ข้อมือบางถูกรั้งไว้ทันที แล้วตวัดให้หันกลับมา โน้มใบหน้าเข้าใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นรดใบหน้า นิลลนาตระหนกยกมือดันออกห่างแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะจับไว้แน่นไม่ยอมให้ทำตามใจ“ปล่อยฉันนะคะ!” เธอส่งเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจ “ผมมีอะไรไม่ดีงั้นเหรอ คุณถึงไม่อยากคุยด้วย”นิลลนากัดฟันแน่น ต่อให้หน้าดีหล่อเหลาแค่ไหน หากมารยาททรามเธอก็ไม่มีวันญาติดีด้วยหรอก“ไม่ดีทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่ชอบ คุณเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้!” คนตัวเล็กพยายามบิดแขนตนเองให้พ้นจากการฉุดรั้งของอีกฝ่าย แล้วหันหน้าหนีตลอดเวลา “คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังพูดอยู่กับใคร ผู้หญิงคนไหนเห็นหน้าผมก็ต้องการผมกันทั้งนั้น”“แต่ไม่ใช่ฉัน!” หญิงสาวเถียงกลับตวัดสายตามอง จังหวะนั้นใบหน้าเขาเคลื่อนใกล้จนริมฝีปากแทบชิดกันร่างบางชะงักดวงตาเรียวสวยเบิกกว้าง สะบัดข้อมือสุดแรงกระชากออกจากเขา เพียะ!ฝ่ามือเธอตวัดลงบนใบหน้าหล่อเหลา เห็นแววตาเขาวาวโรจน์ กัดฟันแน่นจ้องมองมา นิลลนารู้สึกตัว เธอไม่ได้ตั้งใจ เขาผิดที่ทำราวกับเธอเป็นผู้หญิงหากิน“นี่เจ้า กล้าดียังไงมาตบข้า รู้หรือเปล่าว่าข้าเป็นใคร!” เขาตวาดจนเธอสะดุ้ง ไม่คิดว่าน้ำเสียงจะทรงพลังขนาดนี้ ปกติเธอไม่เคยกลัวใครเลย แต่ชายแปลกหน้าคนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกถึงอำนาจที่ไม่มีทางต่อกร“ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร แล้วฉันก็ไม่สนด้วย โดนแค่นี้ยังน้อยไป ฉันไม่ใช่ผู้หญิงหากิน คุณไม่มีสิทธิ์มาทำรุ่มร่าม!” หญิงสาวต่อว่าน้ำเสียงสั่น แม้กายจะสะท้านแต่จำต้องหาทางปกป้องศักดิ์ศรีตนเองอัสลันรีบเข้าห้าม พร้อมส่งสายตาไปถึงหญิงเอเชียเพื่อส่งสัญญาณให้หนีไป เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ ลิลลนารีบหนีออกมาจากตรงนั้นทันที สายตาของเขาน่ากลัวมากเหลือเกิน ที่ต่อปากต่อคำก็เล่นเอาแทบยืนไม่อยู่ “เจ้าจะหนีไปไหน ข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้า ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าข้า!” นิลลนาได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเธอเข้าใจมันดี แต่คำพูดแบบนี้ราวกับผู้รากมากดีเก่า แต่ตอนนี้เธอไม่อยากมัววิเคราะห์เรื่องไร้สาระ หาทางหนีจากชายแปลกหน้าคนนั้นดีกว่า“ดีลใจเย็นก่อน ที่นี่ท่านไม่ควรเปิดเผยตัว” อัสลันเตือน กางมือกั้นไม่ให้ดีลไล่ตามหญิงไทย“อัสลันฉันต้องการผู้หญิงคนนั้น!” ดีลเข่นเขี้ยวกำมือแน่นคนถูกสั่งชะงัก เขาไม่อยากทำร้ายเธอ ผู้หญิงคนนั้นแค่ไม่รู้ว่าชายที่ยืนต่อหน้าเขาคือใคร เธอเลยเผลอทำสิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่“จะดีเหรอดีล ผมว่าอย่าทำอะไรเธอเลย”“ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้!” ดีลไม่ยอมลดละ“หาเอาใหม่ดีกว่าดีล คุณแค่ปรายตามองสาวๆ ก็ตามเป็นทิวแถวแล้ว แค่ผู้หญิงไทยคนเดียวอย่าไปยุ่งเลย ปล่อยให้เธอท่องเที่ยวที่นี่ดีกว่า เผื่อคนเอเชียจะมาอีก”ดีลหันมองอัสลัน สีหน้าฉายฉัดว่าไม่รับฟังความคิดเห็นใดๆ“ข้าต้องการผู้หญิงคนนั้นหาทางเอาตัวนางมาให้ได้อัสลัน กล้าหยามกันขนาดนี้ สตรีนางนั้นต้องได้รับโทษ!”“แต่...” อัสลันอ้าปากจะค้าน“ทำตามคำสั่งแค่นั้น” ดีลตัดบท “ครับ”ดีลสาวเท้าออกจากโรงแรม พนักงานต่างทำความเคารพ รถกันกระสุนเคลื่อนจอดติดกันสามคัน อัสลันเปิดประตูเพื่อให้เขานั่ง ส่วนตนเองประจำด้านหน้าคู่คนขับ“พระองค์จะกลับวังเลยหรือเปล่าพะยะคะ”สรรพนามเปลี่ยนไปทันทีที่อยู่ในรถกษัตริย์มาซาฮาฟทรงครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วรับสั่ง“พรุ่งนี้มีประชุมที่ไฮดริก กลับวังเสียเวลาเปล่าๆ ไปแคนยาสแทนก็แล้วกัน”“พะยะค่ะ”แคนยาสสถานที่อันร่มรื่นอุดมด้วยแมกไม้นานาพรรณ มันคือที่พักผ่อนส่วนพระองค์ของกษัตริย์แห่งซากวัย อันที่จริงพระองค์ไม่ค่อยออกสื่อเพราะเกรงต่ออำนาจมืด การเมืองที่นี่ไม่รุนแรงแต่บรรดาผู้ต้องการแย่งชิงบัลลังก์มีไม่น้อยเลยเลยทำให้ กษัตริย์แห่งประเทศซากวัย มาซาฮาฟ จาเมียร์ จำต้องทำงานในรูปนักธุรกิจรูปงามผู้ประสบความสำเร็จในการบริหารรถเคลื่อนผ่านถนนผู้คนสัญจรขวักไขว่ พระเนตรสีอำพันทรงทอดมองประชาชนด้วยความภูมิใจ พระองค์ทรงพัฒนาประเทศจนเจริญก้าวหน้า ผู้คนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก อัสลันชำเลืองมองประมุขของประเทศด้วยความชื่นชม เขาเป็นราชองค์รักษ์ประจำพระองค์ ตั้งแต่วัยเยาว์ถูกสอนให้ฝึกศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลอบสังหารเพื่อคุ้มครองกษัตริย์ในอนาคต เคยพบท่านมาซาฮาฟบ่อยครั้งเพราะพระองค์ชอบหนีมาเที่ยวเล่นกับบรรดาลูกของข้าราชการ ไม่ยอมอยู่ในวังเหมือนพี่ชายต่างมารดา เลยทำให้สนิทสนมกับเด็กๆ วัยเดียวกัน ในตอนนั้นไม่มีใครรู้จักเจ้าชายมาซาฮาฟ เด็กคนอื่นเลยคิดรุมรังแกแต่พระองค์กลับสู้จนเอาชนะมาได้ ถึงถูกรุมทำร้ายก็ตาม สำหรับเขาชื่นชมมาตั้งแต่ตอนนั้นและอยากให้เจ้าชายมาซาฮาฟเป็นกษัตริย์ ช่วงที่กษัตริย์คายานีสสิ้นพระชมน์มีการถกเถียงกันมากมาย เมื่อกษัตริย์ทรงมีราชโองการให้เจ้าชายมาซาฮาฟในวัยยี่สิบชันษาเป็นผู้ปกครองประเทศซากวัยต่อ ช่วงจังหวะเกิดเหตุโจรปล้นฆ่าชาวเมืองทำให้พระองค์ตัดสินใจปราบโจรจนสำเร็จ บรรดาข้าราชบริพารเลยยอมรับและเจ้าชายมาซาฮาฟกลายเป็นกษัตริย์นักบริหารที่เก่งกาจที่สุดองค์หนึ่งเลยก็ว่าได้รถจอดเทียบด้านหน้าบ้านพักสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานกลิ่นอายอารยธรรมของเมืองไฮดริก ด้านในตกแต่งด้วยพรมสีแดงปักลวดลายดอกไม้งดงาม เฟอร์นิเจอร์กำมะหยี่ดูหรูหรา เครื่องเรือนเป็นทองเหลือง โคมไฟระย้าไล่ระดับ บันไดวนราวจับสีทอง พาขึ้นสู่ห้องนอนราวยี่สิบห้อง มีข้ารับใช้คอยดูแลทำความสะอาดรวมถึงดูแลสวนไปจนขับรถ กษัตริย์มาซาฮาฟถอดสูทแล้วส่งให้คนรับใช้ดูแล ปลดเนคไทเพื่อคล้ายความอึดอัด พับแขนเสื้อเชิ้ตเสยผมเล็กน้อยแล้วสาวเท้าขึ้นสู่ชั้นบนของบ้านพัก “พระองค์ไม่เสวยก่อนหรือพะยะค่ะ”อัสลันทักไว้เสียก่อน ทำให้พระองค์ทรงชะงักพระบาท“ยังก่อนอัสลัน” ทรงหยุดคิดครู่หนึ่ง “อย่าลืมเรื่องที่ข้าสั่งเจ้าก่อนหน้าด้วยล่ะ เรื่องหญิงไทยคนนั้น”อัสลันสะอึก นึกว่าพระองค์คงลืมไปเสียแต่ที่ไหนกลับจดจำแม่นยิ่งกว่าอะไร ไม่น่าเลยจริงๆ คงถึงคราวเคราะห์ ช่วยไม่ได้เช่นกันเขาเองต้องทำตามหน้าที่ของราชองครักษ์ผู้ภักดี“กระหม่อมรับทราบแล้วพะยะค่ะ”องครักษ์หนุ่มคุกเข่าแล้วรับคำ ก่อนลุกยืนกษัตริย์หนุ่มโบกพระหัตถ์สีพระพักตร์ติดรำคาญ“อยู่ที่นี่ไม่ต้องพิธีรีตองหรอกอัสลัน ความจริงเรียกฉันว่าดีลเหมือนเดิมดีกว่า ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีมากแล้วมันอึดอัด”“เกล้ากระหม่อมคงทำตามความต้องการของพระองค์มิได้พะยะค่ะ”มาซาฮาฟตวัดสายพระเนตรมอง แววพระเนตรขุ่น“นี่คือคำสั่ง!”“รับทราบแล้วพะยะค่ะ!”อัสลันรับคำหนักแน่น กษัตริย์มาซาฮาฟทรงชี้นิ้วพระหัตถ์ “ข้าบอกว่าไง”“ผมทราบแล้วครับ”“ดีมาก ข้าไปนอนก่อนล่ะ เหนื่อยมาก”อัสลันมองตามแผ่นพระปฤษฏางค์แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ความเอาแต่ใจของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยน พอมาถึงตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะพาตัวหญิงสาวชาวไทยมาให้ได้อย่างไร คิดแล้ว... อยากทุบหัวตัวเองให้ระเบิดนัก ถ้าหากนางยินยอมพร้อมใจก็ว่าไปอย่าง แต่นี้คงไม่มีทางแน่นอน
อ่านสนุกมากค่ะ
13h
0คือดี
18h
0ดีมากคร้าาาาาาาาาาาาาเนื้อหาอ่านเข้าใจง่าย
21h
0Ver Todos