หลังจากสลัดปลิงที่คอยจ้องเขมือบเลือดอย่างคีตะออกไปได้ ก็กะว่าจะงีบต่อสักพักอย่างสบายใจ ฉันเลยฟุบหน้าลงกับโต๊ะโดยใช้แขนรอง หันหน้าออกไปทางหน้าต่าง แต่แล้ว..."เธอเป็นใคร มานั่งทำไมตรงนี้!"สะ...สะ...เสียงคีตะนี่นาฉันรีบหลับตาลงเหมือนเดิม แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น"อะ...เอ่อ...ฉันชื่อน้ำตาล ต้นเตยบอกว่าอยากนั่งตรงนั้นก็เลยขอเปลี่ยนกับฉัน เธอบอกว่าไม่ชอบขี้หน้านาย แต่ฉันชอ...""ลุกขึ้น!"เสียงน้ำตาลพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงของคีตะตวาดเสียงดังแทรกขึ้นมาก่อน แต่เอ๊ะ! ทำไมเสียงหมอนั่นดังอยู่ใกล้จังเลยล่ะ"ฉันบอกให้ลุกขึ้น แล้วก็ย้ายก้นของนายไปนั่งตรงนั้นซะ!"เสียงตวาดของเขาทำเอาทุกคนในห้องเงียบกริบ แม้แต่ฉันเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ตึกตัก ตึกตัก... หัวใจฉันเต้นแรงอย่างกับมีใครมานั่งตีกลองอยู่ในใจ จะเงยหน้าขึ้นก็ไม่กล้า จะแกล้งหลับต่อก็ไม่เนียน แต่ในขณะที่ฉันกำลังไตร่ตรองว่าจะเอายังไงดี เสียงฝ่ามือหนักๆ ก็ตบผัวะลงกับโต๊ะ ฉันตกใจสะดุ้งสุดแรงรีบดีดตัวขึ้นนั่งหลังตรงทันทีพอหันไปมองข้างๆ ก็กลายเป็นคีตะที่นั่งแทนหนุ่มแว่นในตอนแรก ใบหน้าหล่อๆ ของเขาเปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง และเหมือนว่ากำลังจะมีแสงเลเซอร์พุ่งออกมา ฉันเลยต้องรีบหลบ หันหนีไปทางหน้าต่างแทนยิ่งเกลียดยิ่งเจอจริงวุ้ย!"เกลียดขี้หน้าฉันมากนักรึไง เกลียดอย่างเดียวไม่พอยังมีหน้าไปเล่าให้คนอื่นฟังอีก"ก็เออน่ะสิ!น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฉันสัมผัสได้ว่าเขากำลังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์สุดขีด ว่าแต่...อารมณ์อะไรล่ะ ผู้ชายตายด้าน เย็นชาไร้ความรู้สึกขนาดนั้นจะมีอารมณ์อะไร"ก็...ฉัน...เอ่อ...ฉะ...ฉัน..."อยู่ดีๆ ก็ติดอ่างขึ้นมาซะงั้น อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ และอยู่ๆ ก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา น้ำตาก็เหมือนจะไหลออกมาได้ทุกขณะเลย ฉันล่ะเกลียดที่ตัวเองขี้ขลาดเวลาอยู่ใกล้หมอนี่จริงๆ"ทำไม ทีนี้ติดอ่างขึ้นมาเลยเหรอ ทีพูดกับคนอื่นล่ะคล่องปรื๋อ ใช่ซี้ ฉันมันเป็นคนที่เธอเกลียดขี้หน้านี่นา"รู้ตัวก็ดี...ฉันได้แค่คิดในใจหรอกนะ ไม่กล้าพูดออกไปหรอก ไม่งั้นมีหวังได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ว่าถูกบีบคอตายคาห้องเรียนแหงๆก่อนที่บรรยากาศจะอึมครึมไปมากกว่านี้ คุณครูที่สอนวิชาแรกก็ก้าวเข้ามาในห้อง หัวหน้าห้องรีบบอกทำความเคารพ จากนั้นครูก็กล่าวทักทายเล็กน้อย และสั่งงานหัวหน้าห้องสองสามอย่างแล้วกลับออกไปหัวหน้าห้องเดินตามคุณครูออกไป ครู่ใหญ่ก็กลับมาพร้อมเอกสารเป็นตั้ง เธอเดินแจกทีละโต๊ะๆ จนมาถึงโต๊ะของฉัน"คีตะ...คีตะจ๊ะ"อรอุมาพยายามเรียกคีตะที่หลับอย่างเอาเป็นเอาตายตั้งแต่ครูก้าวขาออกจากห้อง ด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย แต่เขาก็ยังไม่ยอมลืมตา ซ้ำยังทำเสียงหงุดหงิดในลำคออีกด้วย ยัยหัวหน้าห้องได้แต่ยิ้มค้าง แล้วหันมาถลึงตาใส่ฉันแทนอ้าว! แล้วฉันผิดอะไร "นี่นาย! หัวหน้าห้องเอาเอกสารมาแจกน่ะ ช่วยลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน"ฉันไม่ว่าเปล่า แต่ดึงหนังสือที่เขาใช้เป็นหมอนรองหัว ซึ่งเป็นหนังสือของฉันที่เขาแย่งไปออก จนศีรษะได้รูปสวยโขกลงกับโต๊ะเสียงดังโป๊ก"โอ๊ย! ยัยบ้า เธอจะลอบฆ่าฉันทางอ้อมใช่ไหม"คีตะลืมตาตื่นขึ้นมาโวยวาย ทำเอาฉันตกใจแทบจะหงายหลังตกจากเก้าอี้ ยังดีที่เขาเอื้อมมือมาดึงแขนฉันไว้ได้ทันแล้วดึงเข้าไปกอด เรียกเสียงฮือฮาจากเพื่อนในห้องหน้าฉันแนบอยู่กับแผ่นอกกว้างของคีตะ จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นตึกตัก ฟังดูไม่เป็นจังหวะอย่างที่ควรจะเป็น"เอ่อ...ฉันว่านายควรไปหาหมอนะ เสียงหัวใจนาย โอ๊ย!"อยู่ๆ อีตาบ้านั่นก็ผลักฉันออก ด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัว หลังฉันกระแทกกับกำแพงเสียงดังโครม ส่วนเขาก็ลุกจากเก้าอี้แล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องทันที"อะไรของนาย คิดอยากจะช่วยก็ช่วย คิดอยากจะผลักก็ผลัก ถ้าหลังฉันพัง ฉันเอานายตายแน่!"ฉันตะโกนตามหลังไป ก็คงกล้าทำแค่ตอนที่เขาไม่อยู่เท่านั้นแหละ คิดแล้วก็เศร้า กระซิกๆ"งั้นฉันฝากของคีตะไว้กับเธอแล้วกันนะ"หัวหน้าห้องว่าพร้อมกับยื่นเอกสารสองชุดให้ฉัน"อือ"ฉันตอบรับสั้นๆ แล้วยื่นมือไปรับเอกสารนั่นมา เก็บของตัวเองใส่กระเป๋า ส่วนของหมอนั่นก็ยัดไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะนั่นแหละเสียงสัญญาณดังขึ้นเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ฉันรีบเดินไปหาน้ำตาลก่อนที่เธอจะออกไปจากห้อง"น้ำตาล เธอจะไปโรงอาหารตอนนี้เลยหรือเปล่า""โอ้! ต้นเตย ฉันขอโทษนะที่ช่วยเธอไม่ได้เรื่องที่นั่งน่ะ เธอไม่ต้องเลี้ยงน้ำฉันแล้วก็ได้""ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากเลย ฉันบอกแล้วว่าจะเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงสิ เรารีบไปกันเถอะ""อืม ก็ได้"แล้วฉันกับน้ำตาลก็ลงไปที่โรงอาหารด้วยกัน วันนี้ฟ้าใสไม่มาโรงเรียน ฉันเลยไม่มีเพื่อน ยังดีที่มีน้ำตาลอยู่เลยไม่เหงาเท่าไหร่"แล้วคีตะไม่มานั่งกินข้าวกับเธอเหรอ"น้ำตาลถามขึ้นหลังจากที่เราได้อาหารกลางวันและหาที่นั่งได้แล้ว"ทำไมหมอนั่นต้องมานั่งกับฉันด้วย ฉันบอกไปแล้วไงว่าเกลียดขี้หน้าเขาจะแย่ อยู่ใกล้ทีไรก็รู้สึกเบื่อทุกที"ฉันว่าแล้วก็ตักน้ำซุปร้อนๆ ขึ้นซด ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ เผื่อว่าคีตะจะแอบแฝงตัวดักฟังอยู่ใกล้ๆ ถ้าเขาได้ยินมีหวังโรงอาหารแตกแน่ แต่จะทำยังได้ล่ะ ก็ในเมื่อฉันเกลียดเขาจริงๆ นี่นาแต่พอมองจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหมอนั่น เขาคงจะนั่งอยู่กับเพื่อนตรงมุมใดมุมหนึ่งของโรงอาหาร ซึ่งก็ดีแล้วล่ะ อยู่ห่างจากฉันได้เท่าไหร่ยิ่งดี"แต่ดูเหมือนคีตะจะชอบเธอนะ"ยัยน้ำตาลโพล่งขึ้นมา ฉันถึงกับสำลักข้าวติดคอ รีบควานหาน้ำจ้าละหวั่น"แค่กๆ ยะ...อย่า...พูดเรื่องชั่วร้ายแบบนั้นออกมาเด็ดขาด"ฉันพยายามพูดอย่างเต็มที่ แม้จะยังมีข้าวติดอยู่ในลำคอก็ตาม"เรื่องชั่วร้ายที่ไหน เป็นเรื่องดีออกที่คีตะชอบเธอ"ยัง...ยัยนี่ยังไม่หยุดพูดอีก"ชอบกับผีน่ะสิ! เธอไม่ใช่ฉันไม่เข้าใจหรอก เลิกพูดเรื่องหมอนั่นซะทีเถอะ ไม่งั้นฉันไม่กินข้าวกับเธอแล้วนะ""ก็ได้ๆ ว่าแต่เธอไม่ชอบเขาขนาดนั้นเลยเหรอ""ใช่! ฉันไม่ชอบหมอนั่นมากๆ และหมอนั่นก็ไม่ชอบฉันเหมือนกัน จบนะ""จ้ะๆ จบก็จบ"ฉันกับน้ำตาลกินข้าวกันต่อโดยไม่คุยกันอีก และหลังจากเก็บถาดอาหารเสร็จจะเดินไปซื้อขนมที่ร้านค้าสวัสดิการของโรงเรียน ก็มีเสียงประกาศให้นักเรียนทุกคนกลับบ้านได้เลย เพราะคณะครูมีประชุมด่วนในช่วงบ่าย เราเลยตกลงกันว่าไม่ไปซื้อขนมแล้ว แต่เปลี่ยนเป้าหมายกลับขึ้นห้องไปเอากระเป๋าแทน
ชอบอ่านมากครับเรื่องนี้สนุกมากเลย
22h
0ดีมากเลยค่า
1d
0สนุกมากค่ะ
3d
0Ver Todos