"โอ๊ย! นี่มือคนหรือเท้าช้าง หนักขนาดนี้เนี่ย หรือว่านายจงใจแกล้งให้ฉันเจ็บกว่าเดิมใช่ไหม"คีตะช่วยประคบน้ำแข็งตรงศีรษะด้านหลังที่มันปูดขึ้นมาให้ โดยที่ฉันนั่งอยู่บนเตียง ส่วนเขานั่งบนเก้าอี้ แต่เขากดมือแรงจนฉันคิดว่าเขาแกล้งทำหรือเปล่า"ถ้าบ่นนักก็ทำเองเลย""งั้นก็เอามาสิ"แต่พอจะแย่งถุงน้ำแข็งมาประคบเอง เขากลับชูมันขึ้นเหนือศรีษะจนฉันเอื้อมไม่ถึง"เอาถุงน้ำแข็งมาสิ ฉันทำเองก็ได้""จะทำอะไรก็ประมาณตนหน่อย นั่งนิ่งๆ แล้วหุบปาก ห้ามบ่น ห้ามงอแง จะได้ประคบให้เสร็จ แล้วจะได้ทายา""นายก็ทำเบาๆ สิ มือหนักขนาดนี้จะให้ฉันนั่งเฉยๆ ไม่แหกปากได้ยังไง"พูดมาได้ว่าให้นั่งนิ่งๆ นายลองมาเป็นฉันดูไหมล่ะ อีตาบ้า"ไม่แกล้งแล้วก็ได้ นั่งนิ่งๆ"ในที่สุดก็ยอมรับนะว่าจงใจแกล้งกัน อย่าให้ถึงคราวฉันบ้างก็แล้วกันฉันนั่งนิ่งให้คีตะประคบน้ำแข็งให้ อือ...มือเบาขึ้นมาหน่อย ถือว่าใช้ได้"รู้สึกยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างรึเปล่า" เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะได้ยิน ฉันเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน เลยบันทึกเสียงไว้ไม่ทัน"อืม ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ก็ยังเจ็บอยู่ แล้วนายล่ะ เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า"ฉันเป็นคนมีมารยาทหรอกนะ เลยถามกลับพอเป็นมารยาท ไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอก อย่าเข้าใจผิดซะล่ะ"ฉันสบายดี ไม่เจ็บตรงไหนเลย ถามแบบนี้เป็นห่วงฉันหรือไง หรือว่าหลงเสน่ห์ฉันเข้าแล้ว"นั่นปะไร! ว่าแล้วต้องมีคนเข้าใจผิด ฉันเลยขยับหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับเขา"อย่าเข้าข้างตัวเองให้มากไปหน่อยเลยน่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงสวยใสไร้สมองเหมือนนักเรียนหญิงพวกนั้นหรอกนะ ที่จะได้เห็นนายเป็นพ่อเทพบุตร วิ่งตามกรี๊ดกันเป็นพรวน"ฉันว่าพลางเบ้ปาก"ใช่ซี้ ฉันลืมไปว่าเธอเกลียดขี้หน้าฉันจะตายนี่นา"พูดเฉยๆ ไม่พอ ยังทำหน้าบูดเป็นตูดหมึกซะด้วย คิดว่าฉันจะสนเหรอ แต่เอ๊ะ! นั่นมันคำพูดของฉันเมื่อเช้านี่นา ไม่คิดว่าเขาจะเก็บมาใส่ใจ แต่พอจะอ้าปากถาม คีตะก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน"เธอเกลียดขี้หน้าฉัน ไม่ชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ"น้ำเสียงและใบหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว ฉันก็เริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ แล้วนะ"เอ่อ..."ตอบว่าไงดีวะ...คิดสิคิด เอาวะ! เพื่อความอยู่รอด ขอผิดศีลมุสาอีกสักครั้งก็แล้วกัน"เอ่อ...เรื่องเมื่อเช้า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นนะ และที่จริงแล้วฉันเองก็ไม่ได้เกลียดขี้หน้านายอะไรมากมายหรอก"ฉันพูดถูกรึเปล่าว้า ทำไมหน้าเขายิ่งดูเครียดกว่าเดิมอีกล่ะ"จริงๆ นะ มันเป็นแค่ข้ออ้างขอย้ายโต๊ะเท่านั้นแหละ ฉันไม่ได้เกลียดนายเล้ย"แล้วฉันจะเสียงสูงไปไหนเนี่ย เดี๋ยวก็ถูกจับได้หรอกว่าโกหก"พอเถอะ เธอนี่มันโกหกไม่เนียนจริงๆ"นั่นไง...เขาว่าพร้อมกับดีดหน้าผากฉันหนึ่งที ฉันรีบหลับตาปี๋เพราะกลัวจะมีครั้งที่สองตามมาอีก แต่ก็ไม่มีนี่นา...คุณพระ! แต่พอลืมตาขึ้น ก็เห็นคีตะกำลังจ้องหน้าฉันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ในระยะประชิดซะด้วย ทำให้ฉันเกิดสะอึกขึ้นมาเสียดื้อๆทะ...ทำไมต้องใกล้ขนาดนี้ด้วย"อึก...อึก..."หมอนั่นนั่งมองฉันที่สะอึกไม่หายสักที และแล้วอยู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาบีบจมูกฉัน"อื้อ!"ฉันดิ้นหนีแต่เขาก็ตามมาบีบจมูกอีก แขนข้างหนึ่งก็ล็อกคอฉันไว้กันหนี จนฉันหมดหนทางต่อสู้ คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ แต่แล้วเขาก็ยอมปล่อยมือ ฉันจึงรีบสูดอากาศยกใหญ่ รอบที่สองของวันนี้แล้วนะ ที่ฉันเกือบจะตายเพราะอากาศหายใจ"ฉันจะฟ้องคุณป้าว่านายพยายามจะฆ่าฉัน!""ใครจะฆ่าเธอ"ยัง...มันยังไม่รู้ตัวอีก"ก็นายนั่นแหละ ในโลกนี้คงจะมีแค่นายคนเดียวนั่นแหละที่อยากให้ฉันตาย""ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ คนอุตส่าห์ช่วย กลับมากล่าวหากันว่าพยายามจะฆ่าซะงั้น""ช่วยเหรอ? บีบจมูกจนฉันหายใจไม่ออกนี่นะเรียกว่าช่วย"อันนี้เขาไม่ได้เรียกว่าช่วยโว้ย! สมองกลับรึเปล่าเนี่ย"แล้วหายไหมล่ะ""หาย? อะไรหาย"หมอนี่พูดเรื่องอะไร ฉันชักจะงงๆ แล้วนะ"สะอึกไง หายแล้วนี่ เห็นรึยังว่าฉันช่วยเธอต่างหากยัยเตี้ย"คำก็เตี้ย สองคำก็เตี้ย เตี้ยแล้วมันหนักส่วนไหนของนายไม่ทราบ แต่ก็จริงนะ เมื่อกี้ฉันกลัวจนหายสะอึกเลย มันเป็นวิธีช่วยที่บ้ามากจริงๆ"ก็ใครจะไปรู้เล่า นึกว่านายจะฆ่าฉันนี่นา แล้วก็ไม่บอกกันดีๆ""ถ้าบอกมันก็ไม่ได้ผลน่ะสิ เอาล่ะๆ ถือว่าเธอติดหนี้บุญคุณฉัน""ได้ไงล่ะ นายนั่นแหละที่ติดหนี้ฉัน""อย่างฉันเนี่ยนะติดหนี้คนอย่างเธอ ไม่มีทาง"คนอย่างฉันแล้วมันทำไมยะ"ตอนที่กลับบ้านมา คุณลุงกับคุณป้าถามหานาย ฉันก็อุตส่าห์แก้ตัวให้ว่านายต้องอยู่ช่วยครูต่อที่โรงเรียน ไม่ใช่ว่าไปเถลไถลกับเพื่อน ไม่งั้นนายโดนคุณป้าบ่นหนักกว่านี้อีก""เรื่องแค่นี้ฉันไม่ถือเป็นบุญคุณหรอก อย่าคิดว่าตัวเองมีความสำคัญขนาดนั้นนักเลย""งั้นแค่ที่ช่วยให้ฉันหายสะอึก ก็ถือว่าไม่ใช่บุญคุณเหมือนกัน สรุปว่าเราหายกัน ไม่มีอะไรติดค้างซึ่งกันและกัน ทีนี้ก็ออกไปได้แล้ว"ฉันไล่เขาพร้อมกับชี้ไปที่ประตู"เธอไล่ฉันเหรอ"หมอนั่นตะโกนถาม ทั้งที่ก็อยู่ใกล้ๆ กัน ฉันไม่ได้หูหนวกนะเว้ย"ไม่ได้ไล่ แค่เชิญให้ออกไป ฉันอยากนอนแล้ว""งั้นก็นอนให้พอใจไปเลย ยัยหมูขี้เซา!"คีตะตวาดใส่หน้าฉันแล้วรีบออกไปจากห้องทันที แต่ครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาแล้วปีนออกไปทางระเบียง เหมือนตอนที่เข้ามา"อะไรของเขา ประตูก็มีแต่ไม่เข้า คิดว่าตัวเองเป็นสไปเดอร์แมนรึไง"[คุยกันดีๆ ได้ไม่เกินสองคำจริงๆ ต้องกัด เอ๊ย! ทะเลาะกันอยู่เรื่อยเลยสองคนนี้ ขอกำลังใจให้คีตะกับต้นเตยด้วยนะคะ คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ค่ะ]
ชอบอ่านมากครับเรื่องนี้สนุกมากเลย
19h
0ดีมากเลยค่า
1d
0สนุกมากค่ะ
3d
0View All