logo text
Tambahkan
logo
logo-text

Unduh buku ini di dalam aplikasi

Bab 4 สัญญาว่าจะดูแลอย่างดี

“ใจจริงผมก็จะปฏิเสธอยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่า...” ชายกลางคนหยุดพูดไปครู่หนึ่ง
“ถ้าไม่ติดว่าอะไรคะ” หญิงกลางคนเลิกคิ้วถามด้วยความอยากรู้
“ถ้าไม่ติดว่า ผมไม่เคยเอาเงินนารีเขามาซื้อบ้านหลังนี้น่ะสิ”
“อะไรนะ” ญาธิดาเบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่นัก
“คุณไม่เห็นเคยพูดเรื่องนี้ให้ฉันฟังเลย” เธอเอ่ยท้วง ก่อนที่อีกฝ่ายจะตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟัง
“ตอนนั้นผมกับนารินเราเพิ่งแต่งงานกัน ผมไม่มีเงินมากพอที่จะดาวน์บ้าน นารินเองก็กำลังตั้งท้องชนกันต์อยู่ด้วย และกิจการของนารีเขาก็ไปได้ดี ผมเลยให้เขาช่วยดาวน์บ้านและผ่อนให้ก่อนในช่วงสามปีแรก พอผมตั้งตัวได้ก็เอามาผ่อนต่อเอง สัญญาอะไร ๆ ผมก็เซ็นไปหมดแล้ว ถ้านารีทวงถามหนี้ก้อนนี้ขึ้นมาจะเอาปัญญาที่ไหนไปจ่ายคืนเขาล่ะ คุณไม่เห็นเหรอว่านารีเขาหมดตัวแล้ว เขาพร้อมที่จะทวงเงินเราได้ตลอดเวลา ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ แล้วจะให้ผมทำยังไง” สิ้นเสียงของสามี ญาธิดาจึงนิ่งอึ้งไปด้วยความสับสน เมื่อเห็นว่าภรรยาจนตรอกไม่ต่างกัน เขาจึงส่ายศีรษะไปมาอย่างคนหมดหนทาง แล้วตัดสินใจเดินออกมาจากบ้าน ก่อนจะเห็นชนกันต์ยื้อยุดกระเป๋าของพิมพ์มาดา เพื่อไล่ครอบครัวเธอกลับไป
“ทำอะไรน่ะกันต์” ชายกลางคนเอ่ยถาม ก่อนที่ลูกชายของเขาจะโยนกระเป๋าใบใหญ่ของพิมพ์มาดาขึ้นรถไป
“ก็ขนของยัยพิมพ์กลับไปสิครับ ครอบครัวเราก็แย่เหมือนกัน อยู่ ๆ คุณป้าจะพายัยพิมพ์มาอยู่กับเราได้ยังไง ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นบ้าง”
“กันต์ ป้าขอโทษนะลูก แต่ป้าไร้ที่พึ่งแล้วจริง ๆ ขอให้น้องได้อาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าน้องจะเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ไหม” น้ำเสียงอ้อนวอนของนารี ทำให้น้ำตาของพิมพ์มาดาไหลรินอาบแก้ม เธอทำได้เพียงแต่ยืนมองสิ่งต่าง ๆ ด้วยความอึดอัดใจ
“แม่คะ ให้พิมพ์ไปต่างประเทศด้วยได้ไหมคะ พิมพ์ไม่เรียนแล้วก็ได้” หญิงสาวจับแขนมารดา แล้วพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“เอากระเป๋าของหนูพิมพ์กลับมา แกไม่มีสิทธิ์ทำอะไรทั้งนั้น บ้านนี้เป็นของฉัน ในเมื่อฉันอนุญาตให้หนูพิมพ์อยู่ แกก็ไม่มีสิทธิ์ไล่ใครทั้งนั้น” น้ำเสียงเข้มของชัชพล ทำให้ทุกคนมองตรงไปยังชายหนุ่มด้วยสายตาเดียวกัน
“พ่อต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ” เขายังคงดื้อดึงไม่เห็นด้วย
“ฉันตัดสินใจแล้ว” ชัชพลยืนยันด้วยความหนักแน่น
“แต่ว่า...” ชนกันต์ทำท่าจะแย้ง ก่อนที่เสียงของญาธิดาจะเอ่ยขึ้นอย่างมีอำนาจ
“หยุดได้แล้วกันต์ ในเมื่อพ่อนายตัดสินใจ ให้หนูพิมพ์อยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว ก็ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอะไรได้ทั้งนั้น และนายก็ไม่มีสิทธิ์โวยวายหรือโต้แย้งอะไรด้วย”
“น้าญาครับ นี่...น้าก็เชื่อพ่อด้วยอีกคนเหรอ...บ้ากันไปหมดแล้ว”
“หุบปากของนาย เอากระเป๋าของหนูพิมพ์กลับมาซะ” คำสั่งของแม่เลี้ยง ทำให้ชายหนุ่มเลื่อนสายตามองทุกคนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเดินไปเอากระเป๋าของพิมพ์มาดากลับมาอย่างไม่เต็มใจนัก พร้อมร่างของญาธิดาจะค่อย ๆ เดินเข้าไปกุมมือนารี แล้วแสดงความเห็นใจออกมาผ่านทางสายตาแสนอ่อนโยน
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ทางเราสัญญาว่าจะดูแลหนูพิมพ์อย่างดีค่ะ และฉันต้องขอโทษแทนชนกันต์ด้วย ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมา เชิญเข้าบ้านกินน้ำกินท่าก่อนดีกว่านะคะ” หลังจากญาธิดาพูดจบ นารีจึงแสดงสีหน้าดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด เธอรีบพยักหน้าแล้วหันมาจูงมือลูกสาวเดินเข้าบ้านไปตามคำเชื้อเชิญนั้น ปล่อยให้ชนกันต์ ทอดสายตามองครอบครัวของพิมพ์มาดาเดินผ่านหน้าไป โดยไม่อาจทัดทานสิ่งใดได้ ก่อนเขาจะตัดสินใจขับรถออกไปหาเทวทิณณ์ที่คอนโดฯ อย่างไม่สบายใจนัก
หลังจากทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ เสร็จสรรพ ชนกันต์ที่นั่งอยู่ในรถก็เอ่ยลอย ๆ ขึ้นมา
“ตกลงพ่อกับน้าญา กำลังคิดจะเอาเงินประกัน ของยัยพิมพ์จริง ๆ ใช่ไหมครับ” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามบิดาอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันทำถึงขนาดนี้แล้วยังจะถามอะไรอีก ตอนนี้นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าบ้านเราฐานะเป็นยังไง ถ้าได้เงินสี่ล้านมา ก็พอจะกอบกู้สถานการณ์ขึ้นมาได้บ้าง” แม่เลี้ยงของเขาเอ่ยแทรกขึ้น ด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก
“ผมก็แค่ถามดู จะได้รู้ว่าควรทำตัวยังไง” ชนกันต์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก ก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังนอกหน้าต่างรถ
“ถ้ารู้แล้ว ก็ปิดปากของนายไว้ให้นิ่งก็แล้วกัน” บิดาของเขากล่าวเสริม
หลังจากเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ทั้งชัชพลและญาธิดาปั้นหน้าร้องไห้ เข้าไปกอดศพสองสามีภรรยา ที่นอนแน่นิ่งไร้ลมหายใจ พวกเขาแสร้งทำเสียใจอย่างมากเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ทุกคน น้ำตาของน้าญาไหลพรากราวกับน้ำตก เรียวปากของเธอสั่นเทาระริก พร้อมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ด้วยความเสียใจอย่างหนัก หากไม่เห็นกับตา ชนกันต์จะไม่เชื่อเลยว่า น้าญาแสดงละครเก่งกว่าดาราชั้นนำเสียอีก ชายหนุ่มยืนมองทุกอย่างเงียบ ๆ โดยไม่เข้าไปวุ่นวาย ปล่อยให้บิดาและแม่เลี้ยงทำตามประสงค์ จนเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานลงความเห็น ว่าทั้งสองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หาได้สงสัยสาเหตุการเสียชีวิตใด ๆ จึงได้ส่งศพดำเนินตามกระบวนการ ขั้นตอนต่าง ๆ โดยมีชัชพลและญาธิดาคอยดูแลจัดการอย่างใกล้ชิด
“น้าญาเจอคุณป้านารีแค่ครั้งเดียว แต่ร้องไห้ราวกับฟ้าถล่มดินทลายเลยนะครับ เมียพ่อน่ากลัวจริง ๆ” ชนกันต์เดินเข้ามากระซิบกับบิดาด้วยท่าทางกวน ๆ ก่อนที่ชายกลางคนจะกระซิบกลับ
“หุบปากของนายซะ” เขาเค้นเสียงปรามลูกชายตัวแสบ เพราะกลัวว่าความลับจะรั่วไหลออกไป
“ก็ต้องหุบแหละครับ ตั้งสี่ล้านไม่หุบได้ไง” พูดจบ จึงเบี่ยงตัวเดินขึ้นรถไป ปล่อยให้ชัชพลมองตามหลังลูกชายด้วยสายตาหน่ายใจ

Komentar Buku (94)

  • avatar
    Chanyanuch Maponthong

    อ่านสนุกมาก

    2h

      0
  • avatar
    ML Bommob

    พ้่ะสีว้าพืไ่พสถนะ

    2d

      0
  • avatar
    Fo Gus

    สนุกมากครับอ่านเผลินดีครับ

    5d

      0
  • Lihat Semua

Bab-bab Terkait

Bab Terbaru