logo
logo-text

Baixe este livro dentro do aplicativo

5

“มีเรื่องกังวลอะไรอีก พี่ถึงยังไม่นอน”
“หลายวันนี้นอนมากเกินไปน่ะสิ ยังหัววันเกินกว่าจะรีบเข้านอนและข้าคงยังไม่ชินด้วย”
คำบอกของนางช่างตรงกับความรู้สึกเขา เพราะยังไม่ชิน หลังท่านปู่ท่านย่าเข้านอนแล้ว เขาจึงมักลุกออกมาเดินรอบบ้าน แต่ไหนแต่ไรการเข้านอนตอนหัวค่ำสำหรับเขานั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่ง
เขาเสียดายเวลาจะได้อยู่กับตัวเองและได้ทำงานที่เขารัก งานที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น
พวกเขาคุยเรื่องคนในหมู่บ้าน เรื่องชีวิตหลายวันที่ผ่านมาก่อนวกมาเรื่องสุขภาพของอีกฝ่าย ซึ่งต่างก็ดีขึ้นมาก ไร้อาการตื่นตกใจหรือฝันร้ายจากเหตุการณ์เรือล่มแล้ว
“รำคาญแมลงพวกนี้ เมื่อคืนข้าถูกตัวอะไรไม่รู้กัดตั้งหลายที ดีนะว่ายุงไม่ค่อยชุม”
สือจิ่วปัดผ้าเช็ดหน้าไปมา มีแมลงบินวนอยู่บนโต๊ะที่ตั้งตะเกียง และเสียงหึ่งๆ ก็แว่วเข้าหูบ่อยๆ ไท่โหยวรายล้อมด้วยป่าเขา บ้านของเธอกับอาเจ๋อก็แยกห่างออกมาจากตัวหมู่บ้าน ที่น่ารำคาญกว่ายุงก็คือพวกแมลง มันเข้าไปกวนใจเธอถึงบนเตียง อาจเป็นเพราะบ้านไม่มีคนอยู่มานาน ความชื้นบวกกลิ่นอับทำให้นอนไม่ค่อยสบายตัวนัก
“คงต้องหาพวกสมุนไพรมาทำถุงไล่แมลง ข้าจะแขวนให้รอบบ้านเลย ถ้ารมควันพวกมันได้ก็จะทำ” อดีตสือจวี๋แขวนถุงหอมไว้บ้างประปราย แต่เธอจะแขวนให้มากกว่า
ถานเจ๋อหัวเราะกับคำพูดของหญิงสาว “ไว้ข้าจะหาสมุนไพรพวกนั้นมาให้ พี่อยากได้อะไรบ้างล่ะ”
ในห้องนอนเขาก็มีถุงหอมไล่แมลงที่ท่านย่าทำให้ หากนางอยากได้อะไรนอกจากนี้ เขาจะหามาเพิ่ม
“ขอคิดก่อนแล้วกัน ต้องรบกวนเจ้าอีกแล้ว”
เธอหยิบใช้เครื่องมือข้าวของในบ้านด้วยความคุ้นชินจากกิจวัตรเดิมของสือจวี๋ การใช้ชีวิตดำเนินไปอย่างราบรื่นเหมือนเรื่องเหล่านี้ตัวเธอเคยผ่านมาหมดแล้ว
“ไก่บ้านเจ้าแบ่งขายให้ข้าสักคู่ได้หรือไม่ ไว้ข้าจะจ่ายเงินคืนทีหลัง ปิ่นหยกที่ติดตัวข้ามาคงขายได้ราคาอยู่ล่ะมัง ก่อนปลูกผักดินต้องดีก่อน บ้านเหลียงเลี้ยงวัว หากข้าไปขอซื้อขี้วัวมาหมักดิน เจ้าว่าเขาจะขายให้ไหม” เพราะชื่อเสียงสือจวี๋ถูกทำลายเสียป่นปี้แล้วน่ะสิ วันก่อนเธอเอาปิ่นอันนั้นให้อาเจ๋อดู ตอนนี้ปักแค่ปิ่นไม้ไผ่ก็พอ เขาบอกจะนำไปขายที่ตลาดหน้าวัดอิ่นเหมินให้
นับว่าดีที่สือจวี๋ปักปิ่นแน่นจึงไม่หล่นหายตอนจมน้ำ ปิ่นหยกชิ้นนี้เฉิงหยางปิงให้นาง มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ลอบนำติดตัวมาได้ ส่วนสินออกเรือนเฉิงฟูเหรินยึดไว้ทั้งหมด เพราะสือจวี๋ไม่เป็นที่ปรารถนาของสามีและครอบครัวสามี นางถูกตราหน้าเป็นหญิงชั่วกระทำผิดร้ายแรงจากบันทึกสอนสตรี
ชอบฟังสิ่งชั่ว มัวมองสิ่งทราม ปรามแล้วไม่ฟัง มิยั้งอยู่เรือน ชอบปล่อยเนื้อตัว ส่อกิริยายั่วยวน...แต่ละข้อกล่าวหา สือจวี๋ชี้แจงไปคนในบ้านสามีก็หาได้รับฟังไม่
แนวคิดในบันทึกสอนสตรีแทบไม่ต่างจากปรัชญาขงจื่อสมัยเธอยังเรียนหนังสือ
หนึ่ง บุรุษย่อมดีกว่าสตรีในทุกด้าน... อะไรจะหลงตัวเองขนาดนั้น อยู่ที่ว่าใครเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์เสียมากกว่า ส่วนใหญ่ชายได้เล่าเรียน ได้ออกจากบ้านจึงมักยกตนข่มสตรีถือว่าตัวรู้เห็นมามาก
สอง สตรีต้องอยู่แต่ในเคหสถาน... อุดอู้อยู่เฉย สักวันผู้ชายขับไล่จากเรือนแล้วจะเอาอะไรกิน ออกนอกบ้านใช่เพียงแค่ไปหาสิ่งบันเทิงเริงใจ
สาม สตรีต้องเป็นผู้เชื่อฟัง แต่เยาว์เชื่อฟังบิดา ออกเรือนเชื่อฟังสามี ครั้นแก่ชราสามีตายให้เชื่อฟังบุตรชาย...ฟังบิดาน่ะได้ หากเขาสอนสิ่งดีถูกต้องตามครรลอง ให้ฟังสามีแบบไม่หือไม่อือ เขาบอกนกก็ต้องนก บอกไม้ก็ต้องไม้ อยู่เป็นสัตว์เชื่องๆ แล้วภรรยาจะต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง ส่วนให้เชื่อฟังลูกชาย มารดาเลี้ยงดูอบรมบ่มนิสัยเขามากับมือ ถ้าเหตุผลไม่ดีมากพอ ทำไมต้องเชื่อฟัง
สี่ สตรีต้องใช้ชีวิตเพื่อบุรุษ ต้องปรนนิบัติทั้งยามหลับยามตื่น... เขาพิกลพิการหรือไรถึงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เกิดเป็นหญิงยุคโบราณช่างถูกลดทอนคุณค่าเสียนี่กระไร
“อ้อ...วันก่อนข้าเห็นเสี่ยวซู่มาหาเจ้าที่บ้าน” คิดเรื่องอดีตของสือจวี๋ก็ปวดหัวเปล่าๆ สือจิ่วจึงเปลี่ยนเรื่อง
ตามความคิดของสือจวี๋ดูเหมือนว่าเสี่ยวซู่ชอบถานเจ๋อ ท่านย่าหลินกระซิบว่านางมาเยี่ยมอาการของอาเจ๋อสองครั้งแล้ว
“ช่างนางเถอะ” เหมือนจู่ๆ เสี่ยวซู่ก็โผล่เข้ามาในชีวิตเขา เห็นหน้านางครั้งแรกยังต้องใช้ความคิดอยู่นานว่านางคือใคร เท่าที่จำได้ก็ไม่เคยใส่รายละเอียดการมีตัวตนของนางเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาต้องจัดนางไว้หมวดหมู่ไหนล่ะ
เพื่อนร่วมหมู่บ้าน คนที่จะเอื้อประโยชน์ในภายหน้า หรือว่าตัวประกอบที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านเลยไป
ก็ถานเจ๋อน่ะแอบมีใจให้สือจวี๋ ซึ่งกว่าหญิงสาวจะรู้ความลับนี้ก็คงอีกนาน
“พี่ไม่ต้องกังวลอะไรนะ ข้าสัญญาจะช่วยเหลือพี่ทุกอย่าง รวมถึงเรื่องขายปิ่น ซื้อขี้วัว ซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก พี่อยากจะได้อะไรบอกข้าได้ทุกเมื่อ ทุกคนบ้านข้าจะอยู่เคียงข้างพี่เอง รับรองว่าเด็กในท้องจะต้องเติบโตอย่างปลอดภัยและมีความสุขที่สุด อันตรายใดๆ ข้าจะไม่ให้เข้าใกล้เด็กคนนี้แม้แต่ปลายนิ้ว”
“น้ำใจเจ้าช่างประเสริฐ ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน เหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตแบบพลิกฝ่ามือบทจะมามันก็มา ถึงตอนนี้ข้ายังไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ”
“ข้าก็คิดเหมือนพี่ และอยากรู้จริงๆ นะว่าเรื่องวุ่นวายพวกนี้เป็นฝีมือใครกันแน่” ถานเจ๋อทอดสายตามองท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล “เทพลิขิตชะตามีอยู่จริงสินะ หรือว่ามันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์กว่านั้น”
“ชีวิตจะสูงหรือต่ำใช่ว่าคนเรากำหนดเองได้ทั้งหมด วาสนา กรรมลิขิต สวรรค์สร้าง ฟ้าประทาน บุพเพสันนิวาส ด้ายแดงเฒ่าจันทรา จะเรียกคำไหนดีล่ะ จู่ๆ คนไม่เคยรู้จักก็ถูกจับโยงผูกมัดให้ต้องมาใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกัน”
และบางคนก็ถึงขั้นใช้ชีวิตแทนกัน อย่างเช่นเธอในตอนนี้
ถานเจ๋อเหม่อมองไปเบื้องหน้าแค่นยิ้มกับตัวเอง สำหรับเขาคงเรียกว่าเวรกรรมตามทันล่ะมัง สร้างทุกข์เข็ญให้ตัวละคร ทุกข์นั้นเลยย้อนถึงตัว เคยชี้เป็นตายพวกเขา ทุกเรื่องราวโลดแล่นตามใจด้วยนิ้วมือที่กดตัวอักษรบนแป้นพิมพ์
จากนักเขียนชื่อกำลังดังแห่งวงการนิยายออนไลน์จนได้รวมเล่มขาย กลับต้องมาสวมชีวิตในร่างตัวประกอบของนิยายที่ตัวเองเขียน
พิลึกพิลั่นดีไหมล่ะ!

Comentário do Livro (6)

  • avatar
    mustafaareef

    good

    31/08

      0
  • avatar
    สุภาพรฯ สิงห์คำ

    ชอบค่ะ

    24/05

      0
  • avatar
    น้อยอิอิหลอด

    DD you

    18/05

      0
  • Ver Todos

Capítulos Relacionados

Capítulos Mais Recentes