logo text
Add to Library
logo
logo-text

Download this book within the app

บทที่3

อากาศในเดือนสี่ยังคงอบอุ่น
ในที่สุดงานเลี้ยงวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าก็เวียนมาถึง อวิ๋นซือเลือกชุดเครื่องประดับตามฐานะ ชุดกระโปรงตัวยาวสีม่วงอ่อนกับเสื้อคลุมสีขาวสะอาดตา ให้ความรู้สึกเป็นกันเองและไม่เป็นทางการจนเกินไป งดงามสง่า ไม่ขาดและก็ไม่เกินแม้แต่น้อย
แขกส่วนใหญ่เริ่มทยอยเดินทางมาถึงแล้ว ในฐานะฮูหยินใหญ่ หญิงสาวจึงต้องคอยยืนต้อนรับ ระหว่างรอฮูหยินผู้เฒ่ากับสามีมาถึง แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่ายเลย ไหนจะต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน อีกทั้งยังต้องหมั่นดูความเรียบร้อยของบ่าวไพร่ สลับกับต้อนรับแขกเป็นระยะ อวิ๋นซือวิ่งวุ่นจนร่างกายแทบแยกเป็นส่วนเพราะความเหนื่อย
ทว่า… ไร้เงาคนเป็นสามี
อวิ๋นซือรู้ดีว่าอีกฝ่ายยังมาไม่ถึง เพราะยามเดินมาที่เรือนจัดเลี้ยงต้องผ่านเรือนอนุคนใหม่ นางยังเห็นเงาร่างสองสายที่แทบแยกกันไม่ออกอยู่เลย แต่อย่างที่ทุกคนพูดกัน อนุเจียวผู้มาใหม่คนนี้งดงามอ่อนหวานจับใจนัก คงไม่แปลกหากนายท่านหลันจะใช้เวลากับคนงามอย่างอ้อยอิ่งสักเล็กน้อย
และก็เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า ในระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังสำเริงสำราญกับอนุที่โปรดปราน คนที่เหนื่อยสายตัวแทบขาดย่อมต้องเป็นนาง อวิ๋นซือถอนหายใจเบาๆ ใบหน้าแย้มยิ้มตามมารยาทอย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างที่เคยคิดไว้เลย ตำแหน่งฮูหยินใหญ่นั้นเป็นงานที่หนักอย่างยิ่ง ต้องคอยดูแลทุกเรื่องราวภายในบ้าน ปรนนิบัติรับใช้สามีและมารดาอีกฝ่าย ไหนจะยังมีหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้เหล่าสตรีเรือนหลัง ยิ่งพอมีงานเสริมก็ต้องเหนื่อยเป็นเท่าตัวอย่างยามนี้
จนบางทีนางก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าตัวเองกำลังทำงานที่ได้ค่าตอบแทนไม่สมน้ำสมเนื้ออยู่…
ไม่นานเกินรอฮูหยินผู้เฒ่าก็เดินเข้ามาในงานด้วยการประคองของบุตรชาย เมื่อมาถึงงานใบหน้าชราก็แต้มไปด้วยรอยยิ้ม นางมองแขกส่วนใหญ่ที่เป็นสหายหรือบรรดาญาติห่างๆ แล้วชวนกันเข้าไปนั่งคุย 
แม้สกุลหลันจะเป็นสกุลใหญ่ในเมืองหลวง ทว่านายผู้เฒ่าคนก่อนกลับมีหลันชิงเป็นทายาทเพียงคนเดียว อีกทั้งหลันชิงเองก็ยังไม่มีบุตรอีกด้วย จึงไม่แปลกที่บรรดาเมียใหญ่เมียเล็กจะพยายามแข่งขันกันเอาเป็นเอาตาย อวิ๋นซือคิดพลางถอนใจ เมื่อนึกได้ว่าตนก็เป็นฮูหยินใหญ่ของเขาเช่นกัน
อวิ๋นซือมองฮูหยินผู้เฒ่าทักทายผู้คนที่มาอวยพรพร้อมของขวัญอย่างสงบ เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้วจึงเอ่ยถามเพื่อขอความเห็น
“ท่านแม่ อีกเดี๋ยวงานจะเริ่มแล้ว ให้เรียกพวกอนุมาอวยพรก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ เสร็จแล้วจะได้เริ่มงานเลี้ยงต่อ”
เพราะอนุเป็นเพียงเมียที่ไร้ศักดิ์จึงมิเหมาะที่จะอยู่ร่วมงาน อีกทั้งอนุของสามีนางก็เยอะแยะมากมายเกินจะให้พวกนางอยู่ได้ทุกคน จึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงจัดให้พวกนางมาโขกศีรษะก่อนจะแยกย้ายกลับเรือนของตนเอง
เหล่าขบวนอนุเข้าอวยพรและมอบของขวัญตามลำดับก่อนหลังที่มา ก่อนจะตามด้วยฮูหยินรองทั้งสี่ จนมาถึงนางผู้เป็นฮูหยินใหญ่ อนุเจียวที่มาใหม่มีกิริยาท่าทางสมเป็นสาวน้อยผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง นางเป็นเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมงานได้
ครั้นเห็นว่าถึงคราวอวิ๋นซือต้องมอบของขวัญให้บ้างแล้ว นางก็พลันเอี้ยวหน้ามาทางอวิ๋นซือพร้อมส่งเสียงร้องอ๊ะขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าหลุบตาลงอย่างขวยเขินที่ตนเองเสียมารยาท บุรุษในงานไม่เว้นแม้แต่หลันชิงต่างก็มองอาการหน้าแดงนั้นด้วยความเอ็นดู จากนั้นจึงพากันหันมาจับจ้องอวิ๋นซืออย่างสนใจใคร่รู้
หญิงสาวอมยิ้มน้อยๆ มือรับกล่องไม้สลักลายประณีตจากสาวใช้ ก้าวออกมาด้านหน้าฮูหยินชราแล้วยื่นส่งให้ ท่ามกลางสายตาสงสัยใคร่รู้ของผู้คนที่อยู่ในงาน
ของขวัญที่ขนาดสาวน้อยผู้หนึ่งยังตกใจคงจะเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา
อวิ๋นซือยังคงมีรอยยิ้มยามฮูหยินผู้เฒ่ารับของขวัญไปเปิด เจียวที่มีความหมายว่าน่ารักอ่อนหวานงอย่างนั้นหรือ ช่างสมตัวเสียจริงเมื่อได้ยลโฉมความงามนั้น หญิงสาวไม่นึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย หากสามีของตนจะพึงพอใจอีกฝ่าย
แต่ถ้าบอกว่าอ่อนหวานคงเป็นความอ่อนหวานที่เคลือบแฝงด้วยยาพิษเสียมากกว่า เพราะกิริยาที่จงใจแสดงให้ผู้คนสนใจของขวัญนางเมื่อครู่ บ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายคงรู้ดีอยู่แล้ว เรื่องที่สองอนุตบตีกันจนรูปสลักเทพธิดาเสียหาย
อวิ๋นซือคิดว่าอีกฝ่ายคงคาดการณ์ไว้แล้วว่า เวลาน้อยเช่นนี้นางย่อมไม่มีเวลาหาของขวัญดีๆ ได้ จึงพยายามแสดงท่าทางให้คนอื่นสนใจเมื่อครู่ ในฐานะฮูหยินใหญ่ของคฤหาสน์ หากนางมอบของขวัญที่ไม่สมฐานะ สายตาผู้คนก็จะเปลี่ยนไปและดูถูก แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ต้องมีโทสะที่เสียหน้าต่อแขกเหรื่อในงาน
เห็นอายุยังน้อย ด้วยวัยเพียงสิบห้าหนาวเท่านี้ก็คิดเป็นแล้วหรือ ที่แท้ก็ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่แสดงออก อวิ๋นซือคิดพลางส่งรอยยิ้มหวานที่ถูกฝึกมาอย่างดีกลับไป เมื่ออีกฝ่ายส่งยิ้มหยีตามาให้
อวิ๋นซือนับถือคนเก่งเสมอ โดยเฉพาะคนเก่งที่ฉลาดคิด!
ทุกสายตามองรูปสลักพระโพธิสัตว์ในมือฮูหยินผู้เฒ่าด้วยแววตาประหลาดใจ นั่นหรือคือของขวัญจากฮูหยินใหญ่สกุลหลัน จะบอกว่าธรรมดาก็ไม่ใช่ หากดูจากขนาด ไม้จันทน์หอมที่ใช้สลักต้องมีอายุหลายร้อยปีเป็นแน่
ทว่าจะบอกว่าล้ำค่าก็เป็นคำพูดที่ออกจะเกินไป เพราะแม้จะเป็นของหายาก แต่ใช่ว่าจะหาไม่ได้นี่นา หลายคนมองมาแล้วซุบซิบกัน ฮูหยินผู้เฒ่าให้อึดอัดใจเล็กน้อย นางรู้เรื่องที่สองอนุทำให้ของขวัญสะใภ้เอกเสียหายแล้ว แต่การจะนำมาพูดตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าอับอายจนเกินไป จึงต้องแสร้งนิ่งเงียบเพื่อรักษาหน้าตาสกุลไว้ ด้วยการปล่อยให้ผู้คนหันไปตำหนิอวิ๋นซือแทน
หญิงสาวยังคงแย้มยิ้มเช่นเคย นางมิใช่ไม่รู้ เรื่องที่แม่สามีคิดใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือรักษาหน้าตาของสกุล อย่างไรเสียหากเทียบระหว่างการให้ผู้คนตำหนิสะใภ้คนหนึ่งที่ไร้หัวคิด ก็ยังขายหน้าน้อยกว่าให้ผู้อื่นรู้ว่าในตระกูลมีเรื่องน่าขัน ที่แค่อนุสองคนยังกำราบไม่ได้ ถึงขนาดปล่อยให้ทำลายของขวัญวันเกิดมารดาประมุข
อวิ๋นซือหาได้โกรธเคืองอีกฝ่ายไม่ แม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะเอ็นดูตนเพียงใด แต่ถ้าให้เลือกระหว่างนางกับบุตรชายและหน้าตาของตระกูล เกรงว่าคงไม่ผิดถ้าแม่สามีจะเลือกอย่างหลัง

Book Comment (209)

  • avatar
    คุณ ธนวัฒน์.

    ชอบ

    19d

      0
  • avatar
    fonluang lertsilp

    อ่านสนุกมากๆเลยค่า

    19/08

      0
  • avatar
    BO MI

    ดีเวอร์

    16/08

      0
  • View All

Related Chapters

Latest Chapters