logo text
Adicionar à Biblioteca
logo
logo-text

Baixe este livro dentro do aplicativo

Capítulo 5 การซ่อนตัวของเงาดำ (EP1)

ช่วงเวลาแห่งรุ่งอรุณกลับมาเยือนท้องฟ้าประเทศไทยอีกครั้ง มันยังคงเป็นอีกวันของการเรียนและการทำงานอันน่าเบื่อหน่าย ไม่ว่ากับทั้งมนุษย์ธรรมดาเดินดินหรือนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด ตราบใดที่ถ่านพลังงานยังไม่หมดลง
“วันนี้ไม่ไปเรียนหรือไง ?” พล.ต.ต.เกรียงไกรถามลูกชายระหว่างมื้อเช้า เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสวมชุดอยู่บ้าน เสื้อยืด - กางเกงขา 3 ส่วน
“มีเรียนแค่ 2 คาบครับ ผมเลยกะจะเช็คข้อมูลให้เรียบร้อย” คนเป็นลูกยักท่าไม่ยอมปริปากเรื่องข้อมูลสำคัญที่ได้มา มือทาแยมบนขนมปังแผ่น พร้อมกับปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้ จนคนเป็นพ่อนึกหมั่นไส้
“ถึงงานจะผ่าน แต่ถ้าแกสอบตก ก็อย่าหวังว่าจะรอด”
“รับประกัน 3.5 ขึ้นครับ”
“ไม่ได้ ! ต้อง 3.8 เท่านั้น”
คราวนี้ธนูนิ่งอึ้งไปกับประกาศิตของพ่อ ปากเคี้ยวขนมปังค้าง แต่สักพักก็กลับเป็นปกติ หลังผ่านการคิดคำนวณและประมวลผลอย่างหนัก
“โอเคครับ... เอาเป็นว่า 4.00 เลยแล้วกัน”
คำตอบของลูกชายทำเอาคนเป็นพ่อนั่งอึ้งไปบ้าง มือที่กำลังทาเนยบนขนมปังค้างอยู่อย่างนั้น แต่ก็เพียงแค่ชั่วเวลานกกาบินผ่าน
“ให้มันแน่เถอะ !” เสียงเข้มรักษาฟอร์ม ถึงอย่างนั้นก็ยังอดต่อท้ายแสดงความเป็นห่วงไม่ได้ “อย่าโหมจนเข้าโรงพยาบาลก็แล้วกัน”
“พ่อเองก็อย่าโหมจนผู้กองต้องโทรมาตามผมนะครับ ผมเหมาซีดีมาลงเพลงเก่าๆ ที่พ่อชอบไว้ให้เต็มเครื่องแล้ว แค่เปิดฟังเบาๆ แก้เครียด ลูกน้องไม่เอาไปนินทาหรอกครับ”
คำพูดที่อัดแน่นไปด้วยความห่วงใยของธนู ทำให้คนเป็นพ่ออย่างพล.ต.ต.เกรียงไกร อดที่จะแอบอมยิ้มไม่ได้เหมือนกัน เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ - ลูก ซึ่งต่างคนต่างแอบซ่อนความห่วงใยไว้ และธนูเองก็หวังว่ามันจะเป็นวันที่ดีสำหรับงานพิเศษของเขาด้วยเช่นกัน

ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
หลัง พล.ต.ต.เกรียงไกรคล้อยหลังออกจากบ้านไปไม่นาน เสียงรัวปืนก็ดังก้องห้องนอนอันเคยเงียบสนิทของธนู มันไม่ใช่เกมคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ใช่การลอบสังหาร แต่มัน... คือเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขา
“นี่ ! จะโดดเรียนหรือไงยะ วันนี้อาจารย์จะติวข้อสอบให้ จำไม่ได้หรือไง”
เสียงเขียวๆ ของใครคนหนึ่งดังขึ้นทันทีที่เสียงรัวปืนกลสงบลง หลังการกดรับโทรศัพท์มือถือของธนู
“ โทษที วันนี้ฉันมีธุระด่วน เดี๋ยวฉันไปลอกที่เธอจดไว้ก็แล้วกัน” ธนูตอบเสียงเนือยๆ มือรัวคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊กส่วนตัวไปด้วย จนเสียงดังลอดเข้าไปในโทรศัพท์
“นี่เหรอยะธุระของนาย พิมพ์คอมฯดังซะขนาดนี้ แชทคุยกับสาวๆ ติดลมมากกว่ามั้ง” อีกฝ่ายทำเสียงขึ้นจมูกจับผิดเต็มที่
“ฉันไม่มีเวลาทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นตอนนี้หรอกนะ !” ธนูขึ้นเสียงดุ ทำเอาปลายสายสะดุ้งและเงียบไปนาน จนเขาต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “อ้อ... เธอยังถือสายอยู่หรือเปล่าน่ะ ?”
“อยู่...” อริศรา หรือ อ้อ เพื่อนสาวร่วมคณะของธนูตอบรับจ๋อยๆ
“ขอถามอะไรหน่อย เธอรู้จักพวกลูกหลานไฮโซบ้างไหม ?”
น้ำเสียงจริงจังเป็นการเป็นงาน กับคำถามไร้สาระของธนูดูจะไม่เข้ากันนัก หากว่านั่นเป็นเพียงแค่คำถามไร้สาระจริงๆ
“หา ! ? หมายความว่ายังไงยะ นี่เหรองานของนายน่ะ ?” เธอถามกลับ เสียงสูงปานกระดิ่ง
“เอาน่า ! พวกลูกหลานไฮโซที่ดังๆ น่ะ สูงประมาณฉัน อายุก็ไม่น่าจะมากกว่าฉันเท่าไหร่ แล้วก็ขับเก๋งเปิดประทุนสีดำรุ่นเล็กของญี่ปุ่น ข้อมูลมีแค่นี้” ธนูแจกแจงรายละเอียด
“ถ้าขับรถเก๋งเปิดประทุนสีดำของญี่ปุ่นล่ะก็ พอจะรู้อยู่คนนึง แต่เขาอายุมากกว่านายนะ สัก 5 ปีเห็นจะได้”
คำตอบของอีกฝ่าย ทำให้ธนูถึงกับชะงักมือที่กำลังรัวแป้นโน้ตบุ๊ก
“ว่ามา ! รู้ข้อมูลแค่ไหนบอกมาให้หมดเลย” เขาสั่งเสียงเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และนั่นทำให้อริศราไม่กล้าซักไซ้อะไรต่อ นอกจากพยายามค้นหาข้อมูลในสมองมาให้เขา
“เขาเป็นทายาทนักธุรกิจรายใหญ่ของเมืองไทยเลยล่ะ ครอบครัวมีกิจการแฟรนไชส์หลายอย่าง แล้วก็ยังเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าดังๆ หลายยี่ห้อด้วย ตัวเขาเองก็จบปริญญาโทจากอเมริกากลับมาช่วยงานที่บริษัท รู้สึกจะเรียนที่นั่นตั้งแต่ไฮสคูล ขนาดพูดไทยยังไม่ชัดเลย...” หญิงสาวสาธยายอัตชีวประวัติของเป้าหมายชนิดเกือบละเอียด
“พูดไทยไม่ชัดงั้นเหรอ ! ?” ธนูถามย้ำพลางนิ่วหน้า “เขามีน้องชายหรือเปล่า ?”
“มีน้องชาย แก่กว่านายประมาณ 2 ปี แต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 2 เพราะเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไทย - ญี่ปุ่นตอน ม.ปลาย นายไม่รู้จักเหรอ ตระกูลเกียรติพิทักษ์วรกุลน่ะ... เอ่อ แต่ที่ฉันรู้ประวัติพวกเขาดี ก็เพราะน้ำหวานชอบหรอกนะ” อริศราชำเลืองมองเพื่อนสาวคนสนิท ผู้คลั่งไคล้คุณหนูคนเล็กของไฮโซตระกูลนี้ และกำลังนั่งหาวอยู่ข้างๆ โดยไม่รู้ว่าธนูไม่ได้สนใจฟังประโยคเหล่านั้นเลย ในเมื่อจิตใจของเขาจดจ่ออยู่แต่กับข้อมูลที่ได้ยินเท่านั้น
“เอารถพี่ชายมาใช้สินะ... ขอบใจมากอ้อ แค่นี้แหละ” เขาพึมพำ แล้วบอกขอบใจเป็นการตัดบท จนอีกฝ่ายงง กว่าจะรู้ตัวธนูก็วางสายไปเสียแล้ว
“ทีนี้ก็เหลืออีก 4 คน” ธนูมองข้อมูลที่ค้นเพิ่มได้จากอินเตอร์เน็ต ก่อนจะปิดเครื่อง ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และหลังจากนั้นไม่นานก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป พร้อมข้อมูลของพาหนะอีก 3 คันที่เหลือ ! !

เปลวแดดกลางกรุงยามสายอาจร้อน และระคายผิวหนังของใครหลายคน ตามอุณหภูมิโลกซึ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน หากแต่ยังมีใครอีกคนที่ดูเหมือนจะโลดแล่นไปบนท้องถนนด้วยความรู้สึกเย็นสบาย ภายใต้อิทธิพลของดวงอาทิตย์ รวมไปถึงสารก่อมะเร็งนานาชนิด ในเมื่อปริศนาต่างๆ ล้วนค่อยๆ คลี่คลายไปทีละเปลาะ และเชื่อมโยงกันจนเกือบจะกลายเป็นจิ๊กซอว์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
“ขอโทษครับ ผมมาขอพบคุณวิจิตรครับ” ธนูใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงกองทะเบียน ชายหนุ่มเข้าไปถามหาบุคคลที่ภูผาเคยแนะนำไว้ แรกๆ อีกฝ่ายก็ออกมาพบเขาด้วยอาการงุนงง แต่พอธนูยื่นจดหมายของความร่วมมือจากภูผาให้ วิจิตรก็ต้อนรับเขาเป็นการใหญ่
“เป็น... เอ่อ... สายของผู้กองภูผาสินะ เชิญนั่งก่อนครับ มาร้อนๆ ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนดีกว่า จะรับน้ำอะไรดีครับ น้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง หรือว่ากาแฟดี ชาเราก็มีนะครับ ชานมเย็น ชาดำเย็น ชาไข่มุก ชาไทย กาแฟเย็น กาแฟร้อน คาปูชิโน่ มอคค่า ลาเต้ เอสเปรสโซ โกโก้ หรือถ้ารักษาสุขภาพเราก็มีน้ำผลไม้ 100% ไว้บริการครับ น้ำส้ม น้ำองุ่น น้ำแครอท น้ำเก๊กฮวย ใบบัวบก จับเลี้ยง...” หัวหน้ากองทะเบียนสาธยายสารพัดเครื่องดื่ม จนธนูหลงคิดว่าหลุดเข้ามาในร้านน้ำปั่น
“เอ่อ... ขอน้ำเปล่าก็ได้ครับ แค่น้ำเปล่าก็พอ”
“น้ำเปล่าหรือครับ น้ำเปล่า ได้ครับ ! น้ำเปล่านะครับ... ได้ยินใช่ไหม น้ำเปล่า” วิจิตรรับออเดอร์แล้วหันไปบุ้ยใบ้สั่งแม่บ้านอีกที ขณะที่ธนูดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต และคลี่ออกทบทวนตัวเลขมากมายในนั้นอีกครั้ง
“ผมอยากให้คุณวิจิตรช่วยค้นชื่อเจ้าของรถ จากเลขเครื่องพวกนี้ให้หน่อยครับ” เขาส่งกระดาษแผ่นนั้นให้อีกฝ่าย หลังจากจิบน้ำตามมารยาทแล้ว

Comentário do Livro (372)

  • avatar
    Pimlaphat Maden

    ดีสุด

    16d

      0
  • avatar
    ทองอ้มภัทรดนัย

    สนุกดี ากครับ

    13/08

      0
  • avatar
    นฤพร โคตรสมบัติ

    สนุกมากค่ะปกติเป็นคนขี้เบื่อแต่เจอเรื่องนี้ไปอยากอ่านเรื่อยๆเลยค่ะ

    08/08

      0
  • Ver Todos

Capítulos Relacionados

Capítulos Mais Recentes