logo
logo-text

Baixe este livro dentro do aplicativo

Capítulo 5 นรี (2)

“ขอสายคุณสองค่ะ”
เสียงเลขาฯ ของเขารับโทรศัพท์ พอฉันบอกว่าติดต่อเรื่องออกแบบเรือนหอของเขา เธอถามย้ำจนฉันต้องตอบอีกที ในที่สุดเธอก็โอนสายไปให้
เหมือนเลขาฯ ของเขายังไม่รู้ ทำไมนะ แค่เจ้านายจะแต่งงานแค่นี้ทำตื่นเต้นไปได้
“คุณสองเหรอคะ ดิฉันโทร. มาจาก ANZ Design นะคะ
จะติดต่อเรื่องที่คุณว่าจ้างเราแต่งเรือนหอให้น่ะค่ะ”
“ครับ”
“คือฉันร่างห้องหอ เอ๊ย ห้องนอนของคุณเสร็จแล้วค่ะ อยากจะถามว่าคุณอยากจะดูก่อนหรือเปล่าคะ เผื่อว่าคุณอยากจะแก้ไขหรือเพิ่มอะไร”
“พักนี้ผมไม่ค่อยว่าง คุณตัดสินใจไปเลยแล้วกัน ผมขอดูตอนสุดท้ายทีเดียวเลย ไม่อยากให้เสียเวลา”
อะไรนะ! ฉันอุทานอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่ เรื่องบ้านของตัวเองแท้ ๆ ดันไม่สนใจ หรือว่ารวยมาก บ้านหลังนี้แต่งให้เมียเก็บหรือเปล่าก็ไม่รู้
“คุณจะเริ่มเข้ามาแต่งบ้านได้เมื่อไหร่” เจ้าของงานถามในที่สุด
“ฉันต้องทำห้องอื่น ๆ ด้วยค่ะ แต่อยากคุยกับคุณเรื่องคอนเซปต์โดยรวม ถ้าคุณไม่ชอบจะได้แก้ตั้งแต่ต้น”
“แฟกซ์มาให้เลขาฯ ของผมแล้วกัน” เขาตัดบทแล้วโอนสายให้เลขาฯ
เป็นลูกค้าที่แปลกจริง ๆ ฉันบ่นในใจ แล้วบอกตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องของฉันสักนิด คนรวยมักมีนิสัยแปลก ๆ แบบนี้ล่ะ บทจะง่ายเสียก็ง่ายจนน่าตกใจ บทจะเรื่องมากก็แก้ไขมันได้ทุกจุด ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกค้าเสียอย่างทำอะไรไม่ผิดอยู่แล้ว
 .
.
.
เวลาผ่านไปสองอาทิตย์ แบบตกแต่งภายในบ้านขนาดหกสิบตารางวาก็เสร็จเรียบร้อย พอส่งไปให้ลูกค้าพิจารณาแล้ว คืนนั้นฉันก็วางแผนจะไปฉลองให้ตัวเองด้วยการไปฟังเพลงและดื่มอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเพื่อนร่วมงาน
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นก่อนที่จะออกจากที่ทำงาน
“นรีเหรอ พี่เองนะ”
เสียงคุ้นหู ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนแล้ว
“พี่นุมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้เจอเรานานแล้ว อยากคุย อยากรู้ว่าสบายดีหรือเปล่า ทำไม โทร. หาไม่ได้รึไง” ฉันย่นจมูกกับโทรศัพท์
“สบายดีค่ะ แค่นี้นะคะ นรีกำลังจะไปกินข้าวเย็นกับเพื่อน”
“นรี” เสียงพี่ชายดุ “พี่มีธุระนิดหน่อย มากินข้าวที่บ้านหน่อยได้ไหม ยกเลิกนัดเพื่อนสักวัน”
“แต่”
“เราไม่ได้กลับบ้านมาเกือบปีแล้วนะ ยังไม่หายงอนอีกเหรอ”
“ไม่ได้งอน...”
“ไม่เอาละ ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เอาเป็นว่าพี่จะให้เจ้าคีไปรับนะ มันกำลังไปเซตงานให้บริษัทที่อยู่ตึกเดียวกับเรา”
พี่ชายไม่รอให้ฉันตอบ “สักหกโมงครึ่งนะ แล้วเจอกัน พี่ให้เบอร์เรากับเจ้าคีมันแล้ว อีกสักพักมันคงโทร. ไป แค่นี้นะ”
 .
.
.
ฉันไม่ได้กลับบ้านมาเกือบปีอย่างที่พี่ชายว่า นับแต่พี่ชายแต่งงาน ฉันก็ออกจากบ้านไปอยู่หอพักหน้ามหาวิทยาลัย จะแวะกลับบ้านแต่ละครั้งก็เพราะมีเรื่องต้องไปเอาเอกสารบ้าง ไปขอลายเซ็นพี่ชายในการทำธุรกรรมบางอย่างที่ฉันยังต้องขอความยินยอมจากเขาตามกฎหมายบ้างเท่านั้น
พี่นุจะโทร. มาถามข่าวอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่เคยคะยั้นคะยอให้ฉันกลับบ้าน หลังจากที่พยายามมาสองสามครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นหลังจากพี่นุวางสายไปประมาณสิบนาที
“ผมคีตานะ”
น้ำเสียงมั่นใจตัวเองแบบสุด ๆ ของเขากรอกมาตามสาย “ผมยังทำงานไม่เสร็จเลย ลงมาที่ชั้นสามได้ไหม ผมอยู่ห้องคอมพิวเตอร์ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่อยู่ชั้นสามน่ะ ห้องสามสองเจ็ด”
“ทำไมฉันจะต้องลงไปด้วย”
สำนักงานของฉันอยู่บนชั้นเจ็ดของตึกย่านธุรกิจบนถนนสีลม ชั้นหนึ่งและสองเป็นศูนย์การค้าและแหล่งรวมร้านอาหาร ตั้งแต่ชั้นสามถึงชั้นสิบเจ็ดเป็นพื้นที่ให้เช่า
“เพราะผมกำลังเบื่อและอยากคุยกับใครสักคนที่ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ งานของคุณเสร็จหรือยังล่ะ ถ้าเสร็จแล้วก็ลงมาเลยจะได้ไม่ช้ากันไปใหญ่”
เขาเป็นผู้ชายที่เคยชินกับการวางอำนาจจริง ๆ ฉันบ่นในใจขณะลงไปที่ชั้นสามตามที่เขาบอก เพราะบริษัทปิดแล้วไม่มีใครอยู่ งานที่ค้างก็ไม่มีอะไรด่วน ลงไปทะเลาะกับนายคีตาคงดีเหมือนกัน
“หวัดดี” ฉันนั่งลงข้าง ๆ ผู้ชายที่กำลังปลุกปล้ำอยู่กับเจ้าคอมพิวเตอร์ตรงหน้า เสียงรัวคีย์บอร์ดอย่างคนชำนาญจัดดังรัว
วันนี้นายคีตาแต่งตัวเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตขาวกับสแล็กส์สีเทาเข้มเข้ากับเนกไทสีเดียวกับกางเกงดูเนี้ยบกว่าที่เคยพบอีกหลายเท่า
“หิวหรือยัง” เขาถาม โดยที่สายตายังไม่ละจากจอคอมพิวเตอร์
“ทำอะไร” ฉันไม่ตอบเพราะถ้าตอบก็คงต้องตอบว่าหิว
“อย่ารู้เลย รู้ไปก็ไร้ประโยชน์”
ปากเสียอีกแล้วนายนี่ ไม่เจอกันเกือบสองเดือนเขาไม่ได้เปลี่ยนนิสัยให้มันดีขึ้นเหมือนการแต่งตัวที่ดูออกจะเป็นงานเป็นการในวันนี้เลย
“เอาละ เสร็จแล้ว” เขาเคาะแป้นคีย์บอร์ดอีกสองสามทีแล้วจึงปิดเครื่อง หันไปหาเจ้าหน้าที่อีกคนที่อยู่ในห้องด้วย สั่งงานอะไรเล็กน้อยก่อนจะหันมาพยักหน้ากับฉัน
“ไปกันเถอะ”
ฉันกับนายคีตาทะเลาะและปะทะคารมกันไปตลอดทาง โชคดีที่รถไม่ติดจึงใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนัก พอรถเลี้ยวเข้าตัวบ้านก็พบกับไฟหน้าบ้านสว่างไสวดูแปลกตา
“มีงานเลี้ยงอะไรกันหรือ”
“เดี๋ยวก็รู้เอง”
“นรีมาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยัง คีบอกป้าเนียมทีว่านรีมาแล้ว”
ท่าทางนายคีนี่คงเป็นแขกประจำ เห็นเขาเดินเข้าครัวอย่างรู้ทาง แถมกลับออกมาพร้อมด้วยอาหารที่ยกมาเพิ่ม
ฉันไม่เห็นพี่สะใภ้แต่ก็ไม่ถามถึง ลงมือกินอาหารฝีมือแม่ครัวเก่าแก่ของบ้าน
“ป้าเนียมยังทำกับข้าวอร่อยเหมือนเดิม” ฉันบอกพี่ชาย “แต่ว่าพี่เรียกนรีมา มีอะไรเหรอ”
“พี่มีใครจะแนะนำให้นรีรู้จัก กินข้าวเสร็จก่อนนะ” พี่ชายตอบและเปลี่ยนเรื่องไปถามสารทุกข์สุกดิบของฉัน และคุยกับนายคีตาเรื่องงาน
“ไม่มีอะไรคุยกันแล้วหรือไง คุยแต่เรื่องซีเรียส” ฉันบ่นออกมาดัง ๆ “กินข้าวไม่ลง”
“กินไม่ลงรึนั่น ผมว่าคุณเติมข้าวสองครั้งแล้วนะ” นายปากเสียนั่นได้ยินได้ยังไงไม่รู้ นอกจากปากดีแล้วยังช่างสังเกตอีก ฉันค่อนขอดเขาอยู่ในใจแต่พี่นุหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
กำลังนั่งอยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเด็กร้อง ฉันชะงักช้อนในมือ มองหน้าพี่ชาย “อิ่มหรือยัง” เขาถาม
ฉันพยักหน้า พี่ชายเรียกแม่บ้านมาเก็บกับข้าว เดินนำฉันขึ้นชั้นบน พอจะเดาได้ว่าพี่สะใภ้คงจะคลอดลูกเมื่อไม่นานมานี้
ฉันไม่ได้มาบ้านนี้นานถึงเก้าเดือนเชียวหรือนี่ เรื่องพี่สะใภ้ตั้งท้องฉันยังไม่รู้เลย ห้องนอนของพี่ชายมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแป้งเด็ก พี่สะใภ้ของฉันนั่งอยู่ข้างที่นอนข้างเบาะนอนอันเล็ก กำลังวุ่นวายกับการจับขวดนมเข้าปากเด็กน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่ออกจะกรีดกรายอย่างเธอจะทำได้
ฉันไม่ถูกชะตากับพี่สะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก ตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นแฟนของพี่นุ เธอมักจะทำตัวเป็นคุณนายมาโดยตลอด ไม่เคยหยิบจับอะไร พี่ชายของฉันก็เอาใจนักเพราะเห็นว่าแฟนตัวเองรวยหรืออย่างไรไม่รู้ ท้ายที่สุดฉันต้องระเห็จตัวเองออกจากบ้านเพราะทนเธอไม่ได้ตามระเบียบ
วันที่ออกจากบ้าน จำได้ว่าทะเลาะกับคุณสริสา เมียของพี่นุเรื่องที่เธอบอกให้ฉันแต่งตัวดี ๆ ให้เรียบร้อยมากขึ้นกว่าเดิมเวลาไปเรียน ตอนนั้นฉันแต่งตัวเซอร์สุด ๆ เลยฟิวส์ขาด ประกาศออกมาว่าจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของฉัน ฉันหาเงินเรียนของฉันเองได้
“ฝาแฝดหรือนี่” ฉันอุทาน จ้องทารกตัวน้อยสองคนที่นอนคู่กันอยู่ตรงหน้าอย่างกับตุ๊กตามีชีวิต
พี่นุพยักหน้า “ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นแฝด เพราะท้องของเก๋เล็กมาก” พี่นุลูบผมทารกที่ร้องโยเยอย่างอ่อนโยน ฉันเองอดจะจับมือน้อย ๆ นั่นไม่ได้
“ผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย”
“หญิงหนึ่งชายหนึ่ง”
ฉันก้มลงเอานิ้วเขี่ยแก้มสีขาวอมชมพูนั่น “น่ารักจัง แหม ทำมามีความลับ ที่แท้ก็เรื่องน่ายินดี แค่นี้ก็บอกก่อนก็ไม่ได้” ฉันต่อว่าพี่ชาย
“นุ…โทรศัพท์นาย” นายคีตาเดินถือโทรศัพท์มือถือเข้ามาในห้อง ส่งให้พี่ชายของฉันแล้วเลยนั่งลงข้างที่นอนเด็กอีกคน
“น่ารักนะ เจ้านุมันโชคดีจริง ๆ ได้ทีเดียวสองเลย”
“แล้วของนายล่ะ เมื่อไหร่จะตกลงปลงใจกันเสียที เดี๋ยวไม่ทันใช้หรอก” ฉันถาม
“ยังสร้างเรือนหออยู่เลย” เขาตอบ ยักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กน้อย
เพิ่งรู้ว่านายนี่กำลังจะแต่งงานเหมือนกัน อยากรู้นักว่าผู้หญิงแบบไหนนะที่ยอมเป็นแฟนกับผู้ชายปากร้ายมากถึงมากที่สุดคนนี้ได้ คงเป็นผู้หญิงตาบอดหรือไม่ก็หูหนวก เพราะคงจะไม่รู้สึกขวางหูขวางตาเวลาเขาพูดจาหรือแสดงกิริยาร้าย ๆ ออกมา

Comentário do Livro (213)

  • avatar
    Natthida Khaisarn

    ดีมาก รู้สึกดี

    3h

      0
  • avatar
    ทวีพงษ์ ธีระภู่สงวน

    ได้ความรู้ต่างๆ

    2d

      0
  • avatar
    Phinyaphat Px

    อ่านฟินสุดๆ

    2d

      0
  • Ver Todos

Capítulos Relacionados

Capítulos Mais Recentes