logo
logo-text

Baixe este livro dentro do aplicativo

Capítulo 6 คีตา

“สบายดีหรือนรี” พี่สะใภ้ของฉันพูดกับฉันตรง ๆ เป็นครั้งแรก
ฉันยิ้มจืดเจื่อน เราไม่เคยพูดจากันตรง ๆ มาหลายปีแล้ว
“สบายดี” ฉันตอบ “คุณล่ะ เป็นไงบ้าง สุขภาพดีขึ้นหรือยัง คลอดทีเดียวตั้งสองคน ไม่เห็นพี่นุบอกกันบ้างเลย”
เธอยิ้มเหนื่อย ๆ ให้ “สบายดีแล้วละ รู้สึกคุ้มมากกว่า ได้อย่างที่รอคอยมานาน”
ฉันยิ้ม เหลือบตามองเจ้าหลานชายหญิง ส่วนนายคีตาถูกพี่นุเรียกไปคุยเรื่องงานกันอีกห้องเพราะกลัวเสียงจะรบกวนลูก
“กลับมาอยู่ที่นี่เถอะนรี” พี่สะใภ้เอ่ยขึ้นเมื่อนายคีตาออกจากห้องไปแล้ว และปล่อยให้เราอยู่กันสองต่อสองในที่สุด ฉันมองเธอด้วยความแปลกใจ พบแววตาจริงใจฉายชัด “กลับมาอยู่ด้วยกันเถอะนะ”
ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ “ไม่ดีกว่า ฉันชินกับการอยู่คนเดียวแล้ว อีกอย่างงานของฉันไม่เป็นเวลา ที่อยู่ตอนนี้ก็ใกล้ที่ทำงานมาก สะดวกกว่ามาอยู่นอกเมืองอย่างนี้”
พี่สะใภ้ของฉันถอนหายใจ “เวลามันผ่านไปเร็วมาก มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมาย นรีกลับมาอยู่บ้านนี้เถอะนะ คุณนุเป็นห่วงนรีมาก พี่เองก็ไม่สบายใจที่ทำให้นรีต้องตัดสินใจออกไปอยู่คนเดียวอย่างนั้น”
ประโยคอ้อมค้อมนั่นมันคือคำขอโทษซึ่งฉันยิ้มรับแต่โดยดี แต่สำหรับฉันแล้ว บ้านหลังนี้มันเหมือนไม่ใช่บ้านของฉันมาหลายปีแล้ว
“ฉันอาจจะมาค้างบ้างเวลาที่อยากมาเล่นกับเจ้าสองตัวนี่ แต่คงไม่อยู่ถาวร” ฉันสรุปในที่สุด รู้สึกชินเสียแล้วกับการอยู่คนเดียว จะให้มาเป็นส่วนเกินของครอบครัวพี่ชายคงไม่ดีนัก
คราวนี้พี่สะใภ้ของฉันยิ้มออก “ก็ยังดี”
“คุยอะไรกันสองสาว” พี่นุเดินเข้ามาในห้อง มองฉันทีพี่สะใภ้ที
“นรีบอกว่าจะมาค้างที่นี่บ้างค่ะ”
พี่นุยิ้มกว้าง เอามือมาตบบ่าฉันอย่างยินดี “เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง”
พี่นุพยายามชวนค้างที่บ้านของเขา แต่ฉันปฏิเสธบอกว่าไม่พร้อม ขอผัดเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ว่างแทน หลังจากเล่นกับหลานทั้งสองพักใหญ่ จึงขอตัวกลับโดยมีนายคีตาอาสาขับรถมาส่งให้เหมือนเดิม
ถึงแม้จะรู้สึกดีใจที่ครอบครัวของพี่ชายได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโดดเดี่ยวและกลายเป็นส่วนเกินของบ้านนั้นมากขึ้นอีก นับวันความสำคัญของฉันต่อพี่ชายคงลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ
“เป็นอะไร นั่งเงียบเชียว” คนขับรถหันมาถาม หลังจากฉันนั่งเงียบตลอดทางกลับที่พัก “กินมากไปเลยง่วงหรือไง”
“บ้าสิ กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง เดี๋ยวนายส่งหน้าปากซอยก็ได้ ฉันเดินเข้าไปเอง” ฉันบอกนายคีตาเมื่อรถเกือบจะถึงปากซอยเข้าอะพาร์ตเมนต์ที่พัก
“อะไรกัน เป็นสาวเป็นนางจะเดินเข้าซอยคนเดียว” คนขับรถไม่ยอมจอด เลี้ยวรถเข้าซอยทันที “ทำไมไม่หาที่อยู่ให้มันดูลึกลับน้อยกว่านี้หน่อยล่ะ” เขาบ่นเมื่อเห็นซอยทั้งลึกและค่อนข้างเปลี่ยว
“ที่นี่ราคาถูกดี ฉันทำงานเลี้ยงตัวเอง เลยไม่มีเงินมากนักหรอกที่จะไปเช่าอะพาร์ตเมนต์แพง ๆ แล้วมันก็ไม่ไกลสีลมด้วย”
“พี่ชายคุณรู้หรือเปล่าเนี่ย”
“อย่าบอกเขานะ”
นายคีตายักไหล่ “ไม่อยากให้บอกก็ไม่บอกนะ ตามใจ แต่ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน ไม่อยากเห็นคุณขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์”
เขารอจนฉันเข้าที่พักเรียบร้อยจึงได้เลี้ยวรถออกไป ประโยค
ร้าย ๆ นั่นแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยจนฉันรู้สึกได้
นายคนนี้ก็มีอะไรดีเหมือนกันนะ ฉันคิดในใจ แต่ความปากร้ายของเขามักจะทำให้ความดีของเขาหายไปหมด... ให้ตายเถอะ
.
.
.
บ้านหกสิบตารางวาหลังนั้นอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม ห่างจากตลาดเพียงห้าร้อยเมตรแต่กลับมีความสงบเนื่องจากอยู่ในซอยตัน ตัวบ้านได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจากเจ้าของคนก่อน ถึงแม้บางส่วนของตัวบ้านจะดูเก่าทรุดโทรมไปบ้าง แต่โครงสร้างโดยรวมยังแข็งแรงทีเดียว เห็นได้ชัดว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นบ้านที่สร้างโดยบริษัทก่อสร้างบ้านจัดสรร เจ้าของคนก่อนคงจะจ้างผู้รับเหมาด้วยราคาแพงพอสมควร โครงสร้างหลาย ๆ อย่างของบ้านจึงยังดูแข็งแรงและได้มาตรฐาน
วันนี้ฉันมีนัดกับเจ้าของบ้านเพื่อตรวจดูรอบบริเวณบ้าน และตกลงรายละเอียดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเอาช่างเข้ามาทำงาน หัวหน้าช่างมาพร้อมกับฉันและพวกเรารอเจ้าของบ้านอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง โทร. เข้ามือถือก็สายไม่ว่าง ไม่สามารถติดต่อได้...นัดไม่เป็นนัดจริง ๆ
รถสีน้ำเงินเข้มคุ้นตาแล่นเข้ามาจอด คนที่ลงจากรถเป็นหญิงชายที่ฉันเดาได้ว่าคงเป็นคู่บ่าวสาวที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป ฝ่ายหญิงแต่งตัวหรู หน้าตาสวยจัด ส่วนฝ่ายชาย...ผู้ชายที่ไปส่งฉันที่อะพาร์ตเมนต์เมื่อสองวันก่อน…นายคีตา
เขาไม่ได้แสดงท่าทีว่ารู้จักฉัน ฉันเลยทำเฉย ๆ เหมือนกัน
“บ้านเก่าจังคุณสอง”
นั่นเป็นประโยคแรกที่ฉันได้ยินจากปากของหญิงสาวที่แอบชม
ในใจว่าสวย
“คุณป้าของผมไม่ได้อยู่มาหลายปีแล้ว ให้เขาเช่ามันเลยดูเก่าแบบนี้ละ แต่งใหม่เดี๋ยวก็สวย”
“คุณคงเป็นคนออกแบบตกแต่งสินะ ฉันขอดูแบบหน่อยได้ไหม” ว่าที่ภรรยาของนายคีตาหันมาหาฉัน แล้วถือวิสาสะดึงแบบที่วางไว้ไปเปิดดูเอง
ฉันช่วยกางแบบตกแต่งภายในทั้งหมดให้เธอ
“เรียบจัง สองว่ามันไม่เรียบไปเหรอคะแบบนี้” หลังจากที่เธอใช้เวลาดูผ่าน ๆ ไปประมาณสองนาทีก็ทำหน้าตาท่าทางไม่พอใจกับแบบตกแต่งภายในทั้งหมด
อารมณ์ของฉันเดือดปุด ๆ เมื่อเห็นฝ่ายชายทำท่าเหมือนจะ
พยักหน้าเห็นด้วย… ส่งแบบไปให้ดูแล้วไม่ยักแก้สักนิด พอแฟนมาละก็จะแก้ขึ้นมาทันทีเลย ให้ตายเถอะ ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ให้เธอดูเสียก่อนนะ นี่จะเอาช่างเข้ามาทำงานอยู่แล้ว
“ผมว่าเรียบ ๆ อย่างนี้ละดี อยู่ง่ายดี สบาย ๆ“ นายคีตาบอก
“แหม แต่อย่างคุณน่ะจะเอาหรูขนาดไหนก็ได้นี่คะ รินว่ามันดูดาษดื่นยังไงไม่รู้”
หน็อยแน่! ว่าแบบตกแต่งภายในของฉันธรรมดาไปงั้นรึ ฉันบ่นอยู่ในใจ บ้านหลังแค่นี้จะเอาอะไรกันนักหนา
“นั่นสิ ผมว่าแก้เสียหน่อยก็ดี ว่าไงคุณมัณฑนากร คุณว่ามันไม่เรียบไปเหรอครับ”
ฉันอยากจะชกหน้ากวน ๆ นั่นนัก “ฉันทำตามโจทย์ค่ะ น้องที่รับงานนี้เขียนคอนเซปต์ไว้ว่าเรียบแต่เก๋นี่คะ”
“แต่นี่มันเรียบไปนะ รู้ไหมคุณสองนี่ระดับไหน จริง ๆ จะซื้อบ้านใหม่กี่ล้านก็ได้ นี่มัวแต่เสียดายบ้านเก่าหลังนี้ถึงได้มาแต่งใหม่ แต่งงานทั้งทีมันน่าจะ…”
“เอาเถอะริน เอางี้ เดี๋ยวคุณบอกกับคุณมัณฑนากรนี่แล้วกันว่าต้องการอะไรบ้าง”
“อะไรนะ” คราวนี้ฉันร้องเสียงหลง ถ้าให้คุณรินอะไรนี่บอกฉันว่าจะเอาอะไรบ้างมันก็เท่ากับว่าต้องเปลี่ยนแบบใหม่หมดทั้งหลังแน่
“ยังไงผมก็จ่ายให้คุ้มค่าน่า แก้นิดหน่อยจะคิดเงินเพิ่มก็ไม่ว่าอะไร” เขากระซิบกับฉัน นั่นยิ่งทำให้ฉันเดือดอีกเป็นสองเท่า
หน็อย ทำเป็นอวดรวย
นายคีตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นหน้าตาบึ้งตึงของฉัน เขาเรียกช่างที่มากับฉันไปคุยเรื่องรายละเอียดอื่น ๆ ปล่อยให้ฉันจดรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ที่คุณรินเธออยากจะแก้อยู่เกือบชั่วโมง
 “กลับยังไง ไม่มีรถมาใช่ไหม” เจ้าของบ้านถามเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“ฉันมากับช่าง”
“เดี๋ยวช่างเขาจะไปทำงานอีกที่ไม่ใช่เหรอ”
“ก็…กลับแท็กซี่ก็ได้”
“ผมไปส่ง มาสิ”
เขาเดินนำไปยังรถ ไม่รอให้ปฏิเสธ ฉันแอบสังเกตเห็นแววตาไม่ค่อยพอใจจากคุณรินอะไรนั่น จึงตัดสินใจเดินตามขึ้นรถหน้าตาเฉย
“วันนี้แวะไปบ้านพี่นุหรือเปล่าคะ ฉันว่าจะไปเยี่ยมหลาน” ฉันวางระเบิดทันทีที่ขึ้นรถ คุณรินหันมามองฉันงง ๆ แล้วก็หันไปถามหานายคีตาด้วยเสียงสูงปรี๊ด
“อ้าว คุณสองรู้จักกับ…”
“นรีเป็นน้องสาวนายนุ เจ้านายผมไงครับ”
“รินไปด้วยนะคะ ยังไม่เคยไปบ้านคุณนุเลย”
เอาเข้าไป ฉันบ่นในใจ คุณรินอะไรนี่ตั้งใจกันท่าฉันกับนายคีตานี่ชัด ๆ อยากจะบอกเธอนักว่าไม่ต้องมากันท่าให้เสียเวลาหรอก ผู้ชายปากร้ายแบบนายนี่ ฉันไม่แย่งให้เสียเวลาทำมาหากินของฉันหรอก
.
.
เย็นนั้นฉันไม่รอให้นายคีตามารับ พอห้าโมงฉันก็บอกเจ้านายว่ามีธุระแล้วก็ออกมาจากที่ทำงานไปบ้านของพี่นุเลย ไม่อยากนั่งรถไปกับคุณรินอะไรนั่นอีก บรรยากาศไม่จรรโลงใจสักนิด ไม่น่าเชื่อผู้หญิงอะไรสวยแต่รูป เวลาพูดจาไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกดีขึ้นมาเลย
เจ้าหลานตัวน้อยกำลังหลับหน้าตามีความสุข พี่ชายของฉันกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ความร่ำรวยของเขาไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนไปเลย ฉันดีใจและรู้สึกภูมิใจในตัวเขามาก และรู้สึกดีกับพี่สะใภ้ขึ้นมาอีกนิด อย่างน้อยเธอไม่พยายามเปลี่ยนพี่ชายของฉันให้ขายบ้านหลังนี้ไปซื้อบ้านใหม่ที่หรูหรากว่า ซึ่งฉันคิดว่าถ้าเป็นคุณรินอะไรนั่นเธอจะทำทันที
แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเธอเปลี่ยนไปจากตอนที่แต่งงานกับพี่ชายของฉันใหม่ ๆ ได้อย่างไร
“วันนี้อยากกินราดหน้า ให้ป้าเนียมทำราดหน้ากินกันดีไหมคะ” ฉันนำเสนอเมนูกับพี่สะใภ้ เพราะป้าเนียมแกทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้าอร่อยมาก
“เอาสิ ดีเหมือนกัน วันนี้เห็นคีบอกจะมาด้วยไม่ใช่หรือ แล้วนี่มันไปไหนล่ะ ทำไมเรามาคนเดียว”
“คงไปรับแฟนแล้วมั้ง” ฉันตอบเซ็ง ๆ นึกถึงงานที่จะต้องแก้ตามคำสั่งของแฟนนายคีตา
ยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงรถเลี้ยวเข้าบ้าน ผิดคาดแฮะ นายคีตามาคนเดียว
“ทำไมไม่รอ” เขาถามทันทีที่เข้าบ้าน

Comentário do Livro (213)

  • avatar
    Natthida Khaisarn

    ดีมาก รู้สึกดี

    1h

      0
  • avatar
    ทวีพงษ์ ธีระภู่สงวน

    ได้ความรู้ต่างๆ

    1d

      0
  • avatar
    Phinyaphat Px

    อ่านฟินสุดๆ

    2d

      0
  • Ver Todos

Capítulos Relacionados

Capítulos Mais Recentes