[[ คีตะ ]]ก๊อกๆๆ"นี่เธอ! อยากจะไปสายตั้งแต่วันแรกเลยรึไง ฉันให้เวลาสิบนาที ถ้าไม่เสร็จก็ไปโรงเรียนคนเดียวเลยนะ"ธุระอะไรของผมก็ไม่รู้ที่ต้องคอยปลุกยัยนี่ทุกเช้า ไม่ใช่แค่วันนี้นะ แต่ผมต้องคอยปลุกเธอทุกเช้ามาแปดปีแล้ว แล้วยัยนี่ก็ไม่เคยปรับปรุงตัวตื่นเช้าเลยสักวัน ครั้นจะไม่ปลุกก็ไม่ได้ เพราะได้รับคำสั่งมาจากแม่ ว่าต้องไปโรงเรียนพร้อมกันทุกวัน และวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ซึ่งผมก็ไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรกหรอกนะก๊อกๆๆ"ยัยหมูขี้เซา! เธอได้ยินฉันไหมเนี่ย น่ารำคาญจริง ฉันไม่รอแล้วนะ"ผมหมดความอดทน ไม่รงไม่รอแล้ว โดนแม่ด่าก็ยอมล่ะงานนี้ ตัวใครตัวมัน![[ ต้นเตย ]]ก๊อกๆๆ"อือ...ฝันดีจัง ฝันถึงโอป้าด้วย เอ๊ะ! ใครมาเคาะประตูและตะโกนอยู่หน้าห้องเนี่ย น่ารำคาญชะมัด"คนกำลังฝันดีอยู่แท้ๆ จะมาขัดจังหวะกันทำไม หรือว่านายคีตะ แล้วจะมาปลุกกันทำไมแต่เช้านักก็ไม่รู้"เอ๊ะ! หรือว่า..."ตายๆๆๆ นาฬิกาอยู่ไหน โอ้ม่ายยยยย พุทโธ ธัมโม สังโฆ ช่วยลูกช้างด้วยเถิดพอเห็นเข็มนาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงกับอีกสี่สิบห้านาทีแล้ว ตาของฉันก็แทบถลนออกมาจากเบ้า ฉันไม่อยากไปโรงเรียนสายตั้งแต่วันแรกนะ ฮือๆๆๆ ไม่ได้ๆ ฉันจะมัวแต่คร่ำครวญไม่ได้ ต้องรีบแล้วและต้องให้เร็วที่สุดด้วย เริ่มจากเข้าห้องน้ำเป็นอันดับแรก ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนักแล้วกลับออกมาสวมชุดนักเรียน ซึ่งยังดีที่รีดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วหลังจากหวีผมและจัดทรงพอให้ไปวัดไปวาได้ ไม่สิ! ต้องบอกว่าพอไปโรงเรียนได้ถึงจะถูก ก็รีบคว้ากระเป๋าออกจากห้องทันที ข้าวช้งข้าวเช้าก็ไม่ต้องกงไม่ต้องกินกันล่ะ จากนั้นก็วิ่งหน้าตั้งออกจากบ้านด้วยความเร็วชนิดที่ว่านักกรีฑาทีมชาติยังต้องชิดซ้ายและแล้วฉันก็มาถึงหน้าประตูโรงเรียนด้วยเวลาชั่วเส้นยาแดงผ่าแปด เหงื่อซ่กเต็มใบหน้าเลยทีเดียว ด้านหน้ามีหลายคนที่กำลังเข้าแถวเรียงกันเพื่อที่จะเข้าไปในโรงเรียน ส่วนด้านหลังก็มีอีกหลายคนที่สภาพไม่ได้ต่างกับฉันเท่าใดนักอย่างน้อยก็ไม่ใช่คนเดียวที่มาสาย อิอิ"เดินเรียงแถวกันเข้ามาแล้วไปที่หน้าเสาธงเลยนะ อย่าเพิ่งเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ เพราะปีนี้มีการจัดห้องใหม่ จะได้ขึ้นไปพร้อมกันทีเดียว"เสียงของคุณครูเวรประจำวัน ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูแลความเรียบร้อย และตรวจความถูกต้องของเครื่องแบบนักเรียน ด้านหน้าประตูในทุกเช้าดังขึ้น นักเรียนทุกคนจึงรีบก้าวเท้าให้เร็วขึ้นทันทีที่ฉันผ่านเข้ามาได้สำเร็จ ก็รีบมองหาตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันเกือบจะต้องอายคนตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน แต่หมอนั่นไปมุดหัวอยู่ที่ไหนนะ ถึงไม่เห็นแม้แต่เงาเลย แต่แล้ว..."อ้าว! มาแล้วเหรอ นึกว่ายังนอนขึ้นอืดอยู่ที่บ้านซะอีก ยัยหมูขี้เซา"คำที่ใช้เรียกฉันแบบนี้ ไม่มีใครที่ไหนอีกแล้ว นอกซะจาก..."ไอ้บ้าคีตะ! ทำไมนายถึงไม่ปลุกฉันห้ะ"พอนึกได้ว่าคนเยอะ ฉันเลยลดเสียงลง กัดฟันถามพอให้ได้ยินกันแค่สองคน"ไม่ปลุกที่ไหนล่ะ ฉันเคาะประตูก็แล้ว ตะโกนเรียกก็แล้ว แต่เธอไม่ยอมตื่นเอง อย่ามาโทษฉันนะ คงจะมัวแต่ฝันหวานถึงพวกนักร้องไอดอลไร้สาระอยู่ล่ะสิ เฮอะ! สมน้ำหน้า แต่ผิดหวังชะมัดเลย ฉันอุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตารอดูคนมาสาย ขึ้นไปยืนสำนึกผิดหน้าเสาธง เฮ้อ!"ยัง...ยังมีหน้ามาพูดอีก แต่มันก็จริงแหละ เพราะฉันมัวแต่ฝันอยู่จริงๆ แต่ยังไงก็เป็นความผิดของเขาอยู่ดี"หุบปากเน่าๆ ของนายไปเลยนะ ถ้าฉันได้ขึ้นไปยืนหน้าเสาธง ฉันก็จะฟ้องคุณป้าว่านายทิ้งให้ฉันมาโรงเรียนคนเดียว"ฉันว่าแล้วก็รีบเดินหนีไปจากเขาทันที เพราะมีเสียงประกาศผ่านไมโครโฟนเรียกให้เข้าแถวตามลำดับชั้น ซึ่งปีนี้ฉันได้เป็นพี่ใหญ่ อยู่มัธยมปลายปีสุดท้ายแล้ว ว่าแต่เพื่อนสนิทฉันหายไปไหนหมดนะ พยายามมองหาแล้วแต่ไม่เห็นเลย แต่จะว่าไปแล้วฉันมีเพื่อนสนิทแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ เราเรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่มัธยมต้น ปีนี้คงจะเป็นสุดท้ายที่ได้นั่งเรียนด้วยกัน เพราะปีหน้าเข้ามหาวิทยาลัย ก็คงต้องแยกกันแล้ว เพราะความชอบของเราสองคนไม่เหมือนกัน คงจะเรียนคณะเดียวกันได้ยากฉันพยายามมองหาฟ้าใสเพื่อนสนิท แต่ตัวจริงไม่ได้ใสเหมือนชื่อหรอกนะ เพราะท่าทางเธอห้าวๆ ซนๆ เหมือนเด็กผู้ชายซะมากกว่า เคยต่อยกับผู้ชายมาแล้วก็มี ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเพื่อนกันได้ด้วยซ้ำ แต่ไปๆ มาๆ กลับสนิทกันซะงั้น แต่ถึงจะห้าวหาญชาญชัยอย่างนั้น เธอก็มีแฟนและมีมุมที่อ่อนหวานเหมือนกัน และแฟนของเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือจอมทัพ เพื่อนสนิทของคีตะนั่นเอง"มองหายัยฟ้าใสอยู่เหรอ เห็นว่าวันนี้ไม่มานะ เป็นเพื่อนกันประสาอะไรถึงไม่รู้อะไรเลย"ฉันหันขวับกลับไป ก็เห็นร่างสูงๆ ใบหน้าหล่อเหลาของคีตะ ยืนทำหน้ากวนโอ๊ยอยู่ด้านหลัง นักเรียนหญิงที่ยืนด้านหลังและแถวข้างๆ ต่างมองเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม นอกจากนั้นก็ยังมีสายตาอิจฉาริษยาของผู้หญิงคนอื่นเผื่อแผ่มาทางฉันอีกด้วย"นี่นาย อย่ามาทำตัวสนิทสนมกับฉันให้มากนักได้ไหม ฉันไม่อยากโดนพวกแฟนคลับนายฆ่าหมกส้วมนะ"ได้ยินฉันพูด เขาก็ยิ่งยิ้มชอบใจและพูดเสียงดังกว่าเดิม พร้อมทั้งขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม"เอาเถอะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะทำศพให้สวยๆ เลยเอา"ฉันโกรธจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งกำหมัดแน่น ตาก็จ้องเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ"จ้องหน้าฉันทำไม ดีใจเหรอที่ฉันจะทำศพให้สวยๆ"ยัง...ยังไม่หยุดอีก"คุยอะไรกันนักเรียน คนอื่นเขาเตรียมตัวจะเคารพธงชาติกันแล้ว หรือว่าอยากขึ้นไปยืนหน้าเสาธง"เสียงระฆังจากครูฝ่ายปกครองดังขึ้น ช่วยให้ฉันไม่กลายเป็นฆาตกรฆ่าคน!"ไม่ค่ะคุณครู พวกเราแค่ทักทายกันนิดหน่อยค่ะ"ฉันรีบหันกลับไปยิ้มหวานให้คุณครูทันที พร้อมกับยืนตัวตรงเตรียมพร้อมเคารพธงชาติ ก่อนที่จะถูกเชิญขึ้นไปยืนหน้าเสาธง [ฝากติดตาม คีตะ และ ต้นเตย ด้วยนะคะ]
ชอบอ่านมากครับเรื่องนี้สนุกมากเลย
1d
0ดีมากเลยค่า
1d
0สนุกมากค่ะ
3d
0View All