Desire of love เพียงรักที่ปรารถนาChapter 1ความเงียบครอบคลุมภายในห้องประชุมของตึกสูงใจกลางเมืองปักกิ่งของบริษัทหลวนเฉินกรุ๊ป ผู้ผลิตเสื้อผ้าและส่งออกจนได้รับการยอมรับเป็นแนวหน้าของวงการแฟชั่น“คุณคิดว่าควรทำยังไง ?” เสียงเข้มของประธานหนุ่มถังเฟยหลงอายุราว ๆ สามสิบปีเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่ดูข้อมูลการตลาดเมื่อเดือนที่ผ่านมา เมื่อเสื้อผ้าแบบใหม่จากแบรนด์ deluxe (ดีลักซ์) ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายเมื่อเดือนก่อน ปรากฏว่าความชอบของผู้ซื้อยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ทั้งยังไม่สามารถตีตลาดออกนอกประเทศได้อีกด้วย นับเป็นความล้มเหลวอย่างหนึ่งของบริษัทเงียบ...ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้จัดการจากทุกแผนกที่ประสานกันทำงาน เว้นกระทั่งเฉินจิ้นฝูผู้อำนวยการของบริษัทและเป็น ญาติผู้น้องของเฟยหลงกล่าวขึ้น “ผมคิดว่าบางทีอาจเพราะผู้บริโภคอาจไม่ได้รับแหล่งข่าวสาร อีกอย่างเราเพิ่งวางจำหน่ายได้แค่เดือนเดียวด้วย”“นายคิดว่าอย่างนั้นเหรอ ?”เฟยหลงหรี่ตามองก่อนที่จะก้มหน้าลงแล้วเอื้อมมือปิดแฟ้มสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะ “เอาเป็นว่า ฉันจะรอดูยอดขายเดือนนี้”จิ้นฝูยิ้มพร้อมกับกล่าวขึ้น “เอาเป็นว่าการประชุมวันนี้แค่นี้ ผมอยากให้พวกคุณทำงานอย่างเต็มที่เพื่อบริษัท”เมื่อกล่าวจบทุกคนต่างขานรับก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มหน้านิ่งและผอ.จิ้นฝู“พี่คิดอะไรอยู่ ?” จิ้นฝูเอ่ยถามขึ้น“ฉันรู้ว่านายรู้ดี” เฟยหลงกล่าวจิ้นฝูเป็นคนที่มีความสามารถและแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่ครั้งนี้เขาจนปัญญาจริง ๆ เพราะสินค้าชิ้นใหม่ที่นำออกวางขายไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดผู้ซื้อ เขาจะไปบังคับให้คนมาซื้อได้ยังไงกัน ?“ผมว่าเรื่องนี้เราต้องปรึกษากันอีกที แล้วเก็บสถิติของสองเดือนดูว่าเราต้องแก้ไขตรงจุดไหน”ประธานหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นจัดสูทให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรจิ้นฝูมองหน้าของชายหนุ่มพร้อมกับหัวเราะส่ายหน้าออกมา เขาคงชินเสียแล้วกับสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ของเฟยหลง แม้มีสาว ๆ มากมายที่อยากจะเดทกับประธานหนุ่มของบริษัทหลวนเฉินกรุ๊ป แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ หนำซ้ำยังไม่เหลียวจะมองด้วยซ้ำไปชายหนุ่มหยิบเอกสารก่อนที่จะเดินออกจากห้องประชุมไป ทันทีที่ก้าวออกจากห้อง สาว ๆ ที่เดินผ่านก็ต่างยิ้มหวานให้เขา เป็นเรื่องปกติที่หนุ่มหล่ออัธยาศัยดี มีฐานะอย่างจิ้นฝูจะมีคนปลื้มและหลงใหลกันมากมาย เรียกได้ว่า หล่อสมบูรณ์แบบหางานทำ ! !คำคำนี้อยู่ในหัวของเหม่ยอี้มาสามวันแล้ว คนธรรมดาอย่างเธอที่ทั้งโง่ทั้งซื่อแค่จบมาก็ดีถึงไหนแล้ว เพราะหลังจบมาหางานทำไม่เคยอยู่เกินสามเดือนก็มักโดนไล่ออกก่อนตลอด แน่นอนว่าจะมีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานกันละ !สายตาคู่สวยมองกระดาษหนังสือพิมพ์ตรงหน้าที่ขีดกากบาทด้วยปากกาสีแดงออกที่ละรายการอย่างท้อใจ ครั้นโทร. ไปฝ่ายบุคคลรับสมัครพนักงานใหม่ แต่ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า‘ตอนนี้ตำแหน่งพนักงานบัญชีเต็มแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ’ราวกับเสียงอัตโนมัติก็ไม่ปาน ! ! มีบางบริษัทส่งอีเมลพร้อมประวัติการศึกษาไปก็ไม่มีท่าทีจะตอบกลับมาสักนิดเฮ้อ...เสียงถอนหายใจออกมาอย่างหนักของหญิงสาว“หายากจัง ! !” เหม่ยอี้บ่นด้วยท่าทางหงุดหงิด พร้อมกับขย้ำหนังสือพิมพ์ตรงหน้าทิ้งลงถังขยะ ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขนมออกมา แล้วนั่งทานที่โซฟาด้วยท่าทางสบายใจหิวแล้ว เธอขอกินก่อนแล้วกัน ! !สุดท้ายแล้วพุดดิ้งตรงหน้าก็ดึงความสนใจของเหม่ยอี้ไปจนหมด หญิงสาวทานอย่างมีความสุขในขณะที่ประตูห้องเปิดออก หนิงเหอเดินเข้ามาหลังจากที่ทำงานกลับจากร้านหนังสือเหม่ยอี้หันความสนใจจากของกินตรงหน้าไปมองเพื่อนสาวที่เดินเข้ามาพร้อมกับวางถุงกับข้าวที่ซื้อมาจากข้างนอก “เหม่ยอี้...ถ้าฉันไม่ใช่เพื่อนเธอตั้งแต่เด็ก ๆ และไม่เพราะพ่อของเธอฝากไว้ด้วยแล้วละก็ฉันไม่ให้เธอมาพักอยู่กับฉันแน่ ๆ”นั่นเป็นคำขอร้องของพ่อของเหม่ยอี้ก่อนที่จะเสียเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งตั้งแต่นั้นมาเหม่ยอี้ก็ตัวคนเดียว และคำขอจากปากบิดาของเธอทำให้ หนิงเหอรับปากก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ปักกิ่งแววตาใส ๆ ของเหม่ยอี้เปล่งประกายมองเพื่อนรักอย่างมีความหมาย “ฉันก็พยายามหาอยู่นะ แต่มันหายากน่ะ”“งั้นเหรอ”“ใช่แล้ว !” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง“เธอหามากี่เดือนแล้วตั้งแต่เธอโดนไล่ออกจากงานเก่า” เหม่ยอี้วางจานพุดดิ้งลงพร้อมกับขยับตัวเข้ามาหาหนิงเหอด้วยสายตาอ้อน ๆ“อีกไม่นาน ฉันมั่นใจ ! !” เธอพูดออกมาด้วยท่าทางมั่นใจ ทว่าคนเป็นเพื่อนกลับมองด้วยความลังเลและหัวเราะออกมา ไม่ต้องคิดให้มากทำไมเหม่ยอี้ถึงไม่มีใครมาจีบ“เอาละ ๆ กินข้าวดีกว่า ฉันหิวแล้ว” หนิงเหอพูดพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมนิดๆกินข้าว ! ! เหม่ยอี้ไม่รอช้าที่จะเดินไปหยิบจานและแกะถุงอาหารทันที...ไม่มีสิ่งใดที่เธอรักไปกว่าการกินอีกแล้ว
ชอบค่ะ
5d
0เยี่ยม
6d
0เริศสสสส
10d
0Ver Todos