ลลิสากลับมาถึงคอนโดมิเนียมใจที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่และหรูหรามากนัก เพราะเป็นเพียงห้องพักที่เอาไว้นอนหลับเพียงไม่กี่ชั่วโมงและให้แม่มาอยู่ด้วยในช่วงที่แม่เบื่อจะอยู่บ้านสวนที่จังหวัดนครนายก แทนที่เธอจะเอนหลังสบายๆ เพื่อพักผ่อนจากทำงานหนักทั้งวัน เธอกลับต้องถูกแม่ดึงตัวมาสอบสวน คล้ายกับว่าเธอเป็นนักโทษ“มานี่เลยลิน ทำไมตอบนักข่าวแบบนั้น พูดไปได้ยังไงว่าเขาไม่ได้จีบ”“ก็เขาไม่ได้จีบ จะบอกว่าจีบได้ไงล่ะแม่”“เขาส่งดอกไม้มาให้ทุกเช้า จะบอกว่าเขาไม่ได้จีบได้ยังไง เล่นตัวตลอดเลยนะ แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารน่ะอย่าปล่อยทิ้งขว้าง ลองคุยไปก่อนก็ได้ กี่คนแล้วที่เข้ามาจีบ แต่ลินไม่เล่นด้วยจนเขาไปแต่งงานกับดาราคนอื่น มีลูกมีเต้าโตจนจะเข้าโรงเรียนแล้ว”“แม่ เขาส่งดอกไม้มาแล้วยังไง แม่เป็นคนรับดอกไม้พวกนั้น ลินไม่ได้รับ ถ้าเขาจะจีบจริงๆ จะส่งมาแค่ดอกไม้ทำไม เวลาเจอกันตามงานอีเวนต์ หรือตอนกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันก็เดินมาจีบเลยสิ ไม่ใช่ส่งดอกไม้มาลองเชิงว่าเราจะมีใจหรือเปล่า อยากจีบก็กล้าๆ หน่อย แล้วดอกไม้พวกนี้ โทรศัพท์ไปสั่งที่ร้าน ร้านเขาก็ให้คนมาส่ง แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาส่งให้ผู้หญิงอีกหรือเปล่า แม่อย่าตื่นเต้นมากได้ไหม ถึงลินจะไม่มีแฟน ลินก็ไม่ตายหรอก”“ยัยลิน! เถียงแม่คอเป็นเอ็นเลยนะ”“ก็แม่กลัวแต่ลินจะขึ้นคาน ไม่ต้องกลัวหรอกแม่ ลินอยู่เป็นโสดก็ได้ สบายใจดีด้วย ถ้าอนาคตลินเหงามาก ลินจะซื้อหมามาเลี้ยง”“แม่ไม่ได้กลัวว่าลินจะขึ้นคาน แม่กลัวว่าถ้าแม่ตายไปแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนลิน พ่อก็ไปสวรรค์แล้ว ถ้าไม่เหลือแม่แล้วลินจะอยู่กับใคร”“เรื่องแฟน ถ้าจะมีเดี๋ยวก็มีเองนั่นแหละแม่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” ลลิสาเสียงอ่อนลงเมื่อได้ฟังเหตุผลของแม่ ตั้งแต่พ่อเสียชีวิตเพราะโรคร้ายไปเมื่อสี่ปีก่อน แม่ก็ใช้เวลาเยียวยาจิตใจอยู่นาน กว่าจะกลับมาเป็นคนอายุห้าสิบสามที่สดใสร่าเริง แม่ก็ผ่านความลำบากและความทุกข์ใจมากเยอะ“แล้วเรื่องบ้านใหม่ล่ะ ได้เรื่องไปถึงไหนแล้วลิน” ศรัญญาผู้เป็นแม่ก็อารมณ์เย็นลงเช่นกัน ที่เธออยากให้ลูกสาวได้คู่ชีวิตเป็นคนมีหน้าที่การงานและฐานะมั่นคง เพราะในอดีตเธอกับสามีนั้นรู้จักมักคุ้นกับความลำบากเป็นอย่างดี เธอจึงไม่อยากให้ลูกต้องเริ่มต้นชีวิตครอบครัวแบบที่เธอเคยมาผ่านมา“สถาปนิกออกแบบอยู่แม่ อาทิตย์หน้าเขาจะนัดไปดูแบบบ้านที่เราสั่งแก้ ถ้าเราชอบ เราพอใจแล้วก็เตรียมสร้างได้เลย แม่ไปด้วยกันนะ จะได้ดูว่าชอบหรือเปล่า ถ้าแม่ไม่ชอบ แม่จะได้บอกให้เขาแก้แบบให้เลย”“อาทิตย์หน้าแม่ไม่ว่าง”“...แม่จะไปไหน” ลลิสามองศรัญญาอย่างจับผิด สีหน้าแบบนี้ สายตาแบบนี้ แบบที่ไม่กล้ามองเธอกลับ แต่ปากส่งยิ้มจางๆ มันคุ้นๆ ว่าเธอเคยเจอมาก่อน“แม่จะไปฮ่องกง” “แม่!”“ก็พวกป้าๆ เขาชวน นานๆ ไปที”“นานตรงไหนแม่ เดือนที่แล้วแม่ก็เพิ่งไปมาเอง ไปทีไรก็ไปอยู่แต่ในคาสิโน”“ก็... มันคลายเครียด”“แม่จะต้องเครียดอะไรเนี่ย แม่มีอะไรให้เครียด” ลลิสาเซ็งเกินจะบรรยาย จะโทษแก๊งเพื่อนของคุณนายศรัญญาว่าชอบชวนไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขก็ไม่ได้ เพราะถ้าแม่ตัวเองไม่เอาด้วยสักหน่อย เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้“เอาน่าลิน เรื่องบ้านลินก็จัดการไปเลยแล้วกัน แม่ไป แม่ก็คุยกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก”“แต่ลินสร้างบ้านนี้ให้แม่นะ เราต้องมีส่วนร่วมด้วยกันสิ”“ถึงแม่จะหน้าเด็กกว่าคนวัยเดียวกัน แต่จริงๆ แม่แก่ก็แล้วนะลิน เดี๋ยวสักวันแม่ก็ต้องไปอยู่กับพ่อที่รอแม่อยู่ที่ไหนสักที่ ให้มันเป็นบ้านของลินเถอะนะลูก แม่ขอเป็นคนอาศัยก็พอ” ศรัญญามองหน้าลูกสาวด้วยความรัก วัยอย่างเธอจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกนานเท่าไหร่กันเชียว ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แค่ลูกบอกว่าจะสร้างบ้านหลังนี้ให้แม่อยู่ คนเป็นแม่ก็ภูมิใจ ตื้นตันจนน้ำตาแทบไหล แต่มันก็ไม่ได้ภูมิใจเท่าการได้เห็นว่าลูกจะได้มีบ้านไว้พักพิงจากเงินที่หามาด้วยหยาดเหงื่อของตัวเอง“สองแสนพอไหม” ลลิสาไม่อยากเข้าฉากซึ้งๆ และแม่เธอเองก็คงคิดเช่นกัน“สามแสนได้ไหม”“สองแสนห้าแล้วกันนะ”“โอเคจ้ะลูกรัก” ศรัญญาดึงลูกสาวเข้ามากอด สมแล้วที่หมอดูเคยทำนายว่าลูกคนนี้จะทำให้ชีวิตมีความสุข แต่จะสุขมากกว่านี้ ถ้าลูกสาวเปิดโอกาสให้หนุ่มหล่อเจ้าของช่อดอกไม้ที่วางอยู่เต็มห้องนั่งเล่นได้พิชิตหัวใจลลิสานั้นได้แต่ปลง เธอไม่ได้สนับสนุนให้แม่เล่นการพนัน แต่เธอไม่เคยลืมว่าตอนเธอยังเด็ก แม่กับพ่อต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเธอ และต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างให้ลูกก่อนเสมอ มาถึงวันนี้ วันที่เธอมีเงินมากจะดูแลบั้นปลายชีวิตของแม่ เธอจึงอยากให้ชีวิตแม่ใช้ชีวิตให้มีแต่ความสุขกายและสุขใจแทนพ่อที่อยู่จากไปแล้วด้วย“สวัสดีค่ะคุณภูมิภัทร”“สวัสดีครับ” นักธุรกิจหนุ่มในชุดสูทสีดำเข้ารูป เดินออกมาจากลิฟต์ได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องส่งยิ้มสลับกับก้มหัวลงเล็กน้อยอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพื่อรับคำทักทายจากพนักงานในความดูแลที่เดินสวนกันไปมา“วันนี้ไม่ต้องโทรศัพท์ไปสั่งดอกไม้ให้ผมนะ”“ได้ค่ะ” เลขานุการประจำหน้าห้องทำงานของผู้บริหารตอบรับคำสั่งก่อนจะเอ่ยถามเจ้านายด้วยความแปลกใจ“คุณภูมิจะเลิกจีบคุณลินแล้วเหรอคะ”“ผมไม่เคยจีบคุณลินหรอก” ภูมิภัทรตอบด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์และแววตาเต็มไปด้วยประกายของความเจ้าสำราญ เมื่อคืนเขาได้ฟังคำสัมภาษณ์ของลลิสา ดาราสาวที่เขาถูกตาต้องใจและได้ยินข่าวคราวบ่อยๆ ว่าเธอนั้นไม่เคยเปิดโอกาสให้คนในแวดวงสังคมเดียวกับเขาได้เข้าใกล้ เขาเลยอยากพิสูจน์ว่าเธอเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเมื่อก่อนที่มีโอกาสได้เจอหน้ากัน เขามีคนรักอยู่แล้ว เลยไม่มีความคิดจะยุ่งเกี่ยวเกินคนรู้จัก แม้ว่าความสวยของเธอจะตรงสเปกเขาทุกอย่างก็ตามที แต่ในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีพันธะเรื่องผู้หญิง และจากบทสัมภาษณ์้ที่เป็นข้อยืนยันว่าเธอไม่ต้องการถูกเรียกว่าเป็นของเล่นไฮโซนั้นเป็นเรื่องจริง เขากลับตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้เหมือนผู้ชายคนอื่น เพราะอยากรู้จักเธอมากขึ้น อยากรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นเช่นไร วันนี้การไหว้วานให้เลขาจัดการธุระเรื่องดอกไม้จึงไม่มีความจำเป็น เพราะเขาจะนำมันไปมอบให้ลลิสาด้วยตัวเอง
ดีมาก
1d
0ดีคะ
22d
0ชอบมากๆๆๆ
16/08
0Ver Todos