโรงเรียนเด็กสาวเปิดประตูรีบลงไม่สนใจหันกลับมามองอีกเลย กานต์สินีเบ้ปากแสดงท่าทางไม่พอใจ สงสัยเด็กนั้นคงชอบแฟนหล่อนจริงๆ“เด็กอะไรไร้มารยาท!” กานต์สินีบ่น“พอเถอะกานต์ ตลอดทางคุณพูดจาใส่น้องมิในเชิงไม่ดี ผมไม่อยากต่อว่าคุณต่อหน้าน้องมิผมเลยเงียบไว้ แต่ผมอยากให้คุณรู้จักรักษามารยาทบ้าง”“ทำไมกานต์จะต้องรักษามารยาทกับเด็กกะโปโลอย่างนั้นด้วย ใครจะทนได้คะถ้าหากมีคนที่ชอบแฟนตัวเองนั่งอยู่ในรถมาด้วย”“ไม่จริงหรอกกานต์คุณคิดมากไป น้องมิไม่ได้คิดอะไรกับผมหรอก” เขาแย้ง“คุณไม่เชื่อก็คอยดูแล้วกัน!”ชั่วโมงคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ชอบมาก หล่อนมักตั้งใจเสมอแต่วันนี้มันผิดกว่าทุกวัน ในอกสั่นไหวน้ำตาปริ่มจนขอบตาแดง อึดอัดเหมือนคนกำลังจมน้ำ คำพูดของแฟนพี่คมก้องในหู ตลอดคาบมิลันดาไม่อาจบังคับตนเองให้สนใจกับการเรียนได้อีกเลย เมื่อสัญญาณการเลิกเรียนดังหล่อนเลยเก็บกระเป๋าออกจากห้องทันทีสองเท้าก้าวมาจนถึงหน้าโรงเรียนเห็นรถคันเดิม เขามาทำไมอีก มิลันดารีบชิ่งจนหันมาชนเพื่อน“มิเป็นอะไร?” เพื่อนถาม“เราไปก่อนนะ” มิลันดาบอกเพื่อนแล้วรีบวิ่งหนีออกไปด้านหลังโรงเรียนหล่อนโบกแท็กซี่กลับบ้านทันที ดางเรืองเห็นบุตรกำลังจะวิ่งขึ้นชั้นบน น่าแปลกที่วันนี้พ่อคมไม่ได้มาส่งบุตรสาวเช่นทุกวัน “วันนี้ไม่ได้กลับบ้าน กับพี่คมเหรอ?”“ไม่ค่ะ แม่คะต่อไปนี้เลิกให้พี่คมมารับหนูสักที เราต้องเกรงใจพี่เค้าบ้างนะคะพี่เขามีแฟนแล้วให้เขาไปรับส่งแฟนเขาเถอะค่ะแม่” หล่อนบอกมารดาแล้วเดินขึ้นห้องทันที“วันนี้เป็นอะไรไปนะลูกสาวแม่แปลกชอบกล” ดาวเรืองบ่นกับตัวเองคนรอมองนาฬิกาข้อมือตนเอง สุดท้ายตัดสินใจเดินเข้าไปในโรงเรียน เขาไม่พบใครเลยนอกจากห้องเรียนว่างเปล่า มิลันดาหายไปไหนกันแน่ ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถออกมาเพื่อเดินทางกลับมายังบ้าน เมื่อจอดรถเขารีบเดินไปข้างบ้านเพื่อสอบถามเรื่องเด็กสาว“มาทำอะไรเหรอคม” ดาวเรืองถามเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังเดินมาถึงหน้าประตูบ้าน“น้องมิกลับมาหรือยังครับ”“กลับมาแล้วจ้ะ เดี๋ยวไปตามให้นะ รอแป๊บเดียว”คนอกหักนอนสะอื้นบนเตียง การกระทำของพี่คมทำให้หล่อนสับสน เหตุใดเขาต้องทำดี ทำให้หล่อนรู้สึกมีหวังขึ้นมา เสียงฝีเท้านอกห้องมิลันดารีบปาดน้ำตาออกแล้วฟุบหน้าแสร้งหลับ ก๊อก ก๊อก ดาวเรืองเคาะห้องบุตรสาวแล้วเปิดออก หล่อนเห็นลูกกำลังนอนอยู่ ปกติยัยมิไม่ใช่เด็กชอบนอนตอนเย็น หรือสองคนกำลังมีปัญหากันอยู่“มิ พี่คมเขาแวะมาหา ลูกลงไปเจอพี่เขาหน่อยสิ” ดาวเรืองบอก“แม่ช่วยไปบอกพี่เขาทีนะคะว่ามิไม่สบาย” มิลันดาปฏิเสธ แสร้งทำเสียงแหบตอบมารดา“ไม่สบายเหรอลูก ขอแม่เข้าไปดุหน่อย” ดาวเรืองเดินเข้าห้องนั่งลงบนเตียงใช้หลังมือแตะหน้าผากลูกเพื่อวัดไข้ “ตัวไม่เห็นร้อนเลย”“มิเวียนหัวนิดหน่อย ขอพักนะคะแม่ ไม่อยากไปเจอพี่คมตอนนี้”อาการบุตรสาวแปลกเสียแล้ว ดูท่าข้อสันนิษฐานคงจริง สองคนต้องมีเรื่องอะไรกันมา“งั้นก็นอนพักแล้วกันลูก แม่จะลงไปบอกพี่คมให้”
อ่านเพลิน ชอบๆ
6d
0ดีดี
9d
0ชอบมากค่ะ อ่านแล้วยิ้มไปด้วยตลอด เสียดายอยากให้ หมอปิ่นมีลูกก่อน
26/08
0View All