บุษบันสูดลมหายใจลึกๆ เธอเดินกลับห้องพักตัวเองก่อนที่จะเลยลงไปที่หาด เพื่อปกปิดใบหน้า อำพรางตัวจากสายตาคนอื่น ไม่ใช่กลัวการประจันหน้า เธอแค่ไม่อยากก่อความวุ่นวาย เพราะภารตีไม่เคยหยุดที่จะเสียดสีหากเจอเธอตรงๆ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นชิงชังอะไรเธอนัก ทั้งๆ ที่เธอก็อยู่ในส่วนของเธอ ไม่เคยไปก้าวก่ายในส่วนของเจ้าหล่อนเลยสักนิดผมสลวยถูกถักเป็นเปีย ซ่อนความเงางามไว้ด้วยหมวกฟาง แว่นตาแฟชั่นที่แพรวนราลืมทิ้งไว้ ถูกใช้บังตาอีกชั้น บุษบันเอียงคอมองตัวเองในกระจก เธอยิ้มเศร้าๆ ก่อนจะเปิดประตูห้อง ออกไปเผชิญหน้ากับความจริง...และความรวดร้าวที่รออยู่เบื้องหน้าเอาเข้าจริงๆ บุษบันกลับมองภาพความชื่นมื่นด้วยความรู้สึกชาๆ มันไม่ได้เจ็บลึกแบบที่เธอกลัว เมื่อได้เห็นหน้ากากที่นักรบฉาบหน้าไว้หลอกสายตาคนอื่น เธอกลับนึกขำขึ้นมาเสียแบบนั้น ดังนั้นจึงมีรอยยิ้มหยันๆ แต้มมุมปากของบุษบันตลอดช่วงที่เธอทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาแต่ที่เธอไม่รู้...ตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้ชายคนหนึ่ง เขาจับตามองเธอ นับตั้งแต่ที่หลานสาวกระซิบบอก เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น หากบุษบันนึกอยากจะป่วนนรสิงห์ไม่สงสัยเลยว่าทำไมผู้ชายอย่างนักรบถึงไม่คิดจะปล่อยมือจากผู้หญิงคนนั้นง่ายๆใต้สิ่งที่หล่อนอำพรางไว้ คือความงดงามที่แทบไม่มีที่ติ หากเขาไม่รู้มาก่อนว่าผู้หญิงอย่างบุษบันเป็นเช่นไร นรสิงห์ ก็อาจจะสนใจหล่อน ตามวิสัยของภมรหนุ่ม“เธอว่ามั้ย? เหมือนเจ้าบ่าวจะฝืนๆ ยังไงไม่รู้”เสียงกระซิบกระซาบของกลุ่มสาวโสดกลุ่มย่อมๆ ที่รวมตัวยืนอยู่ไม่ไกลจากที่เธอยืนให้บริการ“ไม่ฝืนได้ยังไง ใครจะไปทนยัยตีได้ หล่อนน่ะ ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน เอาแต่ใจสุดๆ แล้วสุภาพบุรุษอย่างคุณนักรบหรือจะทนหล่อนไหว ได้ข่าวว่า...รู้แล้วเหยียบนะยะ ไม่อย่างนั้นทีหลังฉันจะไม่เล่าให้ฟังอีก” ต้นตอข่าวลือลดเสียงลง หล่อนย้ำแล้ว ย้ำอีก ทั้งๆ ที่อยากจะเปิดปากพูดใจจะขาด“ว่ามาเลย ใช่ที่ฉันได้ยินมามั้ยแก!!” ลูกคู่รีบสนับสนุน“ก็งานนี้น่ะ เจ้าสาวที่ใครๆ ก็ว่าโชคดี เป็นคนเนรมิตขึ้นมาเอง เจ้าบ่าวไม่ต้องออกสตางค์สักบาท”บุษบันไม่ได้เป็นคนไม่มีมารยาท เธอไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แค่อยู่ในรัศมีที่ได้ยินเต็มสองหู“อันนี้ไม่รู้จริงหรือไม่จริง แต่ถ้าเป็นความจริง แสดงว่าข่าวเรื่องไชยยะนันกลวงก็เป็นข่าวจริงสิ”“หูยยย หล่อ หรู โปรไฟล์ดี มาดสุขุม ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ถ้ามีแต่ตัวก็ไม่ไหวนะเธอ”หล่อนยกมือปิดปาก หัวเราะคิกคัก เพราะต่อให้นักรบเป็นผู้ชายในฝัน หากกระเป๋าใส่สตางค์ของเขาเบาหวิว ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจเขาหรอก“ยัยตีคงไม่แคร์หร๊อก!! หล่อนอู้ฟู่รวยเหลือกินเหลือใช้ กะอีแค่ซื้อ ‘ผัว’ สักคน คงไม่ทำให้สมบัติหล่อนยุบยอบลงไปเท่าใดหร๊อกจ้า”เป็นการนินทาระยะเผาขน เมื่อคู่บ่าว สาว ยืนอยู่เยื้องๆ คู่รักที่มีความสุขยิ้มเยือน หารู้ไม่ว่า รอบๆ ตัวเขา มีแต่เสียงนินทา บุษบันถอนใจ เธอเดินเลี่ยงหลบ เมื่อมองเห็นคุณรินลดาโบกมือเรียกอีกครั้ง ถาดใส่เครื่องดื่มของเธอพร่องลงไปเยอะ...เมื่อแต่ละคนที่มาร่วมงาน ต่างร่วมเฉลิมฉลองกันแบบไม่อั้น เมื่อเจ้าของงานใจป้ำเปย์ไม่ยั้งเหมือนกัน“เดี๋ยว” เสียงห้าวร้องเรียกเธอ บุษบันหันไปยิ้มให้ เธอยื่นถาดไปตรงหน้าเขา ก่อนจะสะดุดลมหายใจตัวเอง เพราะดวงตาคู่คมนั่น ตรึงเธอจนกลายเป็นหุ่นยนต์ไปชั่วขณะตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาว บุษบันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่มีดวงตาดูลึกลับและแปลความหมายไม่ออก เหมือนคนตรงหน้าสักนิดผู้ชายตัวใหญ่ ไหล่กว้าง ตัวสูงเหมือนนักกีฬา เขาสวมสูทผ่าหน้าแบบไร้กระดุม ใต้เสื้อสูทมีเสื้อยืดแนบเนื้อสีขาว เผยให้เห็นลอนกล้ามพอๆ กับนายแบบดังบางคนที่ถ่ายรูปแนวเซ็กซี่ ปลายคางของชายหนุ่มมีไรเคราจางๆ จมูกของเขาโด่งคม รับกับดวงตาคมกริบ เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ รีบดึงสติของตนเองกลับมา กะพริบเปลือกตาปริบๆ เมื่อเขากลับยืนเฉย ไม่ได้หยิบเครื่องดื่มในถาดที่มีไว้บริการ“เออ...”“เธอต้องการอะไรบุษบัน ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?”คำถามของเขาทำให้บุษบันตกใจ เธอผงะถอยหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เมื่อช้อนสายขึ้นมองเขาตรงๆ“แล้วทำไมบุษจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะคะ?” เธอย้อนถามเขา หากเขารู้จักเธอ แล้วทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้นนรสิงห์หรี่เปลือกตาลง เขาประเมินผู้หญิงตรงหน้าต่ำไป หล่อนดูไม่ยี่หระ แม้จะยืนอยู่ในงานสำคัญของ ‘แฟนเก่า’“ถ้าเธอไม่ก่อปัญหาก็แล้วไปเถอะ!! เธอจะอยู่ที่ไหนก็สิทธิ์ของเธอบุษบัน แต่...หากความวุ่นวายนั้น สาเหตุมาจากเธอละก็...เธอกับฉันคงได้เจอกันอีกแน่” ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาเย็นเฉียบหญิงสาวไหวไหล่ให้กับคำขู่ที่แสนน่ารังเกียจนั่น เขาคิดว่าเธอจะทำอะไรเหรอ...ถึงเธอจะถูกทิ้ง!! แต่บุษบันก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น เธอปลงได้กับความจอมปลอมที่นักรบโยนใส่ บางครั้งเธอยังนึกเวทนาภารตีด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนั้นจะเสแสร้งและปลอกลอกหล่อนไปอีกเท่าใด กับการจมไม่ลงของเขาเอง“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...บุษขอตัวนะคะ”หญิงสาวค้อมตัวลง เธอเดินจากไป พร้อมกับความระแวง เมื่อนรสิงห์ไม่คิดว่า บุษบันจะมาอย่างมิตร“บุษรู้จักคุณสิงห์ด้วยหรือจ้ะ?” รินลดาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มด้านหลังลูกน้องสาวสวย เธอถามหญิงสาวตรงหน้าเพราะอยากรู้จริงๆ“ใครคะ? อ้อ...ผู้ชายคนนั้น... บุษไม่รู้จักหรอกค่ะ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าเธอก็วันนี้เอง”หญิงสาวส่งต่อถาดเครื่องดื่มให้กับพนักงานที่รับช่วงต่อ เธอตอบแก้ความกังขาของนายจ้าง“เห็นคุยกันตั้งนาน คุณรินก็คิดว่าบุษรู้จักเธอเสียอีก”เจ้าของรีสอร์ตเปรยลอยๆ “บุษอีกทีนะ คืนนี้คุณรินมีงานด่วน ต้องบินไปกรุงเทพฯ ดังนั้น อยากให้บุษช่วยประสานงานแทนคุณรินที”สาวใหญ่กล่าวเซ็งๆ แทนที่จะได้อยู่ดูบรรยากาศยามค่ำ ของงานวิวาห์สุดหรู เธอกลับมีงานต้องบินด่วนเสียอย่างนั้นเอง“จะดีเหรอคะคุณริน” หญิงสาวยิ้มแหยๆ เธอพยายามที่สุดที่จะอยู่ให้ห่างงานนี้ แต่ทำไมโชคชะตาเล่นตลกเสียเหลือเกิน ยิ่งวิ่งหนี กลับยิ่งขยับเข้าไปพัวพัน“คุณรินไว้ใจบุษนะ เอาน่า... นึกว่าเป็นการทดลองคุมงานครั้งแรกของบุษด้วย” รินลดายิ้มให้กำลังใจ เธอไม่รู้ว่าบุษบันมีความหลังกับคนเหล่านั้น“ชุดที่จะใส่อยู่ในห้องคุณรินนะ ไซส์บุษกับคุณรินน่าจะใกล้เคียงกัน คุณรินอนุญาต... อย่าให้เสียชื่อล่ะ”นายสาวกล่าวให้กำลังใจ ก่อนจะเดินไปอีกทาง เธอหมุนตัวมาโบกมือให้บุษบัน...“เห้อ...” เสียงถอนหายใจแรงๆ หลังนายจ้างสาว กระโดดขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อจะไปยังสนามบิน
ดีมากดีครับๆ
27/08/2023
0เริ่มจะสนุกค่ะ
16/06
0สนุกดี
24/04
0View All