logo text
Adicionar à Biblioteca
logo
logo-text

Baixe este livro dentro do aplicativo

Trick or Treat แสบ... กวน... ป่วนเมือง!!

Trick or Treat แสบ... กวน... ป่วนเมือง!!

พลอยนิล


Capítulo 1 บุรุษปริศนา (EP1)

ค่ำคืนดึกสงัด ท่ามกลางแสงจันทร์เสี้ยวและหมู่ดาวที่แข่งกันส่องประกาย แต่งแต้มผืนฟ้าสีดำสนิทให้สวยงาม ที่ด้านหน้าโกดังไม้ร้างไร้ผู้คนแถบชานเมือง ซ้ำยังอยู่ในสภาพเก่าๆ ผุๆ พังๆ เหม็นอับ รวมทั้งล้อมรอบไปด้วยต้นหญ้ารกชัฏ ชายในชุดสูทดำกลมกลืนกับความมืด 2 กลุ่ม จำนวนรวมกันเกือบ 10 คน กำลังแลกของบางอย่างซึ่งบรรจุอยู่ในกระเป๋าเจมส์บอนด์หนักอึ้ง เปล่า... พวกเขาไม่ใช่แก๊งองค์กรยิ่งใหญ่และใหญ่ยิ่งที่หลุดออกมาจากการ์ตูนหรืออนิเมะเรื่องใด ทว่าเป็น...
“โอเค ของครบ”
“เงินก็ครบ”
ต่างฝ่ายต่างตรวจดูสิ่งของของอีกฝ่ายอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด แม้เพียงน้อยนิด อันจะนำไปสู่ชะตาชีวิตที่พลิกผันกลับหน้ามือเป็นหลังเท้า แต่ตอนนั้นเองที่เสียงของใครอีกคนดังขึ้น
“เงามืดที่ดำมืดยิ่งกว่าเงาแห่งราตรี ก็คือ เงามืดในจิตใจมนุษย์”
เสียงทุ้มๆ ของเขาคนนั้น ทำเอาพวกมันที่กำลังจะแยกย้ายกันกลับรังนอนแสนสุขที่อุดมไปด้วยเหล้ายาปลาแซลมอนถึงกับชะงัก
“เฮ้ย ! ใครวะ... แกเป็นใคร ! ?”
ทั้งสองฝ่ายกราดปืนไปที่กิ่งไม้ใหญ่เบื้องหน้า อันเป็นที่ที่เจ้าของเสียงมาดกวนสถิตอยู่ ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มในชุดสูทขาวก็ยังคงนั่งปั้นยิ้มปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเก๊กหล่อแบบทองไม่รู้ร้อน
“พูดแค่นี้ร้อนตัวกันใหญ่เลยนะ”
“แกนั่นแหละที่รนหาที่... ยิงมันให้พรุน อย่าให้มันหนีรอดไปได้นะเว้ย !”
สิ้นเสียงสั่งการ ห่ากระสุนก็พุ่งออกจากปากกระบอกปืนทุกกระบอกพร้อมกัน ก่อกำเนิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวหูดับตับไหม้ โดยไม่มีใครรู้ว่านั่นเป็นเพียงแค่กระจกเงาแปะสติ๊กเกอร์ 3D ขนาดเท่าคนจริง ที่ถูกติดตั้งไว้บนกิ่งไม้เพื่อใช้ตบตาพวกมันทั้งหลายเท่านั้น
เพล้งๆ ๆ ๆ
กระจกเงาบานใหญ่ที่ว่าแตกละเอียดจากห่ากระสุน เศษกระจกร่วงกราวลงมาใส่มนุษย์ปืนไวทั้งหลายจนต่างพากันร้องลั่น
“เฮ้ย ! อะไรเนี่ย เศษกระจกมาจากไหนวะ ! ?”
เสียงโวยวายดังขึ้นพร้อมเพรียงจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ยิ่งเมื่อดังประสานกับเสียงกรอบๆ แกรบๆ กร๊อบๆ แกร๊บๆ ของกระจกชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ถูกรองเท้าหนังเหยียบแล้ว ช่างเป็นดนตรีที่ฟังไพเราะเสียนี่กระไร อา... นี่สินะที่เค้าว่ากันว่าฟังดนตรีเถิดชื่นใจ
“มัวไปยิงที่ไหนกันล่ะนั่นน่ะ ฉันอยู่ตรงนี้ต่างหาก วู้ว... ทางนี้ๆ”
เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นอีกหลังเสียงปืนสงบลง คราวนี้ต้นเสียงมาจากบนหลังคาโกดัง สถานที่ซึ่งชายหนุ่มปริศนานั่งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
“แก ! ! ไปอยู่บนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่... นะ... นะ... นี่แกเป็นใครกันแน่เนี่ย ! ?” พวกสูทดำละล่ำละลักถามด้วยความตกใจ พลางจ้องมองอีกฝ่ายด้วยอาการตกตะลึง และยิ่งตะลึง ตึง ตึง เมื่อได้เห็นชุดคอสเพลย์ที่เขาคนนั้นสวมอยู่
...ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวสะอาดทั้งชุด เชิ้ตสีน้ำตาลแก่กับไทค์สีครีม ถุงมือ หมวกทรงสูง และรองเท้าหนังสีขาวเข้าชุด สุดท้ายคือแว่นขาเดียวสีชาที่ช่วยปกปิดใบหน้าที่แท้จริงไว้ได้นิดหนึ่ง
“ฉันเป็นใครน่ะเหรอ ? ...นั่นสินะ ไม่ค่อยมีใครรู้จักฉัน เพราะใครที่ได้เจอฉันแล้วมักจะไม่รอด” เขายิ้มที่มุมปาก แล้วถอดหมวกทรงสูงมาถือไว้ ทำเอาพวกสูทดำสะดุ้ง พากันกราดปืนมาที่เขาอีก
“ฉันคงเป็นนักมายากล... ล่ะมั้งนะ” ชายหนุ่มเก็บใบไม้แห้ง 2-3 ใบ บนหลังคาโกดังใส่ลงไปในหมวก ดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวของตัวเองมาปิดไว้ พอเปิดออกลูกโป่งสีขาวก็ลอยออกจากหมวกของเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า
“แกทำอะไร จะส่งสัญญาณเรียกพวกหรือไง หรือว่าเรียกตำรวจ ! ? ลงมาดีกว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัว !” คนเป็นหัวหน้าร้องสั่ง ทั้งยังวางท่าให้ดูเหี้ยมโหดสมฐานะมือสังหารประจำแก๊ง
“กลัวจัง” เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอ มือล้วงเข้าไปข้างในเสื้อสูท “ลืมบอกไปว่าฉันคงจะเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะด้วย”
“เหอะ ! นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะงั้นเหรอ น่าขำว่ะ ฉันว่าเป็นพวกที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้ามากกว่าล่ะมั้ง” พวกมันหัวเราะกันครืน และยิ่งฮากันท้องคัดท้องแข็ง เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เขาล้วงออกมา คือลูกบอลสีขาวขนาดเหมาะมือ
“นั่นไง ! เล่นลูกบอลด้วย” ใครคนหนึ่งชี้ให้เพื่อนร่วมแก๊งดูของที่เหมือนลูกบอลหากแต่ไม่ใช่ลูกบอลชิ้นนั้น
“ลูกบอลงั้นเหรอ จะใช่ไหมนะ ใช่หรือเปล่า ใช่ไหมหว่า ใช่ไหมๆ” ชายหนุ่มโยนวัตถุทรงกลมในมือข้ามหัว มืออีกข้างตั้งท่าเตรียมรับทันทีที่มันตกลงมา แต่ปรากฏว่าพลาดถูกนิ้วกระเด็นร่วงไป
“ฮ่าๆ โยนบอลแค่ลูกเดียวยังรับไม่ได้ นี่เหรอนักมายากล” เสียงสบประมาทยังดังตามมาไม่หยุดหย่อน
“นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะต่างหาก” เขาตอบยิ้มๆ ไม่ทันขาดคำ...
บึ้มมม ! !
เสียงระเบิดดังก้องกัมปนาท พร้อมๆ กับกลุ่มควันที่ฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วอาณาบริเวณโกดังร้าง ไม่มีเลือด ไม่มีเสียงร้องแสดงความเจ็บปวด มีเพียงร่างสลบไสลไม่ได้สติของบรรดามนุษย์สูทดำโง่เขลา ที่ต่างสูดหายใจเอายานอนหลับเข้าไปซะฉ่ำปอด
“อย่างฉันน่ะเหรอจะโยนพลาด” ชายหนุ่มชะโงกหน้ามองเยาะๆ ก่อนจะชะเง้อมองไปที่ถนนลูกรังทางเข้าเขตโกดังร้าง “เสียงกรีดร้องกับลูกไฟสีแดงเพลิง... มาแล้วสินะ” เขายิ้มอย่างพอใจ และยังคงนั่งเก๊กหล่อทำเท่รอการมาของคนอีกกลุ่ม
หวอ หวอ หวอ หวอ ! !
เสียงไซเรนตำรวจดังประสานมาแต่ไกล ต่างพร้อมใจกันห้อตะบึงมาหยุดที่หน้าโกดังไม้เก่าแก่ จวนพังแหล่มิพังแหล่ท่ามกลางทุ่งหญ้ารกร้างสูงท่วมหัวหลังนี้ ซึ่งอาจเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลานไม่ทราบจำนวนนานาชนิด จากนั้นประตูรถตราโล่ก็เปิดผางออกแทบจะพร้อมเพรียง
“หยุดนะ ! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมให้จับซะโดยดี” ตำรวจนับสิบนายกราดปืนใส่เป้าหมาย แต่ก็ต้องยืนงงไปตามๆ กัน เมื่อพบว่าคนทั้งหมดต่างพากันนอนแอ้งแม้งไม่ได้สติอยู่บนพื้น
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ! ? คุณๆ เป็นอะไรกันไปหมด ! ?” แต่ละนายช่วยกันเขย่าตัวพวกสูทดำว่าที่ผู้ต้องหาคดียาเสพย์ติด ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครฟื้นจากนิทราในค่ำคืนนี้
“ทั้งหมดนอนนิ่งเลยครับ แต่ยังหายใจอยู่ ตามร่างกายไม่พบบาดแผล ส่วนของกลางยังอยู่กับมือผู้ต้องหา ทั้งเงินแล้วก็ยาเสพย์ติดครับ”
ร.ต.อ.ภูผา ผู้กองหนุ่มมือดีจากกองปราบปราม ซึ่งอยู่ในชุดนอกเครื่องแบบ แจ็คเก็ตผ้าร่มดำกับยีนส์ กลมกลืน ทะมัดทะแมง หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการในครั้งนี้ ทำความเคารพพร้อมกับรายงานสถานการณ์ แก่นายตำรวจร่างท้วมผู้ลงจากรถเก๋งตราโล่ที่แล่นเข้ามาจอดตรงหน้าโกดังร้างเป็นคันสุดท้าย
“อย่างนั้นเหรอ” อีกฝ่ายหน้าขรึม พลางกวาดตามองสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปบนหลังคาโกดัง มือดึงปืนจากเอวเล็งขึ้นไปบนนั้น “คนที่อยู่บนนั้น ลงมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันยิงแน่ !”
เสียงเข้มๆ ของ พล.ต.ต.เกรียงไกร ทำเอาบรรดาตำรวจชั้นผู้น้อยหันมองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วต่างพากันยกปืนขึ้นเล็งไปที่หลังคาโกดังบ้าง นั่นเองที่ทำให้เสียงโอดครวญของบุรุษสูทขาวดังขึ้น
“อะไรกัน ! ผมเป็นพลเมืองดีแท้ๆ นะเนี่ย” น้ำเสียงของเขาเจือแววขบขัน โดยไม่ได้หวาดกลัวต่อห่ากระสุนใดๆ
“ขะ... ขะ... คุณธนู ! !” ภูผาอุทานชื่อของเขาด้วยความตกใจ ชายหนุ่มรีบส่งสัญญาณมือให้ตำรวจทุกนายลดปืนลง ตรงข้ามกับนายพลมือฉมังแห่งกองปราบฯ ที่ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น ซ้ำยังเตรียมเหนี่ยวไกปืนที่บรรจุกระสุนอยู่เต็ม
“ฉันบอกให้ลงมา ถ้ายังต้องให้พูดซ้ำอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน !”
“โห ! ทำลูกตาดำๆ ได้ลงคอ”
เสียงบ่นอุบดังลงมาจากบนหลังคา พร้อมกับการกระโดดลงมาของชายหนุ่มที่ทำเอาทุกคนถึงกับอึ้ง ทึ่ง และตะลึง ตึง ตึงไปกับความเป็น ‘เขา’
“นี่แกทำบ้าอะไรของแก ! ?” คนเป็นพ่อถามเสียงเครียด ทันทีที่ตั้งสติได้
“เรื่องอะไรล่ะครับ... ที่ว่าบ้า ?” คนเป็นลูกถามกลับหน้าเป็น ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องถูกเอ็ดตะโรชุดใหญ่ จากเจ้าของเสียงทรงพลังอำนาจ ซึ่งเป็นคนเดียวกับเจ้าของปากกว้างๆ ที่เกือบจะเขมือบหัวเขาในตอนนี้
“ยังมีหน้ามาถามอีก ที่บ้ามันก็ทั้งหมดที่แกทำนั่นแหละ ฉันให้แกเป็นสายสืบเรื่องนี้เฉยๆ เสร็จงานแล้วทำไมไม่นอนอยู่บ้าน มาหาเรื่องทำอะไรที่นี่ แล้วที่คนพวกนั้นเป็นอย่างงั้น ฝีมือแกใช่ไหม อยากนอนคุกข้อหาทำร้ายร่างกายหรือไง แล้วยังสารรูปแกอีก ไปเอาชุดบ้าๆ อะไรมาใส่ แกจะทำให้ฉันขายหน้าไปถึงไหน !” พล.ต.ต.เกรียงไกรมองการแต่งตัวของลูกชายตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วยิ่งหัวเสียหนัก โดยเฉพาะกับหมวกนักมายากลทรงสูงขัดหูขัดตาใบนั้น
“แกเป็นฝรั่งมังค่าหรือไง ถึงไปสรรหาหมวกบ้าๆ นี่มาใส่ !” ว่าพลางดึงหมวกเจ้าปัญหาออกฉุนๆ แต่สิ่งที่ได้พบหลังจากนั้น คือ เป็ดเป่าลมตาโปนบนหัวลูกชายนักประดิษฐ์
...แน่ล่ะ ! นี่คือสิ่งประดิษฐ์ชิ้นล่าสุดของเขา และแน่นอน ไม่ใช่เป็ดยางธรรมดาๆ

Comentário do Livro (372)

  • avatar
    Pimlaphat Maden

    ดีสุด

    16d

      0
  • avatar
    ทองอ้มภัทรดนัย

    สนุกดี ากครับ

    13/08

      0
  • avatar
    นฤพร โคตรสมบัติ

    สนุกมากค่ะปกติเป็นคนขี้เบื่อแต่เจอเรื่องนี้ไปอยากอ่านเรื่อยๆเลยค่ะ

    08/08

      0
  • Ver Todos

Capítulos Relacionados

Capítulos Mais Recentes