logo
logo-text

Unduh buku ini di dalam aplikasi

11

ก่อนออกจากโรงเตี๊ยมในตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น ฟังเยว่ฉิวถามถึงแม่ทัพเผิงเซิ่งอี้กับเหล่าคนงาน คำตอบแรกที่นางได้รับมิได้บ่งบอกถึงสถานที่ตั้งจวนสกุลเผิง หากแต่เป็น
‘แม่ทัพเผิงเซิ่งอี้ ว่าที่ราชบุตรเขยคนนั้นน่ะหรือ’
‘สมรสพระราชทานระหว่างเขากับองค์หญิงหงหญ่าจะถูกจัดขึ้นหลังวันปีใหม่’
ราชบุตรเขย!
สมรสพระราชทาน!
นางอุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางจากไท่ซามาเพื่อรับรู้ความเจ็บปวดให้ลึกถึงแก่นเช่นนี้น่ะหรือ ฟังเยว่ฉิวปลดแผ่นหยกที่ห้อยคอมาถือไว้ในมือ ดวงตาพร่าเลือนด้วยหยดน้ำซึ่งกำลังเอ่อท้น
หรือหยกแทนตัวเขามีร้อยชิ้น พันชิ้น จึงไม่สำคัญให้เขาระลึกถึงว่าเคยมอบมันให้แก่ผู้ใด
‘เจ้าคือคนสำคัญของข้า ข้าสัญญาจะดูแลเจ้าให้มีความสุข และอยู่ปกป้องเจ้าชั่วชีวิต’
ความสุขของนางไม่ใช่การรับรู้ว่าสามีกำลังจะมีคนอื่น ที่ผ่านมาเป็นเพียงลมปากหวานหูที่เขาหลอกลวงนางให้เชื่อหรืออย่างไร
‘หลอกลวง’ จู่ๆ ดั่งคล้ายถูกปลายเข็มแหลมแทงใจ
ผิดแล้ว! หากจะถามหาคนหลอกลวง เป็นนางและท่านพ่อต่างหากเล่าที่ใช้เล่ห์กลกับเขาก่อน หรือนี่คือผลกรรมซึ่งนางต้องชดใช้ เมื่อทั้งใจและกายถลำลึกเข้าไปในบ่วงรักที่ตัวเองเป็นคนถักทอขึ้นเพียงฝ่ายเดียว
นางกระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว เหตุใดเขาจึงจากมาโดยไม่ล่ำลา เพราะคำสัญญาของเขาไม่มีคำว่า...รัก แม้แต่คำเดียว
ความขมขื่นบีบคั้นทำให้หญิงสาวหยุดพักที่ศาลเจ้าแม่หนี่วา และแอบนั่งร้องไห้ในที่ลับตาคน เพิ่งเข้าใจว่าตัวเองปล่อยให้ความลุ่มหลง ความเพ้อฝันจอมปลอมบังตาจนไม่คิดพินิจพิเคราะห์เรื่องราวให้ดี นางน่าจะคิดได้ตั้งแต่รู้ฐานะแท้จริงของเขา แล้วเบนเส้นทางไปตั้งรกรากที่เมืองอื่นเสียตั้งแต่ตอนนั้น
ฟังเยว่ฉิวยกมือขึ้นลูบรอยแผลเป็นบนใบหน้าด้านซ้าย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนอายุสิบสี่เพราะนางวิ่งหนีหมาป่าแล้วลื่นไถลล้มจนถูกกิ่งไม้กรีดเป็นทางยาว ในความเป็นจริงนั้นชายหนุ่มมียศศักดิ์สูงเกินเอื้อมสำหรับหญิงอัปลักษณ์เช่นนาง นางมิได้สำเหนียกเลยสักนิดว่าตัวเองหาได้คู่ควร ที่ตอนนั้นเขายอมอยู่ก็เพราะว่านางมีบุญคุณช่วยชีวิตเขาเท่านั้นเอง
เพื่อตัดขาดให้สิ้นเรื่องราวไม่ข้องเกี่ยวกัน แม้มีป้ายหยกชิ้นเดียวหรือพันชิ้น นางก็จะเอาไปคืนเขา สัมพันธ์คืนเดียวของเขาและนาง ขอให้มันสิ้นเยื่อขาดใยไปในวันนี้เถิด
เวลาผ่านไปจนบ่ายคล้อย เมื่อตริตรองดีแล้ว หญิงสาวก็ปาดน้ำตาทิ้ง ลุกขึ้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังจวนสกุลเผิง ทว่าเมื่อออกจากศาลเจ้า คนที่นางปะหน้าโดยบังเอิญกลับเป็นนางลู่
“จับนังคนนั้นให้ข้า” หญิงใจชั่วสั่งคนของนาง แต่เพราะชายฉกรรจ์พวกนั้นอยู่ห่างไปหลายช่วงตัว จึงเป็นโอกาสให้ฟังเยว่ฉิวออกวิ่งสุดฝีเท้าอีกครั้ง
วิ่ง...และวิ่ง ฟังเยว่ฉิวทำได้แค่วิ่ง แม้ปากร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ก็จะมีเสียงไล่หลังตามมาว่า
“พวกข้ากำลังตามจับขโมย ใครไม่เกี่ยวก็หลีกไป”
ถ้อยคำเท็จส่งผลให้ไม่มีใครกล้ายื่นมือช่วยเหลือนางแม้สักคน ฟังเยว่ฉิวรู้สึกดีใจที่ตัวเองเติบโตในป่าเขา สุขภาพร่างกายนางแข็งแรง คล่องแคล่วปราดเปรียว แต่เส้นทางที่นางวิ่งหนีนั้นกลับห่างไกลเส้นทางไปจวนสกุลเผิงทุกขณะ
แม้เป็นคนต่างถิ่น แต่หญิงสาวก็หูตาว่องไว สัญชาตญาณการเอาตัวรอดสั่งให้นางวิ่งหนีเข้าตรอกนั้น ออกตรอกนี้ แทรกตัวปะปนกับผู้คนอยู่สักพักก็รอดพ้นสองคนนั้นได้ และแล้วฟังเยว่ฉิวก็พบว่าตัวเองหลงทาง อยู่ทิศใดของถูหยางมิอาจรู้ได้
คราย่ำเย็น อาทิตย์ใกล้อัสดงตรงขอบฟ้า แสงหรี่เร้นเลือนรางพาจิตใจนางห่อเหี่ยว พานแข้งขาอ่อนล้า กำลังใจที่ตั้งต้นจะไปพบหน้าสามีก่อนหน้าเริ่มเลือนหายไป เพราะเรื่องสมรสพระราชทานเข้าก่อกวนจิตใจ อุปสรรคที่ดาหน้าเข้าหาตั้งแต่ก้าวเข้าประตูเมืองถูหยาง ทำให้เริ่มคิดว่าฟ้าอาจจะไม่เปิดทางให้นางได้พบกับชายหนุ่ม
ฟังเยว่ฉิวทรุดกายนั่งลงใต้ร่มกุ้ยฮวา เหงื่อโซมกายเพราะหนีตายจากคนใจร้ายมิเจ็บปวดเทียมเท่าหยาดน้ำตาแห่งความอดสูใจที่หลั่งหยดกลางฝ่ามือ หญิงสาวนั่งร้องไห้ซ่อนใบหน้าและเสียงสะอื้นตามลำพัง
“เย็นค่ำ เป็นสตรีไยมานั่งพิรี้พิไรร่ำไห้ริมทาง”
ร้องไห้อยู่เพียงอึดใจ ก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้น เมื่อเงยหน้าจากฝ่ามือ ฟังเยว่ฉิวก็พบเท้าคู่หนึ่งหยุดยืนอยู่ไม่ไกลจากจุดที่นางนั่ง นางเงยหน้าขึ้นมอง แสงจากขอบฟ้ายามพลบค่ำสะท้อนมาจนนางต้องหรี่ตา
ฟังเยว่ฉิวพบชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อสีเขียวตัวยาวตัดกับสีตะวันอ่อน ท่าทางสุภาพคล้ายบัณฑิต ทว่ามีกลิ่นอายของคนที่ไม่เคร่งครัดอยู่ในกรอบระเบียบ เขาโน้มกายยื่นใบหน้าขาวสะอ้าน หล่อเหลาประหนึ่งเทพเซียนในภาพวาดเข้ามาใกล้ มุมปากของเขาประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ
เขาเป็นชายคนแรกที่ไม่ผงะกายถอยห่างยามเห็นใบหน้านาง เพราะคราบน้ำตายังอาบแก้ม ฟังเยว่ฉิวจึงรีบยกชายแขนเสื้อขึ้นเช็ด
“เจ้าไม่กลับบ้านรึ”
ประสบการณ์เลวร้ายที่พบเจอตั้งแต่เข้าประตูเมือง ทำให้ฟังเยว่ฉิวไม่อาจไว้วางใจคนแปลกหน้าได้ในทันที
“ข้าถามว่าเจ้าไม่กลับบ้านหรือ” เขาถามย้ำ เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
“ที่นี่ ข้าไม่มีบ้านเจ้าค่ะ” นางจำเป็นต้องตอบคำถาม อยากรู้เช่นกันว่าชายตรงหน้ามาดีหรือร้าย
ชายหนุ่มพยักหน้ารับฟัง เขาก้าวถอยหลัง แล้วหันหน้าไปทางทะเลสาบ

Komentar Buku (2)

  • avatar
    สุภาพรฯ สิงห์คำ

    ชอบมากๆค่ะ

    25/05

      0
  • avatar
    ศุภกิจ ปิ่นเกตุ

    สนุก

    11/11

      0
  • Lihat Semua

Bab-bab Terkait

Bab Terbaru